ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 257 ติดต่อเฮยเหย่

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 257 ติดต่อเฮยเหย่

ขณะที่เพิ่งพูดจบ ด้านนอกก็มีคนเดินเข้ามารายงาน “ท่านเทพครับ ผู้พิทักษ์เทพเหยาเซียนกงมารายงานว่าหลัวคังอันเอายันต์สื่อสารให้เขาสิบใบ บอกว่าถ้าเขามีข่าวอะไรก็ให้บอกด้วย เหยาเซียนกงไม่ยอมรับ หลัวคังอันจึงดึงดันยัดให้เขาแล้ววิ่งหนีไป เหยาเซียนกงไม่กล้ารับไว้ เลยนำเอายันต์สื่อสารมาส่งมอบครับ”

จี้เผิงเลี่ยกล่าว “หลัวคังอันเป็นอะไรกับเขา ทำไมถึงต้องเอายันต์สื่อสารให้เขา?”

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “หลัวคังอันเคยเป็นผู้พิทักษ์เทพอยู่ที่เมืองหลวง เป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของเขา ก็เลยสนิทสนมกันครับ”

จี้เผิงเลี่ยยิ้มออกมา “อะไรพูดได้ อะไรพูดไม่ได้ เขายังไม่รู้หรือ? เป็นถึงผู้พิทักษ์เทพของสภาเซียน ยันต์สื่อสารสิบแผ่นก็สามารถซื้อได้หรือ? มันจะไม่ง่ายเกินไปหน่อยเหรอ? มีอะไรน่าตกใจ! ในเมื่อเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกัน แล้วยังสนิทกันอีก แค่ของขวัญติดไม้ติดมือเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ให้เขาเก็บไว้เถอะ จะว่าไปแล้ว หลัวคังอันคนนี้ถูกไล่ออกไปจากหน่วยผู้พิทักษ์เทพ จะมากจะน้อยก็นับว่าน่าเสียดายอยู่ ตอนการประมูลเขาแสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ในเมื่อเกี่ยวข้องกับทางวังพิฆาตมาร พวกเราก็ไม่สะดวกจะพูดอะไร ในเมื่อเจ้านั่นมันถูกเตะออกไปจากหน่วยผู้พิทักษ์เทพแล้ว แต่ก็ยังเป็นหน้าเป็นตาให้หน่วยผู้พิทักษ์เทพอยู่ คนคุ้นเคยได้เจอหน้ากัน ไม่จำเป็นต้องใจร้ายเกินไป”

สถานะของเขานั้นไม่ธรรมดา เป็นถึงเทพแห่งเพลิงที่สภาเซียนแต่งตั้ง การที่เขาสามารถออกจากวังเซียนมาบัญชาการอยู่ที่นี่ได้นั้นย่อมไม่ธรรมดา สำหรับเขาแล้ว ยันต์สื่อสารสิบแผ่นไม่นับเป็นอันใดเลย สามารถมองข้ามได้

“ครับ” เจ้าหน้าที่ที่มารายงานถอยออกไป

จี้เผิงเลี่ยเองก็ลุกขึ้น เดินอ้อมโต๊ะมา ค่อยๆ ก้าวออกไปจากถ้ำ ยืนหน้าตรงหน้าปากถ้ำแล้วทอดมองออกไปไกล หนวดเคราพริ้วไหวเบาๆ ท่ามกลางสายลม

…..

ณ โรงงานสร้างข่ายพลังของหอการค้าตระกูลฉิน โม่ซินก้าวอาดๆ เข้าไปในถ้ำ เดินไปถึงตรงหน้าเว่ยผิงกงที่กำลังนอนกรนพร้อมกลิ่นเหล้าคละคลุ้งอยู่บนเตียงหิน เอ่ยเรียกว่า “ผบ.เว่ยครับ”

เสียงกรนหยุดลงทันที

โม่ซินรายงานว่า “ได้รับข่าวมาครับ หลัวคังอันกับหลินยวนเข้าไปในดินแดนแห่งความฝันแล้วครับ”

เว่ยผิงกงลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมา “หอการค้าตระกูลฉินไม่ได้ขวางไว้เหรอ หรือว่าขวางไม่ได้?”

โม่ซินกล่าว “ไม่ทราบว่า ถ้าไง เราลองถามดูไหมครับ?”

เว่ยผิงกงกล่าว “คนก็เข้าไปแล้ว ถามไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร กระทั่งพวกเดนตายส่วนใหญ่พวกนั้นก็ยังไม่กล้าเข้าไปเลย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าหนุ่มนั้นจะไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่นิดเดียว นี่เท่ากับว่าเขาดึงดันจะเข้าไปเอง ไม่รู้ว่าเขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน นับว่าใจเด็ดจริงๆ เป็นฉันที่ดูเขาผิดไป ช่างเถอะ คนมันจะรนหาที่ตาย ห้ามยังไงก็ห้ามไม่อยู่หรอก ในเมื่อเขาคิดจะสละตัวเองแล้ว อย่างนั้นก็แล้วแต่ลิขิตสวรรค์ก็แล้วกัน เรื่องบางเรื่องพวกเราเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ขืนทำอะไรมากไปกลับจะเป็นการฆ่าเขาทางอ้อมเอาได้”

……

“ท่านประธานคะ หลัวคังอันกับหลินยวนเข้าไปในดินแดนแห่งความฝันแล้วค่ะ”

ภายในห้องทำงานของประธานหอการค้าตระกูลฉิน ไป๋หลิงหลงรีบเข้าไปรายงาน

ฉินอี๋ที่กำลังก้มหน้าเขียนอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะหยุดชะงัก ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองดูเธอ

ไป๋หลิงหลงกล่าวเสริมอีกประโยคว่า “ข่าวแพร่กระจายออกไปแล้วค่ะ ตอนนี้ทุกคนรู้กันหมดแล้ว พอฉันไปถามว่าพวกเขาเข้าไปเมื่อไร ถึงได้รู้ว่าพวกเขาเพิ่งจะเข้าไปในดินแดนแห่งความฝัน แต่ข่าวกลับแพร่กระจายออกไปแล้ว เหมือนมีคนจงใจปล่อยข่าวออกไปเลยค่ะ”

ยังจะมีใครได้อีก? ต่อให้เดาก็เดาได้ว่าเป็นใคร ฉินอี๋นิ่งเงียบไม่พูดอะไร

ไป๋หลิงหลงลองถาม “จะให้ยกเลิกเงินรางวัลไหมคะ?”

ฉินอี๋ก้มหน้าลง หลับตาทั้งสองข้าง เธอสามารถห้ามหลัวคังอันกับหลินยวนไม่ให้เข้าไปในดินแดนแห่งความฝันได้ แต่เธอจะยกเลิกเงินรางวัลไม่ได้

การห้ามทั้งสองคนไม่ให้เข้าไปในดินแดนแห่งความฝันนั้นเป็นแค่การหยุดไม่ให้ทั้งสองคนต้องพบเจอกับอันตราย แต่ถ้ายกเลิกเงินรางวัล อย่างนั้นก็จะไม่มีดวงตาแห่งความฝันมาให้หอการค้าตระกูลฉิน หอการค้าตระกูลฉินก็จะต้องจบสิ้นลงจริงๆ

การหยุดทั้งสองคนนั้นเป็นความรู้สึกส่วนตัวและความผูกพันทางด้านจิตใจ แต่การยกเลิกเงินรางวัลนั้นเป็นการทำลายส่วนรวมเพราะเรื่องส่วนตัว เป็นการไม่สนใจใยดีพนักงานจำนวนมากของหอการค้าตระกูลฉิน นั่นไม่ใช่สิ่งที่ประธานอย่างเธอควรจะทำ

หลังนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ ฉินอี๋ก็เอ่ยออกมาว่า “ติดต่อหลัวคังอัน บอกว่าถ้าหาดวงตาแห่งความฝันเจอแล้วให้ติดต่อพวกเรามาทันที ตอนนั้นพวกเราค่อยยกเลิกเงินรางวัลก็ยังไม่สาย ภาวนาให้ถึงเวลานั้นยังมีประโยชน์ก็แล้วกัน”

ความจริงภายในใจเธอรู้ดี ขอเพียงคนของหอการค้าตระกูลฉินไม่สามารถแก้พิษได้ ต่อให้ยกเลิกเงินรางวัลไปก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน เพราะตอนนี้เรื่องนี้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่โตแล้ว ใหญ่โตจนคนรู้กันหมดแล้ว ถ้ามีคนเอาดวงตาแห่งความฝันมาแลกเงินสามพันล้านมุกนั่น หอการค้าตระกูลฉินจะให้เงินหรือว่าไม่ให้ล่ะ?

ไป๋หลิงหลงเข้าใจความรู้สึกของเธอในเวลานี้ เอ่ยตอบรับว่า “ค่ะ”

ฉินอี๋เงยหน้าขึ้นมา ลืมตาทั้งสองข้าง มองเธอพลางกล่าวเสริมอีกประโยคว่า “บอกเขา ถ้าหาไม่เจอก็ให้พยายามรักษาตัวเองไว้ ถ้ายังไม่ถึงเส้นตายก็อย่าเพิ่งออกมา เอาไว้ปัญหาทางนี้คลี่คลายแล้วค่อยออกมา”

ไป๋หลิงหลงเข้าใจความหมายของเธอ หากเรื่องราวคลี่คลายแล้ว พวกคนที่จ้องจะเล่นงานหลัวคังอันย่อมต้องถอยไปเอง ถึงตอนนั้นค่อยออกมาก็น่าจะปลอดภัยแล้ว จึงพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ได้ค่ะ ฉันจะไปติดต่อหารองประธานหลัวเดี๋ยวนี้ค่ะ”

ขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไป ฉินอี๋ก็เรียกเธอเอาไว้อีกครั้ง ต่อสายติดต่อหนานชีหรูอันต่อหน้าเธอ ถามว่าครั้งนี้ตระกูลหนานชีได้ส่งคนไปหรือไม่

สำหรับเรื่องนี้หนานชีหรูอันค่อนข้างคลุมเครือ บอกว่าเข้าไปแล้ว ตระกูลหนานชีส่งคนเข้าไปแล้ว แต่คนที่ถูกส่งเข้าไปครั้งนี้จะเข้าไปปฏิบัติการลับ ถ้าเกิดความแตกขึ้นมา จะให้เรื่องนี้พัวพันกับตระกูลหนานชีไม่ได้เด็ดขาด จึงไม่สะดวกจะบอกฉินอี๋จริงๆ

การที่อีกฝ่ายคลุมเครือก็เท่ากับเป็นการยอมรับแล้วว่าได้ส่งคนเข้าไป ฉินอี๋จึงฝากฝังหนานชีหรูอันต่อหน้าไป๋หลิงหลง ว่าทันทีที่ทางหลัวคังอันต้องการความช่วยเหลือก็ขอให้ทางตระกูลหนานชีเข้าช่วยเหลือด้วย

หนานชีหรูอันเพียงบอกว่าเข้าใจแล้ว แต่กลับไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัด เรื่องนี้เขาเองก็ทำได้เพียงรายงานขึ้นไป เขาเองก็ไม่รู้ว่าทางตระกูลหนานชีส่งใครเข้าไปกันแน่ รายชื่อไม่อาจเปิดเผยให้ใครรู้ได้

เดิมทีฉินอี๋อยากจะได้วิธีติดต่อกับคนที่ตระกูลหนานชีส่งเข้าไปข้างใน เพื่อที่ไป๋หลิงหลงจะได้เอาไปบอกหลัวคังอัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ จึงได้แต่ต้องล้มเลิกความคิดนี้ไป

……

ณ เมืองหมอก ภายในร้านร้านหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากร้านกลิ่นหอม เหมือนจะอยู่ห่างจากร้านกลิ่นหอมไปเพียงแต่สองลี้เท่านั้น เถ้าแก่ของร้านนั่งนิ่งๆ อยู่ในโถงด้านหลังร้าน

ข้างกายเขามีพนักงานยืนอยู่สองคน

ต่างก็ไม่ได้ใช้ใบหน้าที่แท้จริง เดิมทีคนที่สามารถเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงในเมืองหมอกได้ก็มีอยู่ไม่มากอยู่แล้ว

เถ้าแก่ร้านมิใช่ใครอื่น เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ทำให้หอการค้าตระกูลโจวพังพินาศ หลานชายของโจวหม่านเชา เผิงซี!

พนักงานสองคนนั้น คนหนึ่งคือเซียนกระบี่เชอมั่ว อีกคนคือผู้ติดตามคนสนิทชิงจั๋ว

ผู้ติดตามคนอื่นๆ ที่หนีตามเผิงซีออกมาในครานั้น ส่วนใหญ่เผิงซีให้เงินไปก้อนใหญ่และเลิกจ้างไปแล้ว

ด้วยเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ทั้งยังหอบเงินของหอการค้าหนีมา กลายเป็นอาชญากรที่ทางสภาเซียนต้องการตัว เมื่อผ่านไปนานเข้า ผู้ติดตามที่เคยไว้วางใจไม่แน่ว่าจะยังไว้วางใจได้อยู่ บางทีอาจจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตนเองต้องจบเห่ก็เป็นได้ ถึงจะอยู่ด้วยกันมาหลายปีก็ไม่จำเป็นต้องเดินไปถึงจุดนั้นด้วยกันหรือเปล่า? เมื่อไม่มีประโยชน์อะไรต่อคนอื่นและตัวเอง เช่นนั้นก็ชิงตัดปัญหาเสียแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า ด้วยเหตุนี้จึงเลิกจ้างไปทั้งหมด เหลือเพียงแค่คนที่สามารถไว้วางใจได้แน่นอนอยู่สองคน

ส่วนโจวหม่านอวี้ผู้เป็นมารดา ถ้าพามาอยู่ด้วยกันจะสะดุดตาเกินไป ไม่ปลอดภัย เขาจึงจ่ายเงินให้คนแอบพาไปยังโลกมนุษย์แล้ว ให้เธอได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์

เขาเองก็สามารถหลบไปอยู่ที่โลกมนุษย์ได้เหมือนกัน แต่เขามีเรื่องที่ต้องจัดการ ถ้าไปหลบอยู่ในโลกมนุษย์จนช่องทางข่าวสารถูกตัดขาดล่ะก็ อีกทั้งทรัพยากรที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ก็มีอยู่ไม่มาก แบบนั้นเขาก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย เขาไหนเลยจะยอมรับได้

หลังนิ่งเงียบอยู่ครู่ใหญ่ เผิงซีก็กล่าวออกมาเบาๆ ว่า “ตั้งเงินรางวัลไปแล้ว ทำไมหลัวคังอันยังเข้าไปในดินแดนแห่งความฝันอีก?”

ชิงจั๋วส่ายศีรษะ “ไม่ทราบครับ แต่ข่าวน่าจะถูกต้อง”

เผิงซีกล่าว “ดูเหมือนหลัวคังอันคนนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้หอการค้าตระกูลฉินลุกขึ้นมาได้ จะปล่อยให้เขารอดชีวิตกลับไปไม่ได้!” ขณะที่กล่าวสายตาก็มองไปทางเชอมั่ว

เชอมั่วเข้าใจความหมายของเขา จึงไม่รอให้เขาเอ่ยปาก ชิงเอ่ยเนิบๆ ออกไปว่า “ผมเคยรับปากแค่จะปกป้องความปลอดภัยของคุณ แต่จะไม่ไปทำงานอะไรให้คุณ แล้วก็ยิ่งไม่มีทางไปทำงานเป็นนักฆ่าอะไรแบบนั้น”

ชิงจั๋วกล่าวอย่างลังเล “ถ้ากระทั่งเงินรางวัลสามพันล้านก็ยังแก้ไขไม่ได้ แล้วลำพังหลัวคังอันแค่คนเดียวจะไปทำอะไรได้หรือครับ?”

เผิงซีหันขวับไปทันที จ้องมองเขา ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความโกรธเกรี้ยว “ลูกศิษย์ของอาจารย์หลง ลูกศิษย์ของอาจารย์หลง เขาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์หลง! เสียรู้เขามาครั้งหนึ่งแล้วยังไม่พอเหรอ? การประมูลนั่นก็พังลงด้วยน้ำมือของเขา ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของหลงซืออวี่”

“ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ เขาก็ยังออกมาอีก การที่เขาเข้าไปในดินแดนแห่งความฝันในเวลานี้ เดิมทีมันก็น่าสงสัยอย่างมากอยู่แล้ว การที่เขาเข้าไปเสี่ยงอันตราย แสดงว่าเขาจะต้องมีความมั่นใจอยู่แน่ ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปเลย ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาเรียนวิชาอะไรมาจากหลงซืออวี่บ้าง เผลอๆ อาจจะมีวิธีหาดวงตาแห่งความฝันก็ได้!”

“เอ่อ…” ชิงจั๋วยิ้มเจื่อน กล่าวว่า “ต่อให้เป็นเช่นนั้นจริง แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ของเรา เราจะทำยังไงได้ล่ะครับ?”

เผิงซีกัดฟันพลางกล่าว “ติดต่อเฮยเหย่ ตั้งเงินรางวัลพันล้านมุก ใครกำจัดหลัวคังอันทิ้งก่อนจะถึงเส้นตายในการแก้พิษได้ ฉันจะให้เงินรางวัลก้อนนี้!”

เฮยเหย่เป็นคนที่หลบอยู่ในเงามืด เป็นคนกลางที่แอบซ่อนอยู่ในเงามืด ตัวตนลึกลับ ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเฮยเหย่ผู้นี้ มีคนบอกว่าเขาเป็นเศษเดนแห่งราชวงศ์ก่อน สรุปแล้วคือพูดกันไปต่างๆ นาๆ จะบอกว่าเขาเป็นคนที่ลึกลับที่สุดในทุกๆ ดินแดนก็ว่าได้

คนแบบนี้ สภาเซียนย่อมไม่มีทางปล่อยไป ตามสืบมาโดยตลอด แต่ไม่ว่าจะสืบอย่างไรก็ไม่พบเบาะแสอะไร จนกระทั่งถึงตอนนี้ชื่อของเขาก็ยังอยู่บนรายชื่ออาชญากรที่สภาเซียนต้องการตัว

คนที่ทำให้สภาเซียนไม่สามารถจัดการอะไรได้ย่อมต้องเป็นคนที่มีความสามารถ

สรุปแล้วคือเขาทำงานเป็นนายหน้า งานส่วนใหญ่เฮยเหย่ผู้นี้ล้วนสามารถจัดการได้หมด สั่งสมชื่อเสียงมาหลายปี ถ้าไปหาเขาเรียกได้ว่าสามารถมั่นใจได้ จ่ายเงินก่อนล่วงหน้าเพื่อเป็นการรับประกัน หลังจบงานก็ถือเป็นอันเรียบร้อย หากงานไม่สำเร็จรับรองคืนเงิน ไม่เคยผิดคำพูดมาก่อน!

แต่แน่นอน เงินรางวัลที่เผิงซีจะตั้งขึ้นมานั้นไม่เหมือนกับของหอการค้าตระกูลฉิน หอการค้าตระกูลฉินสามารถประกาศตั้งเงินรางวัลได้อย่างเปิดเผย แต่เขาไม่สามารถประกาศเรื่องเงินรางวัลออกไปอย่างเปิดเผยได้ เขาถึงได้ต้องไปหาเฮยเหย่

“…..” ชิงจั๋วหมดคำพูด นึกสงสัยว่าคุณชายคนนี้เสียสติหรือเปล่า ทำแบบนี้มันออกจะไม่ฉลาดสักเท่าไรเลย จึงกล่าวเตือนว่า “คุณชายครับ เงินรางวัลสามพันล้านมุกนั่นก็ทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายแล้ว ถ้ากระทั่งเงินสามพันล้านมุกยังทำอะไรเขาไม่ได้ พวกเราจ่ายเพิ่มไปอีกพันล้านมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรนะครับ จะเสียเงินไปเปล่าๆ นะครับ”

เขาไม่ได้สงสัยว่าคุณชายคนนี้จะจ่ายเงินก้อนนี้ไม่ไหว เงินที่ขโมยมาจากหอการค้าตระกูลโจว นอกจากส่วนที่ถูกตระกูลหนานชีเอาไปกับส่วนที่จ่ายให้กับคนที่เลิกจ้างไปแล้ว ในมือของคุณชายผู้นี้น่าจะมีเงินอยู่อีกหลายพันล้าน เงินไม่ใช่ปัญหา แต่ประเด็นสำคัญคือไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น

แต่เผิงซีกลับเอ่ยเตือนอย่างจริงจังว่า “หลัวคังอันยังจะเข้าไปในดินแดนแห่งความฝันทั้งๆ ที่รู้ว่าอันตราย นี่จะต้องมีปัญหาอะไรอยู่อย่างแน่นอน! เงินรางวัลของหอการค้าตระกูลฉินก้อนนั้นตั้งขึ้นมาสำหรับดวงตาแห่งความฝัน ฉันกังวลว่าในเรื่องนี้อาจจะมีลูกไม้อะไรอยู่ การกำจัดหลัวคังอันทิ้งถึงจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด! หอการค้าตระกูลฉินตกอยู่ในสภาพนี้แล้ว จะปล่อยให้มันมีโอกาสลุกขึ้นมาใหม่ไม่ได้เด็ดขาด หากหอการค้าตระกูลฉินก้าวข้ามวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ หอการค้าตระกูลฉินก็จะแข็งแกร่งขึ้นยิ่งกว่าเดิมอย่างมาก และพวกเราก็จะยิ่งไม่สามารถทำอะไรมันได้ ในเมื่อรู้ว่าหลัวคังอันอาจจะมีปัญหา อย่างนั้นก็ต้องพยายามตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้งไปซะ!”

ความแค้นที่เขามีต่อหอการค้าตระกูลฉิน โดยเฉพาะกับฉินอี๋ คนนอกไม่มีทางเข้าใจได้

ตามหลักแล้วฉินอี๋ทำให้เขาได้รู้ความจริงเรื่องลูกนอกสมรสของโจวหม่านเชา เขาควรจะขอบคุณเธอถึงจะถูก แต่เขาไม่สามารถมีความรู้สึกขอบคุณใดๆ ได้จริงๆ

ถูกปั่นหัวใช้ประโยชน์เข้าอย่างจัง ความรู้สึกที่ถูกใช้ประโยชน์จนเจ็บลึกเข้าไปในกระดูกนั้นเป็นเหมือนฝันร้ายที่ไม่มีวันสลัดทิ้งไปได้ การที่เขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้ล้วนเป็นเพราะฉินอี๋ ตอนนี้เขาไม่สามารถปรากฏตัวให้ใครเห็นได้

สำหรับเขาแล้ว เขายินดีที่จะไม่รู้ความจริงที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลังโจวหม่านเชายังดีซะกว่า ยินดีที่จะนอนหลับอยู่ในความฝันตลอดไป ตอนนี้เรียกได้ว่าเขาต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

เขาสาบานว่าสักวันจะต้องทำให้ฉินอี๋เจ็บปวดจนอยากจะมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้ อยากจะตายก็ไม่ได้!

เมื่อเห็นเขาตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ชิงจั๋วเองก็ทำได้เพียงถอนใจพลางพยักหน้ารับ “ได้ครับ!”

……………………………………………………………..

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน