ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 98 เผยความในใจ

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 98 เผยความในใจ

“เคยได้รับความช่วยเหลือจากหอการค้าตระกูลฉิน?” หลินยวนประหลาดใจเป็นอย่างมาก “นี่มันหมายความว่ายังไง?”

เขาไม่ค่อยเข้าใจ หอการค้าตระกูลฉินเพิ่งจะเติบโตขึ้นมาได้ไม่นาน เหล่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนจะไปได้รับความช่วยเหลือจากหอการค้าตระกูลฉินได้อย่างไร?

หญิงสาวกล่าว “หม่อมฉันก็สงสัยเช่นเดียวกันเพคะ อยากจะรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่นิสัยของผู้อาวุโสรุ่นก่อนพระองค์ก็ทราบดี ถามไปก็ไม่ได้ความเพคะ”

หลินยวนกล่าว “เรื่องการประมูลของหอการค้าตระกูลฉินมีคนมากมายจับตาดูอยู่ ถ้าฉันเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ มีความเสี่ยงสูงมากที่ตัวตนจะถูกเปิดเผย!”

หญิงสาวกล่าว “ดังนั้นถึงได้บอกว่าให้พระองค์คิดหาทางโดยเน้นความปลอดภัยของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกเพคะ ผู้อาวุโสรุ่นก่อนยังบอกว่าพวกเขาค่อยๆ สละอำนาจ ไม่ยุ่งกับเรื่องทางโลกแล้ว ดังนั้นให้พระองค์เป็นคนดูตัดสินใจเองว่าควรทำอย่างไร ไม่ได้บังคับเพคะ!”

หลินยวนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร

หลังนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ หญิงสาวก็ลองเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา “พระองค์สบายดีไหมเพคะ?”

หลินยวนไม่ได้ตอบกลับไป กดปุ่มวางโทรศัพท์แล้วเก็บโทรศัพท์มือถือ เดินกลับไปเงียบๆ อย่างหนักใจ

……

“การประมูลเทพมหาวิญญาณที่ทุกคนต่างจับตามองจะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้แล้วค่ะ ในที่สุดดินแดนเซียนก็มีวันนี้ วันที่จะมีการประมูล! นี่เป็นทั้งการทดลอง แล้วก็หมายความว่าดินแดนเซียนจะมีความยุติธรรมเท่าเทียมกันขึ้นเรื่อยๆ หอการค้าทั้งยี่สิบสี่แห่งในดินแดนเซียนจะมาทำการแข่งขันกัน ในนี้มีหอการค้าตระกูลฉินจากเมืองปู๋เชวี่ยของเราเข้าร่วมการแข่งขันด้วย กรรมการในการประมูลคือเจ้าเมืองทั้งสามสิบหกเมืองในแคว้นเซียนคุนกว่าง ส่วนคนที่จะเป็นกรรมการตัดสินก็คือเจ้าแคว้นหนานหรูค่ะ…”

ภายในห้องทำงานของประธานหอการค้าตระกูลฉิน ฉินเต้าเปียนกับหลิ่วจวินจวินหนึ่งนั่งหนึ่งยืน มองดูการถ่ายทอดสดบนฉากแสง

ภายในฉากแสงคือจูลี่ที่เป็นผู้บริหารปู๋เชวี่ยวีดีโอกำลังทำหน้าที่พิธีกรด้วยตัวเอง กล่าวบรรยายการประมูลอยู่ในฉากแสง ด้านหลังเธอคือสถานที่ที่จะทำการประมูล

ต้องยอมรับเลยว่าจูลี่นั้นมีความสามารถในด้านนี้อย่างมาก ร้อยเรียงคำพูดได้เป็นอย่างดี พูดจาฉะฉานฟังเข้าใจง่าย

จูเก่อม่านที่นั่งทำงานอย่างใจลอยถูกคนเรียกเข้าไปในห้องทำงานของผู้จัดการ ไม่ได้มีเรื่องอะไร แค่ผู้จัดการจงใจแหกกฎให้เธอ ให้เธอเข้าไปนั่งชมการถ่ายทอดสดด้วยกัน

ตอนนี้ความสัมพันธ์ของจูเก่อม่านกับหลัวคังอันไม่ใช่ความลับในหอการค้าตระกูลฉินอีกต่อไปแล้ว

ไม่ว่าใครต่างก็รู้ว่าทันทีที่หอการค้าตระกูลฉินเอาชนะการประมูลได้ อิทธิพลและอำนาจของหอการค้าตระกูลฉินก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และผู้ชายของจูเก่อม่านคือบุุคคลที่สำคัญที่สุดที่จะเป็นตัวแทนของหอการค้าตระกูลฉินในการลงสนามประมูลครั้งนี้ เป็นผู้ที่กุมชะตาชีวิตของหอการค้าตระกูลฉินเอาไว้ แล้วก็เป็นผู้กุมชะตาชีวิตของพนักงานทุกคนในหอการค้าตระกูลฉินเอาไว้ด้วย

ดังนั้นผู้จัดการคนนี้จึงเอางานที่อยู่ในมือของจูเก่อม่านไปให้คนทำ ก่อนจะ ‘เชิญ’ จูเก่อม่านให้มานั่งดูการถ่ายทอดสดด้วยกัน

จูเก่อม่านที่จ้องมองดูภาพบนฉากแสงค่อนข้างตื่นเต้น เรื่องอื่นเธอไม่รู้ แต่เธอกลับรู้ว่าทันทีที่การประมูลล้มเหลว หลัวคังอันจะกลายเป็นคนบาปของหอการค้าตระกูลฉิน เกรงว่าแม้แต่เธอก็คงพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย

แต่แน่นอน ในเวลานี้เธอยังมีความรู้สึกคาดหวังและภาคภูมิใจด้วย แล้วก็มีความรู้สึกไม่พอใจอยู่เล็กน้อยด้วย ไม่พอใจว่าทำไมหอการค้าตระกูลฉินถึงได้ให้คนไร้ค่าอย่างหลินยวนไปเป็นผู้ช่วยหลัวคังอัน นี่มิเท่ากับเป็นตัวถ่วงหรอกหรือ

เธออยากเห็นหลัวคังอันบนฉากแสง แต่หลัวคังอันก็ไม่ปรากฏตัวขึ้นมาบนฉากแสงเสียที

……

“มีรายงานว่าเทพมหาวิญญาณทั้งยี่สิบสี่ตนที่จะเข้าร่วมการประมูลกำลังเตรียมความพร้อมครั้งสุดท้ายอยู่ในค่ายผู้พิทักษ์เทพในเมืองคุนกว่าง หลังจากนี้จะปรากฏ….”

ภายในโรงอีหลิว จางเลี่ยเฉินกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้นอนที่อยู่ตรงหน้าฉากแสง ในมือถือพัด ท่าทางผ่อนคลาย

พัดที่อยู่ในมือเขามีประโยชน์มากมาย ใช้พัดไฟหน้าเตาไฟ ใช้ไล่ยุงไล่แมลงวัน แล้วก็ใช้พัดให้ตัวเอง

…….

ภายในร้านรับซื้อของเก่าของตระกูลกวน กวนเสี่ยวไป๋กำลังยืนอยู่ตรงหน้าฉากแสง จ้องมองดูภาพที่อยู่ในฉากแสง

ทั่วทั้งเมืองปู๋เชวี่ย บนฉากแสงของหลายๆ ครอบครัวล้วนกำลังเปิดดูช่องเดียวกัน ต่างกำลังจับตาดูการประมูลครั้งนี้

…..

ภายในเมืองหลวง ฉู่ผิงที่เป็นเพื่อนสนิทของจูลี่ แล้วก็เป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของจูลี่เองก็กำลังดูการถ่ายทอดสดบนฉากแสงอยู่

แฟนหนุ่มเดินออกมาจากในห้อง เรียกเธอด้วยรอยยิ้ม “ไปกันเถอะ ใกล้ถึงเวลาเข้างานแล้ว เดี๋ยวผมไปส่งคุณ”

ฉู่ผิงมองดูเวลา จำใจปิดฉากแสง หยิบกระเป๋าของตัวเอง คล้องแขนแฟนหนุ่มออกไปด้วยกัน

ทั้งสองคนขึ้นรถ ขับออกไปถึงปากทางแยก จู่ๆ รถที่พวกเขานั่งมาพลันถูกประแทกจนปลิวกระเด็น ถูกรถบรรทุกขนวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ชนจนกระเด็นบี้แบน

……

เสวี่ยหลานที่กำลังพักผ่อนระหว่างการตระเวนแสดงยืนอยู่ตรงเชิงผา คว้าแขนคนคนหนึ่งเอาไว้ด้วยใบหน้าหวาดกลัว คอยเหลียวหน้ามองดูหน้าผาที่อยู่ด้านหลังอยู่เป็นระยะ ตะโกนด้วยความหวาดกลัวว่า “อย่าคิดว่าฉันไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้นะ ถ้าฉันตาย เรื่องของพวกแกก็จะถูกเปิดโปงไปด้วย!

นับตั้งแต่ที่เธอถูกบีบให้ทำเรื่องเรื่องนั้น เธอก็รู้แล้วว่าตัวเองได้เข้าไปพัวพันกับเรื่องที่ไม่ควรจะเข้าไปยุ่งด้วยแล้ว เธอกังวลว่าตัวเองจะถูกปิดปาก จึงเตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ให้ตัวเอง

ผู้ชายที่ดันตัวเธอยิ้มเล็กน้อย “เธอหมายถึงอันนี้น่ะเหรอ?” ผู้ชายหยิบเอาซองจดหมายซองหนึ่งมาจากในกระเป๋ากางเกง แกว่งไปมาอยู่ตรงหน้าเธอ

บนซองจดหมายมีรูปดอกไม้ที่สวยงาม เพียงมองดูเสวี่ยหลานก็รู้ว่าเป็นจดหมายที่ตัวเองแอบซ่อนเอาไว้ ในดวงตาและบนใบหน้ามีความรู้สึกสิ้นหวังปรากฏขึ้นมาทันที กล่าวขอร้องอ้อนวอนว่า “ปล่อยฉันไปเถอะนะ! ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ขอเพียงยอมปล่อยฉัน จะให้ฉันทำอะไรก็ได้”

ผู้ชายถอนใจ “ถ้าปล่อยเธอไป ก็จะมีคนไม่ยอมปล่อยฉัน ดังนั้นก็ได้แต่ต้องขอโทษเธอด้วย” กล่าวจบก็สะบัดแขนแล้วยื่นมือผลักออกไป

“อ๊าาาาาา…” ส่งกรีดร้องดังสะท้อนไปในหุบเขา ร่างของเสวี่ยหลานลอยร่วงและหายลับไปในหุบเขา

ไม่นาน ด้านล่างหน้าผาก็มีคนบินขึ้นมาอีกคนหนึ่ง พยักหน้าให้กับชายที่อยู่บนเชิงผา จากนั้นทั้งสองคนก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว

……

ภายในค่ายผู้พิทักษ์เทพของเมืองคุนกว่าง เทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินกำลังทำการทดสอบเต็มรูปแบบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะออกเดินทาง ฉินอี๋ที่มาส่งตัวแทนของหอการค้าตระกูลฉินก็มาด้วย

ฉินอี๋ส่งจดหมายฉบับหนึ่งที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ให้หลัวคังอัน ก่อนจะกล่าวกับหลัวคังอันและหลินยวนว่า “จดหมายฉบับนี้ เอาไว้เข้าไปในแดนแมงมุมสวรรค์แล้วพวกคุณค่อยเปิดดู”

ทั้งสองคนสบตากัน ไม่รู้ว่าหมายความว่าอย่างไร หลัวคังอันได้แต่ต้องรับมาแล้วเก็บเอาไว้

ในเวลานี้เอง พนักงานที่รับผิดชอบเรื่องการทดสอบก็เดินเข้ามา กล่าวรายงานฉินอี๋ว่า “ท่านประธานครับ ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ทุกอย่างปกติดีครับ”

ฉินอี๋พยักหน้า จากนั้นหมุนตัวมองไปยังหลัวคังอันและหลินยวนอีกครั้ง “ฝากทั้งสองคนด้วยนะ”

หลัวคังอันยิ้มแห้ง “จะพยายามเต็มที่ครับ”

สายตาของฉินอี๋มองไปที่หลินยวน “นายมานี่หน่อย” กล่าวจบก็เดินไปอีกด้านหนึ่ง

หลินยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เดินตามไป หลัวคังอันมองทั้งสองคนเดินไปอย่างงุนงง

ไป๋หลิงหลงที่อยู่ด้านข้างเองก็มองดูเช่นกัน เธอรู้ว่าฉินอี๋กำลังเป็นห่วงอะไร เธอกำลังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของหลินยวน เพราะว่าก่อนหน้านี้เธอไม่ได้คิดที่จะให้หลินยวนลงสนาม แต่สถานการณ์กลับตาลปัตร เรื่องราวเปลี่ยนแปลงเหนือไปจากที่ฉินอี๋คาดการณ์เอาไว้

หนึ่งชายหนึ่งหญิง ยืนเผชิญหน้ากันอยู่ตรงมุมมุมหนึ่ง

หลินยวนมองออก ผ่านไปเพียงแค่คืนเดียว สีหน้าฉินอี๋ดูซีดเซียวและอ่อนล้าลงไปมาก

แต่ไหนแต่ไรมาหลินยวนเป็นคนพูดน้อย สุดท้ายก็เป็นฉินอี๋ที่เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมา “ฉันรู้ว่านายไม่พอใจฉัน ถ้าฉันบอกว่าทุกอย่างที่ฉันทำไปก่อนหน้านี้ล้วนแต่เพราะหวังดีกับนาย นายก็คงจะไม่เชื่อ ฉันเพียงแต่อยากจะบอกนายว่าหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนายแล้ว ฉันก็ไม่เคยหาผู้ชายคนอื่นอีกเลย หลายปีที่ผ่านมา ความรู้สึกที่ฉันมีให้นายยังไม่เคยเปลี่ยน”

หลินยวนมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ภายในใจลอบแค่นหัวเราะ อยากจะถามว่ามาพูดเรื่องนี้ในตอนนี้มันหมายความว่ายังไง อยากจะทำให้ตัวเองตื้นตันใจจนยอมสู้ตายถวายชีวิตอย่างนั้นเหรอ?

เขาพบว่าผู้หญิงคนนี้ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ตัวเองชนะการประมูลจริงๆ

ฉินอี๋กล่าวต่อว่า “ความจริงก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยคิดจะให้นายกับหลัวคังอันลงไปประมูลจริงๆ เลย นายกับหลัวคังอันเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้าให้คนภายนอกดูเท่านั้น คนที่จะลงประมูลจริงๆ เป็นอีกคนหนึ่ง แต่หอการค้าตระกูลพานกับหอการค้าตระกูลโจวน่าจะมองแผนของฉันออก เมื่อวานพวกเขาเลยแอบเล่นลูกไม้สกปรก ใช้กฎมาจำกัดฉันเอาไว้ ทำให้ฉันไม่สามารถเปลี่ยนคนได้”

หลินยวนตกตะลึง ก่อนหน้านี้เขาก็รู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อยแล้วว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงให้หลัวคังอันกับคนที่เรียนที่หลิงซานมาสามร้อยปีก็ยังเรียนไม่จบอย่างเขามาเข้าร่วมการประมูลที่สำคัญขนาดนี้? ตอนนี้คล้ายจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว

ฉินอี๋กล่าว “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันไม่มีทางเลือก ได้แต่ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่หลัวคังอัน นายจำไว้นะ ถ้าเกิดเจออันตราย ไม่ต้องไปสนใจเทพมหาวิญญาณ แพ้ก็ไม่เป็นไร ฉันยังสามารถเริ่มใหม่ได้ แต่นายต้องรักษาตัวเองให้ดี ต้องหนีเอาชีวิตรอดทันที! คนที่อยู่ในจดหมายฉบับนั้นจะรอรับนาย อีกฝ่ายจะพยายามพานายหนีออกมาให้ได้”

“หลินยวน นายจำเอาไว้นะ ตอนที่นายออกไปจากเมืองปู๋เชวี่ยครั้งนั้น พวกเรายังไม่เคยเลิกกัน นายเป็นผู้ชายของฉัน ฉันเป็นผู้หญิงของนาย นายจะต้องรอดกลับมานะ ตอนนั้นนายเคยบอกเอาไว้ว่าชีวิตนี้จะไม่แต่งกับผู้หญิงคนไหนถ้าไม่ใช่ฉัน ฉันเองก็รับปากนายเอาไว้แล้วว่าชีวิตนี้จะไม่แต่งกับคนอื่นที่ไม่ใช่นาย ฉันยังจำได้ไม่ลืม ฉันรอนายมาตลอด นายจะต้องรอดกลับมานะ!” กล่าวจบก็หมุนตัวจากไป ก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว คล้ายไม่กล้าเผชิญหน้าอีกฝ่ายต่อไป

เธอเป็นคนที่เข้มแข็งอย่างมาก เดิมทีไม่มีทางเอ่ยคำพูดแบบนี้ออกมา แต่ในเวลานี้เธอกลัวจริงๆ กลัวว่าหลินยวนจะไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้

ขณะที่หมุนตัวไป ขอบตาเธอแดงเรื่อขึ้นมา เธอรู้สึกเสียใจ เสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้หลินยวนต้องมาอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้

จู่ๆ ฉินอี๋ก็เปิดเผยความรู้สึกในใจออกมา นี่มันเรื่องอะไรกัน? หลินยวนงุนงงไปหมดแล้ว เขาเหลียวหน้าไปมองดูฉินอี๋ที่เดินออกไปอย่างรวดเร็ว รู้สึกมึนงง!

ไอคำพูดที่ว่าชีวิตนี้จะไม่แต่งกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธออะไรนั่น เขาจำได้ว่าตัวเองเคยพูด ยิ่งไปกว่านั้นยังจำได้ดีด้วย จำได้ว่าตอนนั้นเป็นตายอย่างไรฉินอี๋ก็ไม่ยอมถอดเสื้อผ้า เขาถึงได้พูดคำหวานเหล่านั้นออกมาเพื่อหลอกให้ฉินอี๋หวั่นไหว

เขางุนงงจริงๆ งุนงงจนกระทั่งหลัวคังอันเดินมาข้างกายแล้วก็ยังไม่รู้ตัว

หลัวคังอันจับไหล่เขา เขาถึงได้รู้ตัวขึ้นมา “เหม่ออะไรน่ะ?”

จู่ๆ หลินยวนพลันรู้สึกหงุดหงิด ปัดมือของเขาออกไป

แต่ไหนแต่ไรมาหลัวคังอันเป็นคนหน้าหนา เขาไม่ถือสาอะไร กล่าวถามต่อว่า “ดูนายใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้ เธอพูดอะไรกับนายเหรอ?”

หลินยวนรู้สึกไม่สบอารมณ์ “ไม่มีอะไร อย่าพูดมากได้ไหม”

“เอาล่ะๆๆ ฉันไม่พูดมาก แต่ตอนนี้จะไม่ให้พูดมากก็คงไม่ได้ ด่าน ‘หล่อหลอมกายา’ กับ ‘ข่ายพลังหมื่นฤทธา’ ฉันไม่ค่อยห่วงเท่าไรหรอก แต่แดนแมงมุมสวรรค์นี่สิที่อันตราย นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่คู่ต่อสู้จะลงมือ…”

ฉินอี๋ที่ออกมาจากค่ายผู้พิทักษ์เทพกวาดมองดูสถานที่ที่จะทำการประมูลอย่างรวดเร็ว

ส่วนเทพมหาวิญญาณทั้งยี่สิบสี่ตนที่จะเข้าร่วมการประมูลก็ถูกเรียกรวมตัวแล้ว เทพมหาวิญญาณทั้งยี่สิบสี่ตนออกมาจากโรงเก็บ เคลื่อนตัวไปยังอุโมงค์เคลื่อนย้ายที่อยู่ใกล้ๆ ภายใต้การคุ้มครองของผู้พิทักษ์เมืองจำนวนมาก

……

“รีบดูนั่นเร็ว เทพมหาวิญญาณที่เข้าร่วมการประมูลมาถึงอุโมงค์เคลื่อนย้ายแล้ว การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วค่ะ!”

จูลี่ที่ยืนอยู่หน้ากล้องยืนหันหลังให้ฉากแสงแถบหนึ่ง กล่าวรายงานอย่างตื่นเต้น

ขณะเดียวกันก็มีสื่อจากที่ต่างๆ ที่ทำแบบเดียวกันกับเธอ

ด้านนอกตำหนักคุนกว่าง เจ้าเมืองสามสิบหกคนที่เป็นกรรมการในการประมูลได้มาประจำที่กันหมดแล้ว เลขาธิการใหญ่ทั้งห้าไม่ได้ทำหน้าที่กรรมการเพราะต้องคอยจัดการเรื่องต่างๆ ทั่วทั้งดินแดนเซียนในระหว่างการประมูล แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังเดินทางมาดูการประมูล

ทันใดนั้นเอง เจ้าเมืองทั้งสามสิบหกคนก็ทยอยลุกขึ้นยืน ชายที่ดูเหมือนบัณฑิตบอบบางในชุดคลุมยาวสีเขียวผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างเรียบร้อยนุ่มนวล เจ้าเมืองทั้งสามสิบหกคนประสานมือคำนับ

ภายในภาพการถ่ายทอดสดของทุกๆ เมือง บัณฑิตที่ดูสง่างามคนหนึ่งเดินผ่านกลุ่มเจ้าเมืองไปคล้ายเดินเล่นอย่างสบายอารมณ์ ทำเอาผู้คนจำนวนมากในดินแดนเซียนต่างพากันประหลาดใจ

ไม่จำเป็นต้องอธิบาย ทุกคนต่างมองออกว่าท่านผู้นี้คือเจ้าแคว้นหนานหรูแห่งแคว้นเซียนคุนกว่าง คนจำนวนมากที่จับตาดูการถ่ายทอดสดก็เพิ่งจะรู้ว่าเจ้าแคว้นหนานหรูหน้าตาเป็นอย่างไร ดูแล้วอายุยังน้อยอย่างมาก

………………………………………………………………

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท