พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 6

ตอนที่ 6

บทที่1ตอนที่6

ผ่านมาสามสัปดาห์แล้วตั้งแต่การต่อสู้กับเทพมังกรเทียแมท(มีคนแนะนำให้เรียกเทพ) ต้องขอบคุณอาจารย์ด้วยที่คอยสนับสนุนข้าจนสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้

ยาของอาจารย์เป็นสูตรดั้งเดิมของเธอเองและดูเหมือนว่ายานั่นจะให้ผลค่อนข้างดีเป็นอย่าง และมันยังรักษาร่างกายได้เป็นอย่างดี

มันเป็นยาที่จะช่วยให้ผ่อนคลายแถมยังค่อยๆสมานแผลอย่างช้าๆ แม้จะขยับตัวแรงก็ไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถขยับตัวได้ประมาณสามสัปดาห์และข้าก็ขาดเขียนไปสามวันโดยไม่บอกกล่าว ตอนนั้นเองที่ข้าไปถึงที่โรงเรียนก็โดนอาจารย์อันริลากตัวไปทันที

อย่างไรก็ตามการที่ข้าขาดเรียนไปถึงสามวันและใช้เวลารักษาตัวประมาณสามสัปดาห์ก็ไม่มีใครสนใจมากนัก

หลังจากได้เห็นอาการบาดเจ็บของร่างกายโนโซมุแล้ว ตอนที่เขากลับเข้าเรียนครั้งแรกในรอบสามวันก็เจอกับมาร์

「นี่แกโง่หรือบ้ากันแน่วะเดินไปชนเข้ากับรถม้า โครตโง่เลยวะ」

เอ่อ แกก็เห็นข้าเป็นคนโง่ๆอยู่แล้วนี่ ดังนั้นข้าตอบโต้ไปก็เปล่าประโยชน์

ยังไงก็ตามข้าก็ไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่เขากล่าว

ยังไงก็ตามอาจารย์อันริไม่ได้โดนหลอกง่ายๆด้วยเรื่องพรรคนั้นก็เริ่มสอนคาบเรียนบรรยายตามปกติ

「โนโซมุกำลังซ่อนอะไรบางอย่างอยู่สิน้า~~~。ไม่ใช่เรื่องปกติเลยน้าที่บาดเจ็บหนักขนาดนั้นแล้วไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเนี่ยยย~~~」

「ไม่ครับ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ข้าก็แค่ได้รับบาดเจ็บระหว่างทำงานเท่านั้นเอง……」

「โกหกชัดๆ โนโซมุคุงชอบเข้าไปในป่า~。ฉันเองก็ได้ยินข่าวลือเรื่องที่ว่ามังกรโผล่ออกมาด้วย แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะน้าสัตว์อสูรเก่งๆมันไม่ค่อยเข้าใกล้ถนนหลักใช่ม้าาาาา~」

…………เอ่อ อยากจะพูดจริงๆ ข้าเจอกับมังกรตัวเป็นๆ แถมเป็นเทพมังกรเทียแมต และยิ่งไปกว่านั้นยังเอาชนะมันมาได้อีก ท้ายที่สุดแล้วข้าก็ยืนยันไปว่าประสบอุบัติเหตุระหว่างทำงาน

「แล้วทำไมถึงหยุดโดยไม่แจ้งให้ทราบละจ้ะ~โนโซมุก็อาศัยอยู่ในเขตหอพักยังไงก็น่าจะติดต่อสถาบันได้นี่หน่า~」

「พอดีข้าไข้ขึ้นและหลับไปเพราะอาการบาดเจ็บ แถมข้ายังไม่มีเพื่อนร่วมชั้นที่มาเฝ้าด้วย…………」

…………เอ่อพูดเองก็เจ็บเองแหะ เป็นเรื่องจริงที่ข้าไม่มีเพื่อนและข้าก็บอกความจริงไม่ได้

ข้าพยายามจะหนีออกไปจากสถานการณ์ตรงนี้

「………………อะฮือ」

อาจารย์อันริเริ่มร้องไห้

ทันใดนั้นเองข้าก็สับสน

「เอ๋ อาจารย์เป็นอะไรครับเนี่ย」

「แงงงงงง~! โนโซมุไม่เชื่อใจฉันง่าาาาา~~~!! อะไรกันคิดจะปกปิดอะไรกับฉันงั้นเหรอ~~!!!」

「เอะ เอ๊ะ ไม่ใช่นะครับ แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนั้นไปได้ละครับ!!」

「ก็เพราะเธอไม่ยอมบอกความจริงนะซิ~~~!! บาดแผลแบบนั้นนะมันไม่ใช่มาจากการโดนรถม้าชนหรอกใช่ไหมล่ะและยาที่ใช้นั่นก็ไม่ใช่ยาที่หาได้ในเมืองนี้ด้วย~~!!」

…………ท้ายที่สุดดูเหมือนว่าจะหลอกเธอไม่ได้เลย

แต่ยังไงข้าก็บอกความจริงไม่ได้ การต่อสู้ระหว่างข้าที่พยายามหลอกอาจารย์อันริและอันริที่พยายามร้องไห้เพื่อเค้นข้อมูลจากข้า……ยังไงก็ตามการที่อันริร้องไห้เหมือนกับเด็กแบบนี้มันก็

หญิงสาวแสนสวยร้องไห้ต่อหน้าผม ดวงตาอันอ่อนโยนนั่น ดูยังไงเธอก็เป็นห่วงผมจริงๆนั่นแหละ

ถ้ามองดูท่าทางของเธอแล้วดูยังไงก็อยากจะได้ยินคำตอบนั่นให้ได้

……เอ่อที่ข้าจะสื่อก็คือเธอเป็นคนที่ทำให้คนอื่นตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัวนั่นละนะ

「โนโซมุคุง…………บอกมาเถอะน้าา?」

ก็-บอก-แล้ว-ไง ว่าทำแบบนี้มันขี้โกงกันนี่!!!!

เมื่อพูดถึงผลลัพธ์แล้วระฆังเข้าเรียนก็ดังขึ้นเธอหยุดร้องไห้ สิ้นสุดการเทศนาจากอันริสักที ได้เวลาที่ผมต้องออกไปแล้ว

แต่หลังจากนั้นก็เห็นท่าทางของอันริที่ดูไม่พอใจเป็นอย่างมากและโกรธตลอดเวลาในคาบเรียนตอนเช้านั่นเอง

………………ขอโทษจริงๆนะอันริ

「โนโซมุคุงงงงง! อย่าแก้ปัญหาด้วยตัวคนเดียวซิ~~~!」

และตอนนั้นเองระหว่างเลิกชั้นเรียนก็โดนเรียก

…………อันริซังนี่คุณโตขนาดนี้แล้วนะครับอย่าทำตัวเป็นเด็กสิ…………。

◇◆◇

ชั้นเรียนศิลปะการต่อสู้ในช่วงบ่าย เป็นการจำลองการต่อสู้ในชั้นเรียนเช่นเดิม คู่ต่อสู้ของข้าก็คือ・・・

「เจอกันอีกแล้วนะไอ้เศษสวะ」

จะมีใครอื่นล่ะนอกจากมาร์

「แกนี่มันดวงกุดชะมัดเลยโว้ย ยังไงก็เหอะแกอย่าได้กังวลไปเลยเพราะไม่ว่าแกเจอใครแกก็ไม่ชนะหรอกวะ ฮะฮะฮะฮะฮะ!!」

ข้าเมินมาร์ที่ยังทำตัวกวนโอ๊ยเหมือนเดิม และเริ่มตั้งท่า

บาดแผลตอนนี้ค่อนข้างโอเคแล้ว ดีขึ้นมาหน่อย

ดาบเองก็ยังอยู่ในสภาพดี แม้ว่าจะเป็นดาบเลียนแบบ แต่มันก็รู้สึกเหมือนได้จับดาบของตัวเองจริงๆ

ส่วนตัว “พันธนาการ”…….ดูเหมือนว่าผมจะปลดปล่อยมันได้

แต่………….ข้าไม่คิดจะใช้มัน

เทียแมนที่ข้าฝันถึงข้ากังวลเกี่ยวกับมันเล็กน้อยและข้ามีความรู้สึกว่ามันจะมีอะไรเปลี่ยนไปหากข้าทำลาย “พันธนาการ” นั่นออกมา

เป็นตัวข้าเองที่ลังเลที่จะปลดปล่อย “พันธนาการ” ด้วยตัวเอง

◇◆◇

「ถ้าอย่างงั้นละก็นะ เริ่มได้~~」

มาร์ลุดหน้าขึ้นมาพร้อมกับเสียงตะโกนของนอร์นนั่นเอง

บางทีเพราะตั้งใจจะบดขยี้ข้าตั้งแต่เริ่มต้นดูเหมือนว่าจะเปิดใช้คิตั้งแต่แรกเริ่ม

ข้าจับตามองดูมาร์และก็เริ่มปรับคิให้เข้ากับสภาพร่างกายปัจจุบัน

「แหลกไปซะเหอะมึงงงงงงงงงง!!!」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่ลงมาจากด้านบนหลังจากนั้นก็ฟันในแนวนอน

ข้าหมุนตัวเพื่อสร้างแรงเหวี่ยงและเหวี่ยงดาบขึ้นเช่นเดียวกับดาบใหญ่ของมาร์ ดาบคาตานะของข้าหักเหวิถีทางดาบของมาร์จนข้าหลบการโจมตีพ้น

มาร์พยายามแก้วิถีดาบที่ถูกเบนออกและเหวี่ยงดาบลงมาบนด้ามดาบของข้า

ข้าหมุนข้อมือไปด้านหลังและถือดาบในแนวทแยงรับดาบของมาร์ ในขณะเดียวกันก็ผ่อนแรงที่ขาพร้อมกับรับแรงกระแทกของดาบ

การที่เป็น ดราก้อน สเลเยอร์ทำให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพสูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้ข้าสามารถกันการโจมตีได้โดยไม่ต้องสวนกลับ

ตามทิศทางดาบนั้นในชั่วพริบตาก็ฟันออกไป

มาร์ใช้ปลอกแขนกันเหมือนครั้งที่แล้ว แต่การกระทำนั่นข้าก็คิดไว้แล้ว

ในช่วงพริบตานั่นข้าผ่อนคลายทำใจให้สงบ ดาบนั่นกันได้ด้วยปลอกแขน แต่ด้วยการผ่อนคลายท่าทางกระทันหันทำให้เปลี่ยนท่าทางได้ทันที

การใช้แรงเหวี่ยงนั้นก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่งมือจากการถือดาบสองมือ ข้าปล่อยมือหนึ่งออกจากดาบเพราะใช้แรงเหวี่ยงเป็นตัวช่วย จากนั้นจึงต่อยเข้าไปที่ท้องของมาร์

「หนอยยยย!」

ใบหน้าของมาร์บิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด ร่างกายนั่นกระตุกราวกับกำลังเต้น

ข้าปล่อยดาบลงและจับหัวของมาร์จากนั้นใช้เข่ากระแทกหน้าหมอนั่น

มาร์เดินเซพร้อมกับเลือดกำเดาที่ไหลออกมา

ข้าพยายามที่จะโจมตีเข้าไปอีก・・・

「ไอ้เศษสวะเอ้ย มึงตายยยยยยยยยยยยยยยยย!!!」

พลังงานจำนวนมากปะทุขึ้นพร้อมกับเสียงคำรามของมาร์

ด้วยความรู้สึกได้ถึงอันตรายข้าจึงถอยออกมา

มาร์จ้องมาทางนี้ราวกับโกรธแค้น

การโต้กลับที่ไม่คาดคิดของผู้ที่อ่อนแอที่สุด ทำให้หมอนั่นคลานอยู่ตรงหน้าข้า เป็นการโจมตีที่สมบูรณ์แบบ

「ตาย! ไอ้เปรตเอ้ย!! จะต้องฆ่าให้ได้!!!!!」

มาร์ตั้งสติเข้าไปในดาบเล่มใหญ่นั่น จิตวิญญาณเริ่มรวมตัวกันจนอัดแน่นอยู่ที่คมดาบมันกลายเป็น คมดาบวายุที่รุนแรงจนเกาะติดอยู่กับดาบใหญ่นั่น

คิ “คมดาบล่องนภา”

มันเป็นเทคนิคของการจะฟันสิ่งๆหนึ่งให้ขาดด้วยสายลมที่เกาะติดอยู่กับดาบนั่น

นอกจากนี้ลมรอบใบดาบเองก็ป้องกันการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับการโจมตีและใช้แรงจำนวนมากเพื่อเบี่ยงวิถีดาบนั่นออกไป

มาร์เหวี่ยงดาบแห่งสายลมตรงมาที่ข้า

ข้าลังเลเพราะอ่านวิถีดาบแห่งสายลมของมาร์อยู่ แต่มาร์ก็รัวการโจมตีหลายครั้งเหมือนเดิม

หลบคมดาบนั่นต่อไปด้วยพละกำลังในตอนนี้ ถ้าข้าพยายามปัดป้องมันก็ต้องโดนสายลมนั่นพัดจนปลิวแน่ๆ

ไงก็เถอะนะ การโจมตีของมาร์ที่เต็มไปด้วยความโกรธ มันอ่านได้ง่ายกว่าตอนปกติเสียอีก ดังนั้นถึงจะสู้ต่อก็ไม่มีปัญหา

ด้วยการทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆพละกำลังกายของข้าก็คงจะเพิ่มขึ้นบ้าง

ภายใต้สถานการณ์ที่ถูก “พันธนาการ” ความสามารถของข้าก็ยังคงต่ำกว่านักเรียนทั่วไป

ถึงอย่างงั้นความสามารถมันก็ค่อยๆเพิ่มทีละน้อยทำให้การต่อสู้ของข้ามันทำได้หลากหลายมากขึ้น

จนถึงตอนนีข้าทำได้แค่ป้องกันการโจมตี ไม่สามารถสวนกลับได้แม้แต่น้อย ตอนนี้ข้าอ่านการโจมตีได้แล้วและเน้นไปที่การหลบแบบง่ายๆ

ข้าเองที่รู้สึกได้ถึงการเติบโตของตัวเอง ก็เตรียมตัวสำหรับก้าวถัดไป

◇◆◇

「อะไรกันวะเนี่ย!」

มาร์แสดงท่าทีสับสนคนอื่นเองก็เช่นกัน

「ทำไมข้าโจมตีมันไม่โดนเลยวะ!!!!」

จนถึงตอนนี้ข้าไม่เคยเห็นหมอนั่นเคลื่อนไหวแบบนั้นเลย

ตอนที่ข้ารับดาบนั่นเข้าไปก็มีทางเดียวคือต้องกลิ้นลงไปกับพื้น

วันนี้ดูท่าทางข้าจะเผลอไปหน่อย แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิมนั่นละ มันกลิ้งไปไกล

แต่ว่าตอนนี้ท่าทางของมันต่างออกไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด

การเคลื่อนไหวของมันเองช้ากว่าพวกเรามาก แต่มันก็หลบการโจมตีได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่เพียงแค่หลบดาบข้า แต่ยังหลบคมดาบวายุที่ข้าใส่ไว้กับดาบได้ด้วย

ตอนนั้นเองที่ข้าเห็นหน้าหมอนั่น ใบหน้าของมันไม่มีท่าทีร้อนรนแม้แต่น้อย มันมั่นใจว่าหลบดาบของข้าได้สบายๆ

「เป็นไปได้・・・เป็นไปได้ยังไง!ถ้าแบบนั้นละก็!!!」

ตัวมันที่อยู่อย่างเศษสวะในชั้นปี 2 ของพวกเราในทางกลับกันตัวข้าที่เป็นถึงระดับสูงในห้องนี้

ข้ามั่นใจว่าความสามารถของข้าเทียบเท่า แรงค์ B

จู่ๆข้าก็นึกถึงความสามารถของมัน

“พันธนาการ”

ความสามารถที่ลดความสามารถของบุคคลให้ต่ำลงกว่าปกติ แน่นอนว่าตัวมันจะต้องถูกจำกัดพลังเวทย์ และคิแน่ๆ

หากว่ามันทำลายโซ่ตรวนที่ผูกมันมันได้มันจะน่ากลัวขนาดไหน นี่ขนาดมันถูกพันธนาการเอาไว้ มันต้องฝึกหนักระดับไหนถึงจะได้ถึงขนาดนี้

“…………ไม่เห็นจะจำได้เลย ว่าแกเป็นแบบนี้!”

อารมณ์ที่เดือดพล่านทำให้ข้าเริ่มตัดสินพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวหมอนั่นอย่างใจเย็น

และตอนนั้นเอง ข้าก็ได้พ่ายแพ้ให้กับมัน

◇◆◇

มาร์ที่มั่นใจในพลังของตัวเองมาโดยตลอด เขาที่เกิดมาพร้อมกับพลังอันมากมายและร่างกายที่แข็งแกร่ง ในไม่ช้าเขาก็แกร่งมากขึ้นจนไม่มีใครเอาชนะเขาได้

แม้ว่าจะอยู่ห้อง 10 แต่เขาก็เป็นคนที่มีความสามารถ ความภาคภูมิใจ ดวงตาของเขาเริ่มขุ่นมัว

โนโซมุท่าทางเปลี่ยนเล็กน้อยหลังจากการฟันของมาร์ มาร์เหวี่ยงดาบลง แต่ว่านั่นเป็นกับดักของโนโซมุ

โนโซมุที่ทำท่าทางกลิ้งลงกับพื้นกลับลุกขึ้นมาทันทีและโดนไปทางด้านข้างดาบของมาร์ที่แทงทะลุพื้นไปและคมมีดวายุที่บขยี้พื้นดินนั่นทำให้ทัศน์วิสัยโดยรอบเริ่มมองไม่เห็น

「ไอกร๊วกกกกกกเอ้ยยยยยย!!」

มาร์ที่ใจร้อนเปิดใช้งานคมดาบวายุในทิศทางที่เขาเชื่อว่าโนโซมุยืนอยู่

คิ “ค้อนสะบั้นปฐพี”

ใบมีดของดาบวายุมวลขึ้นด้วยแรงของลมอย่างเร่งรีบกลายเป็นดั่งการทุบสนั่นทั่วพื้นที่

การตัดสินใจนั่นทำให้พื้นที่รอบๆฝุ่นกระจายหายไปทำให้มาร์กลับมามองเห็น แต่ว่าเขาคิดผิดแล้วที่ทำเช่นนี้

โนโซมุไม่ได้อยู่ ณ ตรงนั้น ดาบที่ฟาดสนั่นจนแยกพื้นดินจนเป็นร่อง เขาอยู่ข้างๆมาร์แล้ว

เมื่อควันเริ่มปกคลุมบริเวณโดยรอบเขาก็ขยับขาของตัวเองและเอาดาบไปจ่อรอบข้างมาร์

สายตาของทั้งสองเข้าปะทะกัน โนโซมุตะวัดดาบลง มาร์ที่เปิดช่องว่าง

มาร์ที่ไม่สามารถหลบการโจมตีได้ เขาพยายามใช้ปลอกแขนป้องกัน แต่ท่าทางตอบสนองที่ช้าทำให้ตัวของเขาทรุดลงไปกับพื้น

ช่วงเวลานั้นเองดาบของโนโซมุก็ถูกดึงออกมา

ก้~~~อ~~~ง~~~งงงงง

「เอาล่ะ~~การดวลจบลงแล้ว วันนี้คาบเรียนหมดแล้ว ขอให้ทุกคนทบทวนบทเรียนโดยละเอียดด้วยนะ~~」

เสียงระฆังในตอนท้ายของคาบเรียนดังขึ้นและด้วยคำสั่งของอาจารย์อันริเองเพื่อนร่วมชั้นเองก็ผ่อนคลายลงเพราะความตึงเครียดของการดวลเมื่อครู่ กลายเป็นหัวข้อสนทนาไปแล้ว

โนโซมุหันหลังกลับจากนั้นเก็บดาบที่วางไว้เข้าฝัก

มาร์ไม่พูดอะไรและจ้องมองไปทางด้านหลังของโนโซมุขณะที่เขากำลังออกไปจากสนามฝึก

「นี่ มาร์ เป็นยังไงบ้างล่ะ สำหรับไอ้เศษสวะในวันนี้น่ะ」

「ดูเหมือนว่าจะรอดตัวไปนะ มาร์ ข้าคิดว่าไปจัดการมันดีกว่านะเพราะมันเริ่มเหิมเกริมละ!」

พวกนั้นสองคนพยายามพูดใส่มาร์แต่มาร์ไม่ได้ยินอะไรเลย

หมอนั่นมันแกร่งขึ้นแน่นอนไม่ผิดแน่ แต่เดิมมันก็แข็งแกร่งอยู่แล้วแต่ว่าข้าไม่ได้สังเกตเห็นมันเลย?

อย่างน้อยฝีมือดาบของมันในวันนี้ก็ดีกว่าข้าอย่างเห็นได้ชัด ผลการต่อสู้ในวันนี้มันแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์

「…………ความรู้สึกนี่มันอะไรกันวะ…………」

รู้สึกไม่สบายใจ ความโกรธที่ปะทุขึ้นในอก แต่ว่าทำไม

ทำไมถึงต้องซ่อนความสามารถเอาไว้?

…………ไม่ใช่ มันไม่ได้ซ่อนความสามารถ อย่างน้อยข้าก็ไม่โกรธเมื่อนึกถึงมันในตอนนี้

แล้วหมอนั่น…………………………ทำ…………เพื่อข้ายังงั้นเหรอ

…………ข้าไม่เคยโกรธตัวเองขนาดนี้มาก่อน

…………ข้าที่ภาคภูมิใจในตัวเองนักหนา อย่างน้อยข้าก็เกลียดคนที่มันอ่อนแอจนทำอะไรไม่ได้เลย แต่ว่าหมอนั่นกลับทำภายใต้เงามืด

และข้าก็เกลียดคนที่ไม่ยอมต่อต้าน แม้ว่าจะถูกเหยียบย่ำแค่ไหนก็ตาม

นั่นคือสิ่งที่ข้ารู้สึกับหมอนั่นจนถึงตอนนี้ แม้ว่าเขาจะโดนกดขี่จนถึงขีดสุด แต่เขาก็ยอมรับก้มหน้าโดยไม่สนใจอะไร มันเป็นคนที่ประเภทที่ข้าเกลียดที่สุด

แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเช่นไรกันแน่

เขาอดทนยิ่งกว่าใครๆ ข้าไม่รู้ว่าทำไม แต่หมอนั่นพยายามที่จะแข็งแกร่งขึ้น

และความพยายามมันก็อยู่ในระดับที่ข้าคาดไม่ถึงด้วย

ข้าไม่เคยคิดว่ามนุษย์ผู้ที่โดน “พันธนาการ”จะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดได้

นี่ข้าทำอะไรกับหมอนั่นลงไปกันแน่เนี่ย ทั้งๆที่หมอนั่นพยายามอย่างหนักมาโดยตลอด ข้าที่คอยเยาะเย้ยและล้อเลียนมัน

ข้ารู้สึกเริ่มไม่พอใจในตัวเองและเฝ้ามองหมอนั่นออกจากสนามฝึกไป

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท