ตอนที่ 98 เผยความในใจ
“เคยได้รับความช่วยเหลือจากหอการค้าตระกูลฉิน?” หลินยวนประหลาดใจเป็นอย่างมาก “นี่มันหมายความว่ายังไง?”
เขาไม่ค่อยเข้าใจ หอการค้าตระกูลฉินเพิ่งจะเติบโตขึ้นมาได้ไม่นาน เหล่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนจะไปได้รับความช่วยเหลือจากหอการค้าตระกูลฉินได้อย่างไร?
หญิงสาวกล่าว “หม่อมฉันก็สงสัยเช่นเดียวกันเพคะ อยากจะรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่นิสัยของผู้อาวุโสรุ่นก่อนพระองค์ก็ทราบดี ถามไปก็ไม่ได้ความเพคะ”
หลินยวนกล่าว “เรื่องการประมูลของหอการค้าตระกูลฉินมีคนมากมายจับตาดูอยู่ ถ้าฉันเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ มีความเสี่ยงสูงมากที่ตัวตนจะถูกเปิดเผย!”
หญิงสาวกล่าว “ดังนั้นถึงได้บอกว่าให้พระองค์คิดหาทางโดยเน้นความปลอดภัยของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกเพคะ ผู้อาวุโสรุ่นก่อนยังบอกว่าพวกเขาค่อยๆ สละอำนาจ ไม่ยุ่งกับเรื่องทางโลกแล้ว ดังนั้นให้พระองค์เป็นคนดูตัดสินใจเองว่าควรทำอย่างไร ไม่ได้บังคับเพคะ!”
หลินยวนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
หลังนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ หญิงสาวก็ลองเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา “พระองค์สบายดีไหมเพคะ?”
หลินยวนไม่ได้ตอบกลับไป กดปุ่มวางโทรศัพท์แล้วเก็บโทรศัพท์มือถือ เดินกลับไปเงียบๆ อย่างหนักใจ
……
“การประมูลเทพมหาวิญญาณที่ทุกคนต่างจับตามองจะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้แล้วค่ะ ในที่สุดดินแดนเซียนก็มีวันนี้ วันที่จะมีการประมูล! นี่เป็นทั้งการทดลอง แล้วก็หมายความว่าดินแดนเซียนจะมีความยุติธรรมเท่าเทียมกันขึ้นเรื่อยๆ หอการค้าทั้งยี่สิบสี่แห่งในดินแดนเซียนจะมาทำการแข่งขันกัน ในนี้มีหอการค้าตระกูลฉินจากเมืองปู๋เชวี่ยของเราเข้าร่วมการแข่งขันด้วย กรรมการในการประมูลคือเจ้าเมืองทั้งสามสิบหกเมืองในแคว้นเซียนคุนกว่าง ส่วนคนที่จะเป็นกรรมการตัดสินก็คือเจ้าแคว้นหนานหรูค่ะ…”
ภายในห้องทำงานของประธานหอการค้าตระกูลฉิน ฉินเต้าเปียนกับหลิ่วจวินจวินหนึ่งนั่งหนึ่งยืน มองดูการถ่ายทอดสดบนฉากแสง
ภายในฉากแสงคือจูลี่ที่เป็นผู้บริหารปู๋เชวี่ยวีดีโอกำลังทำหน้าที่พิธีกรด้วยตัวเอง กล่าวบรรยายการประมูลอยู่ในฉากแสง ด้านหลังเธอคือสถานที่ที่จะทำการประมูล
ต้องยอมรับเลยว่าจูลี่นั้นมีความสามารถในด้านนี้อย่างมาก ร้อยเรียงคำพูดได้เป็นอย่างดี พูดจาฉะฉานฟังเข้าใจง่าย
จูเก่อม่านที่นั่งทำงานอย่างใจลอยถูกคนเรียกเข้าไปในห้องทำงานของผู้จัดการ ไม่ได้มีเรื่องอะไร แค่ผู้จัดการจงใจแหกกฎให้เธอ ให้เธอเข้าไปนั่งชมการถ่ายทอดสดด้วยกัน
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของจูเก่อม่านกับหลัวคังอันไม่ใช่ความลับในหอการค้าตระกูลฉินอีกต่อไปแล้ว
ไม่ว่าใครต่างก็รู้ว่าทันทีที่หอการค้าตระกูลฉินเอาชนะการประมูลได้ อิทธิพลและอำนาจของหอการค้าตระกูลฉินก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และผู้ชายของจูเก่อม่านคือบุุคคลที่สำคัญที่สุดที่จะเป็นตัวแทนของหอการค้าตระกูลฉินในการลงสนามประมูลครั้งนี้ เป็นผู้ที่กุมชะตาชีวิตของหอการค้าตระกูลฉินเอาไว้ แล้วก็เป็นผู้กุมชะตาชีวิตของพนักงานทุกคนในหอการค้าตระกูลฉินเอาไว้ด้วย
ดังนั้นผู้จัดการคนนี้จึงเอางานที่อยู่ในมือของจูเก่อม่านไปให้คนทำ ก่อนจะ ‘เชิญ’ จูเก่อม่านให้มานั่งดูการถ่ายทอดสดด้วยกัน
จูเก่อม่านที่จ้องมองดูภาพบนฉากแสงค่อนข้างตื่นเต้น เรื่องอื่นเธอไม่รู้ แต่เธอกลับรู้ว่าทันทีที่การประมูลล้มเหลว หลัวคังอันจะกลายเป็นคนบาปของหอการค้าตระกูลฉิน เกรงว่าแม้แต่เธอก็คงพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย
แต่แน่นอน ในเวลานี้เธอยังมีความรู้สึกคาดหวังและภาคภูมิใจด้วย แล้วก็มีความรู้สึกไม่พอใจอยู่เล็กน้อยด้วย ไม่พอใจว่าทำไมหอการค้าตระกูลฉินถึงได้ให้คนไร้ค่าอย่างหลินยวนไปเป็นผู้ช่วยหลัวคังอัน นี่มิเท่ากับเป็นตัวถ่วงหรอกหรือ
เธออยากเห็นหลัวคังอันบนฉากแสง แต่หลัวคังอันก็ไม่ปรากฏตัวขึ้นมาบนฉากแสงเสียที
……
“มีรายงานว่าเทพมหาวิญญาณทั้งยี่สิบสี่ตนที่จะเข้าร่วมการประมูลกำลังเตรียมความพร้อมครั้งสุดท้ายอยู่ในค่ายผู้พิทักษ์เทพในเมืองคุนกว่าง หลังจากนี้จะปรากฏ….”
ภายในโรงอีหลิว จางเลี่ยเฉินกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้นอนที่อยู่ตรงหน้าฉากแสง ในมือถือพัด ท่าทางผ่อนคลาย
พัดที่อยู่ในมือเขามีประโยชน์มากมาย ใช้พัดไฟหน้าเตาไฟ ใช้ไล่ยุงไล่แมลงวัน แล้วก็ใช้พัดให้ตัวเอง
…….
ภายในร้านรับซื้อของเก่าของตระกูลกวน กวนเสี่ยวไป๋กำลังยืนอยู่ตรงหน้าฉากแสง จ้องมองดูภาพที่อยู่ในฉากแสง
ทั่วทั้งเมืองปู๋เชวี่ย บนฉากแสงของหลายๆ ครอบครัวล้วนกำลังเปิดดูช่องเดียวกัน ต่างกำลังจับตาดูการประมูลครั้งนี้
…..
ภายในเมืองหลวง ฉู่ผิงที่เป็นเพื่อนสนิทของจูลี่ แล้วก็เป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของจูลี่เองก็กำลังดูการถ่ายทอดสดบนฉากแสงอยู่
แฟนหนุ่มเดินออกมาจากในห้อง เรียกเธอด้วยรอยยิ้ม “ไปกันเถอะ ใกล้ถึงเวลาเข้างานแล้ว เดี๋ยวผมไปส่งคุณ”
ฉู่ผิงมองดูเวลา จำใจปิดฉากแสง หยิบกระเป๋าของตัวเอง คล้องแขนแฟนหนุ่มออกไปด้วยกัน
ทั้งสองคนขึ้นรถ ขับออกไปถึงปากทางแยก จู่ๆ รถที่พวกเขานั่งมาพลันถูกประแทกจนปลิวกระเด็น ถูกรถบรรทุกขนวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ชนจนกระเด็นบี้แบน
……
เสวี่ยหลานที่กำลังพักผ่อนระหว่างการตระเวนแสดงยืนอยู่ตรงเชิงผา คว้าแขนคนคนหนึ่งเอาไว้ด้วยใบหน้าหวาดกลัว คอยเหลียวหน้ามองดูหน้าผาที่อยู่ด้านหลังอยู่เป็นระยะ ตะโกนด้วยความหวาดกลัวว่า “อย่าคิดว่าฉันไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้นะ ถ้าฉันตาย เรื่องของพวกแกก็จะถูกเปิดโปงไปด้วย!
นับตั้งแต่ที่เธอถูกบีบให้ทำเรื่องเรื่องนั้น เธอก็รู้แล้วว่าตัวเองได้เข้าไปพัวพันกับเรื่องที่ไม่ควรจะเข้าไปยุ่งด้วยแล้ว เธอกังวลว่าตัวเองจะถูกปิดปาก จึงเตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ให้ตัวเอง
ผู้ชายที่ดันตัวเธอยิ้มเล็กน้อย “เธอหมายถึงอันนี้น่ะเหรอ?” ผู้ชายหยิบเอาซองจดหมายซองหนึ่งมาจากในกระเป๋ากางเกง แกว่งไปมาอยู่ตรงหน้าเธอ
บนซองจดหมายมีรูปดอกไม้ที่สวยงาม เพียงมองดูเสวี่ยหลานก็รู้ว่าเป็นจดหมายที่ตัวเองแอบซ่อนเอาไว้ ในดวงตาและบนใบหน้ามีความรู้สึกสิ้นหวังปรากฏขึ้นมาทันที กล่าวขอร้องอ้อนวอนว่า “ปล่อยฉันไปเถอะนะ! ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ขอเพียงยอมปล่อยฉัน จะให้ฉันทำอะไรก็ได้”
ผู้ชายถอนใจ “ถ้าปล่อยเธอไป ก็จะมีคนไม่ยอมปล่อยฉัน ดังนั้นก็ได้แต่ต้องขอโทษเธอด้วย” กล่าวจบก็สะบัดแขนแล้วยื่นมือผลักออกไป
“อ๊าาาาาา…” ส่งกรีดร้องดังสะท้อนไปในหุบเขา ร่างของเสวี่ยหลานลอยร่วงและหายลับไปในหุบเขา
ไม่นาน ด้านล่างหน้าผาก็มีคนบินขึ้นมาอีกคนหนึ่ง พยักหน้าให้กับชายที่อยู่บนเชิงผา จากนั้นทั้งสองคนก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว
……
ภายในค่ายผู้พิทักษ์เทพของเมืองคุนกว่าง เทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินกำลังทำการทดสอบเต็มรูปแบบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะออกเดินทาง ฉินอี๋ที่มาส่งตัวแทนของหอการค้าตระกูลฉินก็มาด้วย
ฉินอี๋ส่งจดหมายฉบับหนึ่งที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ให้หลัวคังอัน ก่อนจะกล่าวกับหลัวคังอันและหลินยวนว่า “จดหมายฉบับนี้ เอาไว้เข้าไปในแดนแมงมุมสวรรค์แล้วพวกคุณค่อยเปิดดู”
ทั้งสองคนสบตากัน ไม่รู้ว่าหมายความว่าอย่างไร หลัวคังอันได้แต่ต้องรับมาแล้วเก็บเอาไว้
ในเวลานี้เอง พนักงานที่รับผิดชอบเรื่องการทดสอบก็เดินเข้ามา กล่าวรายงานฉินอี๋ว่า “ท่านประธานครับ ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ทุกอย่างปกติดีครับ”
ฉินอี๋พยักหน้า จากนั้นหมุนตัวมองไปยังหลัวคังอันและหลินยวนอีกครั้ง “ฝากทั้งสองคนด้วยนะ”
หลัวคังอันยิ้มแห้ง “จะพยายามเต็มที่ครับ”
สายตาของฉินอี๋มองไปที่หลินยวน “นายมานี่หน่อย” กล่าวจบก็เดินไปอีกด้านหนึ่ง
หลินยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เดินตามไป หลัวคังอันมองทั้งสองคนเดินไปอย่างงุนงง
ไป๋หลิงหลงที่อยู่ด้านข้างเองก็มองดูเช่นกัน เธอรู้ว่าฉินอี๋กำลังเป็นห่วงอะไร เธอกำลังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของหลินยวน เพราะว่าก่อนหน้านี้เธอไม่ได้คิดที่จะให้หลินยวนลงสนาม แต่สถานการณ์กลับตาลปัตร เรื่องราวเปลี่ยนแปลงเหนือไปจากที่ฉินอี๋คาดการณ์เอาไว้
หนึ่งชายหนึ่งหญิง ยืนเผชิญหน้ากันอยู่ตรงมุมมุมหนึ่ง
หลินยวนมองออก ผ่านไปเพียงแค่คืนเดียว สีหน้าฉินอี๋ดูซีดเซียวและอ่อนล้าลงไปมาก
แต่ไหนแต่ไรมาหลินยวนเป็นคนพูดน้อย สุดท้ายก็เป็นฉินอี๋ที่เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมา “ฉันรู้ว่านายไม่พอใจฉัน ถ้าฉันบอกว่าทุกอย่างที่ฉันทำไปก่อนหน้านี้ล้วนแต่เพราะหวังดีกับนาย นายก็คงจะไม่เชื่อ ฉันเพียงแต่อยากจะบอกนายว่าหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนายแล้ว ฉันก็ไม่เคยหาผู้ชายคนอื่นอีกเลย หลายปีที่ผ่านมา ความรู้สึกที่ฉันมีให้นายยังไม่เคยเปลี่ยน”
หลินยวนมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ภายในใจลอบแค่นหัวเราะ อยากจะถามว่ามาพูดเรื่องนี้ในตอนนี้มันหมายความว่ายังไง อยากจะทำให้ตัวเองตื้นตันใจจนยอมสู้ตายถวายชีวิตอย่างนั้นเหรอ?
เขาพบว่าผู้หญิงคนนี้ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ตัวเองชนะการประมูลจริงๆ
ฉินอี๋กล่าวต่อว่า “ความจริงก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยคิดจะให้นายกับหลัวคังอันลงไปประมูลจริงๆ เลย นายกับหลัวคังอันเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้าให้คนภายนอกดูเท่านั้น คนที่จะลงประมูลจริงๆ เป็นอีกคนหนึ่ง แต่หอการค้าตระกูลพานกับหอการค้าตระกูลโจวน่าจะมองแผนของฉันออก เมื่อวานพวกเขาเลยแอบเล่นลูกไม้สกปรก ใช้กฎมาจำกัดฉันเอาไว้ ทำให้ฉันไม่สามารถเปลี่ยนคนได้”
หลินยวนตกตะลึง ก่อนหน้านี้เขาก็รู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อยแล้วว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงให้หลัวคังอันกับคนที่เรียนที่หลิงซานมาสามร้อยปีก็ยังเรียนไม่จบอย่างเขามาเข้าร่วมการประมูลที่สำคัญขนาดนี้? ตอนนี้คล้ายจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว
ฉินอี๋กล่าว “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันไม่มีทางเลือก ได้แต่ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่หลัวคังอัน นายจำไว้นะ ถ้าเกิดเจออันตราย ไม่ต้องไปสนใจเทพมหาวิญญาณ แพ้ก็ไม่เป็นไร ฉันยังสามารถเริ่มใหม่ได้ แต่นายต้องรักษาตัวเองให้ดี ต้องหนีเอาชีวิตรอดทันที! คนที่อยู่ในจดหมายฉบับนั้นจะรอรับนาย อีกฝ่ายจะพยายามพานายหนีออกมาให้ได้”
“หลินยวน นายจำเอาไว้นะ ตอนที่นายออกไปจากเมืองปู๋เชวี่ยครั้งนั้น พวกเรายังไม่เคยเลิกกัน นายเป็นผู้ชายของฉัน ฉันเป็นผู้หญิงของนาย นายจะต้องรอดกลับมานะ ตอนนั้นนายเคยบอกเอาไว้ว่าชีวิตนี้จะไม่แต่งกับผู้หญิงคนไหนถ้าไม่ใช่ฉัน ฉันเองก็รับปากนายเอาไว้แล้วว่าชีวิตนี้จะไม่แต่งกับคนอื่นที่ไม่ใช่นาย ฉันยังจำได้ไม่ลืม ฉันรอนายมาตลอด นายจะต้องรอดกลับมานะ!” กล่าวจบก็หมุนตัวจากไป ก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว คล้ายไม่กล้าเผชิญหน้าอีกฝ่ายต่อไป
เธอเป็นคนที่เข้มแข็งอย่างมาก เดิมทีไม่มีทางเอ่ยคำพูดแบบนี้ออกมา แต่ในเวลานี้เธอกลัวจริงๆ กลัวว่าหลินยวนจะไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้
ขณะที่หมุนตัวไป ขอบตาเธอแดงเรื่อขึ้นมา เธอรู้สึกเสียใจ เสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้หลินยวนต้องมาอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้
จู่ๆ ฉินอี๋ก็เปิดเผยความรู้สึกในใจออกมา นี่มันเรื่องอะไรกัน? หลินยวนงุนงงไปหมดแล้ว เขาเหลียวหน้าไปมองดูฉินอี๋ที่เดินออกไปอย่างรวดเร็ว รู้สึกมึนงง!
ไอคำพูดที่ว่าชีวิตนี้จะไม่แต่งกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธออะไรนั่น เขาจำได้ว่าตัวเองเคยพูด ยิ่งไปกว่านั้นยังจำได้ดีด้วย จำได้ว่าตอนนั้นเป็นตายอย่างไรฉินอี๋ก็ไม่ยอมถอดเสื้อผ้า เขาถึงได้พูดคำหวานเหล่านั้นออกมาเพื่อหลอกให้ฉินอี๋หวั่นไหว
เขางุนงงจริงๆ งุนงงจนกระทั่งหลัวคังอันเดินมาข้างกายแล้วก็ยังไม่รู้ตัว
หลัวคังอันจับไหล่เขา เขาถึงได้รู้ตัวขึ้นมา “เหม่ออะไรน่ะ?”
จู่ๆ หลินยวนพลันรู้สึกหงุดหงิด ปัดมือของเขาออกไป
แต่ไหนแต่ไรมาหลัวคังอันเป็นคนหน้าหนา เขาไม่ถือสาอะไร กล่าวถามต่อว่า “ดูนายใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้ เธอพูดอะไรกับนายเหรอ?”
หลินยวนรู้สึกไม่สบอารมณ์ “ไม่มีอะไร อย่าพูดมากได้ไหม”
“เอาล่ะๆๆ ฉันไม่พูดมาก แต่ตอนนี้จะไม่ให้พูดมากก็คงไม่ได้ ด่าน ‘หล่อหลอมกายา’ กับ ‘ข่ายพลังหมื่นฤทธา’ ฉันไม่ค่อยห่วงเท่าไรหรอก แต่แดนแมงมุมสวรรค์นี่สิที่อันตราย นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่คู่ต่อสู้จะลงมือ…”
ฉินอี๋ที่ออกมาจากค่ายผู้พิทักษ์เทพกวาดมองดูสถานที่ที่จะทำการประมูลอย่างรวดเร็ว
ส่วนเทพมหาวิญญาณทั้งยี่สิบสี่ตนที่จะเข้าร่วมการประมูลก็ถูกเรียกรวมตัวแล้ว เทพมหาวิญญาณทั้งยี่สิบสี่ตนออกมาจากโรงเก็บ เคลื่อนตัวไปยังอุโมงค์เคลื่อนย้ายที่อยู่ใกล้ๆ ภายใต้การคุ้มครองของผู้พิทักษ์เมืองจำนวนมาก
……
“รีบดูนั่นเร็ว เทพมหาวิญญาณที่เข้าร่วมการประมูลมาถึงอุโมงค์เคลื่อนย้ายแล้ว การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วค่ะ!”
จูลี่ที่ยืนอยู่หน้ากล้องยืนหันหลังให้ฉากแสงแถบหนึ่ง กล่าวรายงานอย่างตื่นเต้น
ขณะเดียวกันก็มีสื่อจากที่ต่างๆ ที่ทำแบบเดียวกันกับเธอ
ด้านนอกตำหนักคุนกว่าง เจ้าเมืองสามสิบหกคนที่เป็นกรรมการในการประมูลได้มาประจำที่กันหมดแล้ว เลขาธิการใหญ่ทั้งห้าไม่ได้ทำหน้าที่กรรมการเพราะต้องคอยจัดการเรื่องต่างๆ ทั่วทั้งดินแดนเซียนในระหว่างการประมูล แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังเดินทางมาดูการประมูล
ทันใดนั้นเอง เจ้าเมืองทั้งสามสิบหกคนก็ทยอยลุกขึ้นยืน ชายที่ดูเหมือนบัณฑิตบอบบางในชุดคลุมยาวสีเขียวผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างเรียบร้อยนุ่มนวล เจ้าเมืองทั้งสามสิบหกคนประสานมือคำนับ
ภายในภาพการถ่ายทอดสดของทุกๆ เมือง บัณฑิตที่ดูสง่างามคนหนึ่งเดินผ่านกลุ่มเจ้าเมืองไปคล้ายเดินเล่นอย่างสบายอารมณ์ ทำเอาผู้คนจำนวนมากในดินแดนเซียนต่างพากันประหลาดใจ
ไม่จำเป็นต้องอธิบาย ทุกคนต่างมองออกว่าท่านผู้นี้คือเจ้าแคว้นหนานหรูแห่งแคว้นเซียนคุนกว่าง คนจำนวนมากที่จับตาดูการถ่ายทอดสดก็เพิ่งจะรู้ว่าเจ้าแคว้นหนานหรูหน้าตาเป็นอย่างไร ดูแล้วอายุยังน้อยอย่างมาก
………………………………………………………………