เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 202 จวินฝูหนีออกจากเรือน

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 202 จวินฝูหนีออกจากเรือน

“ท่านพี่ ใบหน้าของฝูเอ๋อร์ถูกเฟิงอู๋โยวตบจนบวมฉึ่งแล้ว!”

จวินฝูบุ้ยปาก น้ำตาไหลอาบหน้า “ท่านพี่ต้องจัดการแทนฝูเอ๋อร์นะเจ้าคะ ตบหน้าเฟิงอู๋โยวให้บวมยิ่งกว่าฝูเอ๋อร์ไปเลย”

เฟิงอู๋โยวยกมือขึ้นจับแก้ม”โดยไม่รู้ตัว และจ้องมองใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ของจวินมั่วหรัน “ท่านใต้เท้า พวกเราคุยกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่ทำร้ายร่างกาย”

จวินมั่วหรันมองใบหน้าจวินฝูด้วยสีหน้าไร้เยื่อใย แววตาราวกับใบมีดที่เสียแหลม คมคายและเย็นเยียบ

ไม่นาน ริมฝีปากบางๆ ของเขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นเซาะไปถึงกระดูก “เจ้าสั่งให้คนส่งจดหมายถึงฟู่เย่เฉิน? จะบอกไว้อย่าง ข้าไม่เก็บคนทรยศไว้ข้างกาย”

ดวงตาเล็กเฉี่ยวของจวินฝูเบิกกว้าง ริมฝีปากสั่นด้วยความกลัว “ไม่ ไม่ใช่ฝูเอ๋อร์ ท่านพี่ ฝูเอ๋อร์ถูกใส่ร้าย!”

จวินมั่วหรันชำเลืองมองจวินฝูที่กำลังลนลาน มือข้างหนึ่งยื่นออกไปคว้าเฟิงอู๋โยวเข้ามาไว้ในอ้อมแขนต่อหน้าจวินฝู

ดวงตาสีดำแวววาวของเขามองเฟิงอู๋โยวซึ่งกำลังตื่นตระหนกเช่นกัน ความเกลียดชังและความหงุดหงิดเลือนหาย “เจ้าโง่ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิเจ้า จากนี้ไป ถ้ามีใครทำให้เจ้าไม่มีพอใจ แค่บอกข้ามา แล้วข้าจะจัดการคนนั้นให้เจ้าเอง”

“อืม”

เฟิงอู๋โยวรู้สึกท่วมท้น นางพยักหน้าอย่างงงๆ ราวกับไก่จิกข้าว

“ฝูเอ๋อร์เกลียดท่านพี่!”

เมื่อจวินฝูเห็นสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างจวินมั่วหรันกับเฟิงอู๋โยวในใจก็รู้สึกไม่เต็มใจ คับแค้นใจระคนความหึงหวง

ตั้งแต่ครั้งแรกที่นางเห็นเฟิงอู๋โยวนางรู้สึกว่าเฟิงอู๋โยวจะกลายเป็นหายนะสำหรับตัวนาง

และก็เป็นอย่างที่คิด ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน เฟิงอู๋โยวก็เข้ามาอยู่ในใจของจวินมั่วหรันได้แล้ว ซ้ำยังเบียดนางออกไปอีก

จวินมั่วหรันเพิกเฉยต่อจวินฝู แต่เขาก็ก้มหัวลงมากระซิบข้างหูของเฟิงอู๋โยว ลมหายใจร้อนผ่าวอุ่นซ่านอยู่ข้างหู “เฟิงอู๋โยวขอข้ากอดเจ้าอยู่แบบนี้สักพัก”

“ไม่”

เฟิงอู๋โยวรู้สึกว่าร่างกายของจวินมั่วหรันเริ่มแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ บางอย่างบนร่างกายของเขากำลังตื่นตัว ทำเอานางหน้าแดงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนวางมือบนแผงอกของเขาและพยายามดันออกไปเพื่อรักษาระยะห่าง

“อย่าขยับ! ข้าสัญญาแล้วว่าจะไม่ล้ำเส้น”

เฟิงอู๋โยวจนปัญญา ร่างกายของเขาตื่นตัวขนาดนี้แล้ว คิดว่านางสัมผัสไม่ได้หรือไร

ขณะที่ทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากผลักเขาออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี “ท่านใต้เท้า อย่าได้คิดว่าตัวเองแก่กว่าคนอื่นแล้วจะคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด แล้วอย่ามาให้สัญญาที่ทำไม่ได้อีก กระหม่อมไม่มีทางหลงกลท่านหรอก!”

จวินมั่วหรันพูดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง เขากำลังจะโน้มน้าวนาง

แต่คิดไม่ถึงว่านางจะเร็วกว่าเขาอยู่ก้าวหนึ่ง

“แล้วท่านพี่จะเสียใจ!”

สายตาขุ่นเคืองของจวินฝูผละออกจากเฟิงอู๋โยวและเลื่อนไปมองจวินมั่วหรันอย่างช้าๆ

นางโกรธมากจนตัวสั่นไปทั้งตัว ไม่สนใจแม้แต่เลือดที่ไหลออกมาจากปลายนิ้วแม้แต่น้อย จากนั้นก็หันขวับวิ่งออกจากเรือนฟางฮว๋าอย่างรวดเร็ว

“ท่านหญิง นี่มันเที่ยงคืนแล้ว จะไปไหนเจ้าคะ”

เมื่อเห็นเช่นนั้น แม่นมหวางก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินตามหลังจวินฝูไปติดๆ

แต่นางเป็นโรคอ้วน แค่เดินไปได้สักระยะ ลมหายใจก็ขาดห้วงแล้ว สุดท้ายก็ตามไม่ทันและพลัดหลงกับจวินฝูไป

จวินฝูเดินจ้ำๆ พลางเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตา ดวงตาแดงก่ำเพราะความเกลียดชัง

เป็นครั้งแรกในรอบสิบเจ็ดปีที่นางทะเลาะกับจวินมั่วหรัน

ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าจวินมั่วหรันจะไม่พูดเกลี้ยกล่อมนางเพื่อรั้งนางไว้เลยสักคำ

แต่กลับพยายามเอาใจเฟิงอู๋โยวด้วยท่าทางอ่อนโยนต่อหน้านาง ทั้งที่จวินมั่วหรันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

“เฟิงอู๋โยว แล้วสักวันหนึ่ง ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้นๆ และเผากระดูกของเจ้าให้เป็นเถ้าถ่าน คอยดู!”

“ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นหนูข้างถนน และไม่มีที่ยืนในแคว้นตงหลินแห่งนี้อีกต่อไป!”

“หนี้ที่เจ้าติดค้างข้า ข้าจะเอาคืนเป็นสองเท่า!”

จวินฝูเดินบนถนนอันเปล่าเปลี่ยวและสาปแช่งเฟิงอู๋โยวไม่หยุดด้วยความโมโห

ปึ่ง!

แล้วอยู่ๆ นางก็บังเอิญชนเข้ากับหยุนเฟยไป๋ผู้ชั่วร้ายเข้า ลูกนัยน์ตาพลันลุกวาวเหลือบมอง

“กล้าดีเยี่ยงไร! เจ้าคนไร้ยางอาย เดินไม่ดูตาม้าเรือเรือ!”

จวินฝูยกมือลูบหน้าผากที่กระแทกเข้าหัวไหล่อีกฝ่ายอย่างแรง ก่อนง้างมือตบใบหน้าอันหล่อเหลาของหยุนเฟยไป๋ไปหนึ่งที

“บังอาจนัก!”

ทหารองครักษ์ที่ยืนอยู่ข้างหลังหยุนเฟยไป๋ตวาดใส่จวินฝู พลางดึงดาบออกจากฝักทันที

จวินฝูยังไม่ทันเห็นใบหน้าของผู้มาเยือนอย่างชัดเจนก็ถูกคนของอีกฝ่ายใช้ปลายดาบจ่อคอแล้ว

ปลายดาบค่อยๆ เลื่อนลงมาที่หัวใจ มีเพียงผ้าบางๆ เท่านั้นที่กั้นอยู่ระหว่างปลายดาบกับหัวใจดวงน้อยๆ ของนาง ทำเอานางตัวสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

นางเชิดคางขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเล็กเฉี่ยวเจือแววดูถูก ชำเลืองมองหยุนเฟยไป๋ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างหน้า

เขาสวมเสื้อคลุมสีม่วงอ่อนลายมังกร เนื้อผ้าไหมแวววาวชั้นดีปักด้ายดิ้นเงิน สอดแทรกดิ้นทองในบางจุด ขับความงามและรังสีอำนาจออกมาจางๆ ทำให้เขาแลดูโดดเด่นในคืนหมอกบางเป็นยิ่งนัก

เวลานี้ หยุนเฟยไป๋ลดสายตามองใบหน้าเกรี้ยวกราดที่เปื้อนคราบน้ำตาของจวินฝู

แม้หน้าตาดี แต่ปากเก่งน่ารำคาญ

“ฝ่าบาท เราจะทำเยี่ยงไรดีขอรับ” ทหารองครักษ์มองจวินฝูอย่างดุดันพลางเอ่ยถามหยุนเฟยไป๋เสียงทุ้ม

“ตัดลิ้นแล้วนำตัวกลับไปที่พัก” หยุนเฟยไป๋จับคางของจวินฝูเชิดขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มชั่วร้ายฉายขึ้นที่มุมปาก

เขามาถึงแคว้นตงหลินเป็นครั้งแรกก็ได้พบกับผู้หญิงหน้าตาดีแต่หน้าโง่มาส่งถึงที่แบบนี้ แล้วเขาจะไม่อ้าแขนรับได้เยี่ยงไร

ฝ่าบาท?

รูม่านตาของจวินฝูหดลงเล็กน้อย นางตระหนักได้ทันทีว่าหยุนเฟยไป๋ไม่คนของแคว้นตงหลิน

ทันใดนั้น นางก็ตกใจและพูดอย่างตะกุกตะกัก “รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉิน ใช่หรือไม่”

“อืม”

หยุนเฟยไป๋ตอบอย่างครึ้มใจ “ตามข้ากลับที่พัก”

“ไม่”

จวินฝูส่ายหัวต่อต้าน “ข้าต้องกลับเรือนโดยเร็ว ไม่ใช่นั้นท่านพี่จะเป็นกังวล”

หยุนเฟยไป๋มองพินิจจวินฝูอย่างจริงจัง ความอยากรู้อยากเห็นฉายชัดในดวงตาสีเข้มของเขา ก่อนปริปากเอ่ย “เจ้าเป็นน้องสาวของเจ้าเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินใช่หรือไม่”

“ใช่”

จวินฝูพยักหน้าอย่างมั่นใจ แต่ดวงตาชั่วร้ายของหยุนเฟยไป๋กลับทำให้นางรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว

หยุนเฟยไป๋คลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย “น้องสาวของเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลิน ข้าขอเรียนเชิญไปจิบชาพูดคุยที่เรือนพักของข้า”

“หยุนฉินไท่จือ โปรดอยู่ในความสำรวม! ถ้าท่านคิดแตะต้องข้าแม้แต่ปลายเส้นผม ท่านพี่คงไม่มีวันปล่อยท่านไปง่ายๆ แน่นอน” จวินฝูรู้สึกถูกคุกคาม นางรีบกระชับปิดเสื้อผ้าและก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว

“สำรวม? ท่านหญิงเป็นฝ่ายเดินเข้ามาในอ้อมแขนของข้าก่อนไม่ใช่หรือ”

ครั้นแขนเสื้อที่กว้างของหยุนเฟยไป๋โบกสะบัดลู่ลม ในชั่วพริบตานั้น พื้นที่รอบๆ ก็จรุงไปด้วยกลิ่นหอมหวนของผงหอมยาปลุกกำหนัดชนิดรุนแรง ที่ผสมเข้ากลับสายลมในบริเวณนั้น

ในชั่วพริบตา แก้มของจวินฝูแดงระเรื่อ ร่างกายร้อนวูบวาบ ดวงตาเคลิบเคลิ้มหรี่ปรือ คล้ายต้องมนตร์สะกดแห่งกามตัณหา

หยุนเฟยไป๋ส่ายหัว ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าจวินฝูจะมีนิสัยเหมือนกับจวินมั่วหรันที่เต็มไปด้วยความหยิ่งทระนง แน่วแน่และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าสมาธิและทักษะการข่มใจตนของจวินฝูจะแย่มากขนาดนี้ ลงมือด้วยลูกไม้ตื้นๆ แค่นี้ก็สูญเสียการควบคุมไปเสียแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนี้ก็เดินเข้าไปใกล้ๆ นางอย่างเนิบนาบ

ดวงตาของจวินฝูฉายแววกระเหี้ยนกระหือรือ ความกำหนัดพุ่งพล่านถึงขีดสุด ความกระหายแสดงออกมาอย่างไร้การควบคุม

หยุนเฟยไป๋รู้สึกดูถูกในใจ เขามีมาตฐานการมองหญิงสาวสูงลิบ

โดยปกติแล้ว ผู้หญิงที่ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง ไร้ศักดิ์ศรีความทระนงตนอย่างจวินฝูไม่มีทางเข้าตาคนอย่างเขาแน่นอน

แต่เนื่องจากนางเป็นน้องสาวของจวินมั่วหรัน เขาจึงไม่รังเกียจที่จะมอบ ‘ความรัก’ อันลึกซึ้งให้กับนาง

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท