วู่หยานโอบกอดร่างนุ่มนิ่มของคินุฮาตะ แล้วเอ็นจอยกับไปเสียงครางและกลิ่นหอมหวานที่ออกมาจากเหงื่อเธอ เขาขยับร่างกายจู่โจมอย่างหนักขณะหลับตาพริ้มอิ่มเอมไปด้วย
ในปัจจุบันมันมีอยู่สองเสียงที่หูเขาชมชอบที่สุด หนึ่งก็คือเสียงครวญครางของสาวน้อย และสองคือเสียงเนื้อชนเนื้อที่ดังขึ้นทุกครั้งที่เขาขยับสะโพก ไม่ว่าจะฟังมากี่ครั้งเขาไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยกับเสียงทั้งสองแบบ………
คินุฮาตะไม่ได้รู้สึกอย่างวู่หยาน เธออับอายมากกว่าทุกครั้งที่ได้เสียงตัวเองครางแบบนั้น และเธอยังต้องกัดฟันกรอดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเนื้อหนังปะทะกันของเธอกับเขา ถึงแม้เธอจะรู้สีก็เถอะ…….
เธอไม่ได้ผิวหน้าหนาเหมือนวู่หยาน ในฐานะที่เป็นผู้หญิงถึงเธอจะจะแข็งกระด้าง แต่เธอก้รู้สึกอัดอัดและไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะส่งเสียงร้องน่าอายแบบนี้
เธอพยายามหยุดเสียงตัวเองหลายรอบแล้ว แต่ทุกครั้งที่วู่หยานโยกเอวเข้ามาชนเธอก็รู้สึกยังโดนไฟฟ้าช๊อตไปทั้งตัว จากนั้นปากมันก็ร้องออกมาเอง ถึงอยากจะหยุดร้องก็ทำไม่ได้……..
นี่เป็นครั้งแรกของเธอ แต่แค่นี่เธอก็รู้สึกราวกับวิญญาณจะหลุดลอยออกจากร่างแล้ว สติที่เหลือส่วนสุดท้ายได้โบกมือลาเธอและนั่นทำให้คินุฮาตะรู้สึกว่าร่างกายตัวเธอมันยังกับไม่ใช่ของเธอยังไงยังงั้น………
แต่คินุฮาตะก็ไม่ได้ปฏิเสธความจริงที่ว่าเธอเองก็รู้สึกดีสุดๆเช่นกัน……..
ทว่านี่ก็ไม่อาจปกปิดความอับอายของเธอได้ ใบหน้าของคินุฮาตะแดงก่ำโดยครึ่งนึงเป็นเพราะรู้สึกดีส่วนอีกครึ่งมาจากความอาย
วันนี้เป็นวันที่คินุฮาตะได้พบเจอประสบการณ์ใหม่ๆหลายอย่าง และยังเป็นวันที่เธอรู้สึกได้ถึงความไร้พลังของตัวเองด้วย ทั้งโดนลักพาตัวมาโดยที่ขัดขืนไรไม่ได้ และโดนข่มขืนอีก ยังไม่พอเธอยังถูกบังคับให้อยู่ในท่าบ้าๆนี้ด้วย?!
หน้าก้มลงไปจนแทบจูบเตียงก้นยกขึ้น คินุฮาตะจับผ้าปูที่นอนด้วยจิตใต้สำนึก มองดูผ้าปูที่นอนตรงหน้าพร้อมกับรับแรงกระแทกจากด้านหลังที่มาไม่หยุด คินุฮาตะร้องไห้ในใจ
อย่างน้อยนายก็ช่วยใช้ท่าอื่นได้มั้ย?………
ประโยคนี้คินุฮาตะอยากพูดออกไปมากๆเพียงแต่ทุกครั้งที่จะพูดมันก็เปลี่ยนเป็นเสียงครางอยู่ร่ำไป ท้ายที่สุดเธอก็ต้องอยู่ในท่าทุเรศนี่มานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว………….
ในหัวแทบไม่เหลือคำว่าเหตุผลแต่ทว่าความอับอายนี่ยังอยู่ครบไม่หายไปไหน ภายใต้อิทธิพลของความอายบวกกับความขมขื่นในที่สุดคินุฮาตะก็ไม่ไหวอีกต่อไป!
หลังจากส่งเสียงครางยาวออกไป คินุฮาตะก็หน้าทิ่มเตียงผิวเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนด้วยความเหน็ดเหนื่อย เห็นแบบนี้วู่หยานก็ขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจด้วยความผิดหวังกับเรี่ยวแรงของเธอ
วู่หยานกดตัวเองลงบนตัวเธอ ใช้ร่างกายเขาเพื่อบอกเธอว่าตนเองยังห่างไกลจากคำว่า ‘พอ’………..
คินุฮาตะเพิ่งรื้อฟื้นสติมาได้เล็กน้อยพอที่จะรู้สึกได้ถึงอ้อมกอดของเขา เธอหน้าขึ้นสีทันทีแต่ทว่าเธอยังไม่ทันได้พูดอะไร วู่หยานก็กระแทกเข้ามาอีกแล้ว บีบบังคับให้เธอต้องร้องเพลงอีกครั้ง………
ภายในห้อง นอกจากเสียงครางชนกันของทั้งสองและเสียงครางของคินุฮาตะ มันก้ยังมีเสียงอื่นอยู่ นั่นก็คือสียงสั่นไหวของเตียง!
เสียง ‘แคร๊ก’ นี่ยิ่งทำให้วู่หยานคึกคัก เขาแทงเธอหนังหน่วงกว่าเดิม นี่ทำให้คินุฮาตะเกลียดไอ้เตียงบ้านี่เข้าไส้
คินุฮาตะเริ่มที่จะพังเหมือนเตียง เธอครางออกมาจากนั้นเกร็งตัวเสร็จเป็นครั้งที่สองของวัน……..
แน่นอนว่ามันเหมือนรอบแรก วู่หยานไม่ให้โอกาสเธอได้พักหายใจหายคอ เขายังส่งน้องชายเข้าไปเหมือนเดิม…..
คินุฮาตะหวาดกลัว แล้วหันสายตาเบลอๆที่ปริ่มไปด้วยน้ำตามองเขา “นะ…นายยังไม่เหนื่อยอีก?”
วู่หยานตอบคำถามด้วยการกระแทก……..
สวรรค์ ใครก็ได้ โปรดมาช่วยฉัน…….
คินุฮาตะร้องไห้ในใจเป็นครั้งที่เก้าของวันแล้ว ก่อนหน้านี้เธอยังเชื่อมั่นและมั่นใจในความอึดของตัวเอง เป็นเพราะพลัง Offense Armor ของเธอจำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแรงเพื่อใช้มัน
ทว่าตอนนี้ความมั่นอกมั่นใจของเธอได้ปลิวหายไปแล้ว เมื่อมาเจอความอึดอย่างกับไม่ใช่คนของวู่หยาน!
พูดตามตรงต่อให้เธอฝึกร่างกายมาดีแค่ไหน แต่มันจะสามารถเอามาเทียบกับ True Ancestor ได้เหรอ?
ดังนั้นคินุฮาตะจึงได้เริ่มูดร้องขอความเมตา วู่หยานก็ตอบรับเธอโดยการเปิดสงครามอีกครั้ง……..
คินุฮาตะทำได้แค่ยอมรับโชคชะตา เธอหลับตาลงแล้วคิด ‘ร่างกายอันมีเสน่ห์ของฉัน หวังว่าเธอจะอดทนไปได้จนจบน่ะ…….’
ทันใดนั่นเองก็มีเสียงดังขึ้นมาขัดทั้งสอง ถึงมันจะดังแค่แป๊ปเดียว แต่มันก็ดึงความสนใจของทั้งคู่ไปได้
ที่ต้องสนก็เพราะ….มันเป็นเสียงประตูเปิดไงล่ะ!!!
วู่หยานหยุดตัวเองด้วยจิตใต้สำนึก จากนั้นทั้งคินุฮาตะที่หอบหายใจหนักและวู่หยานก็หันไปมองประตู ก่อนจะอึ้งไปทั้งคู่
“เฟรนด้า! ทาคิสึโบะ!” คินุฮาตะตะโกนออกมาให้กับแขกทั้งสองคน
เฟรนด้า ทาคิสึโบะ ยืนตรงประตูมองวู่หยานและคินุฮาตะที่กอดกับแบบเนื้อแนบเนื้อ แต่ถึงจะเห็นภาพบัดสีนี้แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าเลย ราวกับที่เห็นไม่ใช่มีอะไรกัน แต่เห็นเป็นเล่นหมากรุกแทน………
ทั้งสองคนที่กำลังอึ้งไม่ได้สังเกตุเห็นความผิดของเฟรนด้า ทาคิสึโบะที่ดูเหมือนคนไม่ได้สติ!
คินุฮาตะตอบสนองก่อน เธอหน้าแดงก่ำเมื่อตระหนักได้ว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของตนกำลังมองตัวเองเปลือยอยู่ ความอายได้ระเบิดขึ้นจากข้างในตัว!
“ว้าย!!!”
ตะโกนร้องเสียงดังเสร็จ คินุฮาตะก็ยกมือปิดหน้าตัวเอง ร่างกายเองก็ดิ้นไปมาพยายามสลัดตัวให้หลุดจากวู่หยาน ขณะเดียวกันเสียงพูดที่เต็มไปด้วยความอับอายก็ดังลอดออกมา
“ฮื้อออ…..เฟรนด้า ทาคิสึโบะ อย่ามองนะ อย่ามองฉันนะ……”
เสียงของเธอส่งไปไม่ถึงเพื่อนทั้งสอง แต่ถึงวู่หยานแทน เขาได้สติกลับมา พอเห็นสายตาที่มองมาของเฟรนด้า กับ ทาคิสึโบะ ขณะที่น้องชายของเขายังอยู่ในตัวคินุฮาตะ ทันใดนั้นความตื่นเต้นก็ทะลักเข้ามาในตัวเขา!
วู่หยานอ้าแขนยอมรับดาร์คไซด์(ด้านมืด) แล้วปล่อยตัวไปกับแรงปรารถนา
เขาเริ่มกระแทกเข้าและออกใหม่อย่างหนักหน่วงและรวดเร็วราวกับเครื่องยนต์ ดังนั้งผลคือคินุฮาตะของเราก็ครางออกมาดวยความสุขผสมอาย
อย่างที่คิด ไอ้บ้านี่มันเป็นโครตโรคจิต!
คินุฮาตะไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่าสภาพตอนนี้ของเธอมันเป็นยังไง เธอรู้อยู่อย่างเดียวคือ ตัวเธอจบสิ้นแล้ว หลังจากนี้เธอคงไม่กล้าที่จะเจอผู้คนแล้ว……
ทว่าคินุฮาตะไม่ได้รู้เลยว่าคนที่อายจนไม่กล้าไปเจอคนอื่นมากกว่าเธอก็คือสองสาวที่เข้ามาในรังรักนี้………..
เสียงปิดประตูอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้วู่หยานหยุดเคลื่อนไหว และคินุฮาตะก็ได้ใช้โอกาสล้ำค่านี้หันไปมองด้วยเช่นกัน
และการมองนี่ก็ได้ทำให้หนึ่งชายและหนึ่งโลลิอึ้งไปอีกครั้ง…….
เฟรดด้า กับ ทาคิสึโบะ ไม่เพียงไม่วิ่งหนีออกไป แต่กับปิดประตูเข้าห้องแทน!
นี่ยังไม่เท่าไหร่นะ พอปิดประตูเสร็จ สองสาวก็ยืนนิ่งมองวู่หยานกับคินุฮาตะอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะ…..ถอดเสื้อผ้าตัวเอง!
คินุฮาตะนิ่งอึ้ง วู่หยานนิ่งอึ้ง……..
นี่อย่าบอกนะว่าตูกำลังจะทำลายสถิติของตัวเอง? นี่เรากำลังจะได้เล่น4Pในตำนานแล้ว?………..
————————–
กลุ่ม6-10มีโปรลดเหลือกลุ่มละ100ครับจากราคาเดิม160ครับ