ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 79 จุดที่แปลก

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 79 จุดที่แปลก

หลัวคังอันได้ยินจึงส่งเสียงอืมกลับไป เขาพลิกร่างกายแต่กลับยังไม่ยอมลุกออกมาจากโซฟา

จูเก่อม่านที่วางจานลงและหยิบตะเกียบขึ้นมาเห็นเขาไม่ขยับเขยื้อน จึงเช็ดมือเล็กน้อย เดินไปตรงโซฟาแล้วจับแขนเขา ก่อนจะออกแรงดึงขึ้นมา “ลุกขึ้นมาสิ”

หลัวคังอันลุกขึ้นมานั่งอย่างเอื่อยเฉื่อย ถอนใจพลางกล่าวอย่างเบื่อหน่ายว่า “ไม่อยากกินนี่นา เธอก็รู้ว่าฉันเป็นคนที่บำเพ็ญเพียร ไม่กินข้าวสิบวันครึ่งเดือนก็ไม่เป็นอะไร เธอกินเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน”

เขาไม่มีอารมณ์จะมานั่งกินอะไรพวกนี้จริงๆ รู้สึกไม่อยากขยับเขยื้อนเสียด้วยซ้ำ

ช่วงนี้เขารู้สึกเบื่อเป็นอย่างมาก สถานการณ์ด้านนอกทำให้เขาไม่สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวก ทุกวันหลังเลิกงานก็ต้องมาอยู่บ้านกับผู้หญิงคนนี้ นี่มันอะไรกัน? ชีวิตเมื่อก่อนของเขาไม่ใช่แบบนี้เลย

หลังเหตุการณ์ฆ่าตัวตายครั้งนั้น ตอนนี้จูเก่อม่านกลับทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ทว่าตัวเขามักจะรู้สึกแปลกๆ เขารู้สึกเหมือนว่าบนตัวจูเก่อม่านได้สูญเสียความน่าดึงดูดที่เขาถวิลหาก่อนหน้านี้ไปแล้ว

“ทำอาหารใหม่มาสองอย่าง ลองชิมหน่อยสิ” จูเก่อม่านฝืนลากเขาขึ้นมา ดึงมาตรงโต๊ะอาหาร กดเขานั่งลงไป ก่อนจะนั่งลงข้างๆ แล้วคีบอาหารขึ้นมาป้อนใส่ปากเขา สีหน้าดูเฝ้ารอคอย “ลองชิมหน่อยว่ารสชาติเป็นยังไงบ้าง?”

หลัวคังอันฝืนชิมไป ก่อนจะเอ่ยชมว่า “รสชาติไม่เลว” ความจริงแล้วเขาพูดแบบขอไปที ไม่ได้สนใจรสชาติอะไรเลย

จูเก่อม่านมองออกว่าเขาทำแบบขอไปที เธอชิมรสชาติบนตะเกียบ ก้มหน้าเล็กน้อยพลางกัดปลายตะเกียบ ภายในดวงตาเผยให้เห็นถึงความรู้สึกซึมเศร้า จู่ๆ เธอพลันเงยหน้าขึ้นมา ฝืนฉีกยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณเป็นผู้บำเพ็ญเพียร ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นคุณบำเพ็ญเพียรเลยล่ะ?”

หลัวคังอันกล่าว “ตอนที่เธอเห็นฉัน ฉันก็กำลังเที่ยวเป็นเพื่อนเธออยู่ไม่ใช่เหรอ ปกติฉันจะบำเพ็ญเพียรตอนเข้างาน” กระทั่งคำพูดแบบนี้เขาก็ยังมีหน้าพูดออกมาได้

แต่ขณะที่เพิ่งพูดจบ สายตาของเขาพลันจ้องมองไปบนฉากแสง คล้ายตกตะลึงไปเล็กน้อย ภายในดวงตาฉายแววเหมือนความคิดกำลังล่องลอยออกไป

จูเก่อม่านเหลียวหน้ากลับไป ก่อนจะมองเห็นว่าบนฉากแสงกำลังฉายข่าวที่คณะแสดงจะมาทำการแสดงที่เมืองปู๋เชวี่ย

ปู๋เชวี่ยวีดีโอให้ความสนใจกับการตระเวนแสดงครั้งนี้อย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้กำลังประกาศว่าจะมีเทพธิดาคนไหนมาเข้าร่วมการแสดงบ้าง พนักงานที่ถูกส่งไปสัมภาษณ์กำลังทำการสัมภาษณ์เสวี่ยหลานอยู่

เสวี่ยหลานก็มาเหรอ? จูเก่อม่านย่อมต้องรู้ว่าบนกำแพงภายในห้องนี้เคยติดรูปโปสเตอร์ของเสวี่ยหลานเอาไว้ เพียงแต่หลังจากที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ เธอก็ดึงมันออก ตอนนั้นหลัวคังอันก็คล้ายจะไม่ค่อยพอใจเล็กน้อยด้วย เธอจึงหันกลับมาลองถามว่า “ฉันสวยกว่าหรือว่าเสวี่ยหลานสวยกว่า?”

หลัวคังอันดึงความคิดกลับมา “ในสายตาของฉัน เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดบนโลกนี้”

จูเก่อม่านอมยิ้มขึ้นมา ไม่ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาเป็นจะความจริงหรือเปล่า แต่ปากของเขาก็หวานจริงๆ…

…….

ณ คฤหาสน์ตระกูลฉิน ภายในห้องบำเพ็ญเพียร ฉินอี๋ที่สวมเสื้อแขนสั้นเพิ่งจะทำการฝึกลมหายใจเสร็จเรียบร้อยจนเหงื่อท่วมกาย

เนื่องเพราะเหตุผลทางด้านพรสวรรค์ แม้นเธอจะไม่สามารถฝึกฝนวิชาจริงๆ ได้ แต่เธอก็พยายามหาเวลามาฝึกฝนลมหายใจเพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งและทำให้มีพลังกระฉับกระเฉง เพราะถ้าร่างกายไม่มีพลัง การทำงานในเวลาปกติจะทำให้เธอเหนื่อยจนหมดแรง

ด้านหนึ่งเธอก็หยิบเอาผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดเหงื่อ อีกด้านหนึ่งก็เปิดดูฉากแสง ก่อนจะเห็นรายงานข่าวเกี่ยวกับการตระเวนแสดง

เมื่อเห็นภาพความครึกครื้นกระตือรือร้นของประชาชนในเมืองปู๋เชวี่ยที่อยู่ในรายงานข่าว ฉินอี๋ก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้

ทำไมจู่ๆ ถึงได้มีการตระเวนแสดงครั้งนี้ได้ เธอไปสอบถามมาก็ได้คำตอบ เป็นเจ้าเมืองลั่วเทียนเหอที่ใช้เส้นสาย จึงทำให้คณะแสดงมาจัดแสดงที่นี่ได้

ก่อนหน้านี้เธอยังไม่แน่ใจเรื่องเบื้องหลังของลั่วเทียนเหอว่ามีความตื้นลึกหนาบางเช่นไร แต่จากเรื่องนี้ก็พอจะทำให้เธอแน่ใจได้หลายส่วนแล้วว่าเขามีความสัมพันธ์กับทางวังเซียนอยู่

ฉินอี๋เห็นถึงความสำคัญของเบื้องหลังลั่วเทียนเหอที่เผยออกมาให้เห็นตรงนี้ เธอมองว่าอย่างน้อยในนี้อาจจะมีโอกาสอะไรบางอย่างแอบซ่อนอยู่ เพียงแต่ด้วยความสามารถของหอการค้าตระกูลฉินนั้นยังไม่สามารถสืบจนรู้ชัดเจนได้ เธอไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นการชักใบให้เรือเสียได้ เรื่องนี้จะต้องคอยจับตาดูต่อไปอย่างระมัดระวัง

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเห็นด้วยกับการตระเวนแสดงในครั้งนี้ เธอมองว่ามันดึงดูดความสนใจมากเกินไปหน่อย

ความจริงกระทั่งเรื่องที่จูลี่จะมาขอติดตามทำการสัมภาษณ์เรื่องการประมูลเทพมหาวิญญาณ เธอเองก็ไม่ยินดีเช่นเดียวกัน ก่อนที่การประมูลจะประสบความสำเร็จ เธอไม่อยากให้ทั่วทั้งดินแดนเซียนพุ่งความสนใจมาที่นี่

ก่อนหน้านี้เธอเก็บเรื่องเทพมหาวิญญาณเอาไว้เงียบๆ มาโดยตลอด หากมิเป็นเพราะเรื่องการลงชื่อเข้าร่วมการประมูลในเส้นตายวันสุดท้ายทำให้ไม่อาจปิดบังเรื่องนี้ต่อไปได้ เธอก็ไม่คิดที่จะเปิดเผยมันออกมาเลย

เพื่อที่จะปิดบังเรื่องนี้แล้ว เธอได้พยายามแอบใช้เส้นสายให้กำจัดและควบคุมความสนใจจากผู้ประมูลเจ้าอื่นๆ พยายามควบคุมให้แรงกดดันจากประมูลจำกัดอยู่แค่ที่หอการค้าตระกูลพานกับหอการค้าตระกูลฉิน ไม่อย่างนั้นถ้าคู่แข่งรายอื่นๆ พากันกดดันหอการค้าตระกูลฉินเข้ามาพร้อมกัน หอการค้าตระกูลฉินไม่มีทางรับมือไหวแน่

เพราะว่าคนที่จ้องตะครุบการประมูลครั้งนี้ไม่ได้มีแค่หอการค้าตระกูลฉิน หอการค้าตระกูลพานและหอการค้าตระกูลโจวเท่านั้น หากแต่เป็นทั่วทั้งดินแดนเซียน

แต่ลั่วเทียนเหอเหมือนจะไม่ได้สนใจไยดีอะไรเรื่องที่หอการค้าตระกูลฉินจะเข้าร่วมการประมูลเลย จากเรื่องที่ปู๋เชวี่ยวีดีโอติดตามสัมภาษณ์เรื่องการประมูลก็ทำให้เธอมองเห็นแล้วว่าลั่วเทียนเหอไม่คิดจะช่วยอะไรเรื่องการประมูลเลย หอการค้าตระกูลฉินจึงได้แต่ต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น

ส่วนเรื่องติดตามสัมภาษณ์ เธอเองก็ไม่สะดวกที่จะขัดคำสั่งของลั่วเทียนเหอเช่นเดียวกัน

ในฐานะที่เธอเป็นผู้กุมหางเสือของหอการค้าตระกูลฉิน เธอทำได้เพียงต้องคิดหาทางรับมือให้ได้ ยืนหยัดต่อสู้กับทุกอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา

การทำตัวเงียบๆ มันก็มีวิธีการทำตัวเงียบๆ อยู่ แต่ในยามที่จำเป็นต้องดึงดูดความสนใจ เธอก็ได้แต่ต้องใช้วิธีทำตัวเป็นจุดสนใจมารับมือ ไหลไปตามน้ำ ดันหลัวคังอันคนนั้นออกไปข้างหน้า

เธอเชื่อว่ากลุ่มอำนาจบางส่วนจะสามารถสืบประวัติของหลัวคังอันมาได้ หวังว่ากลุ่มอำนาจเหล่านั้นจะมองข้ามหลัวคังอันต่อไป

แต่ขณะที่เธอกำลังจัดการเรื่องเหล่านี้ ใครจะไปคิดว่าลั่วเทียนเหอจะทำเรื่องที่สะดุดตาแบบนี้ขึ้นมาอีก คิดไม่ถึงว่าจะเอาการตระเวนแสดงที่เป็นที่จับตามองขนาดนั้นมาจัดแสดงขึ้นที่เมืองปู๋เชวี่ยได้ แค่นี้เมืองปู๋เชวี่ยยังวุ่นวายไม่พอเหรอ?

เธอเข้าใจความคิดของลั่วเทียนเหอ แต่เธอมองว่าสิ่งที่ลั่วเทียนเหอทำนั้นเป็นเรื่องที่โง่มาก คล้ายกับการดื่มยาพิษเพื่อดับกระหาย

หลังจ้องมองฉากแสงพลางครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ฉินอี๋ที่ไม่รู้จะทำอย่างไรก็โยนผ้าขนหนูทิ้งไป หมุนตัวเดินไปอาบน้ำ…

……

ณ บ้านพักหรูริมทะเลสาบของหอการค้าตระกูลโจว บ้านพักแห่งนี้ทางหอการค้าตระกูลโจวนำมาใช้เป็นสถานที่รองรับแขก เวลานี้มีแขกคนสำคัญมาเยือน พานหลิงเยวี่ยมาแล้ว เผิงซีมาต้อนรับด้วยตัวเอง

หลังกล่าวทักทายกันพอประมาณ ทั้งสองก็ค่อยๆ เดินไปตามทางเดินที่อยู่ท่ามกลางศาลาและทิวทัศน์งดงาม ดูแล้วเหมาะสมกันทีเดียว

แต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เผิงซีก็วกเข้าประเด็นหลัก “กลับมาจากเมืองหลวงก็มาที่นี่เลย ไม่กลับเมืองเทียนกู่เหรอ?”

พานหลิงเยวี่ยกล่าว “รู้ข่าวเร็วเชียวนะ ดูเหมือนจะรู้ความเคลื่อนไหวของฉันหมดเลย ทำไม ไม่ต้อนรับเหรอ?”

“จะไปกล้าทำแบบนั้นได้ยังไง?” คำพูดของเผิงซีคล้ายมีความหมายซ่อนเอาไว้อีกชั้น เขายิ้มพลางกล่าว “เรื่องที่การตระเวนแสดงจะมาจัดขึ้นที่เมืองปู๋เชวี่ยจัดการเรียบร้อยแล้ว ด้วยความสามารถของคุณหนูรอง คิดว่าเรื่องของเสวี่ยหลานคงไม่จำเป็นต้องพูดแล้วเช่นกัน”

พานหลิงเยวี่ยกล่าวว่า “ทางเราได้จัดให้เสวี่ยหลานไปให้สัมภาษณ์ที่เมืองปู๋เชวี่ยแล้ว เชื่อว่าหลัวคังอันจะต้องรู้แน่นอนว่าเสวี่ยหลานไปที่นั่น ถ้าเขายังไม่รู้อีก นายก็ออกแรงหน่อย เรื่องนี้สำหรับนายน่าจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร เรื่องที่หอการค้าตระกูลพานรับผิดชอบ ทางฉันก็ได้จัดการแล้ว แล้วส่วนที่หอการค้าตระกูลโจวของพวกนายรับผิดชอบล่ะ?”

“จากที่ได้รับรายงานมา หลัวคังอันจะเข้าไปในค่ายผู้พิทักษ์เทพวันเว้นวัน ได้ยินว่าครั้งที่แล้วยังหยุดไปพักหนึ่งด้วย นี่ทำให้จังหวะการเข้าออกปั่นป่วนไปหมด แสดงให้เห็นว่าวันเวลาที่หลัวคังอันจะเข้าไปในค่ายพิทักษ์เทพนั้นมีความไม่แน่นอนอยู่ พวกนายจะจัดการอย่างไร? เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว จะให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดไม่ได้ แล้วก็ไม่มีเวลาให้พวกนายไปค่อยๆ เตรียมการแล้วด้วย”

เผิงซีกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง ทางฉันได้คิดเอาไว้แล้ว แล้วก็เตรียมการเอาไว้เรียบร้อยแล้วด้วย หากวันเวลาในการเข้าไปในค่ายผู้พิทักษ์เทพของหลัวคังอันมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ทางคณะแสดงก็จะเกิดเรื่องเล็กน้อยหลังมาถึงเมืองปู๋เชวี่ย วันเวลาในการตระเวนแสดงก็จะล่าช้าออกไปอีกหนึ่งวัน รับรองว่าตรงกับวันที่หลัวคังอันจะเข้าออกค่ายผู้พิทักษ์เทพแน่นอน”

ขณะที่พูดก็หยิบเอาโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งออกมาให้เธอ “ในนี้มีสิ่งที่เธอต้องการอยู่ พวกข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะโครงสร้างและสภาพแวดล้อมของค่ายผู้พิทักษ์เทพล้วนแต่อยู่ในนี้ หลังคนเข้าไปแล้ว ด้านในจะมีคนรอรับอยู่”

พานหลิงเยวี่ยรับเอาโทรศัพท์มา “ส่งคนเข้าไปในค่ายผู้พิทักษ์เทพได้เร็วขนาดนี้เลย ทำงานดีกว่าญาติผู้พี่คนนั้นของนายเยอะเลย”

เผิงซีไม่ได้พูดตอบเธอในเรื่องเจ้าหยวนเฉิน “ในค่ายผู้พิทักษ์เทพมีคนอยู่ แต่สถานที่ที่เก็บเทพมหาวิญญาณเป็นสถานที่สำคัญ ไม่ใช่ที่ที่ใครจะเข้าไปได้ง่ายๆ ดังนั้นสุดท้ายก็ยังต้องเพิ่งเสวี่ยหลานอยู่ดี ในของที่ให้เธอไปมีข้อมูลที่จะใช้รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เขียนเอาไว้อย่างละเอียด เธอต้องรีบให้เสวี่ยหลานท่องจำให้ขึ้นใจโดยเร็ว”

พานหลิงเยวี่ยพยักหน้า “ขอเพียงพวกนายไม่มีปัญหา ทางฉันก็ไม่มีปัญหา สิ่งที่ฉันกังวลในตอนนี้ก็คือฝั่งนั้นรู้เรื่องเสวี่ยหลานแล้วหรือยัง พวกเรากำลังทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์อยู่หรือเปล่า”

เผิงซีกล่าวว่า “ต่อให้เสวี่ยหลานจะถูกฝั่งนั้นจับตาดูเอาไว้แต่แรก ต่อให้สุดท้ายแผนการต้องล้มเหลวอยู่ดี แต่ฉันคิดว่าเธอก็คงไม่มีทางปล่อยให้เสวี่ยหลานดึงเอาหอการค้าตระกูลพานเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน การเตรียมการไว้ก่อนจะช่วยให้หลีกเลี่ยงเรื่องเลวร้ายได้ ถือเสียว่าเป็นการเตรียมแผนเผื่อเอาไว้ก็แล้วกัน ฉันกลับไม่ค่อยกังวลกับแผนการของเราเท่าไร สิ่งที่ฉันกังวลจริงๆ กลับเป็นฉินอี๋ ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เธอสามารถทำเรื่องที่เราคิดไม่ถึงออกมาได้ง่ายๆ”

พานหลิงเยวี่ยกล่าว “กังวลอะไร พูดให้ชัดหน่อยได้หรือเปล่า?”

เผิงซีกล่าวว่า “จู่ๆ หอการค้าตระกูลฉินก็สอดมือเข้ามาในการประมูลครั้งนี้ มีเพียงตระกูลฉันกับตระกูลเธอที่กำลังเล่นงานตระกูลฉินอยู่ พวกกลุ่มอำนาจใหญ่ๆ เหล่านั้นกลับไม่มาสนใจ เธอไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ?”

พานหลิงเยวี่ยกล่าว “ไม่เห็นหอการค้าตระกูลฉินอยู่ในสายตาหรือเปล่า?”

เผิงซีกล่าว “จะเป็นแบบนั้นหรือ? มันดูไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยหรือเปล่า ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าในส่วนลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้จะยังมีคนเข้ามาร่วมอีก?”

พานหลิงเยวี่ยกล่าวว่า “เจออะไรเข้าเหรอ?”

เผิงซีส่ายศีรษะ “ยังไม่เจออะไร และนี่ก็คือจุดที่แปลก”

พานหลิงเยวี่ยกล่าวว่า “ไม่ว่าจะมีคนแอบทำอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่นี่เป็นการประมูลแบบเปิดเผย กลุ่มอำนาจต่างๆ ล้วนแต่จับตาดูอยู่ ภายใต้การจับตาดูจากคนจำนวนมากเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าใครคนใดคนหนึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะจัดการประมูลครั้งนี้ขึ้นมาเช่นเดียวกัน ขอเพียงหอการค้าตระกูลฉินแพ้ ผลมันก็ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ใครจะอยู่เบื้องหลังมันสำคัญด้วยเหรอ?”

เผิงซีเดินมือไพล่หลังเป็นเพื่อนอีกฝ่าย ในจุดนี้เขาคิดเอาไว้แต่แรกแล้ว เพราะถ้าไม่เป็นเพราะเรื่องนี้ ทางด้านนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำอะไรต่อเช่นเดียวกัน

พานหลิงเยวี่ยที่เก็บโทรศัพท์มือถือพลันเปลี่ยนประเด็น “น้องเล็กของฉันหายตัวไปในหออวิ้นเสียในเมืองปู๋เชวี่ย ได้ยินโกวซิงบอกว่านายเป็นคนกล่อมให้เธอย้ายไปในหออวิ้นเสีย เธอไปแล้ว แต่นายกลับหายไป แล้วด้านนอกหออวิ้นเสียยังมีผู้พิทักษ์เมืองจำนวนมากกว่าคอยซุ่มอยู่ด้วย ความบังเอิญต่างๆ มาบรรจบกันแบบนี้ ฉันก็เลยอยากฟังนายอธิบายหน่อย”

เผิงซีกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ฉันรู้ว่าเธอกำลังสงสัยอะไร เธอสงสัยว่าฉันจะวางแผนเล่นงานน้องสาวของเธอใช่ไหม? ในจุดนี้ คุณน้าของฉันได้อธิบายกับทางหอการค้าตระกูลพานของพวกเธอไปแล้ว ตอนนั้นจู่ๆ คุณน้าก็ส่งข่าวมาหาฉัน บอกว่ามีธุระด่วนให้รีบกลับไป ความจริงของเรื่องราวมันเป็นแบบนี้ การที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นฉันเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน เรื่องราวดำเนินมาถึงตอนนี้ ฉันเองก็ทำได้เพียงอธิบายแบบนี้ ส่วนพวกเธอจะเชื่อหรือไม่นั้น ฉันเองก็ไม่สามารถไปบังคับอะไรพวกเธอได้ พวกการอธิบายที่ไม่จำเป็น เธอคิดว่าในเวลานี้มันใช่สิ่งที่จำเป็นเหรอ?”

พานหลิงเยวี่ยแค่นหัวเราะออกมา “ดูเหมือนฉันจะพูดมากไปสินะ ใช่ ไม่จำเป็นเลย”

ขณะที่พูด ทั้งสองคนก็เดินมาถึงเรือนริมน้ำแห่งหนึ่ง ภายในมีการจัดวางสุราอาหารเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เผิงซีผายมือเชิญ…

……………………………………………………………….

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน