ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 198 พี่ ผมนับถือในสายตาของพี่

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 198 พี่ ผมนับถือในสายตาของพี่

“เสี่ยวอี๋ กลับบ้านเถอะ”

ไป๋หลิงหลงเข้าไปในห้องทำงานของฉินอี๋ เอ่ยเตือนฉินอี๋ที่นั่งเงียบๆ อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน

เวลานี้ดึกมากแล้ว มีเรื่องราวให้ต้องจัดการมากมาย ฉินอี๋ทำงานล่วงเวลาจนถึงกลางดึกอีกครั้ง เธอไม่ชอบปล่อยงานที่สามารถจัดการได้ในวันนี้ค้างไว้จนถึงวันที่สอง ชอบจัดการให้เสร็จภายในวันเดียว ช่วงนี้มีเรื่องมากมายให้ต้องจัดการ ดังนั้นเธอจึงทำงานจนดึกจนดื่นแทบจะทุกวัน

ฉินอี๋ตอบกลับมานิ่งๆ ว่า “หลิงหลง ฉันอยากอยู่คนเดียวหน่อย”

ไป๋หลิงหลงงุนงงไปเล็กน้อย แต่ก็เหมือนจะเข้าใจขึ้นมาทันที “ได้” เธอตอบรับแล้วถอยออกไป ปิดประตูห้องทำงานอย่างเบามือ

ฉินอี๋ที่เงียบไปครู่หนึ่งเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักข้างหนึ่งของโต๊ะทำงาน หยิบกรอบรูปที่คว่ำหน้าอันหนึ่งออกมา ก่อนจะวางตั้งเอาไว้บนโต๊ะอย่างเงียบๆ

ภายในกรอบรูปมีรูปผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยอยู่คนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยที่น่ารักคนหนึ่ง เป็นรูปของแม่และลูกสาวที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข

เด็กหญิงตัวเล็กๆ ในรูปนั้นคือฉินอี๋ที่ยังเป็นเด็ก และผู้หญิงที่งดงามคนนั้นก็คือแม่ของเธอ

ในเวลานั้นยังไม่มีคำว่าการถ่ายภาพ แต่โชคดีที่เทคโนโลยีในด้านต่างๆ ของแคว้นเซียนมีความก้าวหน้ากว่าโลกมนุษย์มาโดยตลอด ตัวอย่างเช่นรถยนต์ที่ไม่ต้องเติมทำมันอะไรทำนองนั้น แค่หินวิญญาณพลังงานไม่กี่ก้อนก็ทำให้รถให้วิ่งได้เป็นเวลานานแล้ว

วิธีในการเก็บภาพเหมือนนั้นมีมานานแล้ว แต่วิธีการเก็บภาพบางอย่างในเวลานั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเข้าถึงได้ โชคดีที่ในเวลานั้นตระกูลฉินร่ำรวยมากพอ มีอยู่ครั้งหนึ่งฉินเต้าเปียนได้ใช้เงินเป็นจำนวนมาก จ้างให้คนนำเครื่องมือวิเศษมาบันทึกภาพเหมือนของทั้งครอบครัวเอาไว้เป็นที่ระลึก

และเป็นเพราะการมีอยู่ของภาพเหมือนนี้ ฉินอี๋ได้ใช้วิธีการทางเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ภาพตัวเองและแม่ของเธอเมื่อครั้งยังมีชีวิตออกมาเป็นรูปภาพ

หากไม่ทำเช่นนี้ หลังจากผ่านมาเป็นเวลานานหลายปี เธอคิดว่าตัวเธอคงจะลืมไปแล้วว่าแม่ของเธอหน้าตาเป็นอย่างไร

เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างหลิ่วจวินจวินและพ่อของเธอที่เปลี่ยนไป จึงไม่มีใครเอารูปแม่ของเธอออกมาวางอีก ในแง่หนึ่งแล้วเธอไม่อยากทำให้หลิ่วจวินจวินต้องลำบากใจ ดังนั้นจึงเก็บรูปภาพของแม่เอาไว้ในลิ้นชักห้องทำงานและลิ้นชักห้องนอนของตัวเองเท่านั้น

นิ้วของเธอลูบไล้ไปบนใบหน้าที่ยิ้มแย้มของผู้เป็นแม่ที่อยู่ในรูปภาพ ขอบตาของฉินอี๋แดงเรื่อขึ้นมา ในปากส่งเสียงพึมพำออกมาเบาๆ “แม่คะ…”

เมื่อคำพูดหลุดออกมาจากปาก ไหล่อันบอบบางของเธอก็สั่นสะท้านขึ้นมา ร่ำไห้ออกมาเงียบๆ หยดน้ำตาไหลรินลงมา

สำหรับเธอแล้ว วันนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก หอการค้าตระกูลโจวและหอการค้าตระกูลพานไม่เพียงแต่จะพังพินาศไปแล้ว แต่เธอยังได้รับข่าวมาด้วยว่าโจวหม่านเชาและพานชิ่งฆ่าตัวตายอย่างแปลกประหลาดอยู่ภายในคุก

การที่จะบอกว่าจู่ๆ ทั้งสองคนก็ฆ่าตัวตายไปพร้อมกัน เกรงว่ากระทั่งคนธรรมดาก็ยังไม่เชื่อเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนอย่างเธอ เธอรู้ดีว่าสองคนนั้นถูกฆ่าปิดปาก

ในแง่หนึ่งแล้ว การล้มตายและความพังพินาศของครอบครัวโจวหม่านเชาและพานชิ่งก็เป็นเธอที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง

การตายของแม่เธอเมื่อในอดีต แม้จะบอกว่ามีความเกี่ยวข้องกับคู่แข่งทางการค้าคนอื่นๆ แต่เบื้องหลังจะมีความเกี่ยวข้องกับหอการค้าตระกูลพานและหอการค้าตระกูลโจวหรือไม่นั้น เธอเองก็ไม่รู้เช่นกัน หรือต่อให้เกี่ยว เธอก็ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของหอการค้าตระกูลโจวหรือว่าหอการค้าตระกูลพาน

แต่ตอนนี้ ต่อให้มีความเกี่ยวข้องจริง มันก็ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว เธอได้ล้างแค้นแล้ว แต่ต่อให้ล้างแค้นอีกสักกี่ครั้งแล้วจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้? สุดท้ายแล้วแม่ของเธอก็กลับมาไม่ได้อยู่ดี!

สิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้คือมองดูรูปภาพแล้วปลอบใจดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เมื่ออารมณ์ของเธอค่อยๆ สงบลง เธอก็เช็ดน้ำตาบนใบหน้า วางกรอบรูปกลับเข้าไปในลิ้นชัก

เธอยืนขึ้นแล้วเปิดชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหลัง เดินเข้าไปในห้องน้ำ มองดูตัวเองที่ขอบตาแดงเรื่อภายในกระจก พูดกับตัวเองที่อยู่ในกระจกว่า “ฉันคือฉินอี๋ ฉันเป็นประธานของหอการค้าตระกูลฉิน ผู้คนมากมายกำลังเฝ้าดูฉันอยู่ ฉันจะแสดงความอ่อนแอออกมาไม่ได้…”

เธอพูดคำพูดเหล่านี้กับตัวเองซ้ำๆ คล้ายว่ากำลังสะกดจิตตัวเองอยู่ ทำให้ตัวเองรวบรวมความฮึกเหิมขึ้นมาได้อีกครั้ง จากนั้นถึงจะเปิดก๊อกน้ำ วักน้ำล้างหน้าไม่หยุด พยายามชะล้างคราบน้ำตาบนใบหน้าให้สะอาด

ก็เหมือนกับที่เธอพูดกับตัวเอง เธอคือประธานของหอการค้าตระกูลฉิน เธอไม่ต้องการให้ใครเห็นเธอร้องไห้

หลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อย เธอก็กลับเข้าไปในห้องทำงานที่อยู่ด้านนอก ยืนอยู่ข้างหน้าต่าง กอดอกพลางทอดตามองดูแสงไฟที่กระจัดกระจายด้านนอกหน้าต่าง

นับแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีหอการค้าตระกูลโจวและหอการค้าตระกูลพานที่คอยกดขี่ข่มเหงหอการค้าตระกูลฉินอีกแล้ว

นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ในแวดวงธุรกิจทั่วทั้งแคว้นเซียนคุนกว่าง หอการค้าตระกูลฉินจะเป็นผู้นำเพียงหนึ่งเดียว!

ฉินอี๋สูดหายใจเข้าลึกๆ หมุนตัวเดินออกไป เลิกงาน

……

หอการค้าตระกูลโจวและหอการค้าตระกูลพานที่ยิ่งใหญ่ล้มละลายลงเนื่องจากห่วงโซ่เงินทุนขาดสะบั้น โดยเฉพาะข่าวการตายของพานชิ่งและโจวหม่านเชาที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแคว้นเซียนคุนกว่าง ตามท้องถนนและตรอกซอกซอยเริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องนี้

ตอนรุ่งเช้า ภายในร้านขายเสื้อผ้าที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เหยียนฝูถือไม้ปัดฝุ่นปัดโน่นปัดนี่ไปทั่ว คล้ายกำลังทำความสะอาดอยู่

คนๆ หนึ่งเปิดประตูแล้วเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ไม่ใช่ใครอื่น เป็นเซี่ยงเต๋อเฉิงที่เพิ่งออกไปข้างนอกได้ไม่นาน เขาเข้ามาในร้านแล้วรีบเอ่ยอย่างร้อนใจว่า “พี่ วันนี้ไม่ต้องขายแล้ว ปิดร้านก่อน”

เหยียนฝูไม่ได้ถามว่าทำไม แต่รู้ว่าถ้าอีกฝ่ายเอ่ยมาเช่นนี้ แสดงว่าจะต้องมีเหตุผลแน่ เขากับเซี่ยงเต๋อเฉิงจึงทำการปิดร้านทันที

หลังล็อกประตูเรียบร้อย ทั้งสองคนก็รีบขึ้นไปชั้นบน เข้าไปในห้องห้องหนึ่งแล้วถึงจะหยุดลง เหยียนฝูจ้องมองเซี่ยงเต๋อเฉิง รอให้เขาพูดออกมา

แต่เซี่ยงเต๋อเฉิงกลับอึกอักลังเล

สุดท้ายเหยียนฝูทนไม่ไหว จึงเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

เซี่ยงเต๋อเฉิงตอบอย่างสิ้นหวังว่า “พี่ หอการค้าตระกูลพานล้มละลายแล้ว พานชิ่งฆ่าตัวตายในคุก หอการค้าตระกูลโจวก็ล้มละลายไปด้วย โจวหม่านเชาคนนั้นก็ฆ่าตัวตายในคุกเหมือนกัน”

เหยียนฝูค่อนข้างสงสัย “ฆ่าตัวตายในคุกทั้งสองคน มันจะเป็นไปได้ยังไง?”

เซี่ยงเต๋อเฉิงเองก็ไม่ได้อธิบายอะไรอีก เขาเดินไปทางด้านหนึ่งของห้องแล้วเปิดฉากแสงขึ้นมา ค้นหาข่าวให้เหยียนฝูดูเอง

เขาเองก็เพิ่งจะได้ยินผู้คนพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ในตอนที่เดินออกไปข้างนอกเมื่อครู่นี้เช่นกัน แล้วก็ได้เห็นข่าวการตายที่ฉายอยู่บนถนน เขาถึงได้รีบกลับมาแจ้งข่าว

เหยียนฝูดูข่าวบนฉากแสง ใบหน้าค่อยๆ คร่ำเคร่งขึ้นมา

…..

ลู่หงเยียนรอหลินยวนเลิกงาน ในที่สุดหลินยวนก็กลับมา เธอรีบเข้าไปในห้องกับหลินยวนทันที

จางเลี่ยเฉินที่กำลังต้มโจ๊กอยู่ในลานบ้านหันมองดูร่างของทั้งสองคนหายไปทางด้านหลังประตูที่ปิดสนิท ส่ายศีรษะขึ้นมาเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้

ลู่หงเยียนที่ปิดประตูหมุนตัวกลับมาแล้วเอ่ยว่า “พานชิ่งกับโจวหม่านเชาฆ่าตัวตายแล้วเพคะ”

หลินยวนพยักหน้า “ฉันเห็นข่าวแล้ว”

ลู่หงเยียนถอนใจ “หอการค้าที่ใหญ่ขนาดนี้ บทจะพังทลายก็พังทลายลงง่ายๆ แบบนี้ ฉินอี๋คนนี้ช่าง…” เธอส่ายศีรษะ เปลี่ยนประเด็นว่า “รอบตัวหลัวคังอันมีความเคลื่อนไหวอะไรหรือเปล่าเพคะ?”

หลินยวนตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่มีอะไรผิดปกติ”

ลู่หงเยียนครุ่นคิด “เป็นไปได้ไหมว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้ข้อมูลที่เราปล่อยออกไป?”

หลินยวนว่า “นอกเสียจากคนที่ติดกับคนนั้นจะไม่ได้รายงานขึ้นไป ไม่อย่างนั้นก็ไปเป็นไม่ได้ที่ทางนั้นจะคิดเชื่อมโยงอะไรไม่ได้แม้แต่นิดเดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากที่ตอนนี้เวลาหลัวคังอันไปไหนมาไหนจะมีคนคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายแล้ว มันก็เป็นไปได้ยากที่พวกเขาจะเข้าใกล้ตัวหลัวคังอันได้ เว้นเสียแต่พวกเขาจะบุกเข้ามา”

ลู่หงเยียนเอ่ยว่า “เราควรทำให้หลัวคังอันหลุดออกจากวิถีชีวิตในตอนนี้หน่อยไหมเพคะ ให้เขากลับไปสำมะเลเทเมาเหมือนเมื่อก่อน จะได้สร้างโอกาสให้อีกฝ่ายได้เข้าใกล้หลัวคังอันดู?”

หลินยวนเอ่ยว่า “ตอนนี้เพิ่งจะรู้ความลับของหลัวคังอัน แล้วหลัวคังอันยังมาเปิดโอกาสให้เข้าใกล้อีก มันออกจะดูจงใจเกินไปหน่อย ถ้าอีกฝ่ายได้ข้อมูลไป แต่กลับไม่รีบร้อนลงมือ นั่นแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายมีความระมัดระวัง ถ้าเราไปทำแบบนั้นมันกลับจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น เรื่องนี้เราไม่จำเป็นต้องรีบร้อน คนที่รีบร้อนควรจะเป็นอีกฝ่ายมากกว่า อีกอย่าง ยิ่งทางฝั่งนั้นไม่มีปฏิกิริยาอะไร พวกเรากลับยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวัง”

ลู่หงเยียนลังเลสงสัยเล็กน้อย ลองถามว่า “พระองค์กำลังจะบอกว่าพวกเขาอาจจะเข้าหาหลัวคังอันผ่านทางพระองค์หรือเพคะ?”

หลินยวนกล่าว “หากพวกเขาไม่รู้รายละเอียดของหลัวคังอัน พวกเขาก็ยากจะลงมือได้ และพวกเขาก็ต้องเข้าหาหลัวคังอันผ่านทางคนที่อยู่รอบๆ หลัวคังอันอย่างแน่นอน ซึ่งคนที่ใกล้ชิดกับหลัวคังอันที่สุดก็มีอยู่แค่สองคน คนหนึ่งคือจูเก่อม่าน อีกคนหนึ่งคือฉัน จูเก่อม่านแทบจะเข้าออกจากบ้านพร้อมกับหลัวคังอัน ปกติจะอยู่กับหลัวคังอันตลอด เรียกได้ว่าผู้คุ้มกันของหลัวคังอันก็คือผู้คุ้มกันของเธอ”

“แล้วก็ยังมีเรื่องความเจ้าชู้ของหลัวคังอันที่ขึ้นชื่ออย่างมากอีก หากเปลี่ยนเป็นฉัน ฉันเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะเอาจูเก่อม่านมาข่มขู่หลัวคังอันได้หรือเปล่า ยิ่งไปกว่านั้นข้างกายจูเก่อม่านก็มีคนของหอการค้าตระกูลฉินอยู่เต็มไปหมด เข้างานก็ต้องเจอกับคนของหอการค้าตระกูลฉิน การที่จู่ๆ เธอก็หายไปจากสายตาของพวกเขามันจะถูกสงสัยเอาได้ง่าย ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่เป้าหมายที่เหมาะสม และต่อให้พวกเขาจะลงมือกับจูเก่อม่านจริงๆ ทันทีที่หลัวคังอันมีอะไรผิดปกติ ฉันก็จะรับรู้ได้ทันทีเช่นกัน เมื่อคิดดูแล้ว มันก็มีแต่ฉันเนี่ยแหละ ช่วงนี้เธอต้องระวังเอาไว้หน่อย”

ลู่หงเยียนพยักหน้า “พวกเรารู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร นี่ทำให้เราสามารถเตรียมตัวได้ เวลานี้พวกเรานับว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบ หม่อมฉันรู้ว่าควรจะทำอย่างไร พระองค์ไม่ต้องเป็นกังวลเพคะ ใช่แล้วเพคะ หม่อมฉันมีอะไรสนุกๆ จะให้พระองค์ดูเพคะ” กล่าวจบก็พลิกมือ เผยให้เห็นหินผลึกสำหรับเก็บภาพชิ้นหนึ่ง

หลินยวนไม่รู้ว่ามันคืออะไร จึงรอดู

ลู่หงเยียนเดินไปด้านข้าง เอาหินผลึกเสียบเข้าไปในอุปกรณ์ฉายฉากแสง ไม่นาน ภายในฉากแสงที่ฉายขึ้นมาก็มีภาพเหยียนฝูและเซี่ยงเต๋อเฉิงที่อยู่ในร้านเสื้อผ้าปรากฏขึ้นมา

หลังจากทั้งสองคนมีท่าทีประหลาดใจอย่างมากและพูดคุยกันถึงเรื่องของหอการค้าตระกูลโจวและหอการค้าตระกูลพานขึ้นมาเล็กน้อย พวกเขาก็เปิดฉากแสงขึ้นมาดูข่าว ภายในข่าวก็พูดถึงเรื่องของหอการค้าตระกูลโจวกับหอการค้าตระกูลพานเช่นกัน

หลินยวนไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น จึงกอดอกและสังเกตดูอย่างละเอียด

หลังจากข่าวจบลง เซี่ยงเต๋อเฉิงเห็นเหยียนฝูจ้องมองฉากแสงนิ่งๆ ไม่มีการตอบสนองใดๆ เขาจึงเดินเข้าไปปิดฉากแสง ถอนใจพลางกล่าวว่า “พี่ หอการค้าตระกูลพานพังพินาศแล้ว พานชิ่งตายแล้ว ลูกสาวคนโตกับลูกสาวคนรองของพานชิ่งก็ตายแล้วเหมือนกัน ต่อให้พวกเราจะหาพานหลิงเยวี่ยเจอและช่วยเธอออกมาได้ แต่พวกเราก็ไม่มีที่ให้ไปรับเงินรางวัลหนึ่งพันล้านมุกแล้ว”

พานหลิงเยวี่ย? รางวัล? หลินยวนมึนงง ตอนนี้ยังมีคนวุ่นอยู่กับเงินรางวัลของพานหลิงเยวี่ยอยู่อีกเหรอเนี่ย?

เขารู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไร สองคนนี้จับตาดูเขามานานขนาดนี้ เพียงเพื่อเรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ? พานหลิงเยวี่ยถูกเขาฆ่าตายไปตั้งนานแล้ว นี่ไม่เท่ากับทำไปโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ?

อีกอย่าง ทำไมสองคนนี้ถึงต้องมาจับตาดูเขาอยู่ตลอดเวลา? หรือพวกเขาจะรู้ว่าเขาเป็นคนฆ่าพานหลิงเยวี่ย? แต่พวกเขารู้ได้อย่างไรล่ะ?

เหยียนฝูถามด้วยน้ำเสียงคร่ำเคร่ง “นายอยากจะพูดอะไรกันแน่?”

เซี่ยงเต๋อเฉิงถอนใจ “พี่ เรื่องพานหลิงเยวี่ยมันจบแล้ว ในเมื่อจบแล้ว อย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ บางทีเส้นทางที่อยู่ตรงหน้าเราตอนนี้ก็อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งก็ได้นะพี่”

เหยียนฝูจ้องมองเขา “ทางเลือกอะไร?”

“ขายเสื้อผ้าไง!” เซี่ยงเต๋อเฉิงกล่าวด้วยความมั่นใจ “พี่ ผมชื่นชมในสายตาของพี่นะ เรื่องนี้ผมไม่อาจเทียบพี่ได้เลย ด้วยสายตาในการเลือกสินค้าของพี่ แค่ขายๆ ไปโดยไม่สนใจอะไร เรายังทำเงินได้ห้าหมื่นกว่ามุกต่อเดือน นี่ถ้าพี่ตั้งใจทำจริงๆ จังๆ ล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะขายได้เพิ่มอีกเท่าไร นี่ถ้าขายไปสักปีนึง บางทีเราอาจจะมีรายได้ถึงล้านมุกก็ได้ ตอนนี้ผมนับว่าเข้าใจแล้ว ด้วยความสามารถของพี่ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็ล้วนแต่ทำได้ดี พี่ ถ้ามีรายได้ขนาดนี้ พวกเรายังต้องออกไปเร่ร่อน ไปเสี่ยงชีวิตหาเงินพวกนั้นอีกเหรอ? งานที่ไม่แน่นอนพวกนั้น มันสู้งานที่สบายใจแล้วก็มั่นคงแบบนี้ไม่ได้เลยนะ!”

อะไรวะเนี่ย? หลินยวนฟังจนมึนงง

ลู่หงเยียนที่ได้ดูวิดีโอเป็นครั้งที่สองอมยิ้มมุมปากขึ้นมา คล้ายกำลังกลั้นหัวเราะ

สายตาในการขายเสื้อผ้าอย่างนั้นเหรอ? ใบหน้าของเหยียนฝูคล้ายจะบิดเบี้ยวขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นเขาหมุนตัวกลับมา สีหน้าท่าทางแปรเปลี่ยนเป็นดูเยือกเย็น เอ่ยถามว่า “นายแสวงหาเงินทองหรือว่าชื่อเสียง?”

เซี่ยงเต๋อเฉิงดูงุนงง “มันต่างกันยังไงพี่?”

เหยียนฝูตอบว่า “รู้ไหมว่าจอมยุทธ์พเนจรกับผู้บำเพ็ญเพียรไร้สำนักมันต่างกันยังไง?”

………………………………………………………………

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน