“ปะป๋า!”
ณ พื้นที่โล่งได้มีเสียงใสและอ่อนหวานดังขึ้นมา ทำให้ที่แห่งนี้ราวกับเวลาได้ถูกหยุดไว้ และทำให้ทั้งอสงฝ่ายที่กำลังเขม้นกันหยุดทันที
เกรย์หันหน้าไปที่ต้นเสียงด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ ทว่ากับการหันหน้าไปง่ายๆแค่นี้มันก็ราวกับเขาใช้เวลาหลายปี เพราะเขากลัวว่าตนเองจะหูฟาดไป
ทว่าหลังสิ้นเสียงเรียก ก็ได้มีร่างๆหนึ่งวิ่งออกมาจากฝูงชนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระโดดเข้าหาเกรย์ที่กำลังตัวสั่น
“ปะป๋า!” ลิลินกอดเกรย์แล้วเริ่มหัวเราะด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนกับเด็กที่เพิ่งกลับถึงบ้าน ความไร้เดียงสากับเสียงหัวเราะตรงหน้าทำให้เกรย์เชื่อว่าตนไม่ได้ฝันไป
“ลิลินนี่เอาใหญ่แล้วนะ จริงๆเลย รู้ไหมว่าทำปะป๋าเป็นห่วงขนาดไหนน่ะ?” เกรย์พูดเสียงสะอื้นเล็กน้อย ถึงปากจะต่อว่า แต่ตัวเขากลับกอดร่างบอบบางนี้แน่นขึ้น
มีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าหลายวันที่ผ่านมาเขาหดหู่ขนาดไหนเมื่อลิลินหายตัวไป คงมีแต่เดลล่าที่รู้ว่าเขาไปนั่งเหม่อลอยมองออกไปข้างนอกบ่อยแค่ไหน
สถานการณ์ได้พลิกกลับแล้ว จากตอนแรกที่ตกอยู่ในสภาวะล่อแล่กลับเปลี่ยนกลายมาเป็นภาพประทัปใจที่พ่อได้เจอลูก นี่ทำให้ฝูงชนโดยรอบอึ้งไป แต่ทางเทียนเกอร์รายนั้นช็อคไปเรียบร้อยแล้ว…….
มันจะเป็นไปได้ยังไง……
มองดูเด็กสาวในอ้อมกอดของเกรย์ เทียนเกอร์เผยใบหน้าตะลึงออกมา
คนอื่นอาจจะไม่รู้ว่าคุณหนูของมิดเดอร์เรียหายไปไหน แต่มีหรือที่เขา เทียนเกอร์จะไม่รู้ ก็คนที่ลักพาตัวเด็กนี้ไปก็เขาเอง!
เทียนลี่! ไอ้โง่เอ้ย! กับอีแค่เด็กตัวเล็กๆมึงยังจัดการไม่ได้ ไอ้เศษสวะไร้ค่า!
เทียนเกอร์กกำหมัดแน่น ตรงหน้าเกิดเส้นเลือดปูดขึ้นมา แสดงให้เห็นว่าเขากำลังโกรธถึงขีดสุด เห็นลิลินกลับมาเขาก็รู้เลยว่าไอ้เทียนลี่มันคงแอบไปหาผู้หญิงจนเสียงานอีกแล้ว!
อนิจจัง ดูเหมือนเทียนเกอร์จะลืมไปแล้วว่า ถ้าลิลินกลับมาได้ อีกฝั่งหนึ่งก็คงมีสภาพไม่ดีเท่าไหร่บางทีเทียนลี่อาจจะตายไปแล้วก็ได้ ไม่รู้ว่ามันลืมหรือไม่สนใจกันแน่…….
เทียนเกอร์สูดหายเข้าลึกพยายามปรับอารมณ์ ก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้ง
“ผู้นำเกรย์ ถึงแม้ข้าจะรู้สึกเสียใจมากๆที่ต้องไปขัดเวลาแสนสุขการพบกันของพ่อและลูก แต่คงยังไม่ลืมใช่ไหมว่ายังมีเรื่องที่ยังไม่ได้ทำอยู่น่ะ……”
ทันใดนั้น เกรย์ที่กำลังจมไปกับความสุขก็รู้สึกขึ้นมาทันที
ตอนนี้ ออร่าของเกรย์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ในเมื่อลูกสุกที่กกลับมา เขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว!
เมื่อเทียนเกอร์เห็นสีหย้ายิ้มแย้มของเกรย์ ยิ่งทำให้เขาหัวร้อนกว่าเดิม แผนที่ตัวเองวางไว้สุดท้ายกลับพัง คงไม่มีใครไม่โกรธหรอกนะใช่ไหม?
“เกรย์ ตอนนี้ลูกสาวแกก็กลับมาแล้ว มันก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้าได้ว่า พวกเราทหารรับจ้างสุนัขเหล็กไม่ได้ลักพาคนผู้คน! แล้วอะไรนะเมื่อกี้? ลูกน้องแกกลับกล้าใส่ร้ายข้า ถ้าแกไม่ให้คำอธิบายดีๆมาละก็ ฮึ อย่าหวังว่าเรื่องนี้จะจบเลย!”
แม้ว่าแผนที่วางไว้จะล้มเหลว แต่เขาก็ยังไม่คิดจะปล่อยเกรย์ไปง่ายๆ
เกรย์ได้ยิน เขาก็วางตัวลิลินลง แล้วยืนขึ้นเผชิญหน้ากับเทียนเกอร์ “ได้ ฉันขอโทษ!”
“ขอโทษ?” เทียนเกอร์หัวเราะลั่น เป็นเสียงหัวเราะที่เจือปนไปด้วยความโกรธ คนที่ฉลาดหน่อยก็รู้ตัวแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปรวมไปถึงเกรย์ด้วย
เมื่อเขาหยุดหัวเราะ เทียนเกอร์ก็ยกดาบขึ้นแล้วชี้ไปที่เกรย์ด้วยแววตาแหลมคม
“ข้าเป็นถึงหัวหน้าของเหล่าทหารรับจ้าง แต่เมื่อลูกน้องแกมาปากใส่แกกลับทำแค่ขอโทษ? แบบนี้ในอนาคตถ้ามีคนมาเหยียบหัวข้าอีก แค่มันขอโทษก็จบงั้นสิ!”
“นี่แก……” เกรย์สตันไป ฝูงชนรอบๆก็ทำหน้าอึ้งๆเหมือนกัน เป็นเอ็งไม่ใช่เหรอวะที่บอกให้ขอโทษ? แล้วตอนนี้กลับมาพูดแบบนี้? เป็นคนกลับกลอกอะไรขนาดนี้นะ!
ในตอนนี้เทียนเกอร์ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะไปสนใจความคิดคนอื่นแล้ว เขารู้เพียงแต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ตนยังเป็นต่ออยู่ เพราะงั้นถึงไล่บี้มันต่อให้จมดิน!
เทียนเกอร์ส่งสัญญาณ ลูกน้องด้านหลังต่างก็หยิบอาวุธออกมา พวกหมาเองก็พากันอ้าปากเห่าหอน เห็นแบบนี้ก็รู้เลยว่าเทียนเกอร์มันกำลังแสดงอำนาจ
“เทียนเกอร์!” ตอนนี้เกรย์โกรธขึ้นมาจริงๆแล้ว เขาตะโกนไปว่า “ดูเหมือนว่าแกไม่คิดจะจบเรื่องอย่างสันติสินะ ได้! อย่าคิดว่าข้า เกรย์ คนนี้จะมารังแกกันได้ง่ายๆนะ!”
เดลล่าปล่อยออร่าปราณออกมาทันที เพราะก่อนหน้านี้ตนเองเกือบทำให้ชื่อท่านผู้นำต้องด่างพร่อยเพราะไอ้ชั่วนี่ ทำให้เดลล่าโกรธมากๆ ในเวลานี้ ถ้าถามว่าใครอยากบวกกับอีกฝ่ายมากที่สุด มันคนนั้นก็คือเขาเอง!
คนทั้งสองฝั่งปล่อยปราณออกมาข่มขู่อีกฝ่าย เหล่านักเวทย์เองก็ทำปากขมุบขมิบร่ายเวทย์ พวกสุนัขหน้าตาอัปปรีต่างก็งอตัวไปด้านหน้าเตรียมพุ่งเข้าไปตะครุบทุกเมื่อ
ทั้งสองฝ่ายเตรียมบวกเต็มที่ เห็นแบบนี้ลิลินหดคอกลับไปทันทีราวกับกำลังกลัวอยู่ ก่อนจะกระโดดออกมาจากข้างตัวเกรย์ แล้วรีบวิ่งไปที่อีกด้านหนึ่ง จากนั้นเธอก็กระโดดเข้าใส่ผู้หญิงแปลกหน้า
ลิลินทำให้คนทั้งสองฝ่ายช็อค เมื่อพวกเขามองใบหน้าผู้หญิงที่เธอกระโดดเข้าใส่พวกเขาก็เบิกตากว้างทันที
นั่นผู้หญิงที่มีผมยาวสีชมพูน่าหลงใหล และผู้หญิงสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ผมสีน้ำตาลกับผมสีชมพูสั้น ทั้งสามคนนับได้ว่าเด่นมากแม้ว่าจะอยู่กลางผู้คนก็ตาม ราวกับหงส์ในฝูงอีกาเลย!
คนที่อยู่รอบๆเองก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าด้านข้างตนมีผู้หญิงที่ทรงเสน่ห์ยืนอยู่ถึงสามคน พวกเขาต่างก็ทำสีหน้าช็อค เมื่อรู้สึกตัวก็กลัวว่าปัญหาจะวิ่งใส่ตนจึงรีบถอยห่างจากพวกเธอ ทำให้ตอนนี้เหลือชายหนุ่มผมดำที่ยืนอยู่กับพวกเธอเท่านั้น เขามองไปที่ด้านหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อน
อยู่ๆก็เห็นสาวงามเกรย์ก็อึ้งไป แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ชายที่มีภรรยาแล้วดังนั้นจึงดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ทว่าฝั่งตรงข้าม เทียนเกอร์มันตกตะลึงหนักจนถอนตัวไม่ขึ้น
เมื่อเห็นว่าคนที่ลูกสาวตนวิ่งไปหลบภัยเป็นพวกวู่หยาน ทำให้เกรย์ที่ไม่รู้ความสัมพันธ์ของลูกสาวตนกับอีกฝ่ายเกิดความลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากถามไปว่า “พวกคุณเป็นใครกัน?”
“พวกเรา?” คำถามของเกรย์ ฮินางิคุ มิโคโตะ และ อิคารอส ไม่ตอบ พวกเธอหันไปมองวู่หยาน สื่อให้เขาเป็นฝ่ายพูด
วู่หยานยักไหล่ด้วยสีหน้าขบขัน มองไปที่เกรย์ด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “พวกเป็นแค่คนที่ผ่านมา…ผ่านมา….อืม ใช่แล้วแค่นั้นแหละ”
“……….”
นี่ทำให้เกรย์ไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไงเลย ฮินางิคุ กับ มิโคโตะ มองค้อนใส่วู่หยาน พวกเธอลืมไปได้ไงว่าตาบ้านี่ชอบพูดอะไรไม่ดูกาลเทศะตลอด……
เกรย์ที่เจรจาพูดคุยกับผู้คนมาตลอดทั้งชีวิต ตอนนี้กลับพูดไม่ออก ทำให้บรรยากาษเริ่มอึดอัด
“เอ่อ งั้น ฉันควรเรียกคุณชายท่านนี้ว่าอะไรดี?”
“เอ๊ะ! อ่อ เรียกฉันว่า…..”
ได้ยินคำถาม วู่หยานก็ก้มหน้าลงครุ่นคิดด้วยท่าทางจริงจัง ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาตบหัวเองราวกับว่านึกอะไรออกแล้ว “ใช่แล้ว เรียกว่าคนที่ผ่านทางมามันไม่ได้อารมณ์ ชื่องั้นสินะ พี่ชายคนนี้มีกฎที่ห้ามบอกชื่อตัวเองกับคนแปลกหน้าด้วยสิ เอาไงดีเนี่ย โว้ย! ไอ้นี่ก็ไม่ได้ไอ้นู่นไม่ได้!”
เวลานี้ ไม่เพียงแต่เกรย์ ผู้คนรอบๆ และยังเทียนเกอร์ที่ตั้งแต่เริ่มก็จ้องพวกฮินางิคุไม่ว่างตัวรู้สึกคันเท้ายิบๆ เกรย์ยังดีหน่อย ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเป็นคนรู้จักกับลูกสาว ดังนั้นเขาจะไม่ถีบก้นมัน แต่จะเมินแทน
ทว่า ฮินางิคุ กับ มิโคโตะ ต่างก็ก้มหน้าลงแล้วรีบถอยห่างจากตัววู่หยาน พยายามแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเขา
เพราะพวกเธอกลัวหน้าแตกไงล่ะ…….
วู่หยานยังคงคึก(เล่น)ไม่หยุด เนื่องมาจากความหัวร้อนเมื่อกี้ คนพวกนี้เอาแต่จ้องสาวๆแต่กลับเมินเขาสนิทที่ยืนอยู่ด้านข้างสนิท! ดังนั้นเขาจึงคิดเล่นพวกมันเพื่อแก้แค้น ‘พวกเอ็งกล้าดียังไงถึงมาเมินพี่ชายคนนี้!’
ถึงแม้จากเมืองท่าจนถึงเมืองบาฮาล เขาจะโดนสาวๆชิงความเด่นไปหมดจนเริ่มชินแล้ว แต่ลึกๆในใจเขาก็ยังรู้สึกรับไม่ได้อยู่ดี ทำให้ตอนนี้มันใกล้ระเบิดออกมาแล้ว ถ้าเขาไม่ระบายมันออกไปบ้าง เขาจะรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว
อย่าลืมว่า วู่หยาน เป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นคนหนึ่งเลยล่ะ………