เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 330 คนแก่ย่อมรักคนเป็น ตอนที่ 331 เรียกเขาว่

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 330 คนแก่ย่อมรักคนเป็น / ตอนที่ 331 เรียกเขาว่าท่านเขย

ตอนที่ 330 คนแก่ย่อมรักคนเป็น

“ช้าก่อน ข้ายังมีบางอย่างที่อยากจะถามโหรวโหรวด้วยตัวของข้าเอง”

เฟิงอู๋โยวเพิ่งจะพูดจบ นายบำเรอหกคนค่อยๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคลุมสีเขียวชอุ่ม และยืนห้อมล้อมเฟิงอู๋โยวอย่างกระตือรือร้น

“ท่านชาย พวกข้าทำการฝึกซ้อมอย่างยากแสนเข็ญมาหนึ่งวันเต็ม ในที่สุดก็ฝึกปรือจนเชี่ยวชาญการแสดงกายบริหารที่ท่านเป็นผู้เรียบเรียงเองกับมือ”

เจินเจินแสดงสีหน้าดีใจ เล่นหูเล่นตาเปรยยิ้มให้กับเฟิงอู๋โยว

อ้ายอ้าย เหลียนเหลียน ฉุนฉุน เพียวเพียว โหรวโหรว พูดเป็นเสียงเดียวกัน “ท่านชาย บ่าวขอเริ่มการแสดง”

จวินมั่วหรันค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ออกแรงดึงเฟิงอู๋โยวเข้าสู่อ้อมกอด ก่อนใช้เสียงอันเย็นเยือกสบถใส่นายบำเรอที่เล่นหูเล่นตา “ไสหัวไป”

เจินเจินเบ้ปาก จมูกพลันเริ่มแสบและร้องไห้สะอึกสะอื้น เห็นแล้วน่าสงสารจับใจ

จากนั้น เหล่านายบำเรอทั้งห้าก็ร้องไห้ขึ้นตามกัน

แต่สิ่งต้องยอมรับอย่างหนึ่งคือ การจัดระเบียบร่างกายของพวกเขาทำได้สง่างามยิ่งนัก

แม้ว่าจะร้องไห้เสียงดัง แต่ใบหน้าของพวกเขายังคงงดงาม ลีลาท่าทางยังคงอ่อนช้อยสะดุดตา

“เฟิงอู๋โยว เจ้าจะอยู่กับข้าหรือจะอยู่กับพวกเขา”

จวินมั่วหรันโมโหเป็นอย่างมาก เขารับไม่ได้กับการที่พวกบุรุษร้องไห้

แต่บุรุษทั้งหกคนด้านหน้าไร้ความเป็นชายชาตรี ถนัดใช้แต่กลยุทธ์ทุกข์กาย

เขาเป็นห่วงว่าหากเฟิงอู๋โยวเจอสิ่งล่อตาแบบนี้บ่อยเข้า จะเผลอเข้าทางพวกเขาเอาสักวัน

เฟิงอู๋โยวยิ้มร่าก่อนเอ่ย “คนแก่ย่อมรักคนเป็น แน่นอนว่าข้าจะต้องเลือกคนที่รักข้า”

จวินมัวหรันจุกอก…เฟิงอู๋โยวเลือกเขาจริงๆ แต่ไฉนในใจเขาไม่ดีใจเลยแม้แต่น้อย

เขาแก่ตรงไหน?

ก็แค่อายุมากกว่าแค่สี่ปี เหตุใดจึงเอาอายุมาเป็นเกณฑ์ตัดสิน

จวินมั่วหรันรู้สึกหดหู่ มือของเขาข้างหนึ่งกอดที่เอวบางของเฟิงอู๋โยวและพยายามพูดหลอกล่อ “ข้ายังไม่แก่ ถ้าเจ้าไม่เชื่อ มาทดสอบดูก็ได้”

เฟิงอู๋โยวพยักหน้าทันที นางอยากจะเปิดหูเปิดตาเช่นกัน

มีคนอยู่รอบกายจวินมั่วหรันไม่น้อย นางควรชิงลงมือก่อนจะเป็นการดี

นายบำเรอทั้งหกเห็นพวกเขาแนบชิดกันก็รู้สึกไม่ยอม

ทันใดนั้น พวกเขาทั้งหกก็เรียงตัวเป็นแนวเดียวกัน พร้อมกับตะโกนออกมาเป็นเสียงเดียวกัน “เหล่าลูกนกอินทรีเตรียมโบยบิน พร้อม…”

“หนึ่งสองสามสี่ ห้าหกเจ็ดแปด”

“หนึ่งสองสามสี่ ห้าหกเจ็ดแปด”

……

ณ เวลานี้ เฟิงอู๋โยวราวกับว่าถูกสะกด นางหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ

นางไม่คิดว่า บุรุษเหล่านี้จะแสดงกายบริหารได้ออกมาน่าหลงใหลเช่นนี้

จวินมั่วหรันชำเลืองมองเหล่านายบำเรอด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม ท่าแรกประเดิมด้วยการเล่นหูเล่นตา ตามด้วยการบิดเอว ก้าวเท้าส่ายสะโพกไปมา และมีส่ายก้นเป็นระยะๆ เห็นแล้วท้องไส้เริ่มรู้สึกปั่นป่วน แทบจะอาเจียนอาหารมื้อเย็นเมื่อวานออกมาทันที

“เฟิงอู๋โยว เจ้าชอบแบบนี้หรือ?” มุมปากจวินมั่วหรันเกร็งกระตุก เขาชักจะเริ่มสงสัยในสายตาของเฟิงอู๋โยวเสียแล้ว

“เจ้าอย่าได้ดูถูกกายบริหารชุดนี้ นอกจากจะเป็นการบริหารร่างกายแล้ว ยังทำให้รูปร่างดีขึ้นด้วย” เฟิงอู๋โยวพูดอย่างจริงจัง

จวินมั่วหรันรู้สึกคับแค้นอยู่ในอก เขาโยนเงินฟ่อนหนึ่งออกมา “ค่ายกเลิกการแสดง!”

“บ่าวไม่ไป บ่าวเป็นคนของท่านชายแล้ว ตายก็เป็นผีของท่านชาย” นายบำเรอทั้งหกพูดเป็นเสียงเดียวกัน

“จงไปเสีย!”

ดวงตาทั้งสองข้างของเฟิงอู๋โยวลุกวาว สายตาฟ้อนเงินในมือของจวินมั่วหรันไม่ละสายตาและนางพุ่งถลาไปหาเขาทั้งตัว

สีหน้าของจวินมั่วหรันค่อยๆ นิ่งขรึมลง มือหนึ่งกดที่ศีรษะของเฟิงอู๋โยวพลางตวาดใส่นายบำเรอทั้งหก “ถ้าไม่ไป ก็จงตายเสีย!”

“ขอเซ่อเจิ้งหวางโปรดเมตตาละเว้นชีวิต”

“เช่นนั้นพวกกระหม่อมไปก็ได้”

“ท่านชาย ชีวิตนี้ไม่มีวาสนาต่อท่าน เช่นนั้นเจอกันชาติหน้า…”

นอกจากโหรวโหรวแล้ว นายบำเรอที่เหลือทั้งห้าต่างได้เงินค่ายกเลิกแสดงก้อนใหญ่ จากนั้น พวกเขาก็กุลีกุจอรีบบึ่งไปยังประตูเรือนแพทย์ทันที

ตอนที่ 331 เรียกเขาว่าท่านเขย

จวินมั่วหรันค่อยๆ คลายมือออก เขาลูบเบาๆ ที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะของเฟิงอู๋โยว “เห็นหรือยัง ว่าในสายตาของพวกเขา เงินสำคัญกว่าเจ้า”

“ผู้ชายไม่มีใครดีซักคน ไหนเจ้าบอกข้าว่าทรัพย์สินทั้งหมดของเจ้าจะยกให้ข้าไม่ใช่หรือ ยังไม่ทันไรก็สูญเสียเงินมากมายเช่นนี้แล้ว”

เฟิงอู๋โยวเพียงนึกย้อนกลับไป นายบำเรอทั้งห้าไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับได้เงินก้อนใหญ่เป็นล้าน ทำเอานางโมโหเสียจนปวดใจ

จวินมั่วหรันพูดอย่างไม่คิดอะไร “เสียเงินเพื่อลดภัย”

“ข้าจะไม่ทำดีกับเจ้าอีกแล้ว”

เฟิงอู๋โยวโกรธกระฟัดกระเฟียด นางพาลขับไล่ทั้งจวินมั่วหรัน เถี่ยโส่ว กู่หนานเฟิงออกจากห้องไปพร้อมกัน

นางหยิบไม้ขนไก่ขึ้นมา ขณะกำลังจะขับไล่โหรวโหรวออกจากห้องไป ก็เห็นเขาน้ำตาคลอคล้ายอยากพูดเรื่องสำคัญ

“ไฉนยังไม่ไปอีก”

นางใช้ไม้ขนไก่งัดคางของโหรวโหรวขึ้นมา ดวงตาทรงดอกท้ออันเฉียบคมมองไปทั่วใบหน้าดอกสาลี่ต้องหยาดฝน[1]ของเขา

“แม่ทัพเฟิง โหรวโหรวไม่มีที่ไปแล้ว โปรดรับข้าไว้ด้วยเถิด”

เขาคุกเข่าลงผลุบ สลัดภาพลักษณ์เจ้าเล่ห์อวดรู้ก่อนหน้านี้ทั้งไป ลดคิ้วหลุบสายตาเอ่ย

“เพราะอะไร”

“นามเดิมของโหรวโหรวชื่อว่าหลิ่วจ้าว เป็นคนจากแคว้นเป่ยหลี เดินทางมากับพี่ชายเพื่อมาร่วมงานเลี้ยงบัณฑิต หลายวันก่อนหน้าได้ข่าวว่าราชครูแห่งแคว้นตงหลินกำลังหานายบำเรอให้ท่านอย่างลับๆ พี่ชายข้าจึงสั่งให้ข้าแฝงตัวเข้ามาเพื่อมาปกป้องท่านในยามคับขัน

เฟิงอู๋โยวได้ยินเช่นนั้นก็พลันนึกขึ้นได้ “พี่ชายของเจ้า นามว่าหลิ่วหยวน?”

หลิ่วเจ้าพนักหน้าเล็กน้อย เอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “ใช่ขอรับ”

“พวกเจ้าสองคนพี่น้องเข้าใกล้ข้า แน่ใจหรือว่าเพื่อมาปกป้องข้า”

“ไม่ใช่เสียทีเดียว พี่ชายข้าบอกว่ามีเพียงท่านเท่านั้นที่จะช่วยล้างแค้นให้กับตระกูลหลิ่วของเราได้”

ดวงตาของเฟิงอู๋โยวขยับไหวพร้อมกับถามอย่างสนอกสนใจ “เพื่อล้างแค้น มีหนี้แค้นอะไร มีความเกลียดชังอะไร”

“เห็นว่าเป็นเรื่องบุญคุณความแค้นของรุ่นคนก่อน แต่เหตุแท้จริงคืออะไร พี่ชายข้าไม่เคยกล่าวถึง บอกข้าแค่ว่ารู้มากไปยิ่งจะทำให้ไม่ปลอดภัย” หลิ่วจ้าวเอ่ย

“วันนี้ตอนเช้า เหตุใดเจ้าถึงไล่ตามรถ”

“พี่ชายข้าเคยบอกข้าไว้ว่า ท่านคือกิ่งทองใบหยก[2] แต่จากภาพจำของข้าเมื่อคืนนี้ กลับเห็นว่าท่านก็คือบุรุษ”

เฟิงอู๋โยวครุ่นคิด หลิ่วหยวนรู้ทั้งรู้ว่านางเป็นสตรี ทั้งยังแฝงตัวเข้ามาในงานเลี้ยงบัณฑิตและกล่าวบทแมวดาวสับเปลี่ยนรัชทายาทอีก คิดไปคิดมา เขาน่าจะรู้เหตุการณ์ปริศนาตอนนั้นในวังหลวงแคว้นเป่ยหลีแน่นอน

ถึงแม้ว่านางจะไม่มีความหวังกับเป่ยถางหลงถิงอีกต่อไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางไม่อยากรู้ว่าพ่อที่แท้จริงของนางเป็นใคร

หลิ่วจ้าวเห็นเฟิงอู๋โยวกำลังครุ่นคิด ก็ค่อยๆ ดึงสะกิดเสื้อคลุมของนางอย่างระมัดระวัง พร้อมกับใช้วาจาออดอ้อน “แม่ทัพเฟิง รับจ้าวจ้าวไว้ด้วยนะขอรับ”

“ไม่ได้”

จวินมั่วหรันถีบประตูเข้ามา ไฟโทสะโหมกระพือ เขาจ้องเขม็งหลิ่วจ้าวที่กำลังทำท่าทีออดอ้อน จิตสังหารผุดขึ้นทันที

หนังตาของเขากระตุก ในใจเริ่มส่งสัญญาณเตือนแปลกๆ รู้สึกว่าหลิ่วจ้าวจะกลายเป็นเสี้ยนหนามระหว่างเขากับเฟิงอู๋โยว

หลิ่วจ้าวกัดริมฝีปาก เขายังคงไม่ยอมแพ้

“แม่ทัพเฟิง จ้าวจ้าวทำได้ตั้งแต่ขึ้นท้องพระโรงยันลงห้องเครื่องเสวย[3] อีกทั้งยังช่วยงานเรือนแพทย์หารายได้และยังช่วยท่านเลี้ยงม้าเลี้ยงสุนัขหลังเรือนได้” หลิ่วจ้าวพูดระรัว เขามองเฟิงอู๋โยวด้วยใบหน้าเปี่ยมศรัทธา

“ก่อนที่หลิ่วหยวนจะหาจวนพำนักได้ เจ้าสามารถพักที่เรือนแพทย์พยากรณ์ได้สักระยะ”

เฟิงอู๋โยวคิดในใจ แคว้นตงหลินเต็มไปด้วยอสรพิษ ถ้าตระกูลหลิ่วมาด้วยเจตนาดี แล้วนางขับไล่หลิ่วจ้าวไปอย่างไร้จิตไมตรี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ไม่เหมาะสม

“ขอบพระคุณท่านแม่ทัพเฟิงเป็นอย่างสูง ขอบพระคุณท่านเขย”

หลิ่วจ้าวฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก แค่ประโยค ‘ท่านเขย’ คำเดียว ก็ทำเอาจวินมั่วหรันยอมใจราบคาบ

จวินมั่วหรันได้ยินเช่นนั้น ในใจเต็มไปด้วยความรังเกียจและไฟโทสะก่อนหน้านี้พลันสลายหายไปเกือบครึ่งภายในเสี้ยวเวลา

เมื่อพิจารณาว่าตระกูลหลิ่วอาจจะมีในมือเกี่ยวกับหลักฐานในเหตุการณ์ ‘แมวดาวสับเปลี่ยนรัชทายาท’ ของแคว้นเป่ยหลี จวินมั่วหรันถึงได้ยอมผ่อนปรน

“ออกไป!” จวินมั่วหรันสบถด้วยเสียงอัดอั้น

“ขอบพระคุณท่านเขย ขอบพระคุณท่านแม่ทัพเฟิงที่รับข้า”

หลิ่วจ้าวโค้งตัวทำเคารพ จากนั้น ก็เดินบิดเอวคอดบางออกจากห้องไปอย่างช้าๆ

[1]ดอกสาลี่ต้องหยาดฝน หมายถึงใบหน้าอันแสนงดงามแม้ร้องไห้ก็ยังดูงดงาม

[2]กิ่งทองใบหยก ในสำนวนจีนหมายถึงเชื้อพระวงศ์หรือคนที่มีชาติกําเนิดสูงส่ง แม้ใช้คำเดียวกันกับสำนวนไทย แต่ความหมายต่างกัน

[3]ขึ้นท้องพระโรงลงห้องเครื่องเสวย หรือขึ้นห้องโถง ลงห้องครัว หมายถึงคนๆ หนึ่งที่สามารถทำได้ทั้งงานบ้านงานเรือนและหน้าที่การงานนอกบ้านได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท