จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 341-345

ตอนที่ 341-345

บทที่ 341 : ป๊ะป๋ากะพ่อบุญธรรม (1)
  ”ไม่เป็นไปได้อย่างไร” ตี้เสี่ยวอวิ๋นก้าวถอยหลังกลับไปสองสามก้าวพลางยิ้มแห้ง ๆ “พี่…พี่ทั้งฉลาด ทั้งแข็งแกร่ง และหล่อเหลาที่สุด พี่กับพี่สะใภ้เหมาะสมกันยิ่ง ราวกับกิ่งทองใบหยกจริง ๆ”
  ”เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงอยากให้ หยานเอ๋อหนีไปจากข้า”
  ตี้คังเลิกคิ้วน้ำเสียงของเขาราวกับสายลมหนาวที่พัดเพียงแผ่วผ่านเข้าหูของตี้เสี่ยวอวิ๋น ทว่านางกลับเริ่มเหงื่อแตก
  ”ข้า… คือข้า … ” ตี้เสี่ยวอวิ๋นไม่สามารถกล่าวคำใดได้เป็นเวลาครู่ใหญ่ นางมองไป๋หยานตาละห้อย น้ำตาเอ่อคลอดวงตาคู่งาม
  สีหน้าของไป๋หยานหม่นมัวไม่ต่างกับก้นหม้อ
  เฉินเอ๋อกล่าวได้ถูกต้องแล้วตี้เสี่ยวอวิ๋นนั้นสวยทว่ากลับโง่เขลา
  ขนาดอ๋องคังอยู่ที่นี่นางก็ยังไม่รู้ ทั้งยังบุ่มบ่ามเข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรืออีกด้วย
  แน่นอนว่าที่นางอุตส่าห์ทำมาทั้งหมดนับแต่ต้นนั้นบัดนี้กลับกลายไร้ประโยชน์สิ้น
  ไป๋หยานได้เพียงแต่หวังว่าเฉินเอ๋อจะสามารถรั้งความสนใจฉู่อี้เฟิงได้อย่างต่อเนื่องไม่ปล่อยให้ฉู่อี้เฟิงมาปรากฏตัวในยามนี้
  ในขณะที่ไป๋หยานกำลังพยายามหาข้อแก้ตัวให้ตี้เสี่ยวอวิ๋นอยู่นั้นจู่ ๆ กลิ่นอายที่คุ้นเคยก็ลอยมาจากพื้นที่ซึ่งเคยว่างเปล่าเบื้องหน้านาง ส่งผลให้ร่างของนางแข็งค้างในบัดดล
  ท่ามกลางความว่างเปล่าปรากฏร่างของชายหนุ่มในอาภรณ์สีขาว ภาพลักษณ์ของเขาราวกับเทพเซียนผู้ไม่แยแสสรรพสิ่ง ร่างของเขาสูงโปร่ง เขาลอยอยู่เหนือก้อนเมฆ ชายเสื้อของเขาสะบัดพลิ้วตามสายลมราวพลุดอกไม้ไฟ
  ”หม่ามี้…”
  ไป๋เสี่ยวเฉินเดินออกมาจากด้านหลังของชายผู้นั้นอย่างอ่อนใจพลางกล่าวว่า “เฉินเอ๋อ…ล้มเหลว”
  เขาพยายามดึงตัวพ่อบุญธรรมไปที่วังหากทว่า แรงกดดันของป๊ะป๋าวายร้ายนั้นทรงพลังมาก แม้แต่ท่านพ่อบุญธรรมที่อยู่ห่างออกไปกว่า 100 ลี้ก็ยังรู้สึกได้
  พ่อบุญธรรมคิดว่ามีใครบางคนกำลังจะก่อความเดือดร้อนให้กับหม่ามี้ของเขาเช่นนั้นพ่อบุญธรรมจึงหวนกลับมา
  ที่สุดนัยน์ตาของตี้คังก็ย้ายจากร่างของตี้เสี่ยวอวิ๋น เขาหรี่ตาเล็กน้อย ริมฝีปากสีแดงของเขาเอื้อนเอ่ยเย้ยเยาะ “หยานเอ๋อ นี่คือผู้ที่เจ้าต้องการซ่อนไว้ใช่หรือไม่ ?”
  ”เขา… เขาเป็นพ่อบุญธรรมของเฉินเอ๋อ”
  จบกันไป๋หยานไม่มีทางจะปฏิเสธได้อีกต่อไป นางจำต้องยอมรับ
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นรู้ดีว่านางเป็นตัวปัญหาเช่นนั้นนางจึงพยายามยืนตัวลีบไม่กล่าวคำใด ยามนี้นางทำได้เพียงก้มหน้างุด ๆ
  ขณะที่คนอื่นๆ กำลังกังวลใจอยู่นั้น ฟู่เป่าหยุนกลับอยากจะหัวเราะร่า ทว่าน่าเสียดายที่นางไม่สามารถออกเสียงได้ นางไม่สามารถแม้แต่จะหัวเราะด้วยซ้ำ นางทำได้เพียงมองไป๋หยานด้วยสายตาเบิกบานเท่านั้น
  ฮึ!
  นังผู้หญิงสารเลวเหยียบเรือสองแคมครานี้เจ้าจะต้องตายแน่ !
  ยามนี้ทั่วทั้งลานหน้าบ้านเงียบกริบ
  ไร้แม้กระทั่งเสียงสายลมพัดไหว
  ชายหนุ่มทั้งสองไม่กล่าวคำใดทว่าการปรากฏตัวของพวกเขาก็ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดระหว่างคนทั้งสอง
  ภายใต้บรรยากาศหนักหน่วงเต็มไปด้วยความหนักใจนั้น ไป๋หยานคิดว่า ในไม่ช้าทั้งคู่จะต้องต่อสู้กันแน่ ๆ นางอดไม่ได้ที่จะพยายามเกลี้ยกล่อมชายหนุ่มทั้งสอง
  อย่างไรก็ตาม…
  ไป๋หยานยังไม่ทันได้กล่าวคำใดน้ำเสียงลุ่มลึกของตี้คังก็ดังขึ้น
  ”ข้าขอบคุณน้ำใจเจ้าที่ช่วยดูแลภรรยาและลูกของข้ามานานหลายปี”
  นี่เกิดอะไรขึ้น?
  อย่าว่าแต่ฟู่เป่าหยุนที่มองตาค้างทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นต่างก็ตกตะลึง
  ใช่แล้วชายหนุ่มทั้งสองควรจะต่อสู้กันมิใช่หรือ ? ก็แล้วเหตุใดอ๋องคังจึงกล่าววาจาสุภาพเช่นนี้
  ฉู่อี้เฟิงเอามือไพล่หลังอาภรณ์สีขาวพลิ้วสะบัด ภาพลักษณ์ของเขาไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงแลดูสูงส่ง และสง่างาม
  “เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหากมิใช่เป็นเพราะเจ้า เฉินเอ๋อก็คงไม่ได้ถือกำเนิด เช่นนั้นเราสามคนก็คงไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
  ตี้คังคว้ามือของไป๋หยานริมฝีปากสีแดงระเรื่อของเขาแย้มยิ้ม “ข้าพลาดช่วงเวลาดี ๆ มานานหลายปีแล้ว แต่นี้ต่อไปข้าจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตกับภรรยาและลูก ๆ ของข้า”
  นัยน์ตาฉู่อี้เฟิงฉายประกายวาบขณะมองตี้คังจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ก้มลงมองไป๋หยาน
  ***จบบทป๊ะป๋ากะพ่อบุญธรรม (1)***

บทที่ 342 : ป๊ะป๋าปะทะพ่อบุญธรรม (2)
  แววตาเฉยเมยของเขามลายหายไปสิ้นบัดนี้แววตาของเขาอ่อนโยนราวกับสายน้ำไหล
  ”เจ้ารู้หรือไม่ว่าครั้งที่ข้าพบเจอนาง นางดูน่าสมเพชเพียงใด ?”
  ตี้คังจับมือของไป๋หยานแน่นดูราวกับว่าเขาต้องการทุ่มเทพลังทั้งหมดของตน เพียงเพื่อทำให้นางยังอยู่เคียงข้างเขา
  แววตาของฉู่อี้เฟิงเต็มไปด้วยความรักที่มิอาจซ่อนเร้น
  “ครั้งที่ท่านผู้เฒ่าทั้งสามพานางกลับมาจากโลกภายนอกร่างของนางอาบไปด้วยเลือด ราวกับว่านางเพิ่งถูกอุ้มออกมาจากสระโลหิต ทว่านางกลับยอดเยี่ยมอย่างยากจะหาผู้ใดเสมอเหมือน เพราะแม้ว่านางจะอยู่ในอาการกึ่งเป็นกึ่งตายถึงเพียงนั้น นางก็ไม่ยังลืมที่จะดูแลเฉินเอ๋อทารกน้อยที่อยู่ในอ้อมอกของนาง ภายใต้การปกป้องของนางนาง ร่างของเด็กน้อยไม่ปรากฏแม้รอยขีดข่วน”
  ”เจ้าอยู่ที่ใดกัน? ยามที่นางฝึกฝนตนเอง กระทั่งต้องตกอยู่ในอันตรายนับครั้งไม่ถ้วนนั่น เจ้าอยู่ที่ใดกันเล่า ?”
  หญิงผู้นี้เพียงเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของตนแล้วนางมักจะทุ่มสุดตัวไม่คิดชีวิตเสมอ ทุกครั้งเขาทำได้เพียงสะกดรอยติดตามนางไปอย่างลับ ๆ เมื่อใดที่นางตกอยู่ในอันตราย เขาก็จะเป็นผู้คอยให้การช่วยเหลือ เขาไม่มีวันยอมให้นางเป็นอันตรายถึงชีวิต
  แต่ถึงนางจะไม่เคยห่วงชีวิตตนเองทว่ากับเฉินเอ๋อแล้วนางจะดูแลเฉินเอ๋อเป็นอย่างดี นางไม่เคยปล่อยให้เฉินเอ๋อได้รับบาดเจ็บแม้เพียงน้อย
  ก็เพราะเช่นนี้นางจึงเข้ามาอยู่ในใจของเขาโดยเขาไม่ทันรู้ตัว เขาไม่อาจทนเย็นชากับนางได้อีกต่อไป
  ไป๋หยานหลุบตาลงเล็กน้อยตลอดเวลาที่ผ่านมานางรู้ดีถึงความรู้สึกของฉู่อี้เฟิงที่มีต่อนาง ทว่าน่าเสียดายที่นางนับถือเขาในฐานะพี่ชายมาโดยตลอด ทั้งยังไม่เคยคิดเป็นอื่น
  ไม่มีผู้ใดกล่าวคำขัดจังหวะฉู่อี้เฟิง
  ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานคิดเสมอว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไป๋หยานจะต้องมีช่วงเวลาดี ๆ เขาไม่เคยคาดคิดว่านางจะผ่านความเจ็บปวดมาอย่างแสนสาหัส
  เมื่อรู้อย่างนี้แล้วหัวใจของเขาพลันร้อนรนด้วยเพลิงโทสะ เพียงอึดใจท่าทีของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นดุดัน
  บ้านสกุลไป๋! ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะบ้านสกุลไป๋ชั่วช้านั่น ! ครานี้หากกลับไปยังอาณาจักรหลิวฮั่ว ข้าจะไม่ปล่อยสกุลไป๋ไว้แน่ !
  ”ข้า…ขอโทษ”
  ไป๋หยานคิดว่าตี้คังคงจะไม่กล่าวคำใดเสียอีกทว่าเสียงต่ำ ๆ และแหบห้าวกลับดังขึ้นข้าง ๆ หูของนาง
  ไป๋หยานหันไปมองอย่างตกตะลึง”ท่านว่ากระไรนะ ?”
  ชายผู้นี้กล่าวคำขอโทษเป็นด้วยกระนั้นรึ?
  ”หยานเอ๋อทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง” ตี้คังกล่าวพลางจับมือของไป๋หยานแน่นขึ้น “หากข้าพบเจ้าสองแม่ลูกเร็วกว่านี้ เจ้าคงจะไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายเช่นนั้น จากนี้ไป ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดทำร้ายพวกเจ้าสองแม่ลูกอีก !”
  ไป๋หยานยืนอึ้งนางจ้องมองแววตาที่ราวกับกำลังครอบงำจิตวิญญาณของนาง ทันใดนั้นเองหัวใจของนางก็ราวกับจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ
  นางตกในห้วงภวังค์ทว่าก็เผลอหลบตาไม่กล้าสบตาชายหนุ่มอีกต่อไป
  ”ทุกอย่างเป็นเพียงเรื่องราวแต่หนหลังนอกจากนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกฝน หากอยากก้าวหน้าย่อมต้องจ่ายค่าตอบแทน”
  ยิ่งก้าวหน้าก็ยิ่งอันตราย
  นางจะไม่ประสบความสำเร็จได้เช่นทุกวันนี้หากปราศจากการฝ่าอันตราย
  “ภรรยาของข้าไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเช่นนี้ข้าสามารถมอบทุกสิ่งให้เจ้าได้ตามแต่ใจเจ้าปรารถนา”
  ไป๋หยานลูบคางพลางยิ้มให้ตี้คังนางเลิกคิ้วขึ้นเอ่ยกล่าวว่า “หากข้าต้องการให้ท่านอยู่ห่าง ๆ ข้า ท่านจะทำได้หรือไม่ ?”
  ”เว้นแต่เรื่องนี้”
  ไป๋หยานกล่าวต่อว่า”เช่นนั้นก็ให้ข้าอยู่ห่าง ๆ ท่านเป็นไร”
  สีหน้าของตี้คังเปลี่ยนเป็นดำคล้ำน้ำเสียงของเขาจริงจังขึ้น “ต่อให้ชั่วชีวิตก็ไม่มีทางเป็นไปได้”
  บนท้องฟ้านัยน์ตาที่ไม่แยแสของฉู่อี้เฟิงกำลังจ้องมองคนทั้งสองที่อยู่เบื้องล่าง แววตาของเขาฉายประกายแลดูซับซ้อน
  ”หยานเอ๋อข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า ข้าอยากจะพูดกับเจ้าเพียงลำพังจะได้หรือไม่ ?”
  ไป๋หยานเงียบไปนานนางอยากพยักหน้ารับ ทว่าชายผู้ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ กลับกอดเอวของนางแน่น
  ”ข้าไม่อนุญาต!”
  ”อ๋องคัง!”
  ”ก็ได้งั้นเจ้าจะกลับมาเมื่อไร ?”
  …
  นัยน์ตาของตี้เสี่ยวอวิ๋นเบิกกว้างนี่เสด็จพี่ของนางว่าง่ายถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด ?
  แค่พี่สะใภ้เสียงดังเข้าหน่อยเขาก็พลิกลิ้นได้ทันที
  ***จบบทป๊ะป๋าปะทะพ่อบุญธรรม (2)***

บทที่ 343 : ชายที่มอบความอบอุ่นให้แก่นาง
  เดิมทีไป๋หยานคิดว่าตี้คังคงจะห้ามนาง ทว่าครานี้เขากลับยอมง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร ?
  นางไม่เข้าใจนางเพียงกวาดตามองชายหนุ่มผู้ซึ่งยืนอยู่ข้างกายอย่างสงสัย พลางขยับริมฝีปากเอ่ยถาม “นี่ท่านกินยาผิดรึเปล่า ?”
  แท้จริงหลังจากกล่าวถ้อยคำนี้ออกไป ไป๋หยานก็รู้สึกเสียใจ ทว่าตี้คังก็ไม่ให้โอกาสนางได้กลับคำ เขารั้งเอวของนางเข้ามากอดจากนั้นก็จุมพิตริมฝีปากของนาง
  ”ข้าไม่กินยาแต่จะกินเจ้าแทน”
  ชายผู้นี้เฝ้าแต่คอย หาโอกาสเอาเปรียบนางร่ำไป !
  ตี้คังกวาดตามองฉู่อี้เฟิงดวงตาเรียวคมของเขาจ้องมองลึกลงไปในดวงตาถมึงทึงอีกคู่หนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของเขาพลันเผยรอยยิ้มพึงใจ
  ”อ๋องคัง!”
  ไป๋หยานแจ่มแจ้งในความคิดของตี้คังนางจ้องมองเขาอย่างดุดัน จากนั้นก็หันมามองฉู่อี้เฟิง
  ”ไปกันเถอะ”
  หมัดที่กำแน่นของฉู่อี้เฟิงพลันค่อยๆ คลายลง เขายิ้มเพื่อสงบสติอารมณ์ “ดี…”
  *****
  ณป่าท้อที่กำลังผลิดอกเบ่งบาน ทอดยาวไกลนับสิบลี้
  ภายใต้ต้นท้อบุรุษสวมอาภรณ์สีขาวราวหิมะใบหน้าที่หล่อเหลาของเขายิ้มน้อย ๆ ขณะที่สายตาของเขายังคงตามติดนางไม่ลดละ
  “อี้เฟิงท่านต้องการคุยอะไรกับข้ากระนั้นหรือ ?”
  ภายใต้สายลมแผ่วเบาอาภรณ์แดงฉานราวโลหิต ขับเน้นใบหน้าของนางให้แลดูงดงามมากยิ่งขึ้น
  ฉู่อี้เฟิงตกตะลึงพึงเพริศ”ข้าเพียงอยากรู้ว่า เจ้าสบายดีหรือไม่ หากเจ้าสบายดี ข้าก็จะได้สบายใจ”
  ”ฉู่อี้เฟิงข้าขอโทษ”
  ชีวิตนี้นางทรยศความรักของเขาเสียแล้ว
  ฉู่อี้เฟิงยิ้มอย่างขมขื่นพลางส่ายศีรษะ”เจ้าไม่เคยทำให้ข้าเสียใจ เหตุใดต้องขอโทษข้า เป็นข้าเองที่ยินดีทำทุกอย่างเพื่อเจ้า !”
  สิ่งที่เขาทำเพื่อนางเขาไม่เคยคิดทวงคืน เนื่องจากเขาไม่คิดทวงคืน เขาจะใช้มันมาบังคับความสัมพันธ์นี้ได้อย่างไร ?
  “ที่จริงอีอี้กล่าวได้ถูกต้องแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าควรตามตื๊อเจ้า อาจบางทีหลายปีที่ผ่านมา เจ้าจะพอยอมรับข้าได้บ้าง” ฉู่อี้เฟิงเดินเข้าไปใกล้ไป๋หยานอีกสองก้าวอย่างช้า ๆ รอยยิ้มของเขาแลดูอ่อนโยน ทว่าก็เจือด้วยความขื่นขม
  “หากแต่ข้าก็ทนไม่ได้ที่จะใช้วิธีบังคับเจ้าเช่นนั้น ข้าจึงคิดว่าสักวันเจ้าคงจะเข้าใจความรู้สึกของข้า ตราบใดที่ข้ามอบทุกสิ่งที่เจ้าปรารถนาให้กับเจ้า”
  ริมฝีปากไป๋หยานขยับราวกับอยากพูดอะไรบางอย่างทว่ากลับพูดไม่ออก
  หลายปีที่ผ่านมานี้ฉู่อี้เฟิงทุ่มเทเพื่อนางมากเหลือเกิน
  ไม่ว่านางจะปราถนาสิ่งใดเขาก็จะขวนขวายหามาให้นาง !
  ชายผู้นี้มอบความอบอุ่นให้แก่นางมากจนเกินไปอบอุ่นเสียจนนางไม่กล้าที่จะทำร้ายจิตใจเขา
  ”หยานเอ๋อเจ้าเปรียบเสมือนแสงสว่างของข้า ชั่วชีวิตของข้า เจ้าเป็นสตรีเพียงผู้เดียวที่ข้าปรารถนาตามตื๊อ เช่นนั้นข้าจะไม่ยอมแพ้” ฉู่อี้เฟิงกล่าวพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนเมื่อเห็นไป๋หยานนิ่งเงียบ “เพียงข้าไม่ต้องการให้ความรู้สึกของข้าเป็นภาระกับเจ้า ข้าเพียงอยากจะเป็นผู้คอยให้การสนับสนุนเจ้าเท่านั้น”
  ”ฉู่อี้เฟิงเหตุใดท่านต้องทำถึงเพียงนี้ ?”
  ไม่รักก็คือไม่รักนางมีแต่ความรักฉันพี่น้องมอบให้ฉู่อี้เฟิง ทั้งไม่มีวันเปลี่ยนเป็นความรักอย่างอื่นไปได้
  หากฉู่อี้เฟิงไม่ยอมแพ้เขาก็รังแต่จะเสียเวลาเท่านั้น
  “นับแต่ข้าได้พบกับเจ้าก็ไม่มีสตรีใดที่ข้าอยากชายตามองอีก” ฉู่อี้เฟิงยกมือขึ้นปัดดอกท้อที่ร่วงหล่นลงบนเส้นผมของนางออกเบา ๆ เขายิ้มพลางกล่าวว่า “ตี้คังเองก็คงเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องนี้”
  ไป๋หยานเลิกคิ้วขึ้นกล่าวเย้ยหยัน “เขาดีต่อข้า เพียงเพราะว่าข้าเป็นมารดาของเฉินเอ๋อ ยังมี คราก่อนที่เขาเพิ่งพบกับข้า เขายังอยากจะสังหารข้าด้วยซ้ำ”
  ก่อนหน้านี้ตี้คังมักคิดจะตัดมือของนาง ไม่ก็จะหักขาของนาง ทั้งยังพยายามจะข่มเหงนางนับครั้งไม่ถ้วน
  นางไม่อยากจะเชื่อว่าชายผู้บ้าอำนาจทั้งชอบคุกคามผู้คนเยี่ยงตี้คังจะตกหลุมรักนางจริง ๆ ไปได้
  ***จบบทชายที่มอบความอบอุ่นให้แก่นาง***

บทที่ 344 : โชคดีที่ได้รู้จักรัก โชคดีที่รู้จักพ่ายแพ้
  ”แล้ววันหน้าเจ้าจะเข้าใจ” ฉู่อี้เฟิงกล่าวพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ “สำหรับเจ้า เจ้าทำให้ข้ารู้สึกโชคดีที่ได้รู้จักความรัก ทั้งยังโชคดีที่ได้รู้จักความพ่ายแพ้ หากภายหลังเจ้าเลือกตี้คัง ข้าก็จะไม่ทำให้เจ้าต้องลำบากใจ เจ้าสามารถแต่งงานกับเขาได้โดยไม่ต้องกังวลใด ๆ ทั้งสิ้น”
  ไป๋หยานเงยหน้าขึ้นมองนางไม่เคยคิดเลยว่าความรู้สึกของฉู่อี้เฟิงจะลึกล้ำถึงเพียงนี้ ?
  แม้ว่านางจะแต่งงานกับชายอื่นเขาก็จะยังคงดูแลนางเฉกเช่นเดิม ?
  ”ฉู่อี้เฟิง”น้ำเสียงของไป๋หยานสั่นไหว “ข้าติดค้างท่านไว้มาก ท่านไม่จำเป็นต้องทำเพื่อข้าถึงเพียงนี้”
  ”ไม่เลย”ฉู่อี้เฟิงส่ายศีรษะ พลางกล่าวพร้อมรอยยิ้มขมขื่น “บางที…ข้าอาจติดค้างเจ้ามาแต่ชาติปางก่อน ชาตินี้…ข้าจึงต้องมาชดใช้ให้เจ้า”
  ข้าอาจติดค้างเจ้ามาแต่ชาติปางก่อนชาตินี้…ข้าจึงต้องมาชดใช้ให้เจ้า
  ถ้อยคำเหล่านี้ไม่ต่างจากค้อนปอนด์หนัก ๆ ทุบลงตรงหัวใจของนางอย่างไร้ความปรานี หัวใจของนางสั่นไหวเล็กน้อย
  นางจำได้ว่าเซียวเอ๋อเองก็เคยพูดกับนางเช่นนี้
  ทว่าแท้จริงแล้วเป็นนางต่างหากที่ติดค้างพวกเขา !
  ”ฉู่อี้เฟิง”ไป๋หยานก้าวช้า ๆ ออกไปสองก้าว นางสวมกอดฉู่อี้เฟิง “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในภายหน้าท่านยังคงเป็นพ่อบุญธรรมของเฉินเอ๋อ ทั้งเป็นหนึ่งในครอบครัวของข้า !
  ร่างของฉู่อี้เฟิงแข็งทื่อนิ้วเรียวของเขาลูบศีรษะของไป๋หยานอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มอบอุ่นเผยบนริมฝีปากของเขา
  ”เยี่ยมเลย”
  เพียงได้อยู่เคียงข้างนางก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา เขายังจะต้องการสิ่งใดอีก
  *****
  เมื่อไป๋หยานกลับถึงบ้านสกุลตงก็เป็นเวลาค่ำแล้ว
  นางต้องการจะไปที่ห้องของหลานเสี่ยวหยุนแต่ครั้นนางเดินไปได้ถึงกลางทาง ประตูห้องด้านหนึ่งพลันเปิดออก จากนั้นก็มีแขนยื่นออกมาจากห้องคว้าตัวนางเข้าห้อง
  ”อ๊ะ… ”
  นัยน์ตาของไป๋หยานเบิกกว้างทว่าชายที่เปรียบเสมือนสัตว์ร้ายกลับกดร่างของนางอย่างแรง พร้อมกันนั้นเขาก็ใช้ริมฝีปากของเขาปิดกั้นถ้อยคำของนาง
  จูบของชายผู้นั้นทั้งคุกคามทั้งทรงพลัง กระทั่งไป๋หยานเวียนศีรษะ นางกัดริมฝีปากล่างของชายหนุ่มอย่างแรง
  ชายหนุ่มทำเสียงฮึดฮัดทว่าก็ยังไม่ยอมปล่อยหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของตน แสงสีแดงราวกระหายเลือดพาดผ่านนัยน์ตาเรียวคม
  ”อ๋องคังท่านเป็นบ้าอะไรเนี่ย ?”
  ที่สุดไป๋หยานก็ผละออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มได้ นางจ้องมองเขาพร้อมกับเอ่ยถาม
  ”ข้าบ้าไปแล้วจริงๆ ทุกครั้งที่ข้านึกถึงเวลาที่พวกเจ้าอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ข้าแทบจะบ้า !” ตี้คังพยายามเช็ดเลือดที่มุมปากด้านล่างของตน พร้อมกับยับยั้งความปวดร้าวในใจขณะกล่าวเยาะ
  ไป๋หยานตะลึง”อ๋องคัง นี่ท่านหึงหรือ ?”
  ตี้คังเงียบไป
  ครานี้ไป๋หยานคิดว่า เขาจะปฏิเสธเฉกเช่นครั้งก่อน ๆ ดังนั้นนางจึงรอฟังคำตอบของเขา
  แต่ผู้ใดจะรู้ว่าตี้คังกลับเงียบหลังจากผ่านไปชั่วครู่ เขาจึงเอ่ยตอบว่า “ใช่…ข้าหึง”
  ”อ๋องคังนี่ท่านรักข้าจริง ๆ หรือ ?”
  ”หากความหึงหวงหมายถึงการตกหลุมรักใครซักคนแล้วล่ะก็ข้าก็คงตกหลุมรักเจ้าแล้วจริง ๆ”
  บูม!
  ราวกับฟ้าร้องก้องกัมปนาทสมองของไป๋หยานราวกับโดนระเบิด
  ทว่าเหตุใด?
  เหตุใดนางถึงรู้สึกว่าการได้รับความรักจากตี้คังเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัว?
  คำสารภาพรักของคนอื่นๆ นั้น ล้วนแล้วแต่มีอารมณ์อ่อนไหวปะปนอยู่ ทว่ากับชายผู้นี้ แม้แต่คำสารภาพรักก็ยังให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกและหดหู่
  ”หยานเอ๋อ”ครั้นตี้คังเห็นไป๋หยานหวาดกลัว กระทั่งยืนเซ่อ ริมฝีปากสีแดงของเขาพลันขยับยก รอยยิ้มของเขาแลดูชั่วร้าย “ในเมื่อเราทั้งสองต่างก็รักกัน ก็แล้วเหตุใดเจ้าถึงไม่แต่งงานกับข้าเสียเลยล่ะ ? ”
  รักกันงั้นหรือ?
  ปีศาจกับคนรักกัน!
  นัยน์ตาของไป๋หยานเปล่งประกาย”จะให้ข้าแต่งงานกับท่านก็มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ท่านต้องปฏิบัติตามข้อตกลงของข้าหลายข้อมากเลย”
  ”ว่ามาสิ”
  ***จบบทโชคดีที่ได้รู้จักรัก โชคดีที่รู้จักพ่ายแพ้***

บทที่ 345 : ห้ามปีนเตียง
  ข้อแรกห้ามท่านแสดงท่าทีเย่อหยิ่งเยี่ยงกษัตริย์ต่อหน้าข้า ! ข้อสอง ห้ามลักตัวเฉินเอ๋อไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ข้อสาม ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้ปีนเตียงของข้าโดยไม่ได้รับความยินยอมจากข้า หากท่านรับปากว่าจะทำทุกอย่างตามที่กล่าวมา ข้าก็จะพิจารณาเรื่องแต่งงาน” (ปีนเตียง คือ การมีความสัมพันธ์กัน)
  ไป๋หยานลูบคาง
  นางเพียงบอกว่าจะพิจารณา
  นางมิไม่ได้วางแผนที่จะแต่งงานจริงเพราะหากสบโอกาสนางจะพาบุตรชายหนี
  ”ได้…”
  ตี้คังตอบตกลงโดยไม่ลังเล”ข้ายอมรับเงื่อนไขของเจ้า แล้วเจ้าจะแต่งงานกับข้าเมื่อไหร่ ?”
  ”หลังจากผ่านช่วงทดสอบไป”
  ช่วงทดสอบหรือ?
  สีหน้าของตี้คังเปลี่ยนเป็นดำคล้ำนี่นางต้องการทดสอบนานแค่ไหน ?
  หากระยะเวลาทดสอบเป็นร้อยปีพันปีล่ะเขาจะต้องรอนานถึงเพียงนั้นเลยรึ ?
  ”ข้าให้เวลาเจ้าครึ่งปี”
  ปากของไป๋หยานหุบลงเล็กน้อยนางรู้ว่า คงไม่สามารถบังคับตี้คังได้มากกว่านี้แล้ว และหากนางรีบร้อน บางทีชายผู้นี้อาจจะข่มขืนนางเลยก็เป็นได้
  ”ครึ่งปีก็ครึ่งปีทว่าครึ่งปีนี้ ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้ปีนเตียงข้า หาไม่แล้วข้อตกลงของเราถือเป็นโมฆะ”
  ”ตามแต่ใจเจ้าเลย”
  ครั้นเห็นว่าตี้คังยอมตกลงอย่างง่ายดายไป๋หยานก็มองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ นี่เขาเป็นคนยอมอะไรง่าย ๆ ตั้งแต่เมื่อไรกัน ?
  กระทั่งล่วงถึงยามวิกาลไป๋หยานจึงแจ่มแจ้ง ถึงเหตุที่ตี้คังยอมรับข้อตกลงของนางอย่างว่าง่าย
  แม้ยามหลับความรู้สึกของนางก็ยังไวมากนางตื่นขึ้นมาทุกครั้งที่ได้ยินเสียง
  เช่นนั้นทันทีที่กลิ่นอายคุ้นเคยลอยมาจากด้านข้าง ไป๋หยานก็ลืมตาขึ้น พร้อมกับเหวี่ยงเท้าเตะเข้าใส่คนที่อยู่ข้าง ๆ
  ทว่าก่อนที่นางจะเตะโดนชายผู้นั้นเรียวขาของนางก็ถูกมือใหญ่จับไว้แน่น
  ”หยานเอ๋อเจ้าจะฆ่าสามีของเจ้าอีกแล้วหรือ ?”
  มือของตี้คังลูบไล้ขานวลเนียนของไป๋หยานใบหน้าที่หล่อเหลาเผยรอยยิ้มปีศาจ
  ใบหน้าของเขาหล่อเหลาไร้ที่ติรอยยิ้มของเขาเบ่งบานราวดอกไม้
  ”ท่านลืมกฎสามข้อของเราแล้วรึ?” ไป๋หยานเอ่ยถามด้วยความโกรธ
  ”ข้าไม่ได้ปีนเตียง”ตี้คังกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้น “ข้าขึ้นมาบนเตียงง่าย ๆ เลย”
  เขาไม่ได้ปีนเตียงเช่นนั้นเขาจึงมิได้ละเมิดข้อตกลงแต่อย่างใด
  “ท่านไม่รู้ข้อห้ามระหว่างชายกับหญิงกระนั้นหรือ?” สีหน้าไป๋หยานดำคล้ำ
  นางอยากจะเตะเขาออกจากเตียง
  ”เป็นเรื่องดีที่หยานเอ๋อรู้จักเรื่องเช่นนี้ทว่าข้ามิใช่ใครอื่น ข้าไม่ต้องระวังเกี่ยวกับกำแพงระหว่างชายหญิง”
  ครั้นมองหน้าคนพาลแล้วใบหน้าของไป๋หยานก็เย็นเยือก
  เหตุใดนางจึงรู้สึกว่านับแต่ตี้คังได้พบฉู่อี้เฟิง ทุกอย่างก็แลดูจะเปลี่ยนไปหมด ?
  ปัง!
  ทันใดนั้นเองประตูก็เปิดออก
  ซาลาเปาน้อยวิ่งกุกๆ ผ่านประตูเข้ามา ในมือของเขามีไม้ท่อนหนึ่ง ใบหน้าของเขาแดงก่ำ
  ”ป๊ะป๋าวายร้ายท่านคิดจะรังแกหม่ามี้ของข้าอีกแล้ว !”
  ตี้คังหรี่ตาลงเขาใช้มือใหญ่ ๆ ของเขาลูบศีรษะของไป๋เสี่ยวเฉิน “พ่อมิได้รังแกแม่ของเจ้า พวกเรากำลังจะทำน้องสาวไว้เป็นเพื่อนเล่นของเจ้าต่างหาก”
  ”ข้าไม่เชื่อหรอกทำไมการทำน้องสาวให้ข้าถึงต้องรังแกหม่ามี้ของข้าด้วยล่ะ” ไป๋เสี่ยวเฉินโกรธมาก ร่างเล็ก ๆ ของเขาขวางอยู่หน้าไป๋หยาน
  พี่สาวฉู่กล่าวว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องให้พ่อกับแม่นอนบนเตียงเดียวกันเพื่อให้มีลูก แต่ป๊ะป๋าวายร้ายมักจะรังแกหม่ามี้ของเขา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้ทำน้องสาวกันแน่ ๆ !
  แม้ไป๋เสี่ยวเฉินจะรู้ว่าต้องให้พ่อแม่ของเขาร่วมมือกัน ถึงจะให้กำเนิดทารกได้ หากแต่เขาก็ไม่รู้ว่า วิธีการที่จะให้กำเนิดน้องสาวน่ะเป็นเช่นไร ? นอกจากนี้ฉู่อีอี้ก็ยังเจตนาทำให้เขาเข้าใจผิดอยู่เสมอ เช่นนั้นไป๋เสี่ยวเฉินจึงคิดว่าตี้คังกำลังข่มขู่รังแกไป๋หยาน !
  “หม่ามี้…ไม่ต้องกลัวตอนนี้เฉินเอ๋อเติบใหญ่แล้ว เฉินเอ๋อเป็นลูกผู้ชาย ไม่ยอมทนดูหม่ามี้ถูกป๊ะป๋ารังแกเช่นเคยแน่”
  ***จบบทห้ามปีนเตียง***

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

นางกลับชาติมาเกิดเป็นทายาทในตระกูลขุนนางจีนที่ทรงเกียรติ ทว่าในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องคว้าตัวชายสักคนมาปลดปล่อยความทรมานที่กำลังพุ่งถึงจุดที่ไม่สามารถอดทนได้

ไม่คาดคิดไม่เพียงแต่นางต้องถูกพร่าพรหมจรรย์อย่างไม่ตั้งใจคาเตียง นางยังต้องอุ้มท้องทั้งที่ไม่ได้แต่งงานอีกด้วย

มิหนำซ้ำ…ลูกที่นางอุ้มท้องมาถึงสิบเดือนกลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ร้องเรียกนางว่า “หม่ามี้” ตั้งแต่เกิด โชคดีที่ลูกของนางเลี้ยงง่าย และหวงแม่มาก

ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดี และคนชั่วมากมายให้ผจญ หม่ามี้กับบุตรชายคู่นี้จึงต้องร่วมมือกันทำลายล้างศัตรู ไหนจะพวกญาติ ๆ ที่ชอบสบประมาทดูหมิ่นพวกเขาอีกล่ะ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลกรรมให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันกระทำกับพวกเขาสองแม่ลูก

แต่ทว่า จุ๊ ๆ วันหนึ่งป๊ะป๋าจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่คิดจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ทว่าเขายังคิดจะชิงหม่ามี้ของเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกด้วย ชะช้า ป๊ะป๋าผู้โง่เขลากล้าดียังไง ? จะทำอะไรไม่ถามไม่ไถ่ความเห็นของจิ้งจอกน้อยสักคำ…

จิ้งจอกน้อยเท้าสะเอวพลางกล่าวว่า “ท่านอยากเป็นป๊ะป๋าของข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็ต้องจ่ายค่าลงทะเบียนมา แล้วก็เดินไปต่อแถวหลัง ๆ โน่น เอ่อ หม่ามี้… ท่านลุงหวังที่อยู่บ้านถัดไปนั่นมีฐานะมั่งคั่งมาก ข้าว่าท่านควรไปเป็นลูกสะใภ้เขาจะดีกว่านะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท