ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 80 โลกมนุษย์ในแดนเซียน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 80 โลกมนุษย์ในแดนเซียน

ในภูเขาด้านหลังสำนักงานเจ้าเมือง ภาพหยินหยางที่อยู่บนพื้นโล่งขนาดใหญ่เปล่งแสงออกมา แสงสว่างพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

กระทั่งตอนที่แสงสว่างหดตัวกลับลงมาในภาพหยินหยาง คนจำนวนหลายร้อยคนก็มาปรากฏตัวอยู่ในอุโมงค์เคลื่อนย้าย หนุ่มหล่อสาวสวยยืนรวมกลุ่มอยู่ด้วยกัน

พนักงานของปู๋เชวี่ยวีดีโอที่รอคอยอยู่ด้านข้างได้จัดตั้งกล้องเอาไว้พร้อมแต่แรกแล้ว เรียกได้ว่าภาพเหตุการณ์ตอนที่แขกกลุ่มนี้เดินทางมาถึงก็ไม่ปล่อยผ่านไป

จูลี่คอยยืนกำกับการถ่ายทำอยู่ข้างๆ อย่างตื่นเต้น วันนี้เธอจะจัดทำวีดีโอเพื่อออกอากาศขึ้นมา วันนี้เธอจะป่าวประกาศต่อทั่วทั้งเมืองปู๋เชวี่ยและทั่วทั้งดินแดนเซียนว่าคณะนักแสดงได้เดินทางมาถึงเมืองปู๋เชวี่ยแล้ว

หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไปเหิงเทาบินลงมายังอุโมงค์เคลื่อนย้าย กล่าวทักทายกับผู้รับผิดชอบของคณะนักแสดง แล้วก็ถือว่าเป็นการมาต้อนรับด้วยตัวเองด้วย

ผู้รับผิดชอบแสดงความเกรงอกเกรงใจ ท่าทีดูอ่อนน้อม บอกว่าอยากจะขอเข้าพบลั่วเทียนเหอ

การแสดงเวทีแรกหลังออกจากเมืองหลวงกลับมาจัดขึ้นที่เมืองเล็กๆ ที่ไม่มีคนรู้จักเช่นนี้ แล้วจะไม่ให้พวกเขานึกสงสัยได้อย่างไร? หลังจากสอบถามจนรู้ว่าเจ้าเมืองของเมืองนี้ได้แจ้งกับทางวังเซียน หลังรู้ว่าเจ้าเมืองของเมืองนี้มีอิทธิพลถึงเพียงนี้ แล้วพวกเขาจะกล้าวางท่าที่นี่ได้อย่างไร พวกเขาย่อมต้องไปขอเข้าพบเพื่อทำการคารวะ

เหิงเทาตอบรับด้วยความยินดี เชิญพวกเขาให้ตามตัวเองไป

จูลี่รีบก้าวเข้าไปทำการสัมภาษณ์เทพบุตรเทพธิดาชื่อดังเหล่านั้นด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้เธอได้ส่งคนไปติดต่อเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เทพบุตรเทพธิดาชื่อดังเหล่านั้นเองก็ยิ้มแย้มให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะพวกเขาต่างรู้ว่าเจ้าเมืองของเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา

หอการค้าทางการแสดงที่อยู่เบื้องหลังเทพบุตรและเทพธิดาแต่ละคนล้วนแต่สั่งกำชับมาแล้ว ไม่ว่าในเวลาปกติจะมีนิสัยเป็นอย่างไร แต่เมื่อมาที่นี่ก็ต้องรู้จักสำรวมเอาไว้

เหตุผลเหล่านี้ทุกคนต่างทราบดี การทำให้ทางวังเซียนไม่พอใจนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่ว่าในเวลาปกติพวกเขาจะเป็นเทพบุตรเทพธิดาที่ได้รับความชื่นชอบจากผู้คนมากแค่ไหน แต่ในสายตาของทางวังเซียนกลับไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย คำพูดเพียงประโยคเดียวก็สามารถทำให้พวกเขากลับไปเป็นคนธรรมดาได้แล้ว

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงให้ความร่วมมือกับการสัมภาษณ์ของจูลี่ ต่างพยายามแสดงด้านที่ดีที่สุดของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่

…..

คืนวันเดียวกันนั้นเอง วีดีโอการสัมภาษณ์ก็ได้ถูกนำไปออกอากาศ ทั่วทั้งเมืองปู๋เชวี่ยคล้ายเต็มไปด้วยความครึกครื้นรื่นเริง

ลั่วเทียนเหอที่ทราบข่าวคราวความเคลื่อนไหวภายในเมืองยืนอยู่บนยอดเขา นิ่งเงียบอยู่ภายใต้ดวงดาวบนฟากฟ้า ก้มลงมองดูเมืองปู๋เชวี่ยที่ระยิบระยับไปด้วยแสงไฟ สีหน้าดูกลัดกลุ้ม

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ลั่วเทียนเหอก็ถอนใจออกมา “พอคนเหล่านี้มา คนที่อยู่ด้านล่างก็ดีอกดีใจดันถึงขนาดนี้ นี่เป็นเพราะผู้คนลุ่มหลงมัวเมา หรือเป็นเพราะข้าจมปลักไม่ยอมเปลี่ยนแปลงกันแน่?”

ผู้ที่มาคือเหิงเทา เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขาก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย จึงลองตอบกลับไปว่า “ไม่มีกฎระบุเอาไว้ก็สามารถทำได้ ในเมื่อทางสภาเซียนอนุญาตมาแล้ว ท่านเจ้าเมืองก็ไม่จำเป็นต้องสนใจหรอกครับ”

ลั่วเทียนเหอชี้นิ้วไปทางด้านล่าง “ดินแดนเซียนไม่เหลือสภาพของดินแดนเซียน นี่เป็นดินแดนเซียนหรือว่าเป็นโลกมนุษย์กันแน่ ตอนนี้แทบจะแยกไม่ออกแล้ว”

เหิงเทานิ่งเงียบ ก่อนกล่าวเตือนว่า “ราชวงศ์นี้ล้มล้างราชวงศ์ก่อนหน้า อ้างว่าต้องการทำให้สรรพชีวิตเท่าเทียมกัน การที่แยกไม่ออกก็ถือว่าพวกเขาได้ทำตามคำพูดแล้วนะครับ”

มีคำพูดบางคำพูดที่เขาเองก็ไม่สะดวกที่จะพูดออกมา ในปัจจุบันนี้คนธรรมดาที่ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเพียรส่วนใหญ่ในดินแดนเซียนล้วนแต่เป็นลูกหลานรุ่นหลังของผู้บำเพ็ญเพียรบนดินแดนเซียน หลังบรรพบุรุษตายจากไปแล้ว พวกเขาจึงค่อยๆ กลายเป็นคนธรรมดา แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถละทิ้งกิเลสได้ ใจคนแตกต่างกันออกไป นั่นต่างหากคือสัจธรรมความจริง ตอนนี้ในหมู่เซียนก็มีบางคนที่ลูกหลานไม่มีพรสวรรค์ในการบำเพ็ญเพียร แล้วแบบนี้จะทำอย่างไร? หรือจะขับไล่พวกเขาลงไปในโลกมนุษย์?

ใครจะกล้ากล่าวคำพูดแบบนี้ นั่นจะต้องล่วงเกินเซียนมากน้อยเท่าไร?

ภายในใจลั่วเทียนเหอไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ “อยากจะกลายเป็นเซียน แล้วก็อยากจะเสพสุขกับกิเลสบนโลกมนุษย์ ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วยังจะแบ่งแยกดินแดนเซียนกับโลกมนุษย์ไปทำไม?”

เหิงเทากล่าวอธิบายเบาๆ “โลกมนุษย์บนแดนเซียนล่ะมั้งครับ”

“โลกมนุษย์บนแดนเซียน?” ลั่วเทียนเหอกล่าวพึมพำ คล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

…….

คนของปู๋เชวี่ยวีดีโอต่างวิ่งวุ่นทำงาน จูลี่เองก็เช่นเดียวกัน ตกกลางคืนแล้วก็ยังไม่ได้พักผ่อน ยังคงควบคุมเรื่องการสัมภาษณ์ด้วยตัวเองอยู่

ภายในห้องรับแขกของคฤหาสน์ตระกูลฉิน ฉินเต้าเปียนและหลิ่วจวินจวินกำลังดูรายการที่ช่องปู๋เชวี่ยวีดีโอกำลังฉายอยู่ ฉินอี๋ไม่อยู่

ฉินอี๋กำลังรับรองแขกอยู่ เธอหยิบยืมอิทธิพลของลั่วเทียนเหอ เชื้อเชิญผู้รับผิดชอบของหอการค้าทางการแสดงต่างๆ ให้มาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับที่เธอจัดขึ้นมา

คนที่มาร่วมต้อนรับยังมีผู้รับผิดชอบบางส่วนของหอการค้าตระกูลฉิน พวกเขาเข้าไปพูดคุยกับแขกเหรื่อในงาน

ฉินอี๋เอาชื่อของลั่วเทียนเหอและวังเซียนไปแอบอ้าง ฉวยโอกาสนี้ผูกสัมพันธ์กับคนของสมาคมทางการแสดงเอาไว้

สำหรับฉินอี๋แล้ว ต่อไปเธออาจจะมีโอกาสได้ใช้งานคนเหล่านี้ ทุกเรื่องที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของหอการค้าตระกูลฉิน เธอล้วนไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปได้ง่ายๆ

เพื่อเรื่องนี้แล้ว เธอยังไปคารวะเหิงเทาด้วยตัวเองด้วย ขอให้เหิงเทาที่มีงานรัดตัวมาปรากฏตัวในงานครู่หนึ่ง…

…….

บนโซฟา จูเก่อม่านกำลังนอนซบอยู่ในอ้อมอกของหลัวคังอัน ดูรายการของช่องปู๋เชวี่ยวีดีโอเป็นเพื่อนเขา หลัวคังอันไม่เปลี่ยนช่องไปไหน ดูช่องปู๋เชวี่ยวีดีโอเพียงอย่างเดียว

……

ภายในห้องของโรงอีหลิว หลินยวนเองก็กำลังดูช่องปู๋เชวี่ยวีดีโออยู่ จ้องมองดูคนที่จูลี่กำลังสัมภาษณ์อยู่บนฉากแสง เป็นเทพธิดาอาเหิงที่กำลังพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

……

โรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองปู๋เชวี่ยได้ถูกทางสำนักงานเจ้าเมืองเหมาเอาไว้แล้ว เพื่อเอาไว้ใช้รับรองเหล่าคณะนักแสดง

โรงแรมดีนั้นเป็นเหตุผลรอง เหตุผลหลักคือการจับคนมารวมเอาไว้ด้วยกันนั้นสะดวกต่อการปกป้องคุ้มครอง

เสวี่ยหลานที่อยู่ภายในห้องกำลังระเบิดอารมณ์ใส่ผู้ช่วย เพราะเธอไม่ได้พักในห้องที่ดีที่สุดของโรงแรม เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกเมินห

ผู้ช่วยเองก็จนปัญญา เทพธิดาชื่อดังที่มาร่วมการแสดงในครั้งนี้มีจำนวนเยอะขนาดนี้ แล้วจะเหลือมาถึงเธอได้ยังไง!

หลังปลอบใจอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดผู้ช่วยก็ออกไป

ในขณะที่เสวี่ยหลานกำลังเตรียมจะพักผ่อน ด้านนอกพลันมีเสียงเคาะประตูขึ้นมา จังหวะการเคาะประตูดัง ‘ก๊อกๆๆ’ ทำให้เธอใจเต้นระรัวขึ้นมา

เธอจ้องมองประตูที่ปิดสนิทบานนั้น ไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ กระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอจึงจำใจเดินเข้าไปเปิดประตู ก่อนจะเห็นพนักงานของโรงแรมผู้หนึ่งเดินเข้ามา จากนั้นช่วยเธอปิดประตู

พนักงานคนนั้นสังเกตดูท่าทีของเธอเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร หลังเดินเข้ามาก็วางถาดในมือลง จากนั้นหมุนตัวมากวักมือเรียกเธอ

เสวี่ยหลานสูดหายใจลึกๆ สงบสติอารมณ์เล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไป กล่าวถามด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อยว่า “มีเรื่องอะไร?”

พนักงานโรงแรมยื่นมือเข้าไปในเสื้อ หยิบเอารูปภาพใบหนึ่งออกมาให้เธอ “นี่คือเป้าหมายที่เธอต้องเข้าไปใกล้ชิดในครั้งนี้”

เสวี่ยหลานรับเอารูปมาดู สีหน้าดูคลางแคลงสงสัยเล็กน้อย รู้สึกว่าคนที่อยู่ในรูปดูคุ้นตา เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

คนที่อยู่บนรูปมิใช่ใครอื่น เป็นหลัวคังอัน

พนักงานโรงแรมหยิบเอากระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง เดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วกางออก ก่อนจะเรียกเธอเข้ามาอีกครั้ง ชี้ไปบนแผนที่อย่างละเอียดของค่ายผู้พิทักษ์เทพที่อยู่บนกระดาษ “นี่คือสถานที่ที่เธอจะต้องไปในวันพรุ่งนี้ พวกเรามีเวลาไม่มากแล้ว เรื่องที่ฉันสั่งเธอในคืนนี้ เธอต้องจำให้ขึ้นใจ ถ้ามีข้อผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียว เธอคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

……

ทุกคนต่างรับรู้ได้ถึงบรรยากาศแห่งความสุขภายในเมืองปู๋เชวี่ย หลินยวนที่ยืนอยู่ตรงริมหน้าต่างเหลียวหน้ากลับมามองดูหลัวคังอันที่กำลังนอนหลับตาพักผ่อนอยู่บนโซฟา แค่เขากลับรู้สึกว่าอารมณ์ของอีกฝ่ายมิสู้ดีสักเท่าไร

คนพูดมากไม่พูดมากอีก เงียบเชียบเป็นอย่างมาก คล้ายแค่อยากจะหาคนอยู่เป็นเพื่อน

หลินยวนรับรู้ได้ ในเมื่อแผนการบางอย่างพุ่งเป้ามาที่หลัวคังอัน เช่นนั้นคนผู้นี้ก็น่าจะระแคะระคายอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการมาถึงของเสวี่ยหลานอยู่บ้าง

หลินยวนอยากจะถาม แต่ก็ไม่สะดวกที่จะถาม การที่จู่ๆ เขาก็ถามเรื่องเสวี่ยหลานออกไปนั้นเป็นเรื่องที่ทำให้คนอื่นรู้สึกสงสัยได้ ถึงแม้จะเป็นแค่ชื่อ ‘เสวี่ยหลาน’ สองพยางค์นี้ มันก็ไม่ควรจะหลุดออกจากปากเขาเช่นกัน นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่สมควรรู้

แต่หลังจากที่ครุ่นคิดเล็กน้อย สุดท้ายหลินยวนก็ยังเอ่ยปากออกไปว่า “พี่ดูเบื่อๆ นะ ทำไม เป็นเพราะผู้หญิงอีกเหรอ?”

“ใช่ ผู้หญิง” หลัวคังอันลืมตาขึ้นมา ก่อนจะหลับลงไปอีกครั้ง

หลินยวนกล่าวถาม “ไม่มีผู้หญิงพี่อยู่ไม่ได้เหรอ?”

หลัวคังอันหลับตาพลางเอ่ยอย่างเนิบช้า “ตอไม้อย่างนายรู้ด้วยเหรอว่าอะไรคือผู้หญิง?”

หลินยวนกล่าว “จูเก่อม่านดีกับพี่นะ”

หลัวคังอันพลันลืมตาขึ้นมา หัวเราะหึหึ เขาพบว่าวันนี้คนผู้นี้พูดมากเป็นพิเศษ การพูดเองก็ดูแปลกออกไปด้วย

เขาเงยหน้าขึ้นมาเหลือบมองดู ก่อนจะนอนกลับลงไปอีกครั้ง “ใช่ เธอดี ที่เธอดีก็เพราะเธอกลัวสูญเสีย เธอถึงได้ดี…ช่างเถอะ พูดเรื่องพวกนี้กับตอไม้อย่างนาย นายก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ฉันล่ะสงสัยจริงๆ…ไหนนายลองบอกซิว่านายเคยชอบผู้หญิงคนไหนไหม? พูดอีกอย่างคือนายเคยมีแฟนบ้างไหม?”

สายตาหลินยวนมองออกไปด้านนอกหน้าต่างอีกครั้ง เคยมีแฟนไหมเหรอ? ก็ต้องเคยมีสิ!

สายตาเหลือบมองขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง ถ้าบอกว่าเคยชอบผู้หญิงคนไหนไหม เกรงว่าถ้าพูดขึ้นมา ก็คงจะมีเพียงผู้หญิงที่อยู่ในห้องทำงานที่เยื้องขึ้นไปด้านบนคนนั้น

ภายหลังเกิดเรื่องขึ้น ขาถูกตีจนหัก อีกทั้งเกือบจะต้องเสียชีวิต เขาจึงเข้าใจแล้วว่าของบางอย่างตัวเองไม่มีสิทธิ์จะครอบครอง หลังจากนั้น ทั้งเรื่องราวบางอย่างที่ตัวเองต้องประสบพบเจอ ทั้งประสบการณ์บางอย่างของตัวเอง นั่นเป็นสิ่งที่คนนอกยากจะจินตนาการได้ สิ่งเหล่านั้นได้สะกดความปรารถนาในเรื่องบางเรื่องลงไป ความคิดบางอย่างค่อยๆ สลายหายไป จนกระทั่งกลายเป็นความเฉยชา

ตอนนี้ กระทั่งตัวเขาก็ยังรู้สึกสับสน ไม่แน่ใจว่าตัวเองเคยชอบผู้หญิงคนไหนจริงๆ หรือเปล่า เคยไหม? ตอนนั้นความรู้สึกที่มีต่อฉินอี๋นับไหม?

แต่ยังไม่ทันที่หลินยวนจะตอบออกมา หลัวคังอันก็รู้สึกอึดอัดกระวนกระวายขึ้นมาเล็กน้อย ในที่สุดก็ทนไม่ไหว หยิบเอาซิการ์ขึ้นมาจุด พ่นควันออกมาสองสามคำ ค่อยๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงเนิบช้าว่า “พูดไปแล้วฉันก็ถือว่าเป็นรุ่นพี่ของนาย ตอนที่ฉันยังอยู่ในหลิงซานน่ะนะ ไม่รู้ว่าฉันทำอะไรผิด เพื่อนนักเรียนที่มีเส้นสายบางคนถึงได้ไม่ชอบขี้หน้าฉัน ต่อมาฉันไปชอบผู้หญิงคนหนึ่งเข้า ครั้งหนึ่งก็เลยแอบนัดกัน แต่ตอนที่กำลังเข้าได้เข้าเข็มนั่นแหละ จู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือขึ้นมา สุดท้ายเพื่อนนักเรียนกลุ่มหนึ่งก็พังประตูบุกเข้ามา เหอๆ!”

หลินยวน “เพื่อนนักเรียนที่พี่ไปผิดใจน่ะเหรอ?”

หลัวคังอันตอบ “ก็ใช่น่ะสิ! ตอนหลังฉันถึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่สารเลวพวกนั้นจ้างมาปั่นหัวฉัน เรื่องราวระหว่างนั้นฉันไม่พูดก็แล้วกัน สรุปแล้วก็คือเรื่องในครั้งนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ฉันเกือบจะถูกไล่ออกจากหลิงซาน อาจารย์ฉันรู้ว่าคนพวกนั้นเป็นคนยังไง อาจารย์เชื่อคำพูดของฉัน เป็นเพราะอาจารย์พยายามปกป้องฉัน ที่ฉันเข้าไปเป็นผู้พิทักษ์เทพในเมืองหลวงได้หลังเรียนจบได้ก็เป็นเพราะอาจารย์ช่วยแนะนำฉันเข้าไป”

หลินยวนรับรู้ได้ว่าเขายังเล่าเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นออกมาไม่หมด “พี่มีอาจารย์ที่ดี”

“คนดีมักอายุสั้น เสียดายที่ท่านไม่อยู่แล้ว” หลัวคังอันส่ายศีรษะ ก่อนจะหัวเราะหึหึขึ้นมาอีก “นายรู้ไหมว่าภายหลังผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไง? เธอค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมา กลายเป็นเทพธิดาที่ทุกคนเรียกขานกัน เหอะ จะว่าไปแล้วก็บังเอิญ ในคณะแสดงที่มาเมืองปู๋เชวี่ยครั้งนี้ ผู้หญิงคนนี้ก็มาด้วยเหมือนกัน”

หลินยวนแสร้งถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว “ใครเหรอ?”

“นายสนใจเรื่องนี้ด้วยเหรอ?” หลัวคังอันกล่าวดูแคลน ก่อนจะปิดปากไป ไม่ยอมพูดชื่อนั้นออกมา

อีกฝ่ายไม่พูด หลินยวนก็ไม่สะดวกจะซักไซ้ไล่ถามอีก

เขากำลังคิดอยู่ว่าจะเอาเรื่องที่หลัวคังอันเล่ามาไปบอกฉินอี๋หรือไม่ เพื่อเตือนให้ฉินอี๋รู้ตัว

แต่เมื่อคิดๆ ดูแล้ว มันก็เป็นเหมือนอย่างที่หลัวคังอันว่ามา สนใจเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่นิสัยของเขาเลย ถ้าพูดมากจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้

หากว่ากันจากมุมมองที่ชาญฉลาดหน่อยแล้ว เขาเองก็ไม่อยากให้หอการค้าตระกูลฉินชนะการประมูลเทพมหาวิญญาณ ถ้ายังเข้าไปพัวพันกับเรื่องแบบนี้ต่อไป มันจะไม่เป็นผลดีกับเขา รีบปล่อยให้เรื่องมันจบไปจะดีกว่า

ตัวหลินยวนเองก็รับรู้ได้ นี่เหมือนจะเป็นความคิดที่ขัดแย้งกันเองอย่างหนึ่ง

…………………………………………………………..

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน