เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 332 เมื่อใดจะยอมอภิเษกสมรส ตอนที่ 333 คู่ปรับ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 332 เมื่อใดจะยอมอภิเษกสมรส / ตอนที่ 333 คู่ปรับของจวินมั่วหรัน

ตอนที่ 332 เมื่อใดจะยอมอภิเษกสมรส

เมื่อหลิ่วจ้าวเดินจากไป ภายในห้องเหลือเพียงจวินมั่วเหรินกับเฟิงอู๋โยวสองคน

จวินมั่วหรันตาก้มมองเฟิงอู๋โยว “กำหนดเวลาให้ข้า เมื่อใดเจ้าจะยอมอภิเษกสมรสกับข้า”

“ข้ากับท่านตอนนี้แนบชิดและรักใคร่กันเช่นนี้ ไม่ดีหรือ?”

เฟิงอู๋โยวครุ่นคิด ถ้าหลังจากอภิเษกสมรสกับจวินมั่วหรันไปแล้ว เขาต้องกลับกลายร่างเป็นคนเดิมแล้วควบคุมนางไม่ให้ไปไหนแน่นอน

เมื่อถึงเวลานั้น นางคงขยับไปไหนไม่ได้ ได้แต่เพียงอยู่ในกรงทองรอให้เขามาเอาอกเอาใจนาง

หรือไม่ก็ เมื่อใดก็ตามที่นางคุยกับชายอื่นเพียงประโยคสองประโยค คงโดนเขาสั่งสอนยกใหญ่เป็นแน่

คิดได้เช่นนี้ เฟิงอู๋โยวก็ยิ่งมั่นใจกับความคิดของตนเองมากยิ่งขึ้น

นางพูดอย่างมีหลักการ “มั่วหรัน ทะเบียนสมรสเพียงใบเดียว มันสำคัญขนาดนั้นหรือ แม้ว่าตอนนี้เรายังไม่ได้อภิเษกสมรสกัน แต่เราก็อยู่กินกันเฉกเช่นสามีภรรยา ข้าไม่ถือ”

“พูดไปพูดมา เจ้าก็ไม่อยากอภิเษกสมรสกับข้าอยู่ดี”

จวินมั่วหรันหดหู่ใจยิ่งนัก เดิมทีอยากจะเปิดประตูออกไป เมื่อเดินไปถึงประตูกลับเป็นห่วงเฟิงอู๋โยวที่อยู่ในเรือนแพทย์เพียงลำพัง แบบนี้เกรงว่าคงจะไม่เหมาะสม

หลังจากครุ่นคิดจนตกผลึก เขาก็ปั้นหน้าเคร่งครึมหันกลับลำกลางคัน ราวกับพายุฝนฟ้าคะนองฉับพลัน เขาเอนตัวลงนอนบนฟูกนุ่มข้างเตียงโดยไม่พูดอะไร

เฟิงอู๋โยวนั่งลงข้างๆ เขา เกาะแขนของเขาเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ที่บ้านเกิดของข้า ถ้าอายุยังไม่ครบสิบแปดปีบริบูรณ์ถือว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะ ข้าคิดว่ารออีกสักเดือนสองเดือน รอให้ข้าครบสิบแปดปีก่อน ค่อยคิดเรื่องอภิเษกสมรส”

จวินมั่วหรันรู้จักแคว้นเป่ยหลีอย่างดี เขารู้ว่าไม่มีเรื่องแบบนี้แน่นอน

แต่ขอแค่ออกจากปากของเฟิงอู๋โยว เขาก็ยอมเชื่อ

“ดึกแล้ว ขึ้นเตียงแล้วก็นอนพักผ่อนเถิด”

“มั่วหรัน เจ้าไม่มานอนกับข้าหรือ”

“ข้าไม่มีอารมณ์”

พอจวินมั่วหรันนึกถึงเรื่องอภิเษกสมรสที่ต้องถูกเลื่อนออกไปอีกหลายเดือน อีกทั้งการมีหลิ่วจ้าวที่เป็นเสี้ยนหนามอีกคนในเรือนแพทย์ ไฟโทสะก็สุมขึ้นเต็มอกไร้อย่างที่ระบาย

เฟิงอู๋โยวยื่นมือออกมา ลูบไล้บนกล้ามหน้าท้องอันกำยำของเขาสองสามรอบ ก่อนกลับมานอนลงบนเตียง

ในราตรีอันเงียบสงัดไร้เสียงผู้คน เฟิงอู๋โยวถูกปลุกให้ตื่นด้วยฝันร้ายหลายรอบ

ในฝัน ทั้งจี้มั่วจื่อหยวน เป่ยถางหลีอิน เย่เซี่ยว แต่งตัวงดงามตระการตา ศิลปะการต่อสู้อันงดงามยิ่งทำการแสดงขึ้น ทำเอาจวินมั่วหรันพอใจยิ่งนัก

ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พวกนางแต่ละคนมีเรือนร่างงดงามอวบอิ่มและกริยาอ่อนช้อยเป็นยิ่งนัก!

เมื่อเทียบกันแล้ว รูปร่างของนางเป็นเหมือนไม้กระดานอย่างถนัดตา

เฟิงอู๋โยวพลิกตัวไปมา ยากแท้ที่จะหลับลง

นางเหลือบมองจวินมั่วหรันที่นอนไม่ขยับอยู่บนฟูกหน้าเตียง หัวใจพลันเต้นไม่เป็นส่ำ

ใจเต้นหรือจะสู้ลงมือทำ

ไม่นาน นางก็พลิกตัวลงจากเตียง สอดมือกอดแขนของเขาอย่างช่ำชอง และรอนิ่งไม่ขยับอยู่สักพัก

บนตัวของเขามีกลิ่นอ่อนๆ ของเครื่องหอมจากอำพันทะเล ช่างหอมยิ่งนัก

ใบหน้าด้านข้างของเขางดงามไร้ที่ติ ยิ่งมองยิ่งน่าหลงใหล

เฟิงอู๋โยวเงยหน้า นิ้วอันเรียวยาวของนางหยุดอยู่ที่ลำคอของเขา จากนั้นก็ลูบไล้ไปมา

“จวินมั่วหรัน เจ้าหายโกรธแล้วใช่หรือไม่”

“ถึงแม้ว่าสิ่งที่ข้าขอจะเกินไปหน่อย แต่ข้าก็อยากให้เจ้ายอมให้ข้าบ้าง”

“ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากอภิเษกสมรสกับเจ้า เพียงแต่ข้าไม่เคยเข้าใกล้ชิดสนิมสนมกับใครเช่นนี้มาก่อน ข้ารู้สึกกลัว เมื่อชาติที่แล้วข้าเป็นลูกกำพร้า ไม่เคยมีใครสอนข้าว่าต้องรักคนอื่นเยี่ยงไร”

จวินมั่วหรันเปลือกตากระตุกเล็กน้อย ภายในใจของเขายิ่งไม่เข้าใจขึ้นเรื่อยๆ เฟิงอู๋โยวที่บอกว่า “ชาติที่แล้ว” เป็นเรื่องจริงหรือ

เขาสามารถสัมผัสได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจอันรุนแรงของเฟิงอู๋โยวได้ จึงทำให้รู้ว่าสิ่งที่นางพูดมาในค่ำคืนนี้ออกมาจากใจของนางทั้งหมด

ทันใดนั้น เขาเบิกตากว้าง กระชากนางเข้าสู่อ้อมกอดของเขา

“อู๋โยว เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้ารับได้”

“อืม”

สายตาของเฟิงอู๋โยวฉายแววตื่นตระหนกอยู่ครู่นึง ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ

มาถึงตอนนี้แล้ว จวินมั่วหรันถึงได้ตระหนักได้ว่าสิ่งตนเองกังวลก่อนหน้านี้คือความกังวลของคนเขลาเท่านั้น

ทั้งที่นางมีความกลัวอยู่เช่นกัน แต่นางก็พยายามสะกดความกลัวลงไปและโอบกอดเขาไว้แน่น ดังนั้นเขาควรให้เวลานางมากกว่านี้

หัวใจของจวินมั่วหรันเต็มไปด้วยความรักถะนุถนอมที่มีต่อนาง แต่มือกลับเคลื่อนไหวอย่างร้อนรน

อัสนีฟาดจุดอัคคีบนพื้นพสุธา เพียงจุดติดก็ลุกโชน

ตอนที่ 333 คู่ปรับของจวินมั่วหรัน

ขณะที่เฟิงอู๋โยวยังงุนงงอยู่นั้น จวินมั่วหรันก็แอบกินโอสถลูกกลอนที่กู่หนานเฟิงทิ้งไว้ให้เขาอย่างเงียบๆ

“อย่ากังวล”

จวินมั่วหรันพูดเสียงต่ำปลอบประโลมอารมณ์ความรู้สึกของเฟิงอู๋โยว ทั้งที่ในความเป็นจริงตัวเขาเองก็ใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากเหตุการณ์เมื่อหนึ่งเดือนเศษที่แล้ว วันนี้ เป็นครั้งที่ตัวเขามีสติ

เฟิงอู๋โยวพยักหน้าตอบรับแรงๆ นางพูดปลอบใจตัวเอง “ไม่เป็นไร เข้มแข็งเข้าไว้”

จวินมั่วหรันหัวเราะไม่ออก ร้องไห้ไม่ได้

สภาพของนางตอนนี้ แม้ว่านางจะปากเก่งแค่ไหน อ้างว่าตัวเองเคยเห็นบุรุษมามากแค่ไหน เขาจะไม่เชื่อในสิ่งที่นางพูดออกมาอีกต่อไป

“เด็กดี ไม่เป็นไรแน่นอน”

นัยน์ตาสีดำประกายทองของเขาลึกซึ้งขึ้น เสียงต่ำนุ่มลึกอันน่าฟังของเขาทำให้ผู้คนลุ่มหลงบ้าคลั่ง

เฟิงอู๋โยวถูกรูปร่างหน้าตาอันงดงามของเขาดึงดูด นางบ่นพึมพำไปมา “ไม่เป็นไร ไม่ตายแน่นอน”

แต่เมื่อนางมองสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าภายใต้แสงจันทร์ที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง อยู่ๆ นางก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรงแล้วก็เป็นลมสลบไป

ใช่แล้ว

เฟิงอู๋โยวผู้อวดอ้างว่า ‘พบเจอผู้คนมานักต่อนัก’ กลับแสดงทีท่าหวาดกลัวเหมือนคนไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน

ตกใจจนสลบไปทั้งเป็น!

จวินมั่วหรัน “…”

เขาไม่คิดว่าเฟิงอู๋โยวที่ภายนอกดูกล้าหาญไม่เกรงกลัวสิ่งใด แต่ในด้านความรู้สึกกลับไร้เดียงสาและขี้ขลาด ทั้งอยากและทั้งเขลา

เขายังไม่ทันทำอะไร นางก็เป็นลมสลบไปแล้ว

ใต้ตายเถอะ!

ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ร่างกายของเขาได้ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ เป็นแน่

โมโหก็โมโห แต่จวินมั่วหรันก็พยายามข่มใจอุ้มเฟิงอู๋โยขึ้นบนเตียง

“เจ้าปีศาจน้อยทรมานใจคน! เจ้าทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าข้าจะทรมานจนเสียสุขภาพกระนั้นหรือ”

หลังจากเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่ให้นาง แต่ความเร่าร้อนในร่างกายของเขายังไม่ลดลง

ไร้หนทางอื่นใด เขาคงต้องนอนแช่น้ำเย็นทั้งคืน ปล่อยให้ความเย็นชาจากภายนอกช่วยลดความรู้สึกและอารมณ์อันพุ่งพล่านของเขาลง

เช้าวันรุ่งขึ้น

เฟิงอู๋โยวตื่นขึ้น บิดขี้เกียจเพื่อให้ร่างกายสดชื่น “วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ถูกความหล่อเหลาของมั่วหรันปลุกจนตื่น”

จวินมั่วหรั่นขอบตาดำคล้ำ มีหยดน้ำไหลลงตามเส้นผม

สีหน้าอึมครึม แววตาที่บ่งบอกความหดหู่ “เฟิงอู๋โยว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น”

ใบหน้าของเฟิงอู๋โยวแน่นิ่งไปชั่วครู่ นานกว่าจะเรียกสติกลับมาได้

นางรู้สึกอับอายจนหน้าแดง และรีบพูดแกมขอโทษ “เอ่อ…ถ้าข้าพูดออกมา เจ้าห้ามหัวเราะนะ”

“หืม?”

“ข้าเตรียมตัวเตรียมใจมาอย่างดี แต่…ร่างกายของเจ้า มันเกินไป”

“เจ้าจะไม่ให้ข้าแตะเนื้อต้องตัวเจ้าตลอดชั่วชีวิตนี้เลยหรือ”

“ครั้งหน้า ข้าสัญญาว่าไม่เป็นลมแน่นอน”

เฟิงอู๋โยวพูดอู้อี้ในลำคอ “ถ้าข้าเป็นลมไปอีก เจ้าไม่ต้องสนใจข้าก็ได้”

จวินมั่วหรันเคยคิดจะสนใจด้วยหรือ

เขาก็แค่ทำใจทำแบบนั้นไม่ได้

เขาทำใจให้นางโดนทำร้ายไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

“คนโง่ ถ้าข้าไม่สนใจเจ้าแล้วใครจะสนใจ”

“มั่วหรัน ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้าก่อน”

“หืม?”

“เรื่องเสเพลเมื่อก่อน ล้วนเป็นเรื่องที่ข้าแต่งขึ้นมาเอง”

“ข้ารู้ เมื่อวานเจ้าดูซื่อๆ ไร้เดียงสา แต่ก็น่ารักน่าเอ็นดู” จวินมั่วหรันเชิดคางอันได้รูปของนางขึ้น ก่อนบรรจงจูบไปที่หน้าผากของนางเบาๆ

เอี๊ยด!

ในระหว่างนั้น หลิ่วจ้าวในชุดพื้นๆ ได้ผลักประตูเข้ามา

“แม่ทัพเฟิง จ้าวจ้าวเตรียมข้าวเช้าไว้ให้ท่านแล้ว ท่านรีบลงจากเตียงมาชิมหน่อยเถิดขอรับ”

แววยิ้มฉายขึ้นในดวงตาหลิ่วจ้าว เขาเรียกเฟิงอู๋โยวอย่างนุ่มนวล จากนั้นก็นำเกี๊ยวนึ่งและรังนกยกขึ้นมาบนโต๊ะอาหาร

“ขอบใจมาก”

เฟิงอู๋โยวผินหน้ามองดูหลิวจ้าวที่ก้มหน้าก้มตาพลางเอ่ยขอบคุณเบาๆ

นางรู้ดีว่าจวินมั่วหรันเป็นชายขี้หึงเป็นที่สุด ตอนแรกนางไม่คิดจะมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับหลิ่วจ้าวต่อหน้าเขาแม้แต่น้อย

แต่จะให้ทำเยี่ยงไร เกี๊ยวนึ่งมันน่ากินเสียยิ่งกระไร!

นางกลืนน้ำลายอยู่หลายอึก เสียงกระโดดลงจากเตียง เพียงชั่วพริบตาก็โผล่มาอยู่ตรงหน้ากับข้าวแล้ว

หลิวจ้าวเห็นเช่นนั้น จึงรีบหยิบตะเกียบหยกให้ทันที “แม่ทัพเฟิงลองชิมดูนะขอรับ”

เฟิงอู๋โยวยังไม่ทันได้รับตะเกียบ ก็รีบใช้มือหยิบเกี๊ยวนึ่งรสโอชาเข้าปากกินอย่างเอร็ดอร่อย

“รสชาตินุ่มลิ้นลื่นคอ ยังมีกลิ่นหอมค้างติดอยู่ในปาก ไม่เลว !”

เฟิงอู๋โยวชมเสน่ห์ปลายจวักของหลิ่วจ้าวไม่ขาดปาก อยู่ๆ ก็นึกเรื่องสำคัญบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนเอ่ยปากถามเขา “เกี๊ยวนึ่งนี้ทำเยี่ยงไร”

หลิ่วจ้าวได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที

ดวงตาสองข้างของเขาเป็นประกาย สีหน้าฉายแววดีใจ เสียงนุ่มๆ เปล่งดังขึ้น “ท่านแม่ทัพเฟิง ถ้าไม่รังเกียจลองไปที่ห้องเครื่องเสวยกับข้าสักครั้งก็ได้ขอรับ”

เฟิงอู๋โยวพยักหน้าเบาๆ แต่ขณะที่กำลังจะเดินออกจากประตู ก็ไม่ลืมหันกลับไปมองจวินมั่วหรัน “เด็กดี รอข้าอยู่ที่นี่”

จวินมั่วหรันมองหลิ่วจ้าวที่ประจบประแจงด้วยสายตาเย็นชา รอบกายเต็มไปด้วยความสะอิดสะเอียน

“ไม่ให้ไป”

เสียงทุ่มต่ำเจ้าเล่ห์ของเขา กลบเกลื่อนแววเกียจคร้านในน้ำเสียงที่มีแต่กำเนิดลง

ปัง!

เขายังพูดไม่ทันจบ เฟิงอู๋โยวก็ปิดประตูและเดินออกไป เสียงปิดประตูกลบเสียงทุ่มต่ำของจวินมั่วหรันลงอย่างสิ้นเชิง “เจ้าพูดว่าอะไร ข้าไม่ได้ยิน”

“สมควรตาย!”

จวินมั่วหรันรู้สึกนึกเสียดายขึ้นมา เมื่อวานเขาไม่น่ายอมผ่อนปรนเพราะคำว่า ‘ท่านเขย’ เพียงคำเดียวของหลิ่วจ้าว

สมควรตาย!

หรือเขายอมถอยเพื่อรุก?

ใครก็ตาม จงอย่าแม้แต่จะคิด

ครั้นจวินมั่วหรันแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เดิมทีเขาคิดจะตามไปเอาตัวเฟิงอู๋โยวที่ห้องเครื่องเสวยกลับมาด้วยตัวเอง

พอกลับมาคิด การที่เฟิงอู๋โยวไม่เกรงกลัว หรือเป็นเพราะว่าความผ่อนปรนและการหนุนหลังของเขา

ครั้งนี้ ต้องให้นางได้รับรู้จริงๆ เสียบ้างว่านางผิดตรงไหน

“จุยเฟิง รีบไปที่ห้องเครื่องเสวยและจับตาดูนางเอาไว้”

“ขอรับ”

จุยเฟิงได้ยินเช่นนั้น ก็รีบตามเฟิงอู๋โยวไปราวกับพายุฝนฉับพลัน จับตาดูทุกอิริยาบทของนางอย่างไม่ละสายสายตา

เขาจับตาดูนางอยู่ในห้องเครื่องเสวยเกือบครึ่งค่อนวัน แต่ไม่พบการกระทำส่อพิรุธผิดปกติของนาง

แต่กลับเป็นหลิ่วจ้าว ที่เอามือเสยผมอยู่บ่อยๆ เม้มปากอยู่เรื่อยๆ แสดงการออดอ้อนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

จุยเฟิงแอบถอนหายใจ ส่ายศีรษะอย่างปวดหัว “ท่านใต้เท้าหาใช่คู่ปรับของเขาไม่!”

“เจ้าพูดว่าอะไร”

จุยเฟิงพูดยังไม่ทันจบ จวินมั่วหรันก็โผล่มายืนอยู่ข้างหลังเงียบๆ ในสีหน้ามืดทะมึนเป็นที่สุด

เขาหรี่ดวงตาสีดำประกายทองลงมองทั้งสองคนที่อยู่ในห้องเครื่องเสวยอย่างไม่ละสายตา ไฟอิจฉาในทรวงพลันปะทุ

สายตาของหลิ่วจ้าวแหลมคม เขาสังเกตเห็นจวินมั่วหรันกำลังเพ่งมองทุกการกระทำที่เกิดในห้องเครื่องเสวยนี้ จึงอาศัยจังหวะที่เฟิงอู๋โยวไม่ทันระวังตัวสกัดขานาง

เวลานี้เฟิงอู๋โยวกำลังมีความสุขกับการยกถาดเกี๊ยวนึ่งอันหอมหวน หาได้ระวังเท้าของหลิ่วจ้าวที่ยื่นออกมาขัดขาตัวเองไม่

“อ๊าย”

“คิดจะมีเรื่องกับข้าหรือ! หลิ่วจ้าว นี่เจ้าเป็นหมึกใหญ่พันแข้งพันขาหรือกระไร”

เฟิงอู๋โหวไม่ทันระวังถูกหลิ่นจ้าวขัดขาจนเกือบหกล้มหัวคะมำ

ยังดีที่นางตอบสนองไว

และสามารถหลบมือของหลิ่วจ้าวที่ยกขึ้นเตรียมประคองตัวนางได้ทันก่อนที่จะตกเป็นรอง

หลิ่วจ้าวก้มหน้าลงอย่างรู้สึกสำนึกผิด น้ำตาเท่าเม็ดถั่วเหลืองร่วงริน

เขาพูดอย่างเคอะเขิน “ท่านแม่ทัพเฟิง จ้าวจ้าวไม่ได้เจตนา”

“เดินระวังหน่อย”

เฟิงอู๋โยวทนดูคนงามร้องไห้ไม่ได้ จึงไม่ได้ต่อว่าอะไรเขา

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน