ตอนที่ 278 เค้นถามจวินฝู
สีหน้าของจวินฝูประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวแดง ถูกเขาจ้องจนหนังศีรษะชา
ครุ่นคิดอยู่นาน นางจึงพูดขึ้นเสียงอู้อี้ “องค์รัชทายาทโปรดสำรวมด้วยเจ้าค่ะ หม่อมฉันยังไม่รับปากว่าจะแต่งงาน”
“เสแสร้งได้อะไร จวินฝู ในเมื่อเจ้ากล้าปลดเสื้อผ้ากลางเวทีการแสดง ปากของเจ้าเอาแต่เรียกชื่อท่านพี่ของเจ้าอย่างไร้ยางอาย ตอนนี้กลับแสร้งสงวนตัวต่อหน้าข้ากระนั้นหรือ”
“ท่าน!”
จวินมั่วหรันเขินอายจโกรธ ใบหน้าแดงก่ำแต่ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร
ทันใดนั้น มือของหยุนเฟยไป๋ก็เอื้อมไปจับหน้าท้องของจวินฝู แล้วออกแรงกดท้องของนางพร้อมกับพูดเสียงเย็น “บอกมา เด็กในท้องของเจ้าเป็นของข้าจริงๆ หรือไม่”
จวินฝูเจ็บจนหน้าซีด จึงพยักหน้าระรัว “ใช่เจ้าค่ะ ไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่ แต่มันคือความจริง นอกจากท่านแล้ว ข้าไม่เคยทำเรื่องพรรค์นั้นกับใคร”
นางรู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร ในเมื่อตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับหยุนเฟยไป๋แล้ว นางจำเป็นต้องสะสางเรื่องที่เข้าใจผิดให้ชัดเจน
ได้ยินเช่นนั้น ภายในใจของหยุนเฟยไป๋ก็เป็นสุขขึ้นมาไม่น้อย
แต่สิ่งที่เขากังวลยิ่งหว่าก็คือหญิงสาวปิดหน้าในการแสดงของสภาบุหงาวันนั้นใช่เฟิงอู๋โยวหรือไม่
หลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง หยุนเฟยไป๋ก็ขึ้นมาบนเตียง
เขาเอื้อมมือออกไปบีบคอจวินฝูพลางถามเสียงเข้ม “เจ้ารู้จักหญิงสาวปิดหน้าในการแสดงของสภาบุหงาวันนั้นหรือไม่”
“ไม่รู้จัก”
จวินฝูส่ายหน้า หากปล่อยให้นางรู้ที่อยู่ของหญิงสาวปิดหน้าคนนั้น นางจะต้องสั่งคนไปเผาบ้านของนาสตรีคนนั้นทิ้งแน่นอน!
บังอาจนั่งในอ้อมกอดของจวินมั่วหรันในที่สาธารนะ สมคายตายเสียจริง!
หยุนเฟยไป๋กึ่งเชื่อกึ่งสงสัย “เจ้าไม่รู้จักสตรีของพี่ชายตัวเอง?”
จวินฝูพบว่าหยุนเฟยไป๋จะสนใจหญิงสาวปิดหน้าเป็นที่สุด ภายในใจก็ไม่เป็นสุขทันที
นางสะบัดหน้าหนี พูดขึ้นเสียงเย็น “ต้องขออภัยที่ข้าไม่อาจบอกได้”
เพี้ยะ!
หยุนเฟยไป๋ยกมือตบหน้าจวินฝูอย่างแรง “อย่ามาทำตัวสุราคำนับไม่ดื่ม ดื่มสุราลงโทษ”
“องค์รัชทายาท ข้าตั้งครรภ์ลูกเจ้าอยู่ ไฉนท่านถึงตบตีข้า” จวินฝูไม่คิดไม่ฝันว่าหยุนเฟยไป๋จะกล้าลงมือตบตีหญิงตั้งครรภ์
และที่สำคัญก็คือ นางตั้งครรภ์เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาแท้ๆ
แม้แต่เสือร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง ไม่คิดว่าหยุนเฟยไป๋จะวิปลาสถึงขั้นนี้!
จวินมั่วหรันรู้หวาดกลัวขึ้นในใจ บางทีการแต่งงานกับหยุนเฟยไป๋อาจไม่ได้มีชีวิตอย่างเฟื่องฟูหรูหราก็เป็นได้ ในทางตรงกันข้าม อาจเหมือนถูกเขาลากลงไปในขุมนรกอเวจีไร้ที่สิ้นสุด ไม่อาจร้องขอความเป็นความตายได้
คิดได้เช่นนั้น จวินฝูก็เกิดหวั่นใจเป็นที่สุด มือไม้รีบผลักเขาออกไป “องค์รัชทายาทหยุนไป๋เจ้าคะ ได้โปรดออกไป!”
เพี้ยะ!
หยุนเฟยไป๋ตบหน้านางอีกครั้ง “จวินฝู จงจำเอาไว้ เจ้าเป็นสตรีของข้า ไม่ว่าเวลาไหนเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธข้า”
“องค์รัชทายาท เจ้าไม่กลัวท่านพี่รู้เรื่องนี้หรือ”
น้ำตาของจวินฝูหลั่งริน นางกลัวอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายผิดปกติของหยุนเฟยไป๋เป็นที่สุด
หยุนเฟยไป๋แสยะยิ้ม “จวินฝู นี่เจ้ากำลังใช้กลยุทธ์แสร้งปล่อย (ให้ท้อง) เพื่อจับ (ผู้ชาย) อันคร่ำครึอยู่กระนั้นหรือ แค่ดูจากกิริยากระเหี้ยนกระหือรือวันนั้น ประชาชนทั่วทั้งเมืองล้วนรู้แล้วว่าเจ้าขาดผู้ชาย ตอนนี้ อยากให้ข้าสนองความต้องการเจ้าหรือไม่”
“ไม่ ข้าแค่ถูกวางยาปลุกกำหนัด” จวินฝูเกิดหวั่นใจ ก่อนตอบกลับไปเสียงสั่น
แควก!
หยุนเฟยไป๋หาได้สนใจเรื่องพวกนี้ไม่ เขาฉีกเสื้อผ้าของจวินฝูตามอำเภอใจและไม่สนใจความเป็นความตายของนางแม้แต่น้อย
ด้านนอก เหล่าสาวรับใช้เวรดึกที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของจวินฝูต่างพากันมองหน้ากันไปมา
“ควรแจ้งเรื่องนี้ให้หวางมามารู้หรือไม่”
“หวางมามาน่าจะเข้านอนแล้ว ปกติเวลาที่ท่านหญิงอารมณ์ไม่ดีก็มักจะร้องโวยวายแบบนี้ คิดว่าน่าจะไม่มีเรื่องอะไร”
สาวรับใช้สองคนหาวนอนตามกัน สายตาพลางมองไปที่แสงเทียนขยับไหวภายในเรือนฟางฮวา ก่อนหยิบปุยนุ่นขึ้นมาอุดหูและนั่งหลับพิงเสาตรงระเบียงทางเดินด้านนอกเรือนฟางฮวา
ตอนที่ 279 หยุนเฟยไป๋เริ่มสงสัย
เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม ภายในเรือนฟางฮว๋าก็กลับมาสู้ความสงบอีกครั้ง
หยุนเฟยไปมองจวินฝูที่เปื้อนไปด้วยคราบเลือด จากนั้นก็บังคับให้เธอกินโอสถสงบครรภ์ “ดูแลครรภ์ให้ดี หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ ข้าจะมาเค้นถามกับเจ้า!”
จวินฝูจ้องมองมุ้งกระโจมอย่างแน่นิ่ง น้ำตาไหลพราก
ริมฝีปากของเธอสั่นเครือ พอเอ่ยปากพูดก็พบว่าเสียงพร่าแหบยิ่งนัก
“หยุนเฟยไป๋ ไฉนเจ้าต้องทำกับข้าเยี่ยงนี้ด้วย หากข้าแท้งขึ้นมาก็เพราะเจ้าเป็นคนทำไม่ใช่หรือ”
“หากเจ้าไม่ระวังแท้งลูกขึ้นมา ทุกคนก็จะมีความสุข ท้องว่างเปล่าโหรงเหรง แล้วหากยังจะคิดยัดเยีนดตัวเองเข้ามาในราชวงศ์หยุนฉินอีก มันก็ไม่ต่างอะไรจากสิ่งเพ้อฝัน”
อันที่จริง หยุนเฟยไป๋ไม่ได้ปราศจากความหวาดกลัวเหมือนที่ปากเขาพูด
สาเหตุที่เขายอมรับจวินฝูเป็นพระชายาเอก ก็เป็นเพราะถูกบีบบังคับมาจากหลายทาง
ประการแรก เขาอยู่ในถิ่นของจวินมั่วหรัน หากจวินมั่วหรันคิดจะเล่นงานเขาในเวลาอันสั้น เขาอาจรับมือได้ยาก
นอกจากนี้ คนในแคว้นตงหลินไม่ค่อยเป็นมิตรกับเขาเท่าไร ถ้าเขาทำร้ายน้องสาวของเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินขึ้นมามันจะยิ่งกระตุ้นความโกรธของฝูงชนอย่างแน่นอน
หลังจากชั่งใจอยู่นาน เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับจวินที่รูปร่างหน้าตาจัดว่าสวยงามคนนี้อย่างไม่เต็มใจ
เมื่อหยุนเฟยไป๋ถูกสนองความต้องการ อารมณ์ของเขาก็ไม่ขุ่นมัวเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไป
เขาตบหน้าจวินฝูเบาๆ พลางถามเสียงเย็น “บอกมา หญิงสาวปิดหน้าในงานแสดงของสภาบุหงาคนนั้นเป็นใคร”
“ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด ข้าไม่รู้จริงๆ”
หยุนเฟยไป๋ครุ่นคิด จวินฝูดูไม่ค่อยเหมือนพวกปากแข็ง ครั้นจึงเลิกราวีเธอ “ไม่รู้ก็แล้วไป แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านพี่ของเจ้าเคยมีสตรีมาแล้วกี่คน”
“ท่านพี่ไม่ชอบเข้าใกล้สตรี”
จวินฝูพูดออกไปเช่นนี้ เธอสัมผัสได้ว่าหยุนเฟยไป๋กับจวินมั่วหรันไม่ลงรอยกัน
หากสามารถใช้หยุนเฟยไป๋กำจัดเฟิงอู๋โยวได้คงจะดีไม่น้อย!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ จวินฝูก็ทำตามที่เธอคิดและพูดออกไปอย่างระมัดระวัง “นอกจากหญิงสาวปิดหน้าในการแสดงของสภาบุหงาแล้ว ท่านพี่สนใจแค่แม่ทัพตกอับจากแคว้นเป่ยหลีอย่างเฟิงอู๋โยว”
“อ่อ?”
เมื่อได้คำตอบที่ต้องการ หยุนเฟยไป๋ก็มิ้มมุมปากพลางเอ่ย “ท่านพี่ของเข้าชอบบุรุษเพศ?”
จวินฝูพยักหน้าอย่างหนักแน่น “นอกจากเฟิงอู๋โยว ท่านพี่ก็ไม่เคยสนใจผู้ใดมาก่อนเลย”
ก่อนหน้านี้หยุนเฟยไป๋ไม่เชื่อคำพูดของเถาหงเท่าไร เพราะว่ามาดของหญิงสาวปิดหน้าคนนั้นเยือกเย็นคล้ายกับเซียนบนสวรรค์ชั้นเก้า งดงาม ดูสงบเยือกเย็น
บัดนี้ได้ยินจวินฝูบอกเช่นนี้ เขาจึงเริ่มสงสัยในเพศกำเนิดของเฟิงอู๋โยวขึ้นมารำไร
เธอเป็นผู้หชายหรือผู้หญิงกันแน่
“เฮ้อ! น่าสนใจ”
ครั้นจัดระเบียบเสื้อผ้าเสร็จสรรพ หยุนเฟยไป๋ก็สะบัดชายแขนเสื้อจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ปล่อยให้จวินฝูนอนแผ่อยู่บนเตียงอย่างอิดโรย น้ำตาไหลเป็นสายแม่น้ำ
หยุนเฟยไป๋ไม่ใช่คนดี แต่จวินฝูอย่างเธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ครั้นเสี้ยวแสงอรุณสาดส่อง เฟิงอู๋โยวอยู่ในสภาพนอนขดตัวคล้ายลูกแมวอยู่ในอ้อมกอดของจวินมั่วหรัน มือข้างหนึ่งเลื่อนลงไปสัมผัสเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาบริเวณหน้าท้องของจวินมั่วหรันเป็นระยะๆ ส่วนอีกข้างก็ลูบไปมาทั่วร่างกายตามอำเภอใจ
ดวงตาทั้งสองข้างของเธอปิดสนิท ปากพูดงึมงำไม่หยุด “ไฉนไม่เรียกแล้ว ข้าจะบอกเจ้าให้ ต่อให้เจ้าเรียกจนคอแตกก็ไม่มีใครช่วยเจ้าหรอก!”
จวินมั่วหรันหุบยิ้ม มือพลันยกขึ้นมาสะกิดจมูกเธอ “เจ้าหนูน้อย ปากบอกว่าไม่เอา แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟัง อะไรกัน ฝันว่ากำลังย่ำยีข้าอยู่กระนั้นหรือ”
เฟิงอู๋โยวคว่ำปาก ทันใดนั้นก็เข้ามาจูบเปลือกตาทั้งสองข้างของจวินมั่วหรัน “ชู่! เบาๆ หน่อย ขืนปลุกข้าจากความฝันหวานแบบนี้ ข้าตามจองล้างจองผลาญเจ้าแน่”
คล้ายรู้สึกตัวว่าที่ตัวเองจูบไม่ใช่ปาก เธอจึงขยับปากสองครั้ง จากนั้นก็จับใบหน้าหล่อเหลาของจวินมั่วหรันอย่างคุ้นชิน ลูบๆ คลำๆ อยู่นาน ในที่สุดก็ประกบจูบลงบนริมฝีปากเขา