เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 114 ขุนนางจิ้นผู้ขี้แย ตอนที่ 115 งานเลี้ยงบัณฑิ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 114 ขุนนางจิ้นผู้ขี้แย / ตอนที่ 115 งานเลี้ยงบัณฑิตแห่งสมาพันธ์ห้าแคว้น

ตอนที่ 114 ขุนนางจิ้นผู้ขี้แย

คลื่นลูกหนึ่งยังไม่ทันสงบ คลื่นอีกลูกก็ม้วนมาอีกระลอก

เท้าของเฟิงอู๋โยวเพิ่งก้าวข้ามคานประตู ก็พบกับขุนนางจิ้นที่เป็นหนึ่งในคณะขุนนางอารักขาฮ่องเต้[1] ที่รออยู่ด้านนอกประตูมาเป็นเวลานานแล้ว

“หัวขโมย บังอาจขโมยชุดว่าราชกิจของข้า ต้องโทษสถานหนัก!”

“นี่! ก็แค่เสื้อตัวเดียวเอง ทำเป็นงกไปได้!” ดวงตาทรงกลีบดอกท้อของเฟิงอู๋โยวหรี่ลงครึ่งหนึ่ง นางคิดว่าชุดบนตัวของนางช่างดูสง่ามีอำนาจเป็นยิ่งนัก ใส่แล้วช่างเสริมบารมีของนางได้เป็นอย่างดี นางจึงไม่อยากคืนให้ขุนนางจิ้น

ขุนนางยืนเท้าสะเอวยื่นพุงออกมา พลางพูดขึ้นอย่างเป็นใหญ่ “หัวขโมยน่าไม่อาย รีบคืนชุดของข้ามาเสีย มิเช่นนั้นต้องโทษสถานหนัก”

เฟิงอู๋โยวแค่นเสียงหึในลำคอ “ขุนนางจิ้นแห่งแค้วนตงหลิน ใจกว้างเพียงเท่านี้เองหรือ เจ้าคิดจะปลดเสื้อผ้าของข้า เพื่อให้ข้าเดินเตร่ตามถนนในสภาพเดิมอย่างนั้นหรือ”

“หยุดพูดจาไร้สาระ แล้วรีบๆ คืนมาเสีย!”

“สหายผู้น้อง ข้าขอเตือน อย่าทำตัวป่าเถื่อนแบบนี้เลย!” เฟิงอู๋โยวพูดขึ้น ก่อนหน้าไปถามจือเสี่ยนที่แสร้งเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆ “นี่ ท่านจือเสี่ยน ข้าขอถามหน่อยว่าหากปลดเสื้อผ้าผู้อื่นจนโป๊เปลือยข้างถนนแบบนี้ ถือว่าเป็นการกระทำผิดหรือไม่”

“เอ่อ…คือว่า…”

จือเสี่ยนรู้ว่าเฟิงอู๋โยวสนิทสนมกับจวินมั่วหรัน จึงไม่กล้าทำให้นางไม่พอใจ เขาได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่นานไม่ยอมตอบสักที

เฟิงอู๋โยวเห็นว่าจื่อเสี่ยนช่างไร้ประโยชน์ ครั้นแล้วจึงหันไปถามฟู่เย่เฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ จือเสี่ยน “นี่ ฟู่ซือเหย่คิดว่าเยี่ยงไร”

“อืม…”

ฟู่เย่เฉินวีพัดเบาๆ พลางคลี่ยิ้ม “อันที่จริงก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดจริงๆ แต่ว่าการที่แม่ทัพเฟิงขโมยชุดว่าราชกิจของขุนนางจิ้นมาก็ถือเป็นการกระทำผิดเช่นกัน ซ้ำยังต้องโทษหนักกว่า”

เฟิงอู๋โยวที่ได้ยินเช่นนั้นหาได้ยอมจำนนไม่ ครั้นแล้วหมุนตัวอวดเสื้อผ้าที่ตัวเองสวมใส่อยู่ต่อหน้าผู้คน “พวกเจ้าพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าชุดที่ข้าสวมใส่เป็นชุดว่าราชกิจของขุดนางจิ้นจริงๆ”

ฟู่เย่เฉินหุบพัดและใช้มันชี้เป็นที่ปกเสื้อของเฟิงอู๋โยว แว่วเสียงเจือความชั่วร้ายพลันเปล่งขึ้น “แม่ทัพเฟิง ที่ปกเสื้อปักคำว่า ‘จิ้น’ อยู่ไม่ใช่หรือ”

เฟิงอู๋โยวจนปัญญา เพราะนางไม่รู้ว่าชุดว่าราชกิจของคนยุคโบราณปักชื่อของตัวเองเอาไว้

นางแอบใช้เข็มเงินเกี่ยวด้ายดิ้นทองจากปกเสื้อด้านใน จากนั้นก็รูดเส้นด้ายที่ปักคำว่า ‘จิ้น’ ออก ก่อนพูดถ่วงเวลาไปพลาง “ข้าต้องการปักคำว่า ‘โยว’ ที่มาจากคำว่าโยวกั๋วโยวหมิงที่แปลว่าผู้มองการณ์ไกล เพียงแต่ช่างปักไม่รู้หนังสือ จึงปักให้ข้าผิด”

ชิงหลวนตอบสนองอย่างฉับไว

เมื่อเห็นเฟิงอู๋โยวพูดเช่นนี้ออกไปก็ควักเข้มเย็บผ้าออกมาจากเอว จากนั้นก็รับเส้นดายดิ้นทองที่เฟิงอู๋โยวรูดออกมาและสอดด้านเข้าเข็มอย่างคล่องแคล้ว ก่อนปักคำว่า ‘อู๋โยว’ ลงบนปกเสื้อของเฟิงอู๋โยวอย่างรวดเร็ว

ขุนนางจิ้นยืนอ้าปากค้าง เขาไม่เคยเห็นกลุ่มคนที่หน้าด้านถึงขนาดนี้มาก่อน ครั้นแล้วจึงแผดเสียงด่าลั่น “ไอ้พวกหัวขโมยสารเลว ไอ้พวกลูกเมียน้อยเส็งเคร็ง!”

เฟิงอู๋โยวหาได้เจ็บใจไม่

นึกไม่ถึงว่าคนสมัยโบราณจะด่าคำหยาบเป็น

นางคลี่ยิ้ม แววตาเต็มไปด้วยความสนุก “สหายผู้น้อยช่างสายตาเฉียบแหลม ไม่นึกว่าจะมองออกว่าท่านแม่ของข้าเป็นสาวรับใช้ล้างเท้า ช่างน่าทึ่งเสียจริง!”

“แก!”

ขุนนางจิ้นนึกไม่ถึงว่าเฟิงอู๋โยวจะหน้าด้านยิ่งกว่ากำแพงเมืองแบบนี้ ครั้นแล้วจึงเอื้อมมือออกไปหมายกระชากเสื้อบนตัวนาง

เฟิงอู๋โยวเกลียดพวกที่ชอบเอะอะก็ลงไม้ลงมือเป็นที่สุด ดวงตาเกร็งเขม็ง ฝ่ามือพลันฟาดเข้าไปที่ขมับของขุนนางจิ้นทันที จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “กลับไปบอกพวกสภาขุนนางของพวกเจ้าด้วย เอาไว้ข้าใส่จนหนำใจแล้ว เดี๋ยวข้าเอาไปคืนเอง อย่าได้มารบเร้าอีก!”

ขุนนางจิ้นตาปรือมองเฟิงอู๋โยวคนไร้เหตุผล ริมฝีปากสั่นระริก อยากร้องไห้แต่กลัวเสียหน้า จึงได้แต่กัดฟันข่มกลั้นเอาไว้ก่อนสาวเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว

“ไอ้สวะ รอดูเถอะ!”

ขุนนางจิ้นสบถพูดก่อนหายตัวไป

“เจ้าคิดว่าท่านชายของข้าโง่นักหรือ ทำไมต้องกลัวเจ้าด้วย แปลกคน!” ชิงหลวนเขย่งเท้าตะโกนด่าตามหลังขุนนางจิ้น

เฟิงอู๋โยวพบว่านางเด็กสาวรับใช้ของตัวเองก็ไม่เบาเหมือนกัน ถึงจะขี้แยไปหน่อย แต่ถึงคราวเอ่ยปากพูดขึ้นมาก็ปากร้ายแบบน่ารักดี

นางจับปอยผมอันยุ่งเหยิงของชิงหลวนมาทัดหูอย่างเรียบร้อย จากนั้นก็ควักเงินกระดาษของปลอมออกมาปึกหนึ่งก่อนพูดขึ้นอย่างโอ้อวด “ไปกันเถอะ! เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปสรรหาความสนุกเอง”

ตอนที่ 115 งานเลี้ยงบัณฑิตแห่งสมาพันธ์ห้าแคว้น

ชิงหลวนพยักหน้าระรัว ก่อนเขย่งเดินตามหลังเฟิงอู๋โยว

การที่นิสัยของนายหญิงของนางเปลี่ยนไปแบบนี้หาใช่เรื่องไม่ดีไม่

ชิงหลวนรู้สึกว่าเฟิงอู๋โยวดูมีความสุขกว่าก่อนหน้านี้มาก ทั้งปล่อยตัวเป็นธรรมชาติและทะเล้นขี้เล่น

“ฮือๆๆ”

เฟิงอู๋โยวหันหลังขวับเพราะชิงหลวนร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง ทำเอานางปวดขมับทันที

“เป็นอะไร”

“นายหญิงเจ้าคะ ชิงหลวนดีใจแทนนายหญิงเหลือเกิน” ชิงหลวนเช็ดน้ำมูกปาดน้ำตาและเช็ดลงบนเสื้อของเฟิงอู๋โยว

เฟิงอู๋โยวรู้สึกจนปัญญา จากนั้นก็คว้านางเข้ามากอด “นางเด็กโง่ ใครเลี้ยงดูเจ้าให้เป็นเด็กขี้แยแบบนี้ ดีใจก็ร้อง เสียใจก็ร้อง!”

ชิงหลวนได้ยินคำพูดหยอกเย้าของเฟิงอู๋โยวก็ยิ้มร่าขี้มูกโป่ง “เรียนรู้ด้วยตัวเองเจ้าค่ะ”

เฟิงอู๋โยวพูดขึ้นอย่างจริงจัง “อย่าร้องไห้เลย ข้าอยู่ตรงนี้ทั้งคน ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”

หลังจากข้ามมิติมา ชิงหลวนเป็นคนแรกที่นางอยากปกป้อง

“นายหญิงเจ้าคะ ชิงหลวนรักนายหญิงเหลือเกิน”

แล้วอยู่ๆ ชิงหลวนนึกถึงพวกคนจากค่ายกรมทหารขึ้นมา จากนั้นก็พูดระบายอารมณ์ขึ้น “นายหญิงรู้หรือไม่ว่าพวกตระกูลชิวมันร้ายกาจแค่ไหน หลังจากนายหญิงหนีจากแคว้นเป่ยหลีไปได้แค่สองวัน พวกมันก็เผาเสื้อผ้าของนายหญิงทิ้งอย่างไม่มีเหลือ”

“ตอนนี้ ชิวหรูสุ่ยได้เลื่อนขั้นเป็นฮูหยินขั้นสอง นายหญิงเป็นแค่หมากตัวหนึ่งของนางเท่านั้น”

“และที่น่าโมโหไปกว่านั้นก็คือ ตระกูลชิวได้เรียนเชิญนักไสยเวทย์มาปัดเป่าความอัปมงคลภายในตระกูล” ชิงหลวนพูดด้วยสีหน้าโกรธแค้น

“ช่างเถอะ หนี้ที่พวกนั้นค้างชำระข้า สักวันข้าจะต้องเอาคืนให้สาสม”

เดิมทีเฟิงอู๋โยวเป็นร่างวิญญาณที่ข้ามมิติมา จึงไม่ค่อยสนใจนางแม่จอมโลภของเจ้าของร่างคนเก่าเท่าไรนัก

คนที่นางสนใจก็คือนางองค์หญิงหลีอินที่ถูกวังหลวงแห่งแคว้นเป่ยหลีเอาใจจนติดเป็นนิสัย

อันที่จริง ฮ่องเต้ผู้ปกครองแคว้นเป่ยหลีอย่างเป่ยถางหลงถิงถือว่าเป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์และความสามารถคนหนึ่ง แต่ความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตของเขาคือการที่มีองค์หญิงหน้าโง่ร่วมสายเลือด ซ้ำยังโอ๋นาง ปกป้องนางอย่างออกนอกหน้า

“ช่วงนี้เป่ยถางหลีอินเป็นเยี่ยงไรบ้าง” เฟิงอู๋โยวถามเสียงขรึม

“ผู้คนทั่วแคว้นเป่ยหลีล้วนคิดว่านางถูกนายหญิงพรากพรหมจรรย์ไป ทำให้ชื่อเสียงของนางไม่ดีเท่าเมื่อก่อน แต่ว่าสำหรับบรรดาข้าทาสบริวารใกล้ตัวเองของนางก็ยังคงคิดว่านางเป็นสตรีที่สมควรถูกรักและถูกปกป้องที่สุดในแคว้น”

ชิงหลวนถอนหายใจ น้ำตาพลันไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้างอีกครั้ง “สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรม นายหญิงของชิงหลวนสู้เป่ยถางหลีอินไม่ได้ตรงไหน ทำไมนายหญิงต้องถูกนางกลั่นแกล้งถึงขนาดนี้”

“ถือว่าข้าเกิดมาผิดครอบครัวก็แล้วกัน มีพ่อใจดำ มีแม่ใจละโมบ”

เฟิงอู๋โยวหัวเราะเยาะตัวเอง ตอนนี้ ชีวิตของนางเพิ่งจะเริ่มต้นใหม่ ทำไมต้องพูดเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ขึ้นมาอีกครั้งด้วย

ส่วนเป่ยถางหลีอินถือว่ากินบุญเก่า ทั้งหมดที่นางได้รับในชั่วชีวิตล้วนเป็นบุญเก่าที่สะสมมาจากชาติปางก่อน

ส่วนเฟิงอู๋โยวคงบุญวาสนาน้อยเกินไป แต่ว่านางไม่ใช่คนที่ชอบพึ่งพาผู้อื่น นางชอบลงมือสร้างตัวเองด้วยสองแข้งของตัวเองมากกว่า

“จริงสิ ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญมากๆ ท่านชายเฟิงอี้กำชับมาว่าต้องเตือนนายหญิงเรื่องนี้ให้ได้”

“เรื่องอะไร”

“เรื่องงานเลี้ยงบัณฑิตแห่งแคว้นตงหลินในเดือนหน้า เป่ยถางหลีอินก็มาด้วย จากที่รู้มาก็คือเป่ยถางหลงถิงได้มอบอำนาจการคัดสรรผู้คนให้เป่ยถางหลีอินทั้งหมด ท่านชายเฟิงอี้กำชับมาว่า ขอท่านหญิงอย่าได้กระทำการอันใดอย่างผลีผลาม หากยังวางแผนไม่ละเอียดรอบคอบมากพอ ขอให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเป่ยถางหลีอินเอาไว้จะดีที่สุด”

ดวงตาเฟิงอู๋โยวพลันลุกวาว นางกำลังหงุดหงิดที่หาโอกาสจัดการเป่ยถางหลีอินไม่ได้สักที ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าเหยื่อจะถูกนำมาส่งที่หน้าประตูแบบนี้

เป็นที่รู้กันอย่างแพร่หลายว่างานเลี้ยงบัณฑิตที่จัดขึ้นทุกๆ หนึ่งปี ถูกเรียกอีกชื่อว่า งานเฉลิมฉลองปวงประชา

โดยระยะเวลาของงานเฉลิมฉลองนี้กินเวลาหนึ่งเดือนกว่า โดยกลุ่มคนที่เป็นสุดยอดบัณฑิตของทั้งห้าแคว้นจะมารวมตัวกัน ได้แก่แคว้นหยุนฉิน แคว้นตงหลิน แคว้นหนานเชียง แคว้นซีเยว่และแคว้นเป่ยหลี

เหล่าสุดยอดบัณฑิตของแต่ละแคว้นจะรวมตัวกันปาฐกถาและดวลวาทศิลป์กันออย่างอิสระ โดยผู้ที่โดดเด่นที่สุดจะได้ขึ้นเวทีการประมูล

ผู้กุมอำนาจของทั้งห้าแคว้นจะเสนอราคาประมูล

เป็นการแย่งชิงที่ดุเดือด

แต่เป่ยถางหลีอินไม่ค่อยสนใจเรื่องการเมืองอยู่แล้ว สิ่งที่นางต้องการในงานเลี้ยงบัณฑิตก็มีแค่อวดความงามของตัวเองและเป็นที่สนใจของผู้คนในงานเลี้ยงก็เท่านั้น

[1] ขุนนางอารักขาฮ่องเต้ หรือ ชินเหว่ย คือชื่อตำแหน่งขุนนางที่ทำให้ที่คอยรับใช้ฮ่องเต้เป็นการส่วนตัว

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน