ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 214 ผู้หญิงคนนี้อยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 214 ผู้หญิงคนนี้อยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก

คนคาดผ้าปิดบังใบหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรับเอาโทรศัพท์มือถือคืนไป มือที่บีบคอจางเลี่ยเฉินเอาไว้เพื่อเตรียมจะหยุดการสนทนาก็คลายออกด้วย เขาตบไหล่จางเลี่ยเฉินเบาๆ “ทำได้ไม่เลว ขอเพียงล่อคนมาได้ ฉันรับรองว่าหลังจบเรื่องแล้วจะไว้ชีวิตแก ปล่อยแกกลับไป!”

นี่กลับไม่ใช่คำพูดโกหก เห็นแก่ที่อีกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่างว่าง่ายเช่นนี้ หลังจบเรื่องนี้แล้วเขาคิดจะปล่อยจางเลี่ยเฉินไปจริงๆ

เหตุผลแรกคือจางเลี่ยเฉินไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร เหตุผลที่สองเป็นเพราะคนผู้นี้หักหลังพวกเดียวกัน หลังปล่อยไปแล้ว เผลอๆ อาจจะยังใช้ประโยชน์ได้อยู่

ตอนแรกพวกเขานึกว่าจะต้องเปลืองแรงเสียหน่อย ใครจะไปรู้ว่าเพิ่งจะลงมือ คนคนนี้ก็รีบตะโกนขอร้องให้ไว้ชีวิตทันที แสดงออกว่ายินดีให้ความร่วมมือ

พอได้ยินว่าจะให้หลอกหลินยวนกับลู่หงเยียนมา เขาเพียงแค่ผงะไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ลังเลอะไรมากนัก รีบพยักหน้าหงึกๆ ตอบตกลงที่จะให้ความร่วมมืออย่างรวดเร็ว

ตอบตกลงเร็วขนาดนี้เลย? ทางนี้นึกสงสัยว่าจะมีหลุมพรางอะไรหรือเปล่า เพราะจากที่อวี๋สุ่ยชิงว่ามา แม้นความสัมพันธ์ของจางเลี่ยเฉินกับหลินยวนคล้ายจะดูเฉยชา แต่ความจริงกลับมีความรู้สึกเหมือนพ่อลูกกันอยู่นิดหน่อย การที่อีกฝ่ายขายลูกตัวเองออกมาง่ายๆ แบบนี้ จะไม่ให้พวกเขารู้สึกลังเลได้อย่างไร?

ไม่ว่ามองยังไงก็มีปัญหา พวกเขาสงสัยว่าจางเลี่ยเฉินจะคิดไม่ซื่อ จึงอัดจางเลี่ยเฉินไปยกหนึ่ง

รอยบวมปูดบนใบหน้าของจางเลี่ยเฉินจึงได้มาเพราะเหตุนี้

ไม่ได้เป็นเพราะไม่ให้ความร่วมมือจึงโดนอัด หากแต่โดนอัดเพราะให้ความร่วมมือดีเกินไป

ที่อัดไปอีกครั้งก็เพียงเพราะอยากเตือนอีกฝ่ายไม่ให้เล่นลูกไม้ใดๆ แต่อีกฝ่ายตอบตกลงให้ความร่วมมือแล้ว แล้วยังจะเอายังไงอีก? จะไปอัดอีกฝ่ายจนกลับคำไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ!

ปรากฏว่าพอลองดู ผลลัพธ์ออกมาดีมาก อีกฝ่ายเป็นพวกกลัวตายจริงๆ ไม่ได้หลอกลวง ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จางเลี่ยเฉินจึงพยักหน้าหงึกๆ “แน่นอนครับ จะให้ทำอะไรก็บอกมาได้เลยครับ”

คนคาดผ้าปิดบังใบหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มตบไหล่เขาอีกครั้ง ท่าทางเหมือนกำลังบอกว่าแกทำดีมาก ก่อนจะหันหน้ากลับไปเอ่ยสั่งการ “ทำตามแผนที่วางไว้!”

…..

ณ สำนักงานใหญ่ของหอการค้าตระกูลฉิน

หลินยวนมองดูหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงสถานะว่าสายสนทนาถูกวางไปแล้ว แค่นหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เกิดเรื่องจริงๆ ด้วย”

ลู่หงเยียนถอนใจ “ลุงเฉินนี่ก็แสดงเก่งจริงๆ นี่ถ้าไม่เป็นเพราะรู้อยู่ก่อนแล้ว เราคงจะต้องถูกลุงเฉินหลอกแน่ๆ เพิ่งจะแยกกันไม่นานเอง ขายพวกเราง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ?”

หลินยวนกล่าว “ฉันบอกแล้วว่าเขาทำเรื่องแบบนี้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายอะไร ถ้าเขาหัวแข็งกว่านี้ล่ะก็ ฉันคงไม่กล้าให้เขาไปเสี่ยงแบบนี้หรอก”

ลู่หงเยียนอดขำไม่ได้ “เหมือนพวกเราก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาเท่าไรนะเพคะ พวกเราเองก็ขายลุงเฉินไปง่ายๆ เหมือนกัน”

หลินยวนส่ายศีรษะเล็กน้อย พบว่าโรงอีหลิวนี่ช่างเหมือนกันจริงๆ

ในเวลานี้เอง โทรศัพท์มือถือเขาดังขึ้นมาอีกครั้ง พอหยิบขึ้นมาดู เขาก็แค่นเสียงเหอะออกมา กล่าวว่า “ส่งตำแหน่งมาแล้ว แผนที่!”

ลู่หงเยียนหยิบเอาแผนที่ของเมืองปู๋เชวี่ยออกมาทันที เดินไปวางไว้บนโต๊ะทำงานแล้วกางออก หลินยวนถือโทรศัพท์มือถือพลางเดินเข้ามา นิ้วเคาะไปบนตำแหน่งหนึ่งบนแผนที่ หลังจากนั้นสำรวจดูสภาพภูมิประเทศที่อยู่รอบๆ

หลังดูอย่างละเอียดแล้ว เขาก็เอ่ยเบาๆ ว่า “สถานที่ถือว่าค่อนข้างไกล แต่ก็ยังอยู่ในเมืองอยู่ ถ้าหากปะทะกัน เกรงว่าคงจะทำให้ผู้พิทักษ์เมืองที่อยู่ในเมืองรู้ตัว…มีความเป็นไปได้อยู่แค่สองอย่าง”

ลู่หงเยียนกล่าว “การใช้ลุงเฉินเป็นตัวประกัน บางทีอาจจะทำให้พวกเราเกิดความลังเล ไม่กล้าลงมือเต็มที่ ส่วนอีกเหตุผลหนึ่ง เมื่อดูจากสภาพภูมิประเทศแล้ว ตรงนั้นเหมือนจะเป็นแอ่งกระทะ อาจจะมีการวาง ‘ข่ายพลังอัสนีกระซิบ’ เอาไว้ ทำให้เก็บเสียงอึกทึกจากการต่อสู้ได้ การที่อีกฝ่ายกล้าคิดจะเล่นงานหอการค้าตระกูลฉิน แสดงว่าจะต้องมีความสามารถในการวางข่ายพลังนี้ได้อย่างแน่นอน พื้นที่แอ่งกระทะนี้ช่วยปิดบังแสงสว่างจากข่ายพลังเอาไว้ได้ ทำให้ไม่ถูกผู้พิทักษ์เมืองพบเห็นเพคะ”

หลินยวนพยักหน้าเล็กน้อย ความเป็นไปได้สองอย่างที่เขาพูดถึงก็คือเรื่องนี้ เขาดึงมือกลับมา ตอบข้อความจางเลี่ยเฉินกลับไปว่า ‘ได้รับแล้ว เดี๋ยวเลิกงานแล้วจะไป’

จากนั้นเขากดโทรไปหาหลัวคังอัน “ฉันเอง อย่าชักช้า รีบมาที่นี่”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่หงเยียนก็เก็บแผนที่ที่อยู่บนโต๊ะ ดึงเอาผ้าไหมออกมาผืนหนึ่ง พันคอของตัวเองเอาไว้ ปกปิดรอยบาดแผลที่อยู่บนลำคอ

หลังหลัวคังอันที่อยู่ในห้องทำงานวางสายไปก็สบถด่าใส่โทรศัพท์มือถือ “เรียกอยู่นั่นแหละ มาเป็นรองประธานเองเลยสิวะ”

ปากถึงแม้จะว่าออกไปเช่นนี้ แต่ร่างกายยังคงเชื่อฟังเป็นอย่างดี รีบลุกออกจากห้องทำงานไป ตรงไปยังห้องทำงานของหลินยวน

หลังมาถึงก็เคาะประตู พอได้รับอนุญาตแล้วถึงจะผลักประตูเดินเข้าไป

หลัวคังอันเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู มองดูหลินยวนและลู่หงเยียนที่อมยิ้มเล็กน้อย อดกวาดมองไปรอบๆ ไม่ได้ ลองเอ่ยถามว่า “ท่านประธานไปแล้วเหรอ?”

สายตาที่ดูสงสัยใคร่รู้พยายามสังเกตดูอากัปกิริยาของทั้งสองคน คล้ายพยายามค้นหาร่องรอยที่หลงเหลือหลังจากที่ฉินอี๋มาเยือน แต่ผลกลับไม่เป็นอย่างที่หวังเอาไว้ เขามองไม่เห็นถึงความผิดปกติใดๆ จากสีหน้าของทั้งสองคน

หลินยวนกล่าว “ไปแล้ว แกรีบติดต่อจูลี่ หาข้ออ้างเรียกจูลี่ออกมา”

หลัวคังอันสงสัย “ตอนนี้เนี่ยนะ เรียกเธอออกมาทำไม?”

จูลี่? ลู่หงเยียนมองหลินยวน ไม่รู้ว่าท่านอ๋องจะเรียกจูลี่ออกมาทำไม มีหลายๆ เรื่องที่เธอยังไม่รู้ อย่างเช่นเรื่องที่หลินยวนให้หลัวคังอันตามจีบจูลี่ เรื่องนี้เขาก็ไม่ได้บอกเธอเช่นกัน

หลินยวนเดินเข้ามาใกล้เขา มือวางพาดไปบนไหล่ของเขา เอ่ยกำชับเขาเบาๆ

หลังฟังจบ หลัวคังอันก็ยิ่งรู้สึกงุนงง ยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจว่านี่มันหมายความว่าอย่างไร เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “อ้อมไปอ้อมมาแบบนี้ นายจะทำอะไร นายคงไม่ก่อเรื่องขึ้นในหอการค้าใช่ไหม?”

เขาฟังไม่เข้าใจ แต่ลู่หงเยียนกลับคล้ายกำลังครุ่นคิด เข้าใจในเจตนาของหลินยวนขึ้นมา เพราะเธอทำเรื่องบางเรื่องมาจนเคยชินแล้ว เพียงได้ยินก็พอเข้าใจว่ากำลังจะทำอะไร

หลินยวนตบหลังหลัวคังอัน “ทำตามที่บอกก็พอ”

หลัวคังอันอึกอักคล้ายอยากพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่มีความกล้าที่จะพูดออกไป หยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยท่าทางเหนื่อยใจ ติดต่อไปหาจูลี่ “ใช่ครับ ผมเองครับ หลัวคังอัน คุณจูลี่ รบกวนมาที่นี่ตอนนี้หน่อยได้ไหมครับ”

เสียงจูลี่ดังลอดออกมาจากในโทรศัพท์ “ตอนนี้? มีเรื่องอะไรเหรอคะ?”

หลัวคังอันกล่าว “ทางนี้มีความเห็นใหม่บางอย่างเกี่ยวกับเนื้อหาที่ตัดแล้วออกอากาศไปเมื่อวานนี้น่ะครับ เพื่อจะได้ไม่กระทบกับเนื้อหาที่จะออกอากาศซ้ำคืนนี้ รบกวนคุณจูลี่มาที่นี่ตอนนี้หน่อยได้ไหมครับ”

จูลี่กล่าว “ได้ค่ะ ฉันจะพาคนไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”

หลัวคังอันว่า “ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นหรอกครับ ผมแค่จะคุยกับคุณจูลี่ต่อหน้านิดหน่อย เดี๋ยวผมจะพยายามคุยให้เสร็จก่อนเลิกงานครับ ผมจะรอคุณนะครับ”

ตอนนี้จูลี่กลับค่อนข้างเชื่อใจในท่าทีการทำงานของเขา ถึงแม้การเดินทางไปเดินทางมาจะยุ่งยาก แต่นี่เป็นความเห็นจากลูกค้ารายใหญ่ จะให้มองข้ามไปก็ไม่ดี จึงรีบตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “ได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”

หลังวางสายไป หลัวคังอันก็ถอนใจพลางกล่าวกับหลินยวน “เรียบร้อย เดี๋ยวเธอมา”

เรียกได้ว่าจัดการได้อย่างง่ายดาย แต่เบื้องหลังของความง่ายดายตรงนี้ เป็นหลินยวนที่คอยชี้แนะปูทางให้เขาอย่างเป็นจังหวะมาโดยตลอด ความจริงแล้วสถานการณ์ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในการควบคุมของหลินยวน

หลังจากที่รู้ว่ามีคนคิดจะเล่นงานหอการค้าตระกูลฉิน ตัวเขาที่กุมความได้เปรียบอยู่ในมือก็เริ่มวางแผน ทำการสังเกตการณ์ ค่อยๆ เตรียมตัวไปทีละขั้น

เรื่องอื่นนั้นไม่กล้าพูด แต่เรื่องบางเรื่องเขาทำจนเคยชินแล้ว ประสบการณ์เรียกได้ว่าโชกโชน เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้

หลินยวนพยักหน้า แสดงความชื่นชมหลัวคังอันที่สามารถจัดการได้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะหันมากล่าวกับลู่หงเยียนว่า “เธอมาก็ดีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นมีความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำอะไรวุ่นวาย”

ลู่หงเยียนกล่าว “หมายความว่ายังไง? จะให้ฉันเล่นละครด้วยเหรอ?”

หลินยวนโบกมือส่งสัญญาณเล็กน้อย ลู่หงเยียนเดินตามเขาขึ้นไปชั้นบนทันที

หลัวคังอันเดินตามไปต้อยๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าหลินยวนที่ก้าวขึ้นไปบนบันไดกลับเหลียวหน้ามาพูดว่า “ไม่เกี่ยวกับแก รออยู่ข้างล่างไป”

“….” หลัวคังอันพูดไม่ออก เมื่อถูกสายตาของหลินยวนมองมา เขาจึงได้แต่ต้องถอยกลับไปอย่างเชื่อฟัง

เมื่อถึงหน้าโต๊ะตัวหนึ่งบนชั้นสอง หลินยวนหยิบเอาแบบพิมพ์เขียวออกมากองหนึ่ง ก่อนจะดึงเอาแบบพิมพ์เขียวออกมาจากในกองแผ่นหนึ่ง ส่วนแบบพิมพ์เขียวอื่นๆ เก็บกลับเข้าไปอีกครั้ง จากนั้นวางแบบพิมพ์เขียวที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะแล้วกางออก นั่นคือพิมพ์เขียวโครงสร้างส่วนหนึ่งของสำนักงานใหญ่หอการค้าตระกูลฉิน เขาหยิบเอาปากกาขึ้นมาทำสัญลักษณ์ทางเดินเส้นหนึ่งไปบนแบบพิมพ์เขียวอย่างรวดเร็ว

ลู่หงเยียนมองดูเขาเล็กน้อย เห็นเขาทำสัญลักษณ์อย่างคล่องแคล่ว เห็นได้ชัดว่าเตรียมการมาเป็นเวลานานแล้ว

ถูกต้อง หลินยวนเตรียมการมาเป็นเวลานานแล้ว รวมทั้งแบบพิมพ์เขียวทั้งชุดด้วย นี่ล้วนแต่เป็นแบบพิมพ์เขียวที่เขาให้ผู้จัดการแผนกธุรการคนนั้นไปเอามา

แผนกธุรการต้องคอยทำงานซ่อมแซมตามแผนกต่างๆ ในสำนักงานใหญ่ของหอการค้าตระกูลฉิน จึงรู้จักโครงสร้างของสำนักงานใหญ่เป็นอย่างดี

หลังวาดเสร็จอย่างรวดเร็ว หลินยวนก็ชี้เส้นทางพลางกล่าวว่า “รีบจำเส้นทางในส่วนตรงนี้เอาไว้ ต้องจำให้ได้ก่อนจูลี่มา อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องอื่น จำได้แล้วฉันค่อยบอกเธอว่าจะทำยังไง”

ลู่หงเยียนพยักหน้า หยิบเอาอะไรบางอย่างมาใช้แทนที่ทับกระดาษ ทับแบบพิมพ์เขียวเอาไว้ สายตาจ้องมองไปบนแบบพิมพ์เขียว นิ้วมือที่เรียวยาวนิ้วหนึ่งค่อยๆ ขยับไปมา กำลังทำการคิดคำนวณไปอย่างช้าๆ เธอมีวิธีจดจำเรื่องราวของตัวเองอยู่ เรียกได้ว่าเวลานี้เธอได้เข้าสู่สภาวะจดจำอย่างเงียบๆ แล้ว

…..

จูลี่มาแล้ว คนที่มาด้วยกันยังมีจิ้นเซียวที่คอยติดตามไม่ห่าง

ขณะที่เพิ่งขับรถเข้ามาจอดในลานจอดรถของหอการค้าตระกูลฉิน ก็มีคนเดินเข้ามาเคาะกระจกข้างรถ เป็นหลินยวน

จูลี่เปิดประตูลงมาจากรถ ยิ้มพลางกล่าวว่า “ทำไมคุณหลินมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ?”

หลินยวนมองดูจิ้นเซียวที่อยู่ตรงตำแหน่งคนขับและกำลังจ้องมองมาที่ตัวเองเล็กน้อย กล่าวตอบไปว่า “จู่ๆ ก็เรียกคุณมา รองประธานรู้สึกเกรงใจเป็นอย่างมาก ก็เลยให้ผมลงมารับครับ”

จูลี่ยิ้มเล็กน้อย “ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นหรอกค่ะ รองประธานหลัวอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”

“รองประธานบอกให้ผมลงมารับ แล้วก็ให้ผมพาคุณไปที่แผนกโฆษณาครับ” หลินยวนกล่าวอธิบาย ก่อนจะผายมือเชิญ

ทั้งสามคนเดินไปที่ลิฟต์ จิ้นเซียวเดินตามอยู่ด้านหลังทั้งสองคน

หลังจากเข้าไปในลิฟต์แล้ว จูลี่หาเรื่องคุยขึ้นมาว่า “คุณหลินช่วยรองประธานหลัวเทน้ำชาทำโน่นทำนี่ ดูเชื่อฟังรองประธานหลัวทีเดียวนะคะเนี่ย คุณเป็นนักเรียนของหลิงซาน ยินดีทำงานแบบนี้อย่างนั้นเหรอคะ?” ในขณะที่พูด สายตาก็พยายามสังเกตดูสีหน้าของหลินยวน

เมื่อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา จิ้นเซียวที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ทันทีที่ได้ยินเขาก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ยังคิดที่จะใช้คำพูดหยั่งเชิงคนผู้นี้อยู่

คืนนั้นเขาถูก ‘ทำลายความว่างเปล่า’ โจมตีจนได้รับบาดเจ็บ ไม่รู้ว่าคนที่ลงมือคือยอดฝีมือคนไหน จนกระทั่งถึงตอนนี้เขายังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่

กระทั่งเขาก็ยังไม่กล้าไปหาเรื่องกับคนของทางโรงอีหลิวง่ายๆ แต่จูลี่คนนี้กลับไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

เขารู้สึกเหนื่อยใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากคนที่ควบคุมเทพมหาวิญญาณในการประมูลคือคนผู้นี้จริงๆ ล่ะก็ อย่างนั้นการหยั่งเชิงของจูลี่แบบนี้ก็อันตรายเป็นอย่างมาก แต่นิสัยที่ชอบสืบโน่นสืบนี่ของจูลี่ทำให้เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรจริงๆ ประเด็นสำคัญคือไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์

หลินยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “รองประธานถือเป็นรุ่นพี่ของผมในหลิงซาน การได้ติดตามรองประธานเพื่อเรียนรู้ดีกว่าไปทำอะไรอย่างอื่นเยอะครับ”

จูลี่ร้องโอ้ ก่อนจะกล่าวออกมาอีกว่า “ช่วงนี้ทางสถานีอยากจะทำรายการเกี่ยวกับเทพธิดา ไม่ทราบว่าคุณหลินชื่นชอบเทพธิดาคนไหนหรือคะ ถ้าแนะนำคนที่เหมาะสมให้ฉันล่ะก็ บางทีฉันอาจจะเชิญมาแนะนำให้รู้จักกับคุณหลินได้นะคะ”

จิ้นเซียวอดเหลือบมองดูเธอไม่ได้ ไม่รู้ว่าการที่จู่ๆ เธอก็พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมามันหมายความว่าอย่างไร

ลิฟต์ขึ้นมาถึงที่หมาย ประตูเปิดออก

“ไม่มีครับ” หลินยวนตอบ ยื่นมือออกไปเพื่อสื่อว่าเชิญ ก่อนจะเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกับเธอ

“อย่างนั้นหรือคะ?” จูลี่ยิ้มเล็กน้อย “ไม่มีสักคนเลยเหรอคะ?”

“ผมไม่สนใจเทพธิดาครับ” หลินยวนส่ายศีรษะ เขาเองก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม ภายในใจจึงมีความระมัดระวัง

ในขณะที่ใกล้จะเดินไปถึงประตูแผนกโฆษณา ในตอนที่เลี้ยวตรงหัวมุม หลินยวนที่เดินนำหน้าไปก่อนเกือบจะชนเข้าไปคนที่เดินสวนเข้ามา คนที่เดินสวนมาคือลู่หงเยียน

เมื่อเห็นว่าเป็นเขา ลู่หงเยียนก็รีบสวมกอดเขาทันที ทำท่าทางออดอ้อนพลางกล่าวว่า “ไปไหนมาคะ กำลังหาคุณอยู่เลย”

หลินยวนรีบผลักเธอออก ลู่หงเยียนถึงได้พบว่าด้านหลังมีคนเดินเลี้ยวออกมา จึงรีบปล่อยมือ สีหน้าดูกระอักกระอ่วน

จูลี่ที่ได้เห็นภาพนี้เรียกได้ว่าสายตาวูบไหวทันที คล้ายได้พบอะไรสำคัญเข้าอย่างไรอย่างนั้น จ้องมองลู่หงเยียนไม่วางตา

……………………………………………………………

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน