ตอนที่ 152 พยายามเชื่อใจ
จวินมั่วหรันหลุบตามองตามนิ้วมือของเฟิงอู๋โยว
ดวงตาเบิกกว้าง รูม่านตาหดเกร็ง เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าเฟิงอู๋โยวจะยัดแผ่นหนังไว้ระหว่างเป้ากางเกงของตัวเองแบบนี้
จวินฝูขยี้ตาอย่างตกใจ นางพยายามมองแล้วมองอีก
แม้แต่แม่นมหวางที่โอ๋จวินฝูมาตลอด ยังต้องเบนหน้าหนี แววตึงเครียดพลันฉายขึ้นบนใบหน้าเหี่ยวย่นของนางอย่างชัดเจน
เฟิงอู๋โยวเคาะไปที่แผ่นหนังหนาๆ ที่อยู่ระหว่างขาของตัวเองพลางพูดขึ้น “เห็นชัดเจนแล้วหรือยัง”
“มันคืออะไร”
จวินมั่วหรันถามขึ้น พลางพยายามส่งสายตาบอกนางว่าให้พอได้แล้ว
เฟิงอู๋โยวอธิบายขึ้น “นี่เป็นกางเกงพรหมจรรย์สำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการถูกลวนลามทางเพศ แข็งแรงแน่นหนาและต้องใช้ลูกกุญแจเปิด กระหม่อมรีบร้อนออกมาข้างนอก จึงลืมเอาลูกกุญแจติดตัวมาด้วย”
“…”
จวินมั่วหรันเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ขึ้นมาทันที เจ้าหมอนี่จะต้องตกใจกลัวการกระทำของตัวเขาเมื่อคืนอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงใส่กางเกงในตัวนี้โดยเฉพาะมาตั้งแต่ก่อนเดินทางมาสอนจุยเฟิงที่ตำหนัก
ทันใดนั้น เขาก็อารมณ์เสียขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ก่อนถามเฟิงอู๋โยวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เฟิงอู๋โยว เจ้ากลัวข้าขนาดนั้นเชียวหรือ”
“การกระทำของท่านใต้เท้าเมื่อคืนเป็นเยี่ยงไร ตัวท่านรู้อยู่แก่ใจ”
เฟิงอู๋โยวกรอกตาใส่เขาพร้อมกับตบแผ่นหนังหนาๆ ที่เป้ากางเกงตัวเองอย่างได้ใจ
ถึงแม้ว่ากางเกงใหหนังตัวนี้จะเสียดสีระหว่างขาของนางจนถลอก แต่อย่างน้อยมันก็สามารถป้องกันการคุกคามทางเพศจากจวินมั่วหรันได้ทุกเมื่อ มิหนำซ้ำตอนนี้มันยังช่วยให้นางหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาของจวินฝูได้อีกด้วย
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน จวินมั่วหรันก็รู้สึกอายจนทำตัวไม่ถูก ครั้นแล้วจึงรีบบ่ายเบี่ยงประเด็นไปที่จวินฝูทันที “ยังคิดจะใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นอยู่อีกหรือไม่”
“ท่านพี่เจ้าคะ ฝูเอ๋อร์ผิดไปแล้วเจ้าค่ะ”
ให้ตาย จวินฝูก็นึกไม่ถึงว่าเฟิงอู๋โยวจะใส่กาเกงในหนังหนาๆ ตลอดครึ่งค่อนวันแบบนี้ ซ้ำยังผนึกมันไว้ด้วยแม่กุญแจอีก!
ทำให้ไพ่ไม้ตายของนางไร้ผลอย่างสิ้นเชิงภายในพริบตา เป็นจริงดั่งสุภาษิตที่ว่า สูญเสียทั้งกำลังทหารและภรรยา[1]
“จงไปนั่งคุกเข่าสำนึกผิดในศาลบรรพบุรุษ หากข้าไม่อนุญาต ห้ามลุกขึ้นเด็ดขาด”
แม่นมหวางน้ำตาหลั่งริน นางคุกเข่าก้มหัวอ้อนวอนต่อหน้าจวินมั่วหรันซ้ำไปซ้ำมา “ท่านใต้เท้าได้โปรดเมตตาต่อท่านหญิงจวินฝูด้วยเจ้าค่ะ ท่านหญิงบาดเจ็บทั่วทั้งตัวแบบนี้ต้องรีบรักษาบรรเทาอาการ มิเช่นนั้นจะป่วยหนักเอานะเจ้าคะ”
“จวินฝูทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพายถึงขนาดนี้ เจ้ายังคิดจะปกป้องและผลักไสความผิดนี้ออกอีกอย่างนั้นหรือ” สายตาเยือกเย็นของจวินมั่วหรันกัดเซาะเข้ากระดูกแม่นมหวาง
เมื่อจวินฝูเห็นจิตสังหารในดวงตาของจวินมั่วหรันก็รีบเข้ามาขวางด้านหน้าแม่นมหวางทันที จากนั้นก็พูดขึ้นเสียงเล็กเสียงน้อย “ขอท่านพี่ใจเย็นๆ ฝูเอ๋อร์จะไปคุกเข่าสำนึกผิดเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ”
ดวงตาของนางแดงก่ำ น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย
“รีบๆ ไปเสีย”
จวินมั่วหรันเร่งนางด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จวินฝูได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเสียใจเป็นล้นพ้น
นางกัดริมฝีปากล่างแน่น ท่าทางดูห่อเหี่ยว ไม่เหิมเกริมเหมือนก่อนหน้านี้ ไหล่เล็กๆ สองข้างสั่นเทิ้ม
เมื่อแม่นมหวางเข้ามาประคองพาตัวจวินฝูออกจากเรือนไป จวินมั่วหรันก็หันมาบีบแก้มเฟิงอู๋โยวอย่างทันควัน
“เฟิงอู๋โยว เจ้าช่างบังอาจ!”
“ท่านใต้เท้าไม่พอใจอะไรอีก” เฟิงอู๋โยวเจ็บจนกัดฟันข่มและพยายามสลัดมือของจวินมั่วหรันออก
“ไฉนต้องฉีกจดหมายของข้าด้วย”
เฟิงอู๋โยวรู้สึกเสียใจขึ้นรำไร “กระหม่อมคิดว่าท่านใต้เท้าจะฆ่ากระหม่อมทิ้ง ตอนนั้นกระหม่อมเสียใจจนหน้ามืดขาดสติ จึงลงมือทำเช่นนั้นอย่างไม่ทันคิด ขอท่านใต้เท้าอย่าถือสากระหม่อมเลยนะขอรับ”
อยู่ๆ จวินมั่วหรันก็ตระหนักได้ว่าความไม่เชื่อใจที่ตัวเองมีต่อเฟิงอู๋โยวค่อนข้างทำร้ายจิตใจนาง มุมปากจึงผุดยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
เพื่อกลบความดีใจที่ท่วมท้นออกมา จวินมั่วหรันพยายามปั้นหน้านิ่งและเอ่ยเสียงเย็น “ครั้งหน้ายังจะกล้าขีดเขียนบนเรือนร่างสตรีอีกหรือไม่”
“กระหม่อมอุตส่าห์ใจดีออกแบบลวดลายกางเกงในลายใหม่ให้ท่านหญิง มันสามารถปกปิดจุดสนใจได้ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกสกปรกเลอะเทอะ สามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงจากการถูกลวนลามจากชายอื่นได้เป็นอย่างดี ที่กระหม่อมทำไปทั้งหมดล้วนมาจากความหวังดีทั้งนั้น ท่านใต้เท้ามองไม่เห็นเจตนาดีของกระหม่อมหรือ”
หวังดี?
แม้รู้ว่าเฟิงอู๋โยวแถไปเรื่อย แต่เขาก็ชอบฟังสิ่งที่นางแถอยู่ดี
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ห้ามแอบมอง ห้ามขีดเขียนเรือนร่างของสตรี และห้ามใส่กางเกงในพรหมจรรย์นั่นด้วย เข้าใจหรือไม่”
เฟิงอู๋โยวบ่นในใจ เดิมทีตัวนางเองก็เป็นผู้หญิง แล้วทำไมต้องไปแอบมองเรือนร่างผู้หญิงด้วยกันเอง
แต่ว่านางชอบกางเกงในพรหมจรรย์ที่สามารถป้องกันการถูกลวนลามตัวนี้เป็นยิ่งนัก ให้ตายก็ไม่มีทางถอดออกแน่นอน
“ตอนที่ท่านใต้เท้าไม่อยู่ กางเกงในพรหมจรรย์ตัวนี้สามารถปกป้องกระหม่อมได้ ท่านอาจไม่รู้ หลังจากท่านหญิงจวินฝูปิดประตูใส่กลอน การที่ข้าต้องเห็นสภาพท่านหญิงปลดเปลื้องเสื้อผ้าเปลือยกายแบบนั้นมันน่ากลัวแค่ไหน”
จวินมั่วหรันไม่คิดว่าคนอย่างเฟิงอู๋โยวจะหวาดกลัวจวินฝู แต่กระนั้นก็ได้อธิบายถึงเหตุผลที่ตัวเองกลับมาช้าออกไป “เนื่องจากคดีฆาตกรรมที่ ศาลเจ้าหงเย่กับงานเลี้ยงบัณฑิตที่จะจัดขึ้น ทำให้กินเวลาว่าราชกิจนานกว่าปกติ”
เขาคิดว่าท่าทางของเฟิงอู๋โยวในตอนนี้ช่างเหมือนกับภรรยากำลังสงสัยพฤติกรรมหลบๆ ซ่อนๆ ของสามีตัวเอง สำหรับเขามันช่างน่ารักและน่าหลงใหลชะมัด
เฟิงอู๋โยวไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ จวินมั่วหรันถึงอธิบายถึงสาเหตุที่ตัวเองกลับตำหนักช้าขึ้นมา แต่นางก็ขี้เกียจจะขบคิดถึงที่มาที่ไปที่ซ่อนอยู่ จึงถามออกไปอย่างรวบรัด “ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงสั่งห้ามไม่ให้กระหม่อมสวมใส่กางเกงในพรหมจรรย์ที่สามารถปกป้องกระหม่อมจากการถูกลวนลามกระนั้นหรือ”
“มันป้องกันข้าไม่ได้อยู่ดี”
จวินมั่วหรันรู้สึกตลก มันก็แค่เครื่องหนังธรรมดาๆ ไม่ใช่หรือ ต่อให้ไม่ใช่ตัวเขา คนอื่นก็สามารถฉีกมันได้อยู่ดี
หากเขาต้องการจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆ เฟิงอู๋โยวไม่มีทางห้ามเขาได้อยู่แล้ว
และแล้วเฟิงอู๋โยวก็ตระหนักได้ว่ากางเกงในพรหมจรรย์ที่ทำจากเครื่องหนังธรรมดาไม่มีทางป้องกันราชาปีศาจจากโลกโกลาหลอย่างจวินมั่วหรันได้
นางเคาะไปที่เครื่องหนังหนาๆ เบาๆ ก่อนถอนหายใจพูดขึ้น “พอฟังที่ท่านใตเท้าพูดมา ดูเหมือนว่าเจ้าของพรรค์นี้ไม่สามารถป้องกัน…หมาป่าได้?”
ตอนช่วงเช้า เนื่องจากจี้มั่วจื่อเฉินมารักษาโรค เฟิงอู๋โยวไม่มีเวลาพิถีพิถันอะไรมากจึงได้แต่ใส่กางเกงในพรหมจรรย์ธรรมดาที่คนงานหามาให้ ตอนนี้มันไม่เพียงแต่ทำให้นางรู้สึกอึดอัด แต่ยังเสียดสีน่องขาด้านในของนางจนถลอกไปหมด
ก่อนหน้านี้นางคิดว่าขอแค่มันป้องกันการถูกคุกคามทางเพศได้ก็พอ
แต่ดูเหมือนนางจะคิดง่ายเกินไป
จวินมั่วหรันจ้องมองเฟิงอู๋โยวที่โมโหจนแก้มป่อง จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปลูบหัวนางอย่างอ่อนโยนพลางเอ่ยเสียงขรึม “เฟิงอู๋โยว เจ้าพยายามเชื่อใจข้าได้หรือไม่”
“เชื่อใจท่านเรื่องอะไร”
“ต่อให้ผู้คนทั่วใต้หล้าจะเข้าใจเจ้าผิด แต่ข้าไม่”
สำหรับพวกเขาทั้งสองคน นี่คือบทสนทนาที่เป็นปกติที่สุดแล้วครั้งแรก
ดวงตาของเขาใสวาว ราวกับสามารถมองลึกลงไปได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แววความหงุดหงิดทั้งหลายถูกแทนที่ด้วยความจริงใจตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
แต่เนื่องจากเฟิงอู๋โยวถูกกลั่นแกล้งจนทำให้ชีวิตกอับลำบากมาแล้วหลายครั้ง ทำให้นางไม่สามารถเชื่อใจใครได้ภายในเวลาอันสั้น
[1] สูญเสียทั้งกำลังทหารและภรรยา หมายถึงวางแผนเล่นงานผู้อื่น แต่ผลร้ายกับย้อนเข้าตัวเองเป็นสองเท่า