เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 302 ลูกนกอินทรีโบยบิน ตอนที่ 303 วิชามายา

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 302 ลูกนกอินทรีโบยบิน / ตอนที่ 303 วิชามายา

ตอนที่ 302 ลูกนกอินทรีโบยบิน

ณ เรือนแพทย์พยากรณ์

เฟิงอู๋โยวเพิ่งจะเข้ามาในเรือนก็ต้องพบกับบรรยากาศอันวุ่นวายทันที

หนึ่งคน สองคน สามคน…หกคน!

ตอนแรกที่เห็นคนอยู่ในเรือนถึงหกคน เฟิงอู๋โยวก็ตกใจขึ้นมาเพราะคิดว่าเป่ยถางหลงถิงคงมาหาเรื่องนางถึงหน้าประตูบ้านอีกแล้ว

นางคลำหยิบตะบันไฟ[1]ในความมืดและจุดตะเกียงน้ำมันบนโต๊ะพร้อมเสียง “พรึบ”

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง มือข้างกำเข็มเงินยาวหนึ่งนิ้วแน่น ส่วนอีกข้างก็ถือตะเกียงน้ำมันแสงสลัว แล้วเดินไปทางด้านหลังผนังกันลมช้าๆ

“ท่านชายกลับมาแล้ว! บ่าวชื่อเจินเจิน อายุสิบเก้าปี”

“บ่าวชื่ออ้ายอ้าย อายุน้อยกว่าเขาสามเดือน”

“บ่าวชื่อเหลียนเหลียน”

“บ่าวชื่อฉุนฉุน ขอคารวะท่านชาย”

“บ่าวชื่อเพียวเพียว”

“บ่ายชื่อโหรวโหรว ผู้คอยปลดเสื้อผ้าให้ท่านชาย”

เฟิงอู๋โยวถอยหลังกลับไปหลายก้าวอย่างไม่รู้ตัว คำอุทานนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในใจและอยากจะอุทานออกไป

คนอย่างไป๋หลี่เหอเจ๋อมันเกินไปจริงๆ !

ทั้งที่เขารู้ว่าจวินมั่วหรันขี้หึง แต่ยังส่งนายบำเรอทั้งหกมาที่เรือนแพทย์อีก

พรุ่งนี้ถ้าจวินมั่วหรันเห็นพวกเขาเข้าจะไม่โกรธเป็นสายฟ้าฟาดหรอกหรือ

เฟิงอู๋โยวมองดูพวกเขาอย่างปวดหัวเล็กน้อย “ออกไป ข้าเหนื่อย ไม่มีเวลามาโอ๋พวกเจ้า”

“ท่านชาย ให้เพียวเพียวทุบไหล่นวดหลังให้นะขอรับ”

“โหรวโหรวจะอุ่นเตียงให้เอง”

“ออกไป!”

เฟิงอู๋โยวจ้องมองบุรุษรูปงามงามทั้งหกที่พยายามหว่านล้อมอยู่ข้างหน้าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

นางเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของจวินมั่วหรันจนชิน ทำให้นางไม่ตื่นเต้นเท่าเมื่อก่อนเวลาเห็นบุรุษรูปงาม

“ฮือๆๆ ท่านชายใจร้าย” โหรวโหรวกัดผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กและแสร้งทำเป็นเช็ดน้ำตาที่ไม่มีอยู่ตรงหางตา

ต่อมา อีกห้าคนที่เหลือก็ทำตาม ควักผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กออกมาและร้องไห้เสียงดัง

“ร้องไห้ให้มันได้อะไร”

เฟิงอู๋โยวรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที นางไม่คิดไม่ฝันว่าบุรุษร่างใหญ่ทั้งหกคนนี้จะร้องไห้ได้เก่งกว่าชิงหลวน

“ท่านชาย พวกบ่าวจะร่วมหลับนอนกับท่าน”

เฟิงอู๋โยวคิดในใจ ร่วมหลับนอนบ้านแม่พวกแกสิ

เฟิงอู๋โยวรู้สึกจนปัญญา หากไม่ใช่เพราะบุรุษรูปงามทั้งหกคนนี้มีผลประโยชน์โดยการนำไปใช้เรียกแขกให้เรือนแพทย์ นางคงโยนพวกเขาทิ้งไว้ข้างถนนอย่างไม่เกรงใจ

เฟิงอู๋โยวหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ลงช้าๆ จากนั้นก็พูดกับพวกเขาอย่างใจเย็นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “ก่อนหน้านี้ ข้าได้คิดค้นท่าร่ายรำอันงดงามให้มาได้ชุดหนึ่งและได้กำกับประกอบท่าร่ายรำเอาไว้แล้ว พวกเจ้าจงฝึกฝนตามตำรานี้ให้ดี เอาไว้ฝึกสำเร็จแล้วค่อยมาหาข้า”

เมื่อพูดจบก็ก้มลงหยิบตำราเล่มเล็กที่ใช้รองขาโต๊ะขึ้นมา จากนั้นก็โยนมันใส่งฉุนฉุนอย่างไม่ตั้งใจ

“มันเป็นของข้า”

“พูดมั่วๆ เห็นๆ อยู่ว่าท่านชายมอบให้ข้า!”

“ข้าอายุมากสุด พวกเจ้าต้องฟังข้า”

เพียงครู่เดียวพวกเขาก็ทะเลาะกันจนหน้าแดงหูแดงขึ้นมาอีกครั้ง จนเกือบจะลงไม้ลงมือกันจริงๆ

เฟิงอู๋โยวส่ายหน้าและไล่พวกเขาออกไป เสียง ‘ปึง’ ดังขึ้น ประตูใส่กลอนปิดสนิท

ว่ากันว่าสตรีสามคนอยู่รวมกันมักเกิดเรื่องวุ่นวาย

นางคิดว่าถ้าผู้บุรุษทั้งหกคนนี้อยู่รวมกัน พวกเขาสามารถสร้างเรื่องวุ่นวายได้เป็นหลายสิบปี!

ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเสียงนั้นก็หยุดลง

ภายใต้แสงจันทร์จางๆ ฉุนฉุนอ่านออกเสียงตัวหนังสือทองตัวใหญ่ขึ้นเสียงดังฟังชัด “กายบริหารชุดที่ห้า ‘ลูกนกอินทรีโบยบิน’ กระนั้นหรือ”

“กายบริหารเป็นการเต้นรำประเภทใด” เพียวเพียวกุมขมับเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

ทุกคนล้วนส่ายหน้าเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน

“เช่นนั้น พวกเรามาฝึกซ้อมกันที่ลานหน้าเรือนกันเถิด! จะไม่ทำให้ท่านชายผิดหวังเด็ดขาด!” โหรวโหรวกล่าวให้คำปฏิญาณ

“ใช่แล้ว! พี่น้องร่วมใจกัน ย่อมเอาชนะได้ทุกอย่าง!”

ขณะที่คุยกัน พวกเขาก็จูงมือกันไปที่ลานหน้าเรือน พวกเขาพยายามก้าวขาอย่างพร้อมเพรียงตามท่าทางอันยากจะเข้าใจที่ระบุไว้ในตำราและพยายามเลียนแบบการเคลื่อนไหวกันอย่างเก้งก้าง

ตอนที่ 303 วิชามายา

ภายในเรือนแพทย์

เฟิงอู๋โยวจามติดต่อกันหลายครั้งจนเป่าตะเกียงน้ำมันดับ ‘พรึบ’ ขณะกำลังจะเอนตัวลงนอน ก็พบว่าบนเตียงมีดวงตาเป็นประกายคู่หนึ่งจ้องมองมาอย่างไม่ละสายตา

“เช็ดแม่!”

“เจ็ดชั่วโตคร…”

นางตกใจรีบถอยหลังกลับ

“ไป๋หลี่เหอเจ๋อ? เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่”

เฟิงอู๋โยวจุดตะเกียงน้ำมันขึ้นมาอีกครั้ง ภายใต้แสงไฟสลัว นางจ้องมองไป๋หลี่เหอเจ๋อที่นอนอยู่บนเตียงอย่างไม่สบอารมณ์

ได้ยินเช่นนั้น เขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นและก้าวเข้ามา

เขาใกล้เข้ามาหนึ่งก้าว

นางก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว

เป็นเช่นนี้วนเวียนซ้ำไปจนกระทั่งหลังของเฟิงอู๋โยวชิดบานประตูจนไร้ทางถอยหนี

ไป๋หลี่เหอเจ๋อยกมือขึ้นปัดผมที่แตกกระจายบดบังหน้าผากของนางไปทัดที่หลังหูอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงเย็นชื่นเจือไปด้วยความข่มใจ “เจ้าพอใจกับนายบำเรอทั้งหกที่ข้ามอบให้หรือไม่”

พูดแบบนี้ แสดงว่าไป๋หลี่เหอเจ๋ออยู่ในห้องของนางมาตลอดเลยหรือ

เฟิงอู๋โยวขมวดคิ้วพลางบ่นในใจ ดูเหมือนทักษะการระแวดระวังตัวของตัวเองลดลงไปอย่างมาก

เมื่อครู่นี้ทั้งที่มีคนเจ็ดคนอยู่ในห้อง แต่กลับสัมผัสได้หกคน

“ข้าจะนอน โปรดออกไป”

เฟิงอู๋โยวหยิบไม้ขนไก่ปัดฝุ่นขึ้นมาสลัดใส่หน้าไป๋หลี่เหอเจ๋อ จากนั้นก็พูดขึ้นเสียงดุ ““รีบๆ ออกไป! ข้าดุมากนะ”

“อย่างที่เจ้ารู้ เรือนจื่อหยางถูกไฟไหม้ ต้องใช้เวลาสร้างใหม่ เตียงที่เรือนของอาเฉินก็พัง ข้าจึงไม่มีที่นอน ดังนั้นจึงต้องมาขออาศัยนอนที่ห้องเจ้าสักหนึ่งคืน” ไป๋หลี่เหอเจ๋อพูดโกหกหน้านิ่ง หน้าไม่แดงและลมหายใจก็ไม่ติดขัด

“เจ้าทำอะไรกับฟู่เย่เฉิน ไฉนถึงทำเตียงของเขาพังได้”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อคาดไม่ถึงว่าเฟิงอู๋โยวจะมีวิธีคิดที่แปลกขนาดนี้

เขาขี้เกียจอธิบาย จึงได้แต่หันกลับไปที่เตียงอีกครั้ง “ขึ้นมานอนกับข้า”

เมื่อเห็นเขาเอนตัวเองไปบนเตียง เฟิงอู๋โยวก็โกรธจัดจนกัดฟันกรอด “ไป๋หลี่เหอเจ๋อ เจ้าทำแบบนี้เขาเรียกว่านกพิราบยึดรังนกสาลิกา[2]!”

“แล้วมันเป็นเยี่ยงไร”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อยิ้มยิงฟัน จากนั้นก็ถอดชุดคลุมบางๆ ชั้นนอกออกราวกับไม่มีใครอยู่ตรงนั้น “เจ้าจะยืนหลับทั้งคืนเลยหรือ”

เฟิงอู๋โยวแค่นเสียงอย่างเย็นชา “นอนคนเดียวไปเถิด! ข้าจะไปหาอาหวง”

ความหมายที่นางต้องการจะสื่อก็คือ ให้นางนอนที่เดียวกับสุนัขยังดีเสียกว่านอนร่วมเตียงกับเขา

“หยุด”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่เปิดโอกาสให้เฟิงอู๋โยวหนี เขาลุกขึ้นมาคว้าตัวนางไปเข้าไปกอด “ข้าให้โอกาสเจ้าไปแล้วแต่เจ้าไม่ต้องการมัน”

“โอกาสอะไร”

เฟิงอู๋โยวรู้สึกสับสนเมื่อได้ยิน ถ้านางไม่กลัวกำลังภายในที่เกินหยั่งถึงของเขา ป่านนี้เข็มเงินใต้แขนเสื้อของนางพุ่งแทงเข้าที่จุดตายของเขาแล้ว

ไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่ตอบ แต่อยู่ๆ นายบำเรอทั้งหกที่อยู่ด้านนอกก็บุกเข้ามาอย่างกะทันหัน

พวกเขาพากันถือกระจกคนละหนึ่งบาน จากนั้นก็แยกกันยืนเป็นสองฝั่ง

ทันทีที่เฟิงอู๋โยวเห็นเช่นนั้นก็รีบหลับตาลง “ไป๋หลี่เหอเจ๋อ เจ้าคิดจะสะกดจิตข้ากระนั้นหรือ”

“เฟิงอู๋โยว ข้าไม่เคยคิดจะทำร้ายเจ้า”

“ดีแต่พูด แต่ก็ทำร้ายข้าอย่างไม่ยั้งมือมาตลอด ไป๋หลี่เหอเจ๋อ ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าเจ้ากับข้าได้ปรับความเข้าใจกันแล้วเสียอีก ต่อให้เจ้าจะวางแผนเล่นงานข้าสารพัดวิธี แต่อย่างน้อยพวกเราก็เป็นขุนนางในราชสำนักเดียวกัน ข้าไม่อยากรื้อฟื้นความแค้นในอดีตและจองล้างจองผลาญกับเจ้า ดังนั้นรีบออกไปเสียเถิด แล้วข้าจะคิดเสียว่าเจ้าไม่เคยมาที่นี่”

“ปรับความเข้าใจ? เฟิงอู๋โยว เจ้าต้องการแบ่งแยกสถานะกับข้าอย่างชัดเจนขนาดนั้นเชียวหรือ” ไป๋หลี่เหอเจ๋อเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา เขาไม่คิดจะทำอะไรนาง แต่ท่าทีของนางกลับห่างเหิน

“ไป๋หลี่เหอเจ๋อ ถ้าเจ้าไม่ไป ข้าจะตะโกนเรียกคน!”

เฟิงอู๋โยวรู้ดีว่าเหตุการณ์ฆ่าล้างบางคนในตระกูลเมื่อหกปีก่อนและการรังแกอย่างไร้มนุษยธรรมจากกลุ่มโจรได้สร้างปมในใจยากเกินเยียวยาให้ไป๋หลี่เหอเจ๋อ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมีนิสัยดื้อด้านเอาแต่ใจขนาดนี้

นางเห็นใจกับเรื่องเลวร้ายที่เขาประสบพบเจอ แต่ไม่ได้หมายความว่านางจะทนกับการถูกเขากลั่นแกล้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เฟิงอู๋โยวก็พูดขึ้นเสียงขรึม “หวนกลับคือฟากฝั่ง ขอแค่เจ้าเต็มใจที่จะกลับตัวกลับใจ สักวันหนึ่งพวกเราอาจจะมีโอกาสได้ดื่มสังสรรค์กัน”

“เฟิงอู๋โยว เจ้าวางใจเถิด ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าอย่างแน่นอน เป้าหมายของข้าคือจวินมั่วหรันเท่านั้น”

“ไป๋หลี่เหอเจ๋อ เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าบางทีเจ้าอาจเกลียดผิดคน บางครั้งสิ่งที่เห็นด้วยตาอาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป จำเป็นต้องใช้หัวใจสัมผัส”

“ฉู่สือซื่อ ออกมา”

เมื่อเฟิงอู๋โยวนึกถึงภาพตอนที่เฟิงอู๋โยวกับจวินมั่วหรันจูบกันในโรงเตี๊ยมหลิงเฟิง ไฟอิจฉาภายในใจก็แทบจะปะทุออกมา

เห็นๆ อยู่ว่าจวินมั่วหรันเป็นปีศาจที่กินคนไม่คายกระดูก[3] เขาไม่คู่ควรกับเฟิงอู๋โยว

เขาไม่คู่ควร!

“นายท่านเจ้าคะ ข้าไม่อยากทำร้ายเขา”

ฉู่สือซื่อยืนยึกยักอยู่ที่ประตู นางจำได้ว่าตอนที่ตัวเองถูกแทงด้วยดาบ เฟิงอู๋โยวคิดที่จะช่วยนางเอาไว้

แม้ว่านางจะยังเป็นเด็กแต่ก็มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี

ไป๋หลี่เหอเจ๋อพูดขึ้นเบาๆ “นางถูกคนชั่วปิดตา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ช่วยนางได้”

ฉู่สือซื่อพยักหน้าอย่างหนักแน่นเพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จากนั้นก็แทงเข็มไปที่ปลายนิ้วของตัวเองและบีบเลือดจากปลายนิ้วใส่เตากำยาน

สักพัก ทั่วทั้งห้องก็คลุ้งไปด้วยกลิ่นหอมพิศวงอันเข้มข้น

เฟิงอู๋โยวกลั้นหายใจ ตั้งสติและรีบวิ่งไปที่ประตู

แต่ทันทีที่เท้าของนางก้าวข้ามธรณีประตู ร่างกายก็พลันอ่อนแรงลงและล้มหงายหลังลงบนพื้น

ไป๋หลี่เหอเจ๋อประคองนางไว้อย่างมั่นคง ในดวงตาซุกซ่อนแววรู้สึกผิด

เขาไม่อยากแยกเฟิงอู๋โยวออกจากจวินมั่วหรันด้วยวิธีสุดโต่งแบบนี้ แต่เขาไม่อาจทนเห็นความรักอันเหนียวแน่นของพวกเขาได้

จวินมั่วหรันไม่คู่ควรที่จะได้รับความสุข!

ไม่คู่ควร!

ทันใดนั้น นอกจากฉู่สือซื่อกับไป๋หลี่เหอเจ๋อที่กินโอสถแก้พิษไว้ล่วงหน้า ทุกคนในห้องล้วนสลบกันหมด

ไป๋หลี่เหอเจ๋อเหลือบมองเหล่านายบำเรอที่นอนเกลื่อนอยู่บนพื้น เขาก้าวเท้าคร่อมร่างของพวกเขามาหาเฟิงอู๋โยวและอุ้มนางในสภาพสลบมาวางบนเตียงอย่างเบามือ

ฉู่สือซื่อที่อยู่ด้านหลังกลัวว่าไป๋หลี่เหอเจ๋อจะทำร้ายนาง จึงพูดขึ้นอย่างหวั่นใจ “นายท่านเจ้าคะ ให้สือซื่ออยู่ดูแลเขาก็ได้นะเจ้าคะ”

“พาเข้าสู่ห้วงมายา” ไป๋หลี่เหอเจ๋อเอ่ยเสียงเย็น

“นายท่าน สือซื่อไม่อยากทำร้ายเขา”

“ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าเจ้ากำลังช่วยเขา ไม่ได้ทำร้าย เซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงลินกระทำความชั่วสารพัด การที่เขาติดตามเซ่อเจิ้งหวางอยู่แบบนี้ ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเสียใจเป็นแน่ ความเจ็บปวดระยะยาวย่อมเลวร้ายกว่าระยะสั้น”

ไป๋หลี่เหอเจ๋ออธิบายให้ฉู่สือซื่อฟังอย่างอดทน

หากไม่ใช่เพราะฉู่สือซื่อเป็นทายาทเพียงคนเดียวในแคว้นหนานเชียงที่ใช้วิชามายาได้ ไป๋หลี่เหอเจ๋อคงพยายามช่วยชีวิตนางทุกวิถีทางอย่างแน่นอน

วิชามายาแห่งแคว้นหนานเจียงมีชื่อเสียงพอๆ กับวิชาวิชาหนอนพิษปรสิต มีฤทธิ์คล้ายกับวิชาสะกดจิต เพียงแต่จะนำพาจิตของคนๆ นั้นเข้าสู่ห้วงมายา

จุดที่ร้ายกาจของวิชามายาก็คือ ผู้ใช้สามารถประทับเรื่องราวลงในสมองของเหยื่อได้อย่างฝังลึก ทำให้เหยื่อเชื่อคำพูดของผู้ใช้อย่างไม่สงสัย

แน่นอนว่าวิชามายาแห่งแคว้นหนานเจียงไม่ใช่วิชาที่ใครๆ จะสามารถเรียนได้

ฉู่สือซื่อคือทายาทผู้สืบทอดวิชามายาภาพหลอนคนที่สามสิบสามแห่งแคว้นหนานเจียง

ทั่วใต้หล้านี้มีเพียงเลือดของนางเท่านั้นที่เป็นสื่อกลางนำพาจิตของมนุษย์เข้าสู่ห้วงมายาได้ ต่อให้เป็นคนที่มีพลังสมาธิสูงแค่ไหนก็ไม่อาจต้านทานหยดเลือดเพียงหยดเดียวของนาง

หลังจากฉู่สือซื่อนำพาจิตของเฟิงอู๋โยวเข้าสู่ห้วงมายาเสร็จสิ้น ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็นอนตะแคงข้างลงด้านหน้านาง ริมฝีปากเรียวบางของเขาพลันขยับ มีแต่สารพัดคำลวงหลอกและเรื่องโกหกปราศจากความจริง

“เฟิงอู๋โยว จงจำเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ให้ดี”

“ได้” เฟิงอู๋โยวตอบรับในขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท

“คืนนี้ ตอนที่เจ้าเปิดประตูห้องจะถูกนายบำเรอทั้งหกพามาที่เตียง เจ้าผลักขัดขืน ปากบอกว่าไม่ต้องการแต่ภายในใจกลับเบิกบาน เจ้าหยุดอยู่หน้าเตียงและพบว่าข้ากำลังนอนหลับสนิทอยู่ แล้วอยู่ๆ ที่นึกสนุกขึ้นมา จึงขึ้นเตียงมาหาข้าและช่วงชิงความบริสุทธิ์ของข้าไปโดยที่ข้าไม่ทันตั้งตัว ไม่เพียงเท่านั้น เจ้ายังปรนเปรอนายบำเรอทั้งหกอย่างถึงเนื้อถึงตัวทีละคน หลังจากเล่นสนุกเป็นเวลาสามยาม เจ้าก็เริ่มปวดเมื่อยทั้งตัว สองขาอ่อนแรงและล้มตัวลงนอนหลับคาอ้อมกอดข้า”

ทันทีที่คำพูดของไป๋หลี่เหอเจ๋อจบลง เฟิงอู๋โยวก็ทำตามที่เขาพูดจริงๆ นางนอนหลับสนิททันที

เขาลูบไล้ใบหน้าเล็กๆ อันสวยสดใสของนาง รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก

“ฉู่สือซื่อ ปิดประตูให้สนิท”

“รับทราบเจ้าค่ะ” เมื่อเห็นว่าไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่ได้ทำร้ายเฟิงอู๋โยว ฉู่สือซื่อก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก จากนั้นก็วิ่งออกจากห้องด้วยขาสั้นๆ ของนาง

ไป๋หหลี่เหอเจ๋อมองเฟิงอู๋โยวที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมพลางเอ่ยเสียงแผ่ว “ข้าขอโทษที่เล่นงานเจ้าอีกครั้ง แต่เจ้าจงเชื่อข้าเถิด ข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้า และจะไม่บังคับให้เจ้าทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ข้าแค่ชื่นชอบเจ้ามากเหลือเกิน ทั้งหมดมีเพียงเท่านี้”

เขาหุบปากเงียบไม่พูดถึงความเกลียดชังภายในใจที่มีต่อจวินมั่วหรัน มีแต่พูดเน้นย้ำถึงความหลงใหลที่มีต่อนางเท่านั้น

“มั่วหรัน ข้ากำลังฝันน่ากลัวมาก” เฟิงอู๋โยวขมวดคิ้วพร่ำเพ้อ

นางขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของไป๋หลี่เหอเจ๋ออย่างไม่รู้ตัว ร่างกายของนางสั่นอย่างรุนแรง

ไป๋หลี่เหอเจ๋อรู้สึกปวดใจแปลบๆ ขึ้นมาไม่หยุด เขาพยายามสะกดความหึงหวงภายในใจลง ตบหลังของเฟิงอู๋โยวเบาๆ และปลอบโยนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “อย่ากลัวเลย ข้าอยู่ตรงนี้เสมอ”

[1]เครื่องมือจุดไฟสมัยโบราณ ลักษณะคล้ายตะบันหมาก ทำจากไม้เนื้อแข็งหรือเขาสัตว์ หรืองาช้าง

[2]นกพิราบยึดรังนกสาลิกา หมายถึงบุกรุกบ้านหรือที่ดินของผู้อื่นโดยพลการ

[3]กินคนไม่คายกระดูก หมายถึง คนชั่วช้าไร้ความปรานี

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน