ตอนที่ 388 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
เฟิงอู๋โยวลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน ยืนขึ้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาที่ยาวและเฉียบคมของเธอจ้องมองไปที่ไป๋หลี่เหอเจ๋อที่กำลังเดินเข้ามาหานางอย่างช้าๆ
ไป๋หลี่เหอเจ๋อในชุดขาวภายใต้แสงสะท้อนสีขาวดังหมอก
หน้าตาของเขาเหมือนภาพวาด ดวงตาดั่งลำธารที่ใสจนเห็นก้นบึ้ง
เมื่อมองแวบแรก เหมือนเทวดารูปงามที่ถูกเนรเทศลงมายังโลกมนุษย์
ถึงแม้จะมีรูปงาม แต่เสียดายที่มีจิตใจดั่งสรพิษ
เฟิงอู๋โยวถอนหายใจด้วยอารมณ์ จ้องมองเข้าไปในดวงตาสีเข้มของเขาทันที “ระหว่างเรายังมีอะไรที่ต้องคุยกันอีก ครั้งที่แล้วเจ้าลอบทำร้ายข้าด้วยวิชาสะกดจิต ข้ายังไม่ทันคิดบัญชีกับเจ้า วันนี้เจ้ากลับมาหาข้าถึงที่”
“ต้องขออภัยด้วย ข้านึกไม่ถึงว่าแค่วิชาสะกดจิตจะทำร้ายเจ้าได้ถึงเพียงนี้”
ระหว่างคิ้วของไป๋หลี่เหอเจ๋อแฝงด้วยความเศร้า น้ำเสียงเบาชัดเจนเหมือนปกติเหมือนไม่มีความโกรธ
“ถ้าหากคำขอโทษมีประโยชน์ จะมีศาลร้องทุกข์และเจ้าหน้าที่ไว้ทำไม”
เฟิงอู๋โยวพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง นางเกลียดไป๋หลี่เหอเจ๋อเข้ากระดูก
เมื่อเทียบกับเป่ยถังหลีอิน จวินฝูและคนอื่นๆ การโจมตีของไป๋หลี่เหอเจ๋อมีความร้ายแรงกว่ามาก
เขาสามารถหาจุดอ่อนของนางได้อย่างแม่นยำเสมอ และแม้แต่ทำลายจิตตานุภาพของนางได้อย่างไม่รู้ตัว
“ไม่เคยมีใครสอนให้ข้ารู้จักความรัก เมื่อข้ารู้ตัวว่าข้าตกหลุมรักเจ้าอย่างไร้ยารักษา เจ้าก็ได้เข้าไปอยู่ในอ้อมอกของจวินมั่วหรันเสียแล้ว”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อหันหลัง เขาไม่อยากให้เฟิงอู๋โยวเห็นหน้าตาที่หดหู่ของเขา
คิดไม่ถึงว่าแผ่นหลังที่เรียวยาวของเขาเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว
เฟิงอู๋โยวเสียรู้มาหลายครั้งแล้ว จึงมีภูมิต้านทานต่อแผนเจ็บตัวของเขา
เมื่อเห็นว่าเขากำลังทำท่าจะร้องไห้ นางจึงรีบห้ามเขา “อย่ามาร้องในห้องข้า ถ้าคนไม่รู้เรื่องเขาจะนึกว่าข้ารังแกเจ้า”
“อู๋โยว เรื่องที่ผ่านมาข้าเป็นคนทำผิดต่อเจ้า”
“ขอโทษไปด้วยขณะที่ทำร้ายไปด้วยอย่างนั้นหรือ ไป๋หลี่เหอเจ๋อข้าร้องล่ะ! ออกไปให้ห่างจากข้า อย่าทำร้ายข้าโดยอ้างคำว่ารักอีกต่อไปเลย เจ้าคิดไปเองว่าความรักที่หมกมุ่นและทุ่มเทมากเกินไปไม่ยั่งยืน แต่แท้จริงแล้วเจ้ารักเพียงแค่ตัวเจ้าเอง”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อตะลึง เพราะปั๋วเย่เฉินเคยพูดประโยคนี้กับเขามาก่อน
แต่เขาไม่เห็นด้วย
เขายอมสละทุกอย่างเพื่อเฟิงอู๋โยว
เสียดายที่เฟิงอู๋โยวไม่สนใจ
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็หันกลับมาช้าๆ กวักมือเรียกร่างอันผอมบางที่อยู่ด้านหลังฉากกั้น “สือซื่อ ออกมา”
หัวใจของเฟิงอู๋โยวเต็มไปด้วยสัญญาณไม่ดี และพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดี “ไป๋หลี่เหอเจ๋อ เจ้ากำลังพยายามจะทำอะไรกันแน่”
“ไม่ได้ทำอะไร”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อลูบศีรษะอันกลมกลึงของฉู่สือซื่อและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “ทำตามที่ข้าสั่ง”
สีหน้าฉู่สือซื่อดูเป็นทุกข์และพูดเสียงเบา “นายท่าน วิชาสะกดจิตสามารถครอบงำจิตคนได้ง่าย สือซื่อเป็นห่วงท่าน”
“เชื่อข้า ทำตามที่ข้าสั่ง”
“ขอรับ”
ฉู่สือซื่อพยักหน้า ในมือถือถังพร้อมหยุดเลือดจากปลายนิ้วตัวเองลงในถังอย่างช่ำชอง ทำการสะกดจิตไป๋หลี่เหอเจ๋อต่อหน้าเฟิงอู๋โยว
รอจนดวงตาทั้งคู่ของไป๋หลี่เหอเจ๋อเริ่มเบลอ เสียงอันไร้เดียงสาของฉู่สือซื่อเปรียบเสมือนเสียงปีศาจกระตุ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุด
“ไป๋หลี่เหอเจ๋อ ดวงดาวโดดเดี่ยว ผู้คนวายชนม์ โดดเดี่ยวทั้งชาติ ในรังโจรโจรเหล่านั้นอยากได้ความงามเจ้าและทำทุกอย่างเพื่อบังคับให้เจ้ายอมจำนน ร่างกายเจ้าไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป เจ้าใกล้จะเสียสติ ความปรารถนาที่จะอยู่รอดของเจ้ากำลังลดน้อยลง ไป๋หลี่เหอเจ๋อเจ้ามันไร้ค่าอย่างแท้จริง”
เฟิงอู๋โยวมองดูเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดอย่างมากที่อยู่ต่อหน้านางและสั่งให้ฉู่สือซื่อหยุด “ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่เจ็บปวดของซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
แม้ว่าเฟิงอู๋โยวจะเกลียดสิ่งที่เขาทำ แต่นางก็ไม่ต้องการเห็นเขาตกอยู่ในฝันร้ายในอดีตอีก
ถ้านางต้องการจัดการกับเขา นางจะใช้วิธีที่ถูกต้องเปิดเผย
ฉู่สือซื่อพูดแก้ตัว “สือซื่อแค่ทำตามคำสั่ง นายท่านบอกแล้วว่าเขาทำผิดต่อท่าน มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะชดเชยให้กับท่านได้”
“มันคนละเรื่องกัน ข้าไม่เคยอยากมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น”
เฟิงอู๋โยวแสดงถึงการมีเหตุผล นางเดินไปตรงหน้าไป๋หลี่เหอเจ๋อ ดีดนิ้วเพื่อเรียกสติเขา
ไป๋หลี่เหอเจ๋อลืมตาขึ้นทันที ในดวงตาเต็มไปด้วยความกลัวที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน
ร่างกายเขาสั่นเบาๆ และแสดงอาการกลัว ซึ่งแตกต่างจากเขาในอดีตที่เย็นชาอย่างสิ้นเชิง
“อู๋โยว โปรดให้อภัยข้า”
“การให้อภัยของข้ามันมีความสำคัญมากขนาดนั้นเลยหรือ”
เฟิงอู๋โยวยากที่จะเข้าใจความคิดของไป๋หลี่เหอเจ๋อ
เขาดื้อรั้นหยิ่งยโส และทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
นางเป็นคนใจกว้างรักอิสระ ชอบทำสิ่งต่างๆ ตามกระแสมากกว่าทวนกระแส กล้าที่จะถอยเมื่อประสบความสำเร็จแล้ว
โดยพื้นฐานแล้ว นางและเขาเหมือนคนที่มาจากโลกสองใบอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม มันก็ยากที่จะเข้ากันได้
ไป๋หลี่เหอเจ๋อจ้องมองริมฝีปากที่บวมเล็กน้อยของนาง ทันใดนั้นก็เกิดบันดาลโทสะ เขายื่นมือออกมา ใช้ปลายนิ้วบีบริมฝีปากของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เฟิงอู๋โยวคาดไม่ถึงว่าไป๋หลี่เหอเจ๋อจะกระทำกริยาหยาบคายเช่นนี้ได้ นางรู้สึกเพียงปวดแสบปวดร้อนที่ริมฝีปาก
“ไป๋หลี่เหอเจ๋อ เจ้าเป็นบ้าอะไรขึ้นมา”
“ข้าได้ทำการขอโทษเจ้าไปแล้ว เรื่องราวในอดีตก็ขอให้สิ้นสุดกันแค่นี้ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าควรดูแลตัวเองให้ดีให้บริสุทธิ์ดั่งหยก มิเช่นนั้น ถ้าข้ารู้ว่าเจ้ามีความสัมพันธ์กับจวินมั่วหรัน ข้าจะทำลายเจ้าด้วยมือข้าเอง”
“คนบ้า”
เฟิงอู๋โยวโกรธไป๋หลี่เหอเจ๋อมากจนพูดไม่ออก นางคิดอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ไป๋หลี่เหอเจ๋อจะมาเพื่อขอโทษอย่างเดียวแน่!
พูดไม่ถึงสองคำเขาก็ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมาแล้ว
อยู่ๆ ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็ยื่นมือไปแตะริมฝีปากของเฟิงอู๋โยวอย่างอ่อนโยน “ให้โอกาสข้าสักครั้งได้หรือไม่”