เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 92 ข้าจะแก้แค้นแทนเจ้าเอง ตอนที่ 93 ใครบอก

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 92 ข้าจะแก้แค้นแทนเจ้าเอง / ตอนที่ 93 ใครบอกว่าข้าทำไม่ได้

ตอนที่ 92 ข้าจะแก้แค้นแทนเจ้าเอง

“ยังขอรับ”

เฟิงอู๋โยวส่ายหน้า ดวงตาสั่นคลอนจ้องมองเงินกระดาษที่เปื่อยยุ่ยอย่างไม่อาจระงับความเสียใจที่รื้นขึ้นมาได้

ตอนแรกนางพยายามฝืนยิ้มปลอบใจตัวเอง ตราบใดที่ขุนเขายังเขียวขจี ย่อมต้องมีความหวัง

แต่สุดท้ายก็ร้องไห้ออกมาเสียงดังยิ่งว่าฟ้าร้อง เสียงร้องไห้เสียดแหลมราวกับปลายไผ่กระทบกัน ให้ความรู้สึกเหมือนภูเขาถล่มพื้นดินพังทลาย

“เฟิงอู๋โยว บอกข้ามา พวกเขาทำอะไรเจ้าบ้าง”

จวินมั่วหรันเสียงพร่าแหบของจวินมั่วหรันเคร่งขรึมลงเรื่อยๆ เขาทนเห็นสภาพน่าสงสารไร้ที่พึ่งของเฟิงอู๋โยวไม่ไหว ตอนนี้เขาแทบอยากจับพวกที่ทำร้ายนางสับให้เละไม่เหลือชิ้นดี

เฟิงอู๋โยวจมดิ่งอยู่ในภวังค์ความเศร้าโศกจากการสูญเสียปึกเงินมหาศาล นางไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่จึงได้แต่ตอบกลับไปด้วยเสียงอุดอู้ “พวกเขาไม่ได้ทำอะไรกระหม่อมขอรับ พวกเขาชมว่ากระหม่อมผิวพรรณสวย”

จวินมั่วหรันบ่นใจใน คงเป็นเพราะพวกสารเลวพวกนั้นเห็นเรือนร่างนาง จึงได้ชมว่านางผิวพรรณสวย

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็ยิ่งปวดใจแทนเฟิงอู๋โยวหนักกว่าเดิม “ไม่ต้องคิดมากแล้ว ข้าจะแก้แค้นแทนเจ้าเอง”

ตอนนี้เฟิงอู๋โยวหาได้ฟังเข้าหูไม่ นางจ้องมองจวินมั่วหรันอย่างนิ่งอึ้งและพบว่าน้ำเสียงของเขาฟังดูผิดปกติไม่น้อย มันพร่าแหบยิ่งนัก

นางเอื้อมมือไปแตะลูกกระเดือกที่กระเพื่อมขึ้นลงของเขาพลางถามเสียงต่ำ “ท่านใต้เท้าเจ็บคอหรือขอรับ”

“หะ”

จวินมั่วหรันไม่อยากยอมรับว่าการที่ตัวเองเสียงเปลี่ยนเป็นเพราะเป็นห่วงเฟิงอู๋โยว จึงตอบกลับไปเผินๆ “ไม่เป็นอะไรมาก”

“มีเสมหะติดคอหรือขอรับ”

เฟิงอู๋โยวถามอย่างจริงจัง

“…”

คำพูดของเฟิงอู๋โยวพวกนี้ทำลายความรู้สึกแปลกๆ ที่เพิ่งผุดขึ้นมาอย่างกะทันหันอย่างไม่มีเหลือ

สติของเขาค่อยๆ คืนกลับมา ประสาทสัมผัสค่อยๆ รับรู้ถึงเม็ดฝนที่ตกลงมากระทบ

ทว่าเฟิงอู๋โยวหารู้ไม่ว่า ตอนนี้ความคิดของจวินมั่วหรันเปลี่ยนไปแล้ว นางในตอนนี้มีแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ อยู่เต็มหัว ครั้นแล้วจึงถามหยั่งเชิงออกไป “ท่านใต้เท้าขอรับ กระหม่อมคิดว่าท่านน่าจะเจ็บคอ โปรดอย่าฝืนตัวเองเลยนะขอรับ ท่านต้องการบริการผายปอดหรือไม่ เป็นการผายปอดเพื่อทำให้หลอดลมปลอดโปร่งโดยการใช้ปากประกบปาก กระหม่อมคิดราคาครั้งละหนึ่งล้านตำลึง ท่านใต้เท้าคิดว่าเยี่ยงไรขอรับ”

“บังอาจ!”

จวินมั่วหรันเพิ่งกลับมาตระหนักได้ว่า คนอย่างเฟิงอู๋โยวไม่มีทางถูกกลั่นแกล้งได้หรอก

ตอนนี้นางกลับมาเป็นคนน่าไม่อายเหมือนเดิม ไม่เพียงแต่จ้องจะลวนลามเขา อีกทั้งยังต้องการไถเงินจากเขาอีก!

เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็ลุกขึ้นทันที พร้อมกับดึงเอาเสื้อที่คลุมอยู่บนตัวนางออกมา ก่อนถามเสียงเย็น “บอกมา ไฉนต้องแย่งเสื้อผ้าผู้อื่นด้วย”

เฟิงอู๋โยวตอบกลับไปอย่างจิรงใจ “ไป๋หลี่เหอเจ๋อริอาจตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับท่าน เขาช่างไม่เจียมตัวเสียจริง และเพื่อระบายอารมณ์แทนท่าน เพื่อให้ท่านรู้สึกสะใจ กระหม่อมจึงถอดเสื้อผ้าด้านบนเขาออก เพื่อต้องการให้เขาเปลือยกายตากฝน ให้เขาหนาวจนตัวสั่นขอรับ”

“ช่างพูดช่างเจรจาจริงนะ”

จวินมั่วหรันมองกวาดเฟิงอู๋โยวที่พูดจ๋อยๆ เขาไม่เชื่อคำพูดที่หลุดออกมาจากปากนางแม้แต่คำเดียว

“ท่านใต้เท้าเกลียดไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่ใช่หรือขอรับ กระหม่อมช่วยท่านจัดการเขาแล้ว ไฉนท่านถึงไม่สนใจ หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงเขา…”

เฟิงอู๋โยวรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจวินมั่วหรันกับไป๋หลี่เหอเจ๋อค่อนข้างลึกลับ

บางทีพวกเขาอาจเคยมีความสัมพันธ์บางอย่างกันมาก่อน หลังจากนั้นคงเกิดเรื่องเข้าใจผิดจนเป็นเหตุให้ห่างเหินและประสานรอยร้าวไม่ติดเหมือนเดิม

จวินมั่วหรันแทบอยากจะพุ่งเข้าไปเคาะมะเหงกเฟิงอู๋โยวแรงๆ สักที อยากรู้จริงๆ ว่าในหัวของนางมีอะไรอยู่

แต่พอเห็นว่านางไม่ได้มีความสัมพันธ์ชิดใกล้สนิทตัวกับไป๋หลี่เหอเจ๋อ เขาจึงไม่ถือสาและปล่อยนางไป

ด้วยเหตุผลข้อเดิม ถ้าจับเฟิงอู๋โยวเปรียบเทียบกับบริวารที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตารับใช้ เห็นได้ชัดว่านางน่าสนใจและน่าเล่นสนุกด้วยกว่าพวกนั้นยิ่งนัก

หลังจากเงียบขรึมไปครู่หนึ่ง จวินมั่วหรันก็เอ่ยขึ้นเสียงเย็นอีกครั้ง “จุยเฟิง ซือมิ่ง อุ้มเฟิงอู๋โยวกลับตำหนัก”

ตอนที่ 93 ใครบอกว่าข้าทำไม่ได้

“ขอรับ”

จุยเฟิงกับซือมิ่งขานรับคำสั่งพร้อมกัน ภายในใจกลับไม่ค่อยเป็นสุขกันเท่าไร

ในสายตาพวกเขา เฟิงอู๋โยวคือบุรุษของท่านใต้เท้า

พวกเขาจะเอาความกล้ามาจากไหนไปแตะต้องผู้ชายของท่านใต้เท้า

แต่ว่าตอนนี้หัวเข่าและข้อศอกของเฟิงอู๋โยวแตกถลอก ถ้าพวกเขาไม่พยุงขึ้นมา เกรงว่านางคงลุกเองไม่ไหว

ซือมิ่งถอนหายใจและหันไปพูดกับจุยเฟิง “คนละข้าง หามแม่ทูนหัวคนนี้กลับไปที่ตำหนักก็พอแล้ว”

“อย่าเพิ่งรีบร้อน”

จุยเฟิงยกมือขึ้นห้ามซือมิ่งที่สีหน้าจนปัญญา ก่อนหันไปพูดเสียงสูงกับเฟิงอู๋โยวอย่างตกใจ “อ้าว! แม่ทัพเฟิง ทำไมหัวเข่าถึงถลอกแบบนั้นล่ะ”

แต่เฟิงอู๋โยวถอนหายใจลากยาวและนำเงินกระดาษที่เปื่อยยุ่ยฝังลงดิน พลางบ่นพึมพำ “ชาตินี้ไม่มีวาสนา ชาติหน้าค่อยเจอกันใหม่”

ซือมิ่งจนปัญญายิ่งกว่าเดิม จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเฟิงอู๋โยวถึงให้ความสำคัญกับเงินขนาดนี้

จุยเฟิงเหลือบมองจวินมั่วหรันที่เดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ ก่อนพูดขึ้นอย่างตกใจขึ้นอีกระลอก “แม่ทัพเฟิง ทำไมข้อศอกแตกแบบนั้นล่ะ เลือดออกเยอะน่าดูเลย!”

ในที่สุดซือมิ่งก็เข้าใจ ครั้นแล้วจึงพูดสมทบจุยเฟิงขึ้น “ถ้าดูแลไม่ดี ต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ”

เฟิงอู๋โยวที่เพิ่งจะฝังเงินกระดาษเสร็จเงยหน้าขึ้นมามองทั้งสองคนที่อยู่ด้านหน้า ก่อนพูดเสียงเล็กเสียงน้อย “แค่บาดแผลเล็กน้อยเอง ไม่ต้องเป็นห่วง”

นางพยายามยืนขึ้น แต่ขาทั้งสองข้างกลับอ่อนแรงและล้มลงไปที่พื้นอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ทำเอาโคลนกระเด็นใส่จุยเฟิงกับซือมิ่งไปทั้งตัว

จวินมั่วหรันหยุดชะงักฝีเท้าลง จากนั้นก็หันกลับไปมอง พบว่าเฟิงอู๋โยวล้มลงไปในกองโคลนอีกครั้ง และแล้วก็อดใจไม่ไหว

ทันใดนั้น เขาได้โคจรกำลังภายในอันเปี่ยมล้นขึ้นมาบีบอัดมวลเม็ดฝนในอากาศจนกลายเป็นเชือกวารีใสวาว ผูกเป็นบ่วงและเหวี่ยงเข้าไปคล้องเอวเฟิงอู๋โยว จากนั้นก็กระชากพาตัวนางที่อยู่ห่างออกไปเป็นสิบเมตรมาอยู่ต่อหน้าอย่างง่ายดาย

เฟิงอู๋โยวตกใจตาเบิกกว้าง สายตามองจวินมั่วหรันอย่างนับถือ จากนั้นคำพูดสวยหรูก็ระรัวออกมาอีกครั้ง “ท่านใต้เท้าช่างเก่งกาจเหลือเกิน! แม้แต่วิชาขั้นสูงอันซับซ้อนเช่นนี้ยังทำได้อย่างง่ายดาย หากท่านเป็นสตรี กระหม่อมคงรักท่านหัวปักหัวปำเป็นแน่”

“หุบปาก”

ตอนแรก จวินมั่วหรันคิดว่าวาทศิลป์ของเฟิงอู๋โยวค่อนข้างน่าฟัง

แต่พอพูดไปพูดมา ประโยคท้ายๆ กลับฟังดูทะแม่งชอบกล!

“ท่านใต้เท้าอย่าได้เก็บเอาคำพูดของกระหม่อมไปใส่ใจเลยขอรับ กระหม่อมแค่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นผู้ใช้กำลังภายในจัดการสิ่งของในระยะไกลแบบนี้ ก็แค่รู้สึกตื่นเต้นก็เท่านั้นขอรับ” เฟิงอู๋โยวอธิบายอย่างเป็นตุเป็นตะ

จวินมั่วหรันรู้ดีว่าคำพูดของเฟิงอู๋โยวมักค่อนข้างปลิ้นปล้อน จึงไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับเขามากนัก เขาดึงคอเสื้อด้านหลังของนางและตั้งท่าทะยานกลับไปในเมืองหลวง

เฟิงอู๋โยวคิดไปเองว่าตัวเองทำให้จวินมั่วหรันโกรธขึ้นอีกครั้ง จึงรีบพูดขึ้นอีกระลอก “ท่านใต้เท้าอย่าถือสาความผิดของกระหม่อมเลยนะขอรับ เมื่อครู่กระหม่อมใช้คำพูดผิดไป ท่านใต้เท้าร่างกายสูงใหญ่กำยำแบบนี้จะให้เป็นสตรีได้เยี่ยงไร! ท่านคงไม่ลงโทษกระหม่อมเพียงเพราะคำพูดลอยๆ ของกระหม่อมหรอกกระมัง ลูกบุรุษอกสามศอกย่อมใจกว้างและรู้จักอนุโลม”

“ข้าอยากบีบคอเจ้าให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย”

จวินมั่วหรันหิ้วตัวนางมาด้านหน้า สายตาคมกริบดุจเหยี่ยวจ้องมองฝีปากที่ขมุบขมิบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่าจู่ๆ ก็มีความคิดวิปลาสผุดขึ้นมาในหัวของเขา ความคิดที่อยากจะกัดปากเล็กๆ ของนางให้แตก

“หากกระหม่อมตายไป มันก็ไม่ดีสำหรับท่านใต้เท้าเช่นกัน”

เฟิงอู๋โยวบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ “จะว่าไป ถึงแม้บั้นท้ายของท่านจะโก่งงอน แต่ก็ใหญ่ไม่พอ แค่ดูก็รู้แล้วว่าคลอดเด็กอวบๆ ออกมาไม่ได้ ดังนั้น ต่อให้ท่านเป็นสตรีขึ้นมา กระหม่อมก็ไม่มีทางรักท่านอย่างหัวปักหัวปำหรอก”

จวินมั่วหรันหงุดหงิด ครั้นแล้วจึงตวาดขึ้นเสียงดังลั่น “ใครบอกว่าข้าทำไม่ได้”

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท