ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 338 คนเดียวที่ผมอยากปกป้อง

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 338 คนเดียวที่ผมอยากปกป้อง

ตอนที่ 338 คนเดียวที่ผมอยากปกป้อง

“เขาอยู่ที่ไหนคะ? เขาอยู่ในศูนย์รักษาเหรอ? อีกเดี๋ยวหมอจงเกาอี้ก็ใกล้จะถึงแล้ว”

เฉินเทียนเจียวพยายามอย่างยิ่งที่จะสงบสติอารมณ์ แต่เขากลับพูดบ้างอย่างที่ฟังดูไร้สาระออกมา

“เถ้าแก่ซู ตอนนี้เหล่าต้าของเรากำลังอยู่ในขั้นตอนการรักษาพยาบาล และไม่ได้อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมจนกว่าจะหายเป็นปกติ วันนี้ผมก็เพิ่งได้รับการแจ้งข่าว ถ้าคุณไม่เชื่อผม คุณสามารถถามอดีตผู้นำกองทัพได้”

“ไหนคุณบอกว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมากไง ทำไมวันนี้คุณถึงมาบอกว่างดเข้าเยี่ยมเขา อาการบาดเจ็บของเขาแย่ลงเหรอ แบบนี้ฉันยิ่งต้องให้หมอจงเข้าไปด้านในเพื่อช่วยเหลือเขา” ซูเถามองเขาอย่างสงสัย

เฉินเทียนเจียวพูดความจริงเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

“ไม่ใช่เป็นเพราะอาการของเขาแย่ลง แต่มันเป็นเพราะเราได้รับรายงานลับว่ามีคนรู้ว่าเหล่าต้าของเราได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องการกำจัดเขาเพื่อลดความแข็งแกร่งของกองทัพบุกเบิกตงหยาง คุณรู้ไหม เหล่าต้าคือเสาหลักของเรา ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเขา ตอนนี้จึงไม่มีใครสามารถเยี่ยมเขาได้นอกจากอดีตผู้นำกองทัพและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์”

คำพูดนี้ทำให้ซูเถาเชื่อ 80%

เธอไม่สามารถบังคับใครให้พาเธอเข้าไปเยี่ยมสือจื่อจิ้นได้ เพราะนั้นจะถือว่าเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว ดังนั้นเธอจึงได้พยักหน้าและถามว่า “ฉันเข้าไปไม่ได้ งั้นคุณช่วยถ่ายวิดีโอหรือรูปถ่ายของเขาให้ฉันได้ไหม”

เฉินเทียนเจียวหัวสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ แต่เขาก็คิดวิธีแก้ปัญหาได้โดยเร็ว “ได้ ผมจะลองขออนุญาตเจ้าหน้าที่ดูนะ”

เมื่อถึงเวลาเขาจะถ่ายเฉพาะด้านที่ดูดีเท่านั้น!

“ว่าแต่ต้องระวังไปถึงเมื่อไหร่เหรอ”

เฉินเทียนเจียวไม่รู้ว่าเหล่าต้าของเขาจะเพาะเนื้อเยื่อเสร็จเมื่อไหร่ ดังนั้นเขาจึงได้แต่โยนทุกอย่างให้อดีตผู้นำกองทัพ

“มันขึ้นอยู่กับคำสั่งของอดีตผู้นำกองทัพ เราไม่สามารถตัดสินใจได้”

ซูเถาพยักหน้า แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงหันไปหาเผยตง

เพราะในช่วงเดือนที่ผ่านมา พบซอมบี้ในฐานตงหยางมากขึ้นเรื่อย ๆ และดูเหมือนว่าพวกมันจะแข็งแกร่งขึ้นด้วย เธอเองก็ไม่ได้ไปที่ตงหยางมานานแล้วเช่นกัน ที่ตงหยางมีการประกาศเคอร์ฟิว และกองกำลังปกป้องเมืองจึงไม่ยุ่งมากนัก หลังจากที่เผยตงได้พักผ่อนมากขึ้น ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะสดชื่นมากขึ้น

เมื่อสองวันก่อน เฉินเทียนเจียวไปหาเผยตง โดยต้องการให้เผยตงปกปิดความจริงเกี่ยวกับการตายของสือจื่อจิ้น แต่เผยตงที่เป็นคนที่ตรงไปมาตรงมามาโดยตลอดก็เงียบไปนาน และเมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจของซูเถา จึงพูดว่า

“เขาจะสบายดี ฉันรับรองกับเธอ เธอไม่จำเป็นต้องไว้ใจเฉินเทียนเจียว แต่เธอไว้ใจฉันได้ กัปตันสือต้องการแค่เวลาเท่านั้น”

“ในเมื่อเขาสบายดี ทำไมถึงห้ามไม่ให้ฉันเจอเขา แม้ว่าเฉินเทียนเจียวพูดได้อย่างดิบดีไร้ที่ติ แต่สัญชาตญาณของฉันบอกว่าต้องมีอะไรผิดปกติ ฉันรู้ว่าทุกคนไม่อยากให้ฉันวิตกกังวล แต่ฉันต้องการแค่ความจริง” ซูเถาไม่เข้าใจ

เธอจับมือของเผยตง “พี่เผย ไม่มีอะไรที่ฉันไม่สามารถทนได้ การคาดเดาที่ไม่รู้จบนี้คือสิ่งที่ทำให้ผู้คนวิตกกังวลมากที่สุด”

เผยตงดันหน้าผากของซูเถา “เธอฉลาดมาก”

เธอบอกเฉินเทียนเจียวและคนอื่น ๆ ในเวลานั้นว่าพวกเขาไม่สามารถซ่อนความจริงได้ แต่พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ พวกเขาประเมิน ‘การทำนาย’ ของซูเถาต่ำไปจริง ๆ ความสามารถทางจิตแบบนี้มีความรู้สึกถึงเหตุการณ์ผิดปกติอย่างมาก

“เถาจื่อ เขาไม่เป็นอะไรจริง ๆ แต่เขาตายแล้ว…”

ก่อนที่เธอจะพูดจบ ใบหน้าของซูเถาก็ซีดลงทันที เธอนิ่งเงียบไม่ไหวติง มันทำให้เผยตงหวาดกลัวจนงุนงง

“เถาจื่อ ฟังฉันนะ!”

“พี่ว่ามา…”

“ในภารกิจจับสัตว์เลื้อยคลาน เขาโชคดีพอที่จะสืบทอดความสามารถที่เรียกว่า ‘อมตะ’ เป็นไปตามนั้น ไม่ว่าร่างกายของเขาจะได้รับความเสียหายร้ายแรงแค่ไหน หรือเป็นอาการบาดเจ็บที่ไม่สามารถแก้ไขได้เพียงใด เขาจะไม่ตายจริง ๆ”บราวนี่ออนไลน์

“สถานะปัจจุบันของเขาอยู่ในช่วง ‘ฟื้นฟู’ หลังจากผ่านขั้นตอนนี้ไปแล้ว เขาจะตื่นขึ้นอย่างแน่นอน”

“…จริงเหรอ?” ในที่สุดซูเถาก็หาลมหายใจของตัวเองเจอ

เผยตงพูดอย่างหนักแน่นว่า “เชื่อฉันได้”

ภายใต้การจ้องมองอย่างแน่วแน่ของเธอ ซูเถาค่อย ๆ กลับมามีสติ “ที่ไม่ให้ฉันเห็นเขา เพราะกลัวว่าฉันจะเห็นสภาพที่น่าสังเวชของเขางั้นเหรอ”

“นี่คือสิ่งที่พลตรีสือคอยย้ำอยู่เสมอ เขาคิดว่ามันน่าเกลียดเกินไป และเขาหวังว่าในความประทับใจของคุณ เขาจะดูดีอยู่เสมอ แทนที่จะมาหาคุณในสภาพที่ดูไม่ได้แบบนั้น” เผยตงพยักหน้า

เผยตงไม่รู้ตัวจนกระทั่งหลังจากเหตุการณ์นี้ ว่าการรักใครสักคนมาก ๆ นั้นเป็นการถ่อมตัวโดยเนื้อแท้ ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม

เขาอยากจะแสดงตัวตนที่ดีที่สุดให้เธอเห็น เขากลัวว่าฝุ่นอย่างเขาจะปลิวเข้าตาของเธอจนทำให้เธอเคืองตา

ซูเถารู้สึกว่าตาของเธอร้อนขึ้น จากนั้นเธอก็พูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว งั้นฉันจะยังไม่ไปหาเขา”

เผยตงดึงเธอไว้ในอ้อมแขนและลูบหลังศีรษะของเธอ “ไม่เป็นไรนะ แต่เธอแค่ต้องเตรียมจิตใจ เขาจะหลับไปเป็นเวลานาน อย่างน้อยหนึ่งปี”

ซูเถาตกตะลึง “หนึ่งปี?”

“ใช่ และบอกตามตรงว่าสมองของเขาเสียหายรุนแรง ไม่แน่ใจว่าหลังจากฟื้นขึ้นมา เขาจะจำคนอื่นได้หรือเปล่า จะมีความบกพร่องทางสติปัญญาหรือปัญหาอื่น ๆ หรือไม่”

หมายความว่าเขาอาจจะความจำเสื่อม หรือไม่ก็สติปัญญาไม่สมประกอบ?

ซูเถายืนค้างอยู่ตรงที่เดิม

“เถาจื่อ เธอต้องเข้มแข็งนะ แต่อย่างน้อยเขาก็ถือว่ายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม? ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ”

ซูเถายังรับเรื่องนี้ไม่ได้ หญิงสาวเอาแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง จนในที่สุดอดีตผู้นำกองทัพมาเชิญให้เธอไปพบ แม้แต่ตอนเดินเธอยังเดินไปผิดทาง จนผู้ช่วยต้องย้ำบอกว่าตอนนี้เธอมาถึงสำนักงานที่ถูกต้องแล้ว

อาการของอดีตผู้นำกองทัพก็ดูไม่ค่อยดีเช่นกัน

เมื่อเห็นท่าทางที่ว้าวุ่นใจของซูเถา เขาก็เดาได้ทันทีว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องของสือจื่อจิ้นแล้ว

“นั่งลงก่อนเถอะ” เขาถอนหายใจและส่งสัญญาณให้ซูเถา

ซูเถาลูบหน้าและนั่งลง พยายามประคองสติให้มั่นคง พี่เผยบอกเธอว่ามันเป็นไปได้ มันมีความน่าจะเป็นบางอย่าง เธอไม่เห็นเหตุการณ์ ‘ทำนาย’ อื่น ๆ ดังนั้นมันก็น่าจะไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น

อดีตผู้นำกองทัพหยิบแฟ้มจากชั้นหนังสือที่อยู่ข้างหลังเขา และหยิบบางอย่างออกมาให้ซูเถาดู

“เด็กน้อย แม้ว่าการพูดแบบนี้จะทำให้เธอลำบากใจเล็กน้อย แต่ฉันก็ยังหวังว่าเธอจะรอจื่อจิ้นได้ แม้ว่าหลังจากที่เขาฟื้นขึ้นเขาจะมีปัญหาใด ๆ ได้โปรดอดทนกับมัน”

“นี่คือใบคำร้องที่เขายื่นให้ผมเมื่อไม่นานนี้ เขาต้องการปลดเกษียณล่วงหน้า เขาต้องต่อสู้กับการตัดสินใจนี้มานานแล้ว และสิ่งนี้ถูกเซ็นเมื่อ 4 เดือนก่อน และมันยังไม่ส่งมอบให้ผมจนกระทั่ง 1 สัปดาห์ก่อน เขาไม่สามารถปล่อยภาระที่แบกอยู่บนบ่าได้ เขาปล่อยคุณไปไม่ได้ เพราะสุดท้ายเขาเลือกที่จะวิ่งเข้าหาคุณ”

ซูเถาหยิบจดหมายลาออกของเขาไว้ในมือ ทุกตัวอักษรบนนั้นสารภาพกับพ่อของเขา อดีตผู้นำกองทัพและตงหยาง เขาพรรณาให้เห็นถึงความรู้สึกลึกซึ้งเมื่อเขาเขียนมัน

ประโยคสุดท้ายคือ ‘มีคนมากมายเหลือเกินที่ผมอยากปกป้อง ผมดำรงชีวิตมาสามสิบปี เลือดและหยาดเหงื่อของผมกำลังจะหมดไป และเมื่อมองย้อนกลับไป ผมก็ได้รับรู้ว่าจริง ๆ แล้ว มีเพียงคนเดียวที่ผมอยากปกป้อง…’

จู่ ๆ ซูเถาก็พลิกจดหมายปิดไว้บนโต๊ะ และมืออีกข้างหนึ่งปิดตาตัวเองเอาไว้ไม่กล้าขยับ

หยาดน้ำตาอุ่นร้อนกลั้นออกมาจากดวงตา

การต่อสู้ถึงขั้นแตกหักครั้งสุดท้ายกับโบนวิงส์ คือของขวัญครั้งสุดท้ายที่เขามอบให้กับตงหยาง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ และตงหยางก็ได้ให้บทเรียนกับเขาหลาย ๆ อย่าง เขาได้รับความไว้วางใจจากพ่อของเขา ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนตงหยาง

อดีตผู้นำกองทัพรอให้หญิงสาวตรงหน้าสงบสติอารมณ์

“เด็กดี จื่อจิ้นต้องการเธอ และตงหยางก็ต้องการเธอเช่นกัน”

ซูเถาหายใจเข้าลึก ๆ และเริ่มพูดถึงโบนวิงส์

“พรุ่งนี้เช้าทางเถาหยางจะจัดสถานที่ไว้สำหรับควบคุมตัวโบนวิงส์ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะค่ะ คุณวางใจได้”

แม้จะเห็นแก่สือจื่อจิ้น เธอก็ไม่ยอมให้โบนวิงส์หนีไป!

เธอต้องการเห็นมันติดอยู่ในห้องทดลองอันมืดมิดที่รอการชำแหละ หั่น และทำการวิจัย โดยที่มันต้องไม่ได้รับการปลดปล่อย

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
คอยดูเถอะ…วันสิ้นโลกแบบนี้ฉันจะยืนด้วยด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท