ตอนที่ 379 โอสถนำพา
พระพันปีหลวงเห่อเหลียนเห็นดังนั้น พูดเบาๆ ลอยๆ ว่า “ยิ่งไร้ระเบียบหนักขึ้นแล้ว จะเป็นจะตายเพื่อผู้ชายคนเดียว เซ่อเจิ้งหวางเจ้ามันก็มีแค่นี้”
จงเซิ้งพูดเสริม “ทำผิดเอง ไม่สมควรมีชีวิตอยู่”
จี้มั่วอิ้นเหรินกวาดตามองไปยังจงเซิ้งและสบถว่า “ที่ข้าให้เจ้าคอยอยู่ข้างพระวรกายพระพันปีหลวง มิได้ให้เจ้าไปยุยงปลุกปั่น ถ้าเจ้ากล้าพูดจาเช่นนี้อีก ข้าจะตัดหัวของเจ้าออก”
พระพันปีหลวงเห่อเหลียนกริ้วหนัก อยากที่จะก่นด่าตำหนิจี้มั่วอิ้นเหรินเหมือนเช่นเมื่อก่อน แต่กลับถูกจงเซิ้งห้ามไว้ “พระพันปีหลวง อย่าได้ทรงกริ้ว”
จี้มั่วอิ้นเหรินที่ใบหน้าเหมือนซาลาเปากลม ชักสีหน้าบึ้งตึง เขาก็รู้สึกเป็นกังวลเฟิงอู๋โยวเช่นกันแต่เขาก็ไม่อยากสร้างความลำบากให้กับจวินมั่วหรัน หลังจากตกตะกอนความคิดแล้วจึงได้แต่กลับวังไปก่อน
สิ่งที่จี้มั่วอิ้นเหรินไม่ได้ล่วงรู้ก็คือ การพูดตำหนิจงเซิ้งไม่กี่คำเกือบนำมาซึ่งความตายให้กับตัวเอง
เป่ยถางหลงถิง ไป๋หลี่เหอเจ๋อ ต่างก็ไม่คาดคิดว่าร่างกายของเฟิงอู๋โยวจะบอบบางถึงเพียงนี้ ได้แต่เดินตามหลังจวินมั่วหรันด้วยจิตใจร้อนรุ่ม
ไป๋หลี่เหอเจ๋อรู้สึกผิดยิ่งนัก หากล่วงรู้ว่าร่างกายของเฟิงอู๋โยวอ่อนแอ ไม่ทนทานต่อความทรมานเช่นนี้ เขาคงไม่คิดการร้ายทำร้ายนางอยู่บ่อยครั้งเหมือนที่ผ่านมา
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เขาไม่เคยกอดนางจริงๆ สักครั้ง แต่วินาทีนี้กลับรู้สึกกลัวที่จะสูญเสียนางไป
เป่ยถางหลงถิง สีหน้าแววตาหดหู่ เขายังไม่ทันได้ยอมรับตัวตนเฟิงอู๋โยวเลย ไฉนนางถึงได้เกิดเรื่องขึ้นแล้ว
เขายังไม่ได้เก็บเดือนเก็บดาวให้นางเลย อีกทั้งยังไม่ได้พูดคำขอโทษกับนางแม้แต่ประโยคเดียว
แรกเริ่มเขายังรู้จักเก็บอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง มีแค่เสียงเครือๆ อยู่ในลำคอ
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เฟิงอู๋โยวก็ยังไม่ฟื้นกลับมา เสียงร้องไห้ของเขาก็ยิ่งดังขึ้น
ตลอดเส้นทาง ผู้คนที่ผ่านไปมามองเป่ยถางหลงถิงที่ร้องห่มร้องไห้เหมือนกำลังดูคนบ้าคนหนึ่ง
ปั๋วเย่เฉินเห็นท่าทางของเป่ยถางหลงถิงเช่นนั้นก็รีบส่งผ้าเช็ดหน้าให้เขา “อย่าได้กังวลไปเลย คนดีฟ้าย่อมคุ้มครอง”
เป่ยถางหลงถิงกลัวยิ่งนัก เขาไม่อยากเห็นคนที่รักตายไปต่อหน้าต่อตาของเขา
ชุนเซี่ยกับเซ่อเยว่สองคน เดิมทีได้รับคำสั่งจากเป่ยถางหลี่อินเพื่อมาตามหาเป่ยถางหลิงถิงกลับ
แต่เมื่อเห็นเป่ยถางหลงถิงร้องไห้หนักตลอดทางเช่นนี้ก็กลับเปลี่ยนใจ
“ชุนเซี่ย เรากลับกันดีกว่า”
“ไม่ได้ ถ้าแค่เรื่องเล็กๆ แค่นี้เรายังทำได้ไม่ดี เจ้ากับข้าคงได้โดนองค์หญิงลงโทษเป็นแน่”
ชุนเซี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วรีบสาวเท้าไปด้านหน้าเพื่อขวางทางเป่ยถางหลิงถิงไว้ “ท่านอ๋อง องค์หญิงไม่สบาย กระอักเลือดไม่หยุด ท่านรีบกลับไปดูองค์หญิงหน่อยเถิด”
เป่ยถางหลงถิงจิตใจสับสนวุ่นวาย ตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “กระอักเลือดไม่หยุด ไฉนพวกเจ้าจึงมาบอกข้า ข้ารักษาอาการป่วยเป็นหรือ?”
ชุนเซี่ยกับเซ่อเยว่ สองคนได้ฟังดังนั้นก็แปลกใจยิ่งนัก
โดยปกติวิสัยแล้ว เป่ยถางหลงถิงมักจะโอ๋เป่ยถางหลีอินอย่างพะเน้าพะนอ
แต่วันนี้ เหตุใดเป่ยถางหลงถิงถึงได้แสดงท่าทีเย็นชาเช่นนี้
“อย่าขวางทาง”
พอพูดถึงเป่ยถางหลีอิน เป่ยถางหลงถิงยังไม่หายโมโหเลย
เรื่องสับเปลี่ยนทารกตัวจริงตัวปลอมนั้น เขาไม่ได้โทษเป่ยถางหลีอิน
เขาไม่ถือโทษนางที่ครอบครองสิ่งของคนอื่น แต่เขาไม่ให้อภัยที่นางคิดร้ายต่อเฟิงอู๋โยว
จากการเรียนรู้เฟิงอู๋โยวช่วงหลายวันที่ผ่านมา เป่ยถางหลงถิงสัมผัสได้ว่าเฟิงอู๋โยวไม่ใช่พวกคนพเนจร นิสัยชอบรังแกสตรี
เดาว่าเหตุการณ์ที่เกิดในจวนทัพแคว้นเป่ยหลีนั้นต้องเป็นฝีมือของเป่ยถางหลีอินเป็นแน่
ณ เรือนแพทย์พยากรณ์
กู่หนานเฟิง หลังจากตรวจชีพจรให้เฟิงอู๋โยวเสร็จก็มีสีหน้าเคร่งเครียด ถอนหายใจไม่หยุด “พิษที่ค้างอยู่แทรกซึมเข้าทำร้ายปอด กลัวว่าจะโชคร้ายมากว่าโชคดี”
“ช่วยนางให้ได้ ไม่ต้องสนอะไรทั้งนั้น”
จวินมั่วหรันจุกอกพูดไม่ออก ได้แต่นั่งเหม่ออยู่ข้างเตียง ลูบไล้เบาๆ ที่ใบหน้าเรียวเล็กของเฟิงอู๋โยว
ภายนอกห้องมีเสียงร้องไห้หนักของชิงหลวนผู้ไม่รู้จะทำอะไรก่อน-หลังดีกับเป่ยถางหลงถิงผู้เจ็บปวดหัวใจ
เสียงร้องไห้สลับหนัก-เบาของทั้งสองคน ทำเอาเรือนแพทย์พยากรณ์แทบหาความสงบไม่ได้
ภายในห้อง กู่หนานเฟิงขมวดคิ้วพร้อมกับพูดอย่างระแวดระวังว่า “ร่างกายนางมีพิษเรื้อรังอยู่สองอย่างผสมกันอยู่ ตัวหนึ่งสามารถถอนพิษได้ง่าย จำเป็นต้องใช้โอสถจากหมู่บ้านหนานเฟิง แต่ขาดโอสถนำพาเพียงตัวเดียว”
“โอสถนำพาตัวใดหรือ”
“โลหิตจากหัวใจของคนสายเลือดเดียวกัน”
กู่หนานเฟิงพูดด้วยวาจาสัจจริง “หากสามารถหาโอสถนำพามาได้ พิษในร่างกายของนางจะสามารถขับออกไปได้ครึ่งหนึ่งและจะหายไปในที่สุด ในอนาคตหากตั้งครรภ์ก็จะไม่มีอันตราย”
“เรื่องโอสถนำพา ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
จวินมั่วหรันเก็บอาการ ถ้าเป่ยถางหลงถิงไม่ยินยอมก็จะแทงที่หัวใจของเขาอย่างไม่ลังเลเลย
ขณะที่จวินมั่วหรันกำลังจะลุก ถือมีดเหมือนเตรียมจะเฉือนคนอยู่นั้น กู่หนานเฟิงก็พูดขึ้นอีก “ในร่างกายของเฟิงอู๋โยวยังมีพิษเหม่ยเซียงหลงเหลืออยู่ อาจเป็นเพราะช่วงนี้พักผ่อนน้อย ทำให้พิษแพร่กระจายเร็ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป กลัวว่านางจะทนได้เพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น”
“แก้พิษเยี่ยงไร”
“เนื้อหัวใจของจิ้งจอกวิญญาณสามารถแก้พิษเหม่ยเซียงได้ แต่ว่าจิ้งจอกวิญญาณจะปรากฏตัวที่หุบเขาเทียนซาน แคว้นหยุนฉิน ทุกต้นเดือนสิบของทุกปีเท่านั้น”
“แคว้นหยุนฉิน?”
จวินมั่วหรันขมวดคิ้ว แค้วนหยุนฉินมีการป้องกันแน่นหนา เกรงว่าจะต้องเป็นตัวเขาที่ต้องออกโรงเองถึงจะสามารถเข้าถึงข้างในของหุบเขาเทียนซานได้
กู่หนานเฟิงพยักหน้า “ใช่ เจ้าต้องคิดให้ดีๆ การไปแคว้นหยุนฉินครานี้อันตรายอย่างมาก ที่สำคัญก็คือ ข้าไม่ได้มีความมั่นใจในการที่จะรักษานางให้หายได้”
หลายวันที่ผ่านมา กู่หนานเฟิงเปิดตำราแพทย์เป็นร้อยเป็นพัน แม้จะมีเค้าอยู่บ้างแต่ก็ไม่เคยมีตัวอย่างไหนประสบความสำเร็จเลย เขาจึงไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด
“แม้จะมีความหวังเพียงริบหรี่ ข้าก็จะทำให้ถึงที่สุด”
“อีกห้าวันข้าจะออกเดินทาง ต้นเดือนสิบน่าจะถึงแคว้นหยุนฉินพอดี หากทุกอย่างราบรื่น ภายในสิบวันน่าจะกลับมาได้”
กู่หนานเฟิงคำนวณเวลาก่อนสัญญาอย่างมาดมั่น “ก่อนที่เจ้าจะกลับมา ข้าจะพยายามยื้อชีวิตนางไว้อย่างสุดความสามารถ”
ด้านนอกห้อง ฟู่เย่เฉินจดจำคำของกู่หนานเฟิงไว้ขึ้นใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อในฝีมือของจวินมั่วหรัน เขาแค่กลัวว่าหากจวินมั่วหรันพลาดพลั้งขึ้นมา เฟิงอู๋โยวก็ไม่อาจฟื้นคืนได้
เป่ยถางหลงถิงร้องไห้เหมือนคนขี้แยจนฟังไม่ชัดว่ากู่หนานเฟิงพูดอะไรบ้าง
เขาจำได้เพียงว่าเฟิงอู๋โยวต้องใช้เลือดจากหัวใจของคนสายเลือดเดียวกันเป็นโอสถนำพา
หลังจากไตร่ตรองแล้ว เขาแอบหมุนตัวกลับไปเช็ดคราบน้ำตา
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เต็มปอด แล้วเดินเข้ามาในห้อง
“ต้องการเลือดมากเพียงใด”
เป่ยถางหลงถิงถือกริชมา แทงกริชนั้นเข้าไปที่หัวใจตัวเองอย่างไม่ลังเล
กู่หนานเฟิงเห็นดังนั้นก็ตกใจ แล้วค่อยๆ ดึงสติกลับมาได้
เขารีบนำเอาถ้วยที่อยู่บนโต๊ะมารองเลือดสดที่ไหลออกจากอกของเป่ยถางหลงถิง
“แพทย์กู่ ลูกชายข้ามีทางรักษาจริงหรือไม่”
“…”
กู่หนานเฟิงพูดไม่ออกชั่วครู่ เขาไม่คิดเลยว่าเป่ยถางหลิงถิงจะเลอะเลือนเช่นนี้ จนถึงวันนี้เขาก็ยังไม่รู้หรือว่าเฟิงอู๋โยวเป็นชายหรือหญิง
ความจริงแล้ว หัวใจของเป่ยถางหลงถิงได้ตายไปพร้อมกับหลิงซู่ซู่เมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้ว
ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่เคยสนใจใยดีกับใครหรือเรื่องอันใดอีกเลย
หากไม่ใช่เพราะก่อนที่หลินซู่ซู่จะตาย นางได้ฝากเขาให้ดูแลลูกให้ดี เขาคงตามนางไปอยู่บนสรวงสวรรค์นานแล้ว