เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 271 การฆ่าล้างบางของเซ่อเจิ้งหวาง

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 271 การฆ่าล้างบางของเซ่อเจิ้งหวาง

หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว เป่ยถางหลงถิงก็ตัดสินใจถอยกลับไป

เขายืดตัวตรงและพาคนชุดดำหลายสิบคนที่อยู่ด้านหลังกระโดดออกหน้าต่างไปทันที

เมื่อเป่ยถางหลงถิงจากไป ภายในห้องก็เหลือแต่เฟิงอู๋โยวกับไป๋หลี่เหอเจ๋อที่ยืนมองกันตาปริบๆ

ผ่านไปครู่หนึ่ง เฟิงอู๋โยวจึงเอ่ยปากพูดอย่างประดักประเดิด “ขอบใจที่ช่วย”

ริมฝีปากเรียวบางของไป๋หลี่เหอเจ๋อปริเอ่ย “เฟิงอู๋โยว เมื่อไหร่หัวใจเจ้าถึงจะมีที่ว่างให้ข้าบ้าง”

ขณะพูด เขาก็เดินไปนั่งที่ลงบนเก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะชา

“หัวใจข้าจะมีเจ้าหรือไม่ มันสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ” เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาเคยทำกับนาง ความโกรธที่อยู่ในใจก็ยังคงปะทุขึ้นมาอีกตามเคย

“นั่งลงแล้วพูดคุยกับข้าดีๆ ได้หรือไม่”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อทำตาเศร้าคิ้วตก แลดูน่าสงสารยิ่งนัก

เขารู้ดีว่าเฟิงอู๋โยวรู้สึกไม่ดีกับเขา แต่เขาก็ยังอยากพยายามต่อสู้เพื่อความรักที่ไม่สมหวังของเขาอยู่อีกสักตั้ง

เฟิงอู๋โยวเพิ่งตระหนักได้ว่าเรือนแพทย์พยากรณ์ของนางเงียบผิดปกติ นางพอจะเดาได้ทันทีว่าคนงานของนางอาจถูกรมยาสลบไปแล้ว

ไหนจะอาหวงที่ยังไม่กลับมาอีก ตัวเองในตอนนี้รับมือไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่ได้แน่นอน ดังนั้นนางจึงยอมอ่อนข้อลงนิดหน่อย จากนั้นก็รวบรวมความกล้าเดินมานั่งลงด้านหน้าโต๊ะน้ำชาเช่นกัน

มองพินิจอยู่สักพัก ในที่สุดจึงเอ่ยปากด้วยความสงสัยอย่างอดไม่ได้ “ไป๋หลี่เหอเจ๋อ เจ้าจะทำอะไรกันแน่ พวกเราควรเป็นปรปักษ์กันไม่ใช่หรือ ถึงแม้ข้ายังคงมีชีวิตและทนเห็นเจ้าป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าสามารถยอมรับการกระทำที่ผ่านมาทั้งหมดของเจ้าได้ เจ้าทั้งเคยกักขังข้า ข่มขู่ข้าสารพัด แต่เจ้ากลับโผล่มาช่วยตอนข้าตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่ หรือว่าเจ้าป่วยกระนั้นหรือ”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ข้าป่วยรักษาไม่หายมานาน มีเพียงเจ้าที่ช่วยให้ข้ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

“หรือว่าเจ้าติดเชื้อเรื้อรังจากโรคดอกหลิว” ทันทีที่เห็นสีหน้าทุกข์ทรมานของเขา อารมณ์ของเฟิงอู๋โยวก็เปลี่ยนไป

ไม่ทันรอเขาตอบกลับ นางก็พูดขึ้นฉอดๆ “ติดโรคเรื้อรังรักษายากแล้วมาหาข้า ถือว่าเป็นเรื่องที่สมควรที่สุดแล้ว เนื่องจากข้าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เจ้าติดโรคดอกหลิว ผนวกกับความช่วยเหลือของเจ้าวันนี้ ข้าจะรักษาให้เจ้าโดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย ขอแค่หลังจากนี้เจ้าต้องกลับใจเป็นคนดี”

“ข้าไม่ได้ติดโรค”

ใบหน้าของเขาแดงซ่านขึ้นมาทันที แม้ว่าตรงส่วนนั้นของเขาจะมีอาการผิดปกติบางอย่าง แต่โชคดีที่ไม่ร้ายแรงอะไร เพียงทายาก็สามารถหายได้เป็นปกติ

“จริงหรือ” เฟิงอู๋โยวมองเขาอบ่างสงสัย ดวงตาเฉียบตมเจือแววสำรวจ

“จริงแท้แน่นอน”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อแสร้งตอบกลับไปอย่างมั่นใจ เขาไม่คิดว่าก่อนว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกผู้หญิงถามคำถามส่วนตัวแบบนี้

มันน่ากระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน!

และที่น่าหงุดหงิดก็คือ ขณะที่เขากำลังเก้อเขินอยู่นั้น เฟิงอู๋โยวกลับนั่งอยู่ตรงหน้าเขาและมองสำรวจราวกับเป็นเรื่องปกติและไร้ความเขินอายที่ผู้หญิงพึงมี

ไป๋หลี่เหอเจ๋อตระหนักได้ว่าตัวเองหน้าบางกว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าหลายเท่า จึงได้แต่หงุดหงิดขึ้นในใจและเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดอะไรขึ้นอีก

เฟิงอู๋โยวเห็นเขาเอาแต่จ้องมองกาน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด อยู่ๆ ก็ถามขึ้นเสียงขรึม “ไป๋หลี่เหอเจ๋อ เจ้าเป็นถึงราชครูแห่งแคว้นตงหลินที่ผู้คนเลื่อมใสศรัทธา ก็ควรจะทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าความคิดชั่ววูบของเจ้าเกือบคร่าชีวิตชาวบ้านประมาณห้าหกร้อยคนในหมู่บ้านหลิวเจีย ไหนจะฉู่สือซื่ออีก นางเป็นคนของเจ้าไม่ใช่หรือ นางยังเด็ก ไฉนเจ้าถึงฆ่านางได้ลงคอ”

“เจ้าไม่ใช่ข้า เจ้าไม่มีทางรู้ว่าข้าประสบเรื่องอะไรมาบ้าง ตลอดหกปีที่ผ่านมานี้ โศกนาฏกรรมอันโหดร้ายทารุณที่สุดในชีวิตข้าตามหลอกหลอนข้าราวกับเงาติดตัว ทุกครั้งที่หลับตาลง ด้านหน้ามีแต่สัตว์ร้าย ด้านหลังงมีแต่คมดาบ ทุกครั้งที่ลืมตา ศัตรูคู่แค้นที่ฆ่าล้างบางตระกูลข้ากลับมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข นุ่งห่มด้วยเสื้อผ้าวิจิตรหรูหรา อาศัยอยู่ในทุ่งดอกไม้ เดินเหยียบอยู่บนปุยเมฆ แบบนี้เรียกว่ายุติธรรมกระนั้นหรือ”

เฟิงอู๋โยวเม้มปากไม่พูด นางรู้ดีว่าศัตรูคู่แค้นที่ฆ่าล้างบางตระกูลที่ไป๋หลี่เหอเจ๋อพูดถึงก็คือจวินมั่วหรันอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่จากที่นางสัมผัสมา จวินมั่วหรันไม่ใช่ปีศาจชั่วร้ายที่จะทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นได้ลงคอ

บางทีระหว่างไป๋หลี่เหอเจ๋อกับจวินมั่วหรันอาจเข้าใจผิดกันก็เป็นได้

“ให้ข้าเล่าเรื่องในอดีตให้เจ้าฟังสักท่อนเป็นเยี่ยงไร”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อพูดขึ้นอย่างเปิดใจ ท่วงท่าการเคลื่อนไหวของเขาแผ่วเบาดุจดั่งเซียน

เฟิงอู๋โยวพยักหน้าทันที เพราะนางอยากรู้เรื่องในอดีตของเขาเช่นกัน

ก่อนหน้านี้เคยแต่ได้ยินมาจากปั๋วเย่เฉินแต่ไม่ได้ละเอียดอะไร ทำให้นางพอจะรู้มาบ้างว่าชีวิตของไป๋หลี่เหอเจ๋อเมื่อหกปีก่อนไม่ได้สุขสบายเท่าไรนัก

“ในวันเกิดอายุครบสิบสี่ปีของข้า ชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกับข้าบุกเข้าวังหลวงหนานเจียง ในช่วงวิกฤต เสียงท่านป้าของข้าสั่นเครือ แต่นางพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ นางซ่อนข้าไว้ในอ่างน้ำในห้องใต้ดินและก็พูดกับข้าเหมือนตอนที่เล่นซ่อนแอบตอนเด็กว่า ‘อาเจ๋อ มาเล่นซ่อนแอบกัน เจ้าจงซ่อนตัวอยู่ในอ่างน้ำนี้อย่าไปไหนเด็ดขาด ถ้าไม่มีใครหาพบภายในสามชั่วยามเจ้าก็สามารถออกมาเองได้’ ข้าได้แต่พยักหน้า ทั้งที่รู้ว่าวังหลวงหนานเจียงกำลังประสบกับการโจมตีครั้งใหญ่ แต่กลับนั้นข้ากลับขี้ขลาดและเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในอ่างน้ำเป็นเวลาสามชั่วยามตามที่ท่านป้าบอก”

“ในอ่างน้ำ มีเพียงน้ำตื้นๆ แค่ระดับข้อเท้าของข้าเท่านั้น แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันทำให้ข้ารู้สึกหนาวและสั่นไปทั้งตัว หูของข้าได้ยินแต่เสียงหวีดหวิวของลมที่สอดแทรกมากับเสียงท่านป้ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด สลับกับเสียงร้องไห้อย่างทรมานเป็นเวลานาน หลังจากเวลาสามชั่วยามผ่านไป ข้าเดินออกจากห้องใต้ดิน สิ่งที่เห็นมีเพียงความสิ้นหวัง ท่านป้าของข้านอนตายตาค้างอย่างน่าอนาถอยู่ที่ทางเข้าห้องใต้ดิน ส่วนท่านพ่อก็นั่งตายตาหลับอยู่บนบัลลังก์มังกร”

ขณะฟัง อยู่ๆ เฟิงอู๋โยวก็รู้สึกหนาววูบวาบขึ้น นางสัมผัสได้ถึงความเศร้าโศกของไป๋หลี่เหอเจ๋อในตอนนั้น

เป็นอย่างที่เขาพูดก่อนหน้านี้จริงๆ ‘โศกนาฏกรรมอันโหดร้ายทารุณ’

ไป๋ลี่เหอเจ๋อนั่งจ้องจอกสุราด้านหน้าของตนแน่นิ่ง ก่อนพูดต่อ “ข้ายืนอยู่ในวังหลวงที่มีแต่ศพของขุนนางและทหารที่นอนตายจมกองเลือด ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ ข้าได้แต่เขย่าร่างที่เย็นเยียบของท่านป้าและเอาแต่ตะโกนข้างหูนาง แต่นางกลับไม่ตอบสนองใดๆ และไม่อาจเรียกข้าว่าอาเจ๋อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป”

อาจเป็นเพราะคิดถึงท่านป้าขึ้นมา ใบหน้าที่นิ่งงันราวน้ำแข็งพันปีของเขาเริ่มมีน้ำตาอุ่นไหลผ่าวออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง

นี่เป็นครั้งแรกที่เฟิงอู๋โยวเห็นเขาหลั่งน้ำตาออกมา

นางยื่นผ้าเช็ดหน้าออกไปให้เขา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปลอบเขาเยี่ยงไร

ไป๋หลี่เหอเจ๋อรับผ้าเช็ดหน้ามา ดวงตาเขาเอาแต่จ้องมองดอกยี่หุบที่ปักอยู่บนผ้าเช็ดหน้า

เดินทีเขาไม่อยากพูดถึงอดีตอันทุกข์ทรมานของตัวเอง แต่เห็นได้ชัดว่าอดีตของเขานำมาซึ่งความสงสารและเห็นใจจากเฟิงอู๋โยว ดังนั้นเขาจึงเล่าต่อ

“ข้ากอดท่านป้าของข้าเอาไว้แน่น และเตรียมที่จะฝังร่างนางเอาไว้ในทุ่งดอกไม้ แต่จวินมั่วหรันในมาดปีศาจกลับโผล่มายืนอยู่ตรงหน้าข้าราวกับอาชูร่ากระหายเลือด จากนั้นก็จุดไฟเผาร่างท่านป้าของข้าและวังหลวงที่ข้าอาศัยอยู่มาเป็นเวลาสิบสี่ปี ไม่เพียงแค่นี้ เขายังสั่งทหารให้ลากข้าไปที่ซ่องโจรและปล่อยให้โจรเถื่อนพวกนั้นเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของข้าด้วยทุกวิถีทางที่มี”

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน