จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 101-105

ตอนที่ 101-105

บทที่ 101 : แผนการของตี้คัง
  แววตาที่แลดูคุกคามของตี้คังกวาดไปรอบๆ ก่อนจะหยุดลงตรงสระน้ำไม่ไกลกันนักชั่วขณะ
  นั่นทำให้หัวใจของเสี่ยวมี่แทบเต้นทะลุออกมาจากอกโชคดีที่หลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มก็หันไปทางอื่น
  “เมื่อท่านอ่านข้าได้ทะลุปรุโปร่งข้าก็ขี้เกียจที่จะแสแสร้งอีกต่อไป” เสี่ยวมี่พูดพร้อมกับยืดแข้งยืดขากับพื้น “ไป๋หยาน เป็นนายหญิงของข้า หากแต่นางไม่มีบุตร เช่นนั้น ผู้ที่ท่านกำลังตามหามิใช่นางอย่างแน่นอน”
  แววตาเย็นชาของตี้คังหันมาทางเสือน้อยเขาปัดแขนเสื้อก่อนจะนั่งลง น้ำเสียงของเขาฟังดูน่าเกรงขาม
  ”เช่นนั้นข้าก็จะรอจนกว่าหยานหยานจะกลับมา”
  ได้ยินเช่นนั้นหัวใจของเสี่ยวมี่พลันเต้นแรงขึ้นมาอีก มันมองไปที่สระน้ำอย่างเป็นกังวล หากแต่ก็กลัวว่าตี้คังจะสังเกตเห็น มันจึงรีบถอนสายตากลับมา
  เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
  ในตอนเที่ยง
  ร่างในอาภรณ์สีแดงร่อนลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วเพียงชั่วแว่บแรกที่นางลงมา นางก็สังเกตเห็นชายหนุ่มเอนร่างพิงศาลาเถาฮัวได้ทันที
  ชั่วขณะนั้นนางรู้สึกเหมือนหัวใจของตนเองถูกกระแทกอย่างแรง
  ตี้คังเอนหลังพิงร่างบนก้อนหินดอกท้อร่วงหล่นเป็นสาย ตกลงบนอาภรณ์ม่วงก่อเกิดภาพงดงาม
  สาบเสื้อท่อนบนของเขาเปิดออกครึ่งหนึ่งเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า นิ้วยาวเรียวงามของเขาถือจอกหยก ครั้นเขาเงยหน้าขึ้น สุราใสชั้นดีก็ไหลจากจอกหยกลงสู่ลำคอ
  อะไรจะสง่างามได้แม้กระทั่งตอนดื่ม!
  ครั้นเห็นเช่นนี้ก็เดาได้เลยว่ายากที่จะมีสตรีใดเมินเฉยกับฉากกระตุ้นหัวใจเช่นนี้ได้
  เว้นแต่ไป๋หยานเหตุเพราะทันทีที่นางเห็นเขาหัวใจของนางมีเพียงความโกรธที่โหมกระพือ “อ๋องคัง ช่างเอาแต่ใจ และไร้ซึ่งความเกรงอกเกรงใจผู้ใดจริง ๆ เหตุใดท่านไม่ดื่มที่ตำหนักของท่านเสียให้พอล่ะ ? นี่ท่านมาบ้านข้าเพื่อดื่มกระนั้นรึ ?”
  ฮัวหลัวผู้ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมายืนอยู่อย่างกังวลใจแต่ครั้นไป๋หยานปรากฏตัวนางก็ผ่อนคลายลง นางเดินเข้าไปยืนข้าง ๆ นายหญิงของนาง
  แม้แต่เสี่ยวมี่เองก็ยังกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนนาง
  ”ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว?” ตี้คัง ค่อย ๆ วางถ้วยหยกเขียวลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เบนสายตาดุ ๆ ไปหยุดที่ไป๋หยาน
  ทว่า…
  ทันทีที่เขาเห็นเสี่ยวมี่อยู่ในอ้อมกอดของไป๋หยานเขาก็รู้สึกอยากจะจับมันออกมาฉีกเป็นชิ้น ๆ !
  ไป๋หยานลูบไล้ขนของเสี่ยวมี่นางต้องการถามว่าเฉินเอ๋อบุตรชายของนางอยู่ที่ใด หากแต่นางกลัวว่าชายหนุ่มจะได้ยิน จึงจำต้องกลืนคำพูดต่าง ๆ เอาไว้
  ”ตี้คัง!”
  ทันทีที่ไป๋หยานยกมือขึ้นมือข้างหนึ่งก็ยื่นออกมาจับนาง พร้อมกับดึงตัวนางไปอีกทาง มือนั้นผลักนางแนบกับต้นท้อด้านหลังร่างนางอีกครั้ง
  ขณะเดียวกันตี้คังก็ไม่ลืมที่จะโยนเสือน้อยในอ้อมแขนของนางออกไป
  ”นายหญิง!”

  ฮัวหลัวหน้าตาตื่นด้วยความหวาดกลัวแต่ครั้นนางคิดจะกระโดดออกไปช่วยนายหญิงของนาง ไป๋หยานก็ห้ามนางไว้
  “ฮัวหลัวเจ้าไปก่อนเถอะ”
  ได้ยินเช่นนั้นฮัวหลัวก็นิ่งงัน นางมองไป๋หยานแล้วก็หันมามองตี้คัง จากนั้นก็พยักหน้า หันหลังเดินออกไปจากที่นั่น
  ”ไป๋หยานเจ้าคิดว่า หากเจ้าไม่พูดแล้ว ข้าจะไม่รู้งั้นรึว่าเจ้าซ่อนบุตรชายของเราไว้ที่ใด ?” ตี้คังยิ้ม รอยยิ้มนั้นเย็นยะเยือกเช่นเดิม เขาแตะนิ้วลงบนริมฝีปากของนาง พร้อมกระซิบว่า “เจ้าคอยดูนะว่า ข้าจะทำให้เขาออกมาด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียว ! ”
  หัวใจของไป๋หยานสั่นสะท้านอีกครั้งนางหลบหน้าหนี “ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องใด ?”
  ”ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ยอมแพ้จนกว่าเรื่องจะจบ! ข้าเองก็เช่นกัน !” เขาค่อย ๆ ปล่อยสตรีผู้อยู่ในอ้อมแขน ขณะที่ริมฝีปากแดง ๆ ของเขาโค้งขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ “หากเจ้าไม่ยอมมอบบุตรชายของเรามาจริง ๆ แล้วล่ะก็ ข้าจะพาเจ้าไปจากที่นี่ทันที และต่อจากนี้ไปก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้พบเห็นหน้าเจ้าอีก !”
  ***จบบทแผนการของตี้คัง***
บทที่ 102 : ไป๋เสี่ยวเฉินปรากฏตัว !
  ”ท่าน… ”
  ไป๋หยานโมโหสุดขีด
  นางรู้จักบุตรชายของนางดีเด็กน้อยไม่สนใจผู้ใดมากไปกว่ามารดาของตน
  แต่ที่นางคาดไม่ถึงก็คือตี้คังจะใช้วิธีเช่นนี้ เพื่อบังคับเฉินเอ๋อให้ออกมา
  ขณะที่ในใจของไป๋หยานพยายามสวดอ้อนวอนพระเจ้าขออย่าให้ไป๋เสี่ยวเฉินบุตรชายของนางปรากฏตัวออกมาเลย เสียงเด็กน้อยก็ดังมาจากข้างหลังของชายหนุ่ม “จอมวายร้าย ปล่อยหม่ามี้ของข้านะ !”
  ตี้คังคลายนิ้วของตนชั่วขณะนั้นเอง ไป๋หยานก็ใช้พลังทั้งหมดพุ่งตัวไปหาไป๋เสี่ยวเฉินอย่างรวดเร็ว นางกอดบุตรชายแน่นไม่ต่างจากมารดาที่พยายามปกป้องลูกน้อยในอ้อมอก
  ”หม่ามี้ไม่ต้องกลัว เฉินเอ๋อจะปกป้องหม่ามี้เอง ไม่มีใครสามารถแยกเราจากกันได้”
  ไป๋เสี่ยวเฉินลูบหลังมารดาของตนอย่างนุ่มนวลราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย ๆ ทั้งที่เห็นได้ชัดว่าตัวเขาเองก็กลัวมาก ทว่าเขาก็ยังแสร้งทำตัวเข้มแข็ง
  ครานี้ตี้คังก็ได้เห็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ ในอ้อมแขนของไป๋หยานเต็มตา…
  เด็กน้อยน่ารักน่าเอ็นดูนัยน์ตาใสสะอาดสดใส ทว่าเต็มไปด้วยความพยศ
  ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนี้ยังดูเหมือนเขาตัวจิ๋ว ๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ !
  น้ำเสียงของตี้คังทุ้มลุ่มลึกนัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ “เจ้าชื่อเฉินเอ๋อใช่หรือไม่ ?”
  ไป๋เสี่ยวเฉินทำหน้าบูดบึ้งก่อนจะกล่าวว่า “ข้าไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคยกับท่าน เช่นนั้นท่านควรจะเรียกข้าว่าไป๋เสี่ยวเฉิน”
  ใบหน้าของตี้คังเย็นชาขึ้นทันที“ข้าเป็นบิดาของเจ้า !”
  ”ท่านเป็นคนเลวท่านชอบรังแกหม่ามี้ของข้า ท่านต้องการพรากพวกเราจากกันด้วย เช่นนั้นข้าจึงไม่ต้องการให้ท่านเป็นบิดาของข้า !”
  ไป๋เสี่ยวเฉินแค้นเคืองโดยเฉพาะเรื่องที่ตี้คังคิดจะพรากเขาจากหม่ามี้
  เรื่องนี้เขารับไม่ได้เลยจริงๆ !
  มุมปากของตี้คังโค้งขึ้นก่อให้เกิดรอยยิ้ม”หากข้าไม่กล่าวออกไปเช่นนั้น เจ้าจะยอมเผยตัวง่าย ๆ กระนั้นหรือ ?”
  ไป๋เสี่ยวเฉินตะลึงงันนี่หมายความว่า เขาจงใจวางแผนล่อข้าออกมางั้นสิ ?
  แล้วไป๋เสี่ยวเฉินก็ร้องไห้ออกมาทันที”หม่ามี้ ลูกไม่ชอบเขาเลยจริง ๆ เขาเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าหม่ามี้อีก วางแผนหลอกลูกด้วย ! เฉินเอ๋อชอบพ่อบุญธรรมมากกว่า !”
  พ่อบุญธรรม?
  ตี้คังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขณะกล่าวว่า “เจ้ามีพ่อบุญธรรมด้วยรึ ?”
  ”พ่อบุญธรรมของข้าทั้งอ่อนโยนทั้งร่ำรวยร่ำรวยมหาศาลเลยแหละ”
  ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าวอย่างภาคภูมิใจไม่ทันสังเกตใบหน้าของตี้คังที่โกรธเกรี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
  ยามนี้สีหน้าของตี้คังดำคล้ำราวกับก้นหม้อ”ข้าอาจขาดอะไรก็ได้ในโลกนี้ทว่ามิใช่เรื่องเงิน บอกมาว่าเจ้าต้องการเงินสักเท่าไหร่ ? ข้าจะให้ตามแต่เจ้าจะร้องขอ !”
  ร่ำรวยมหาศาลงั้นรึ?
  จะแค่ไหนกันเชียว?
  ข้าเป็นถึงราชาแห่งอาณาจักรอสูรทั้งมวลจะเทียบกับมนุษย์ธรรมดา ๆ ไม่ได้เชียวหรือ ?

  ไป๋เสี่ยวเฉินทำหน้ายุ่งราวกับครุ่นคิดทว่าสุดท้ายเขาก็กัดฟัน กล่าวว่า “คนที่รังแกหม่ามี้เป็นคนเลว ข้าไม่ต้องการเงินของท่าน”
  หากจะเทียบเงินกับหม่ามี้ของเขา
  แน่นอนว่าเขาต้องเลือกหม่ามี้อย่างไม่ต้องสงสัย
  ”ข้าไปรังแกอะไรนาง?”
  จากมุมมองของตี้คังสตรีผู้นี้มีพิษสงรอบตัว พร้อมจะทำร้ายผู้อื่นได้ตลอดเวลาล่ะมากกว่า
  ”อย่าโกหกข้าข้าเห็นทุกอย่างตอนที่อยู่ใต้เตียง ท่านกัดริมฝีปากของหม่ามี้ข้าอย่างแรงจนนาง … อืมม !”
  ก่อนที่เด็กน้อยจะทันกล่าวจบไป๋หยานก็ปิดปากเขาไว้
  เมื่อเห็นสีหน้าของตี้คังดำคล้ำยิ่งกว่าเดิมนางก็ยิ่งรู้สึกละอายแก่ใจ
  ”นี่แสดงว่าเด็กคนนี้ซ่อนอยู่ใต้เตียงใช่หรือไม่?” เสียงของเขาสั่นด้วยความโกรธ
  ครั้นหวนคิดว่าไป๋เสี่ยวเฉินอยู่ใกล้เขาถึงเพียงนั้นทว่าเขากลับหาไม่พบ เขาก็ยิ่งมีโมโห
  ”ใช่แล้วตี้คัง ข้ายอมรับ เป็นข้าเองที่ทำผิดต่อท่านเมื่อหกปีก่อน” ไป๋หยานปล่อยตัวเด็กชายลงจากอ้อมแขน นางกัดฟันยอมรับความจริง “หากแต่ข้าเลี้ยงเฉินเอ๋อมา เขาเป็นเลือดเนื้อเป็นจิตวิญญาณของข้า หากท่านคิดจะพรากเขาไปจากข้า ข้าก็ขอสู้ตาย ไม่มีวันยอมให้ท่านพาเขาไปง่าย ๆ เป็นแน่ !
  ***จบบทไป๋เสี่ยวเฉินปรากฏตัว !***
บทที่ 103 : ท่านรักข้าหรือไม่ ?
  ตี้คังหรี่ตาลงเล็กน้อยขณะย่างเท้าเข้าหาไป๋หยานสองสามก้าว
  ทันใดนั้นเองบรรยากาศโดยรอบก็เริ่มหนักอึ้งไป๋หยานรู้สึกราวกับว่านางกำลังจะหายใจไม่ออกจากแรงกดดันรอบตัว
  ”เขาเป็นบุตรชายของข้าแน่นอนว่าเขาต้องไปกับข้า !” ชายผู้นี้ดูภาคภูมิใจขณะที่กล่าวคำ “ส่วนเจ้า … คิดหรือว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ หลังจากที่ทำกับข้าถึงเพียงนี้ ?”
  อย่างไรเสียตลอดชาตินี้ข้าก็ไม่มีวันยอมปล่อยมือ !
  แววตาของไป๋หยานค่อย ๆ เปลี่ยนไป “ท่านพยายามที่จะผลักเราแม่ลูกให้จนมุมใช่หรือไม่ ?..เช่นนั้น…ข้า…ไป๋หยานยอมเป็นหยกที่แหลกราญ ไม่ขอเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ (ยอมตายไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี) ! ข้ายอมตายเสียดีกว่าไปกับท่าน !”
  ถ้อยคำของหญิงสาวเปรียบเหมือนกำปั้นทุบหัวใจของตี้คังอย่างรุนแรง
  “ข้าผิดปกติที่ตรงไหน? เหตุใดเจ้าจึงปฏิเสธข้าทุกทาง ?”
  ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกตกต่ำถึงเพียงนี้ ถ้อยคำของนางเหมือนจ้วงแทงเขาอย่างไร้ปรานี !
  “ตี้คัง”ริมฝีปากของไป๋หยานโค้งขึ้นก่อให้เกิดรอยยิ้ม “เช่นนั้น ข้าขอถามท่าน ท่านรักข้าหรือไม่ ?”
  “รัก..?”
  ตี้คังค่อนข้างสับสน
  ประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ของเขาเรียกได้ว่าเป็นศูนย์แม้กระทั่งครั้งแรกของเขา ในครานั้นไป๋หยานก็เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ….
  แล้วตอนนี้หญิงสาวผู้นี้ก็ถามเขาอีกเป็นครั้งที่สองด้วยคำถามเดียวกัน
  ”หัวใจของท่านไม่มีข้าอยู่และหัวใจของข้าก็ไม่มีท่านเช่นกัน ก็แล้วเหตุใดท่านถึงยืนยันที่จะบังคับให้ข้าไปกับท่าน ? เพียงเพราะข้าให้กำเนิดบุตรชายให้ท่านงั้นหรือ ?” ไป๋หยานยิ้ม “ทว่า ยังมีสตรีอีกมากมายในโลกนี้ที่พร้อมเต็มใจจะมีบุตรให้แก่ท่าน และข้าก็จะไม่ยอมพลีกายให้กับบุรุษที่ไม่ได้รักข้า ”
  ”ไม่…ในโลกนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถมอบบุตรให้ข้าได้ !”
  นี่คือคำทำนายที่ปรากฏในอาณาจักรอสูรและเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขามาเหยียบเยือนโลกมนุษย์นี้ … กระทั่งพบกับนางตั้งแต่วันแรก
  ”ไป๋หยาน!”
  ครั้นเห็นไป๋หยานดึงตัวไป๋เสี่ยวเฉินตั้งท่าเตรียมหนีตี้คังก็รีบส่งเสียงร้องเรียกออกมาดัง ๆ ทำให้นางต้องหยุดชะงัก
  ไป๋หยานจับตัวบุตรชายของตนเองแน่นด้วยเกรงว่าชายหนุ่มอาจจะพรากตัวเด็กน้อยไป !
  ”ข้าจะให้เวลาเจ้าจะยังไม่พาเขาไปในเวลานี้ แต่ … ” ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้านางอย่างกระชั้นชิด ร่างสูงสง่าของเขาปิดกั้นเส้นทางหนีของนางจนสิ้น “เจ้าขืนใจข้า ลักพาตัวบุตรชายข้า เรามาคิดบัญชีกันดีหรือไม่ ? ฮืม ?”
  ทันทีที่จบประโยคแรงกดดันก็เพิ่มสูงขึ้น กระทั่งบรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนเป็นหนาวเหน็บ
  ”แล้วท่านต้องการสิ่งใด?” ขณะเอ่ยถาม ไป๋หยานก็เผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
  นัยน์ตาเรียวคมของตี้คังหรี่ลงเขากล่าวพร้อมรอยยิ้มที่แลดูอันตราย “แน่นอนว่า ข้าจะขืนใจเจ้ากลับ !”

  นับเป็นครั้งแรกที่ไป๋หยานเจอคนกล่าวตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเช่นนี้ แต่ก่อนที่นางจะทันคัดค้านใด ๆ ตี้คังก็ยกมือขึ้นโอบเอวนางจากนั้นทั้งคู่ก็หายตัวไปจากลานบ้านแล้ว
  ทิ้งไป๋เสี่ยวเฉินไว้ที่นั่นแต่เพียงลำพัง
  อีกนานพอควรกว่าเด็กชายจะรู้สึกตัวครั้นรู้สึกตัวเขาก็อยากจะร้องไห้
  เกิดอะไรขึ้นไหนว่าจะมาลักตัวข้า ?
  แล้วทำไมสุดท้ายกลับลักหม่ามี้ไปแทนที่จะเป็นข้า?
  ”นายน้อย… ”
  เสียงอ่อนล้าของเสี่ยวมี่ลอยมาจากอีกด้านหนึ่ง
  “เสี่ยวมี่เมื่อครู่นี้เจ้าหายไปไหนมา” เด็กชายเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ
  ”เอ่อ… ”
  เสี่ยวมี่ไม่รู้จะตอบยังไง
  เขาจะบอกนายน้อยได้อย่างไรว่าเขาอยู่ในอ้อมแขนของนายหญิงดี ๆ แต่กลับถูกบิดาของนายน้อยโยนไปไกลกว่าร้อยจั้ง กว่าจะกลับมาถึงที่นี่ได้ เขาต้องคลานมาด้วยความยากลำบาก !
  ทว่าเรื่องน่าละอายเช่นนี้เสี่ยวมี่จะไม่พูด
  “เอ่อ…ข้าออกไปหากำลังเสริม”มันแก้ตัวแบบขอไปที
  ”เช่นนั้นกำลังเสริมอยู่ที่ไหน?”
  ”เอ่อ… ระหว่างทางข้าเกิดนึกเป็นห่วงนายน้อย ข้าเลยวกกลับมา ว่าแต่นายหญิงกับผู้ชายหน้าตาน่ากลัวคนนั้นไปไหนกันแล้ว ?”
  เมื่อกลับมาพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งสีหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินก็หดหู่ลงทันที “คนเลวคนนั้น ลักพาตัวหม่ามี้ไป และทิ้งข้าไว้ลำพัง”
  ***จบบทท่านรักข้าหรือไม่ ?***

บทที่ 104 : มีแต่นางเท่านั้นที่จะวางกับดักตี้คังได้
  ”…..”
  เสี่ยวมี่พูดไม่ออกไม่รู้ทำไม มันรู้สึกว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เกินกว่าที่มันจะจินตนาการได้
  *****
  ภายในห้องนอนที่ได้รับการตกแต่งแบบดั้งเดิมชายหนุ่มโยนร่างของไป๋หยานลงบนเตียง จากนั้นร่างของเขาก็ติดตามมา ร่างของเขากดทับร่างของนางจนแนบแน่น เสียงของเขาทุ้มต่ำอีกทั้งดุดัน
  “เจ้ามีอะไรจะโกหกข้าอีกหรือไม่?”
  บัดนี้หลักฐานทุกอย่างปรากฏชัดดูสิว่านางยังจะกล้าโต้แย้งอะไรอีก
  ไป๋หยานยิ้มหวาน
  ทันใดนั้นเองนางก็ยกเรียวแขนของตนขึ้นโอบรอบลำคอของเขา จากนั้นริมฝีปากของนางก็ประกบกับริมฝีปากของเขา
  ริมฝีปากอุ่นๆ ทำให้สมองของตี้คังว่างเปล่าทันที โลหิตในกายของเขาเดือดพล่าน มือใหญ่ของเขาจับกระชับเอวคอดของนาง ก่อนจะดำดิ่งลงสู่ห้วงจุมพิตนั้น
  “หยานหยาน…”น้ำเสียงของเขาแหบพร่า ขณะที่แววตาเต็มไปด้วยแรงปรารถนา เขาคลายริมฝีปาก จากนั้นก็เลื่อนไปที่ใบหูของนาง พลางกระซิบ “เจ้ารนหาที่เองนะ…”
  ขณะนี้ในใจของเขามีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นนั่นคือการกลืนกินสตรีผู้อยู่ต่อหน้าเขานางนี้ให้หมดตัว ในขณะที่เขากำลังนัวเนียกับนางอยู่นั้น เขาก็รีบร้อนจัดการขจัดอาภรณ์ที่กั้นขวางนั้นออก แต่ด้วยเหตุที่รีบร้อน ทำให้เขาพลาดความรอบคอบที่เคยมีเสมอมา เขาไม่ทันสังเกตเห็นความเย็นชาในแววตาใส ๆ ของนาง
  ริมฝีปากของนางละเอียดอ่อนอีกทั้งงดงาม กระทั่งเขาอดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบอีกครั้ง
  ทว่า…
  ชั่วขณะที่ตี้คังกำลังจูบอย่างมีความสุขกระทั่งลืมตัวนั้น จู่ ๆ เขาก็ชะงัก เขาเลิกคิ้วตาโต สายตาจับจ้องใบหน้าของไป๋หยานที่ยามนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเอ่ยถามว่า “นี่เจ้าทำอะไรข้า ?”
  ”ก็ท่านเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรือว่าท่านอยากนอนกับข้า ?” นางสลัดตัวจากตี้คัง จัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่ ก่อนจะยกมุมปากยิ้ม และกล่าวต่อว่า “เช่นนั้น ข้าก็เลยลอบวางยาพิษไว้ที่ริมฝีปากของข้า พิษนี้จะทำให้ท่านหมดสมรรถภาพไปอีกสามเดือน”
  ใบหน้าของตี้คังดำคล้ำเขามองริมฝีปากแดง ๆ ของไป๋หยาน แล้วรู้สึกคอแห้งขึ้นมาทันที น้ำเสียงของเขาแหบห้าว
  “นี่เจ้าเตรียมแผนการนี้มาแต่ต้นกระนั้นรึ?”
  ตลอดชีวิตของเขาไม่เคยตกหลุมพรางผู้ใดทว่ากับสตรีผู้นี้เขากลับเดินลงสู่กับดักของนางด้วยตนเอง !
  ”ท่านก็รู้ข้ามิได้คิดจะใช้แผนนี้มาก่อน เรียกว่าเป็นการป้องกันตัวจะถูกต้องกว่า” ไป๋หยานยังคงยิ้ม “ข้าเก่งในการช่วยชีวิตคน ทั้งยังชำนาญเรื่องการวางยาพิษเช่นกัน ก็เพราะท่านเองแหละที่คิดจะทำมิดีมิร้ายข้าในราตรีนั้น ข้าก็เลยต้องเตรียมยาพิษ รสชาติของมันเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ?”
  หัวใจของตี้คังเต็มไปด้วยแรงกระตุ้นจากเพลิงแห่งความปรารถนาทว่าเนื่องจากยาพิษ ร่างกายของเขาจึงไร้ซึ่งการตอบสนองใด ๆ การมีความรู้สึกแต่ทำอะไรไม่ได้เช่นนี้เป็นเรื่องทรมานเกินทนจริง ๆ
  ”ไป๋หยาน!”
  ตี้คังกัดฟัน”เจ้าเป็นคนแรก…คนแรกที่กล้าวางกับดักข้า ! เช่นนั้น เมื่อถึงเวลา ข้าจะเอาคืน ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะไม่มีบุตรชายกับเจ้าสิบคน !”
  ไป๋หยานย่นคิ้วหลังจากได้ยินถ้อยคำของเขา ชายผู้นี้ยอมรามือแล้วหรือ ?
  น่าเสียดายที่นางคิดในแง่ดีเกินไป
  ก่อนที่ความคิดของนางจะสิ้นสุดลงน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวของชายหนุ่มก็ดังขึ้นอีกครั้ง
  ”แต่เจ้าต้องมอบบุตรชายสิบคนกับบุตรสาวอีกสิบคนให้ข้าแทน !”
  ทั้งโทษเก่าโทษใหม่เขาต้องคิดบัญชีเอากับนาง ให้นางชดใช้อย่างสาสม !
  ไป๋หยานไม่สนใจถ้อยคำของเขาอีกนางยกมือขึ้นดึงผ้าม่านลงมาคลุมเรือนร่างของตน ทว่าม่านเตียงนั้นโปร่งใส มันจึงไม่ได้ช่วยมากนัก หากแต่กลับยิ่งขับเน้นให้นางดูงดงามเร้าใจมากขึ้นกว่าเดิม
  “พ่อรูปหล่อ”ไป๋หยานเผยอปาก พลางใช้นิ้วมือเรียวงามของนางเชยคางเขา “จะเอาคืนข้า ไม่ง่ายนักหรอกนะ จะบอกให้ ท่านล้มเลิกความคิดซะดีกว่า !
  ตี้คังรู้สึกถึงความร้อนรุ่มจากเรือนร่างของนางอีกครั้งพลันลมหายใจของเขาก็หนักหน่วงขึ้น ทั้งรุ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
  ”ไป๋หยานหากเจ้ายังขืนล้อข้าเล่นเช่นนี้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะใช้มือกับเจ้า !”
  ***จบบทมีแต่นางเท่านั้นที่จะวางกับดักตี้คังได้***

บทที่ 105 : เจ้าถูกลิขิตให้แต่งงานกับข้า
  รอยยิ้มของไป๋หยานแข็งค้างไปชั่วขณะนางขยับถอยร่นโดยไม่รู้ตัว
  ”สามเดือนข้าอดทนได้ทว่าหลังจากนั้น อย่างไรเสียเจ้าก็หนีเงื้อมมือข้าไม่พ้น” ตี้คังกล่าว พร้อมกับขยับตามไป๋หยานไปติด ๆ “และ…เจ้าอย่าได้คิดวางกับดักข้าเช่นนี้อีก ข้าไม่มีวันตกหลุมพรางเจ้าอีกเป็นแน่ !”
  สตรีผู้นี้…คิดว่าเมื่อวางยาพิษเขาแล้วเขาจะทำอะไรนางไม่ได้เลยยั่วเย้าเขาได้ตามอำเภอใจงั้นหรือ ?
  ”อ๋องคัง”ไป๋หยานยังคงก้าวถอยหนี “ที่จริงข้ายังพอมีหนทางที่จะย่นระยะเวลาดังกล่าวจากสามเดือนให้เหลือหนึ่งเดือน”
  ตี้คังหรี่ตายามนี้นัยน์ตาของเขาแลดูอันตรายมากขึ้น “มีเงื่อนไขใดก็ว่ามา ?”
  ”ข้าไม่ต้องการให้ผู้ใดรู้ว่าเฉินเอ๋อ เป็นบุตรชายของท่าน”
  นางไม่ต้องการอยู่ร่วมกับตี้คังแต่หากท่านตาของนางรู้ว่าไป๋เฉินเอ๋อเป็นบุตรของเขา ท่านตาจะต้องเกลี้ยกล่อมให้นางแต่งงานกับเขาเป็นแน่
  ”ทำไม?” ตี้คังเลิกคิ้ว “ข้าต้องการรู้เหตุผล ?”
  ไป๋หยานนิ่งคิดหาข้อแก้ตัว
  ”ข้าไม่ต้องการให้ผู้อื่นมารบกวนชีวิตของข้ากับเฉินเอ๋อก็แค่นั้น”
  สายตาของตี้คังจับจ้องไป๋หยานนิ่งครั้นเห็นสีหน้าสงบนิ่งของนาง เขาก็หัวเราะลั่น “ได้ ข้ารับปากเจ้า”
  อย่างไรเสียหลังจากผ่านหนึ่งเดือนนี้ไป เขาก็จะประกาศให้ทุกคนรู้ว่า ไป๋เฉินเอ๋อเป็นโอรสของเขา
  หกปีก็รอมาแล้วอีกแค่เดือนเดียวจะเป็นไรไป !
  ไป๋หยานโล่งใจดูเหมือนนางจะต้องรีบลงมือแก้แค้นเสียแล้ว และหลังจากภารกิจของนางลุล่วง นางก็จะรีบพาเฉินเอ๋อกลับเกาะศักดิ์สิทธิ์ทันที
  ”เช่นนั้นก็… ” ไป๋หยานค่อย ๆ คลี่ยิ้ม
  ”ขอบคุณ”
  ขอบคุณ?
  ตี้คังเหลือบมองนางด้วยความประหลาดใจหญิงสาวผู้นี้ขอบคุณเป็นด้วย ?
  ”ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านพูดในการประชุมขุนนางเช้านี้แล้วขอบคุณที่ท่านช่วยออกหน้ารับผิดแทนข้า ทว่าอย่างไรเสียมันก็คนละเรื่องกัน เช่นนั้นก็อย่าได้คาดหวังเลยว่าข้าจะซึ้งใจ”
  ตี้คังยิ้มหยัน”คนอย่างข้าไม่เคยคาดหวังอะไรเช่นนั้น”
  ”………….”
  ”ข้าไม่สนใจว่าเจ้าอยากมีความสัมพันธ์กับข้าหรือไม่? เพราะไม่ว่าเจ้าจะต้องการหรือไม่ก็ตาม ? ไม่ช้าก็เร็วเจ้าก็ต้องแต่งงานกับข้า”
  ”………….”
  ไร้สิ้นซึ่งความหวังจริงๆ กับคนหลงตัวเองเช่นนี้
  ในความคิดของไป๋หยานชายหนุ่มผู้นี้คงจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของนางเขาจึงทุ่มเททุกอย่าง เพื่อที่จะสร้างความรำคาญใจให้แก่นาง !
  ”ตี้คังข้ามีข้อเรียกร้องสามข้อสำหรับการแลกเปลี่ยน !” ใบหน้าของนางค่อนข้างหงุดหงิด
  ตี้คังเลิกคิ้ว”ว่ามา”
  “ข้อแรกห้ามท่านพาเฉินเอ๋อไปไหนมาไหนโดยที่ข้ายังไม่ได้อนุญาต !”
  “ข้อสองมีสตรีหลายคนในอาณาจักรนี้ยินดีพร้อมทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจจากท่าน ด้วยความพิเศษเช่นนี้ของท่าน ย่อมจะนำอันตรายมาสู่คน
รอบข้าง หากบุตรชายของข้าเกิดอันตรายเพราะท่านแล้วล่ะก็ ข้าจะไม่มีวันยกโทษให้ท่าน !”
  ”ข้อสามท่านต้องไม่พยายามบังคับขืนใจข้าอีก !”
  ”นอกเหนือจากข้อสุดท้ายแล้วข้าให้สัญญากับเจ้าได้ทุกข้อ” ตี้คังดึงไป๋หยานเข้าสู่อ้อมกอด จากนั้นก็โน้มกายลงจูบนางอีกครั้งเป็นเวลาเนิ่นนาน และเมื่อเขาถอนริมฝีปาก เขาก็กล่าวว่า “ไป๋หยาน เมื่อเจ้าพบกับข้า ตลอดชีวิตนี้ของเจ้าก็ลืมไปได้เลยว่า จะสามารถรอดพ้นจากมือข้าได้ ”
  ถึงยามนี้ตี้คังดูเหมือนจะไม่มีความคิดอื่นใด นอกเสียจากว่า การได้พบไป๋หยาน ทำให้ชีวิตของเขาถูกฉกฉวย ชะตาชีวิตของเขาและนางถูกลิขิตให้ผูกพันกันอย่างมิอาจหลบเลี่ยง
  *****
  เมื่อพลบค่ำมาเยือน
  ตี้คังออกไปจากห้องแล้ว
  นางกำนัลนำชุดใหม่เข้ามาและช่วยไป๋หยานแต่งตัว หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย ไป๋หยานก็เดินออกจากห้อง
  ทันทีที่เปิดประตูใบหน้าน้อย ๆ ที่คุ้นเคยพลันปรากฎต่อสายตาของไป๋หยาน หัวใจของนางอ่อนยวบลงในบัดดล
  “หม่ามี้คนเลวคนนั้นรังแกหม่ามี้รึเปล่า ?” น้ำเสียงของไป๋เสี่ยวเฉินนุ่มนวล อีกทั้งอ่อนหวาน แก้มกลม ๆ ยุ้ย ๆ น่ารักราวซาลาเปานึ่ง นัยน์ตาของเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
  ***จบบทเจ้าถูกลิขิตให้แต่งงานกับข้า***

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

นางกลับชาติมาเกิดเป็นทายาทในตระกูลขุนนางจีนที่ทรงเกียรติ ทว่าในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องคว้าตัวชายสักคนมาปลดปล่อยความทรมานที่กำลังพุ่งถึงจุดที่ไม่สามารถอดทนได้

ไม่คาดคิดไม่เพียงแต่นางต้องถูกพร่าพรหมจรรย์อย่างไม่ตั้งใจคาเตียง นางยังต้องอุ้มท้องทั้งที่ไม่ได้แต่งงานอีกด้วย

มิหนำซ้ำ…ลูกที่นางอุ้มท้องมาถึงสิบเดือนกลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ร้องเรียกนางว่า “หม่ามี้” ตั้งแต่เกิด โชคดีที่ลูกของนางเลี้ยงง่าย และหวงแม่มาก

ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดี และคนชั่วมากมายให้ผจญ หม่ามี้กับบุตรชายคู่นี้จึงต้องร่วมมือกันทำลายล้างศัตรู ไหนจะพวกญาติ ๆ ที่ชอบสบประมาทดูหมิ่นพวกเขาอีกล่ะ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลกรรมให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันกระทำกับพวกเขาสองแม่ลูก

แต่ทว่า จุ๊ ๆ วันหนึ่งป๊ะป๋าจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่คิดจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ทว่าเขายังคิดจะชิงหม่ามี้ของเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกด้วย ชะช้า ป๊ะป๋าผู้โง่เขลากล้าดียังไง ? จะทำอะไรไม่ถามไม่ไถ่ความเห็นของจิ้งจอกน้อยสักคำ…

จิ้งจอกน้อยเท้าสะเอวพลางกล่าวว่า “ท่านอยากเป็นป๊ะป๋าของข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็ต้องจ่ายค่าลงทะเบียนมา แล้วก็เดินไปต่อแถวหลัง ๆ โน่น เอ่อ หม่ามี้… ท่านลุงหวังที่อยู่บ้านถัดไปนั่นมีฐานะมั่งคั่งมาก ข้าว่าท่านควรไปเป็นลูกสะใภ้เขาจะดีกว่านะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท