ตอนที่ 12 เฉียวเยี่ยนขี้อิจฉา (รีไรท์)
ตอนที่ 12 เฉียวเยี่ยนขี้อิจฉา (รีไรท์)
มู่ฉินเจินไม่เข้าใจว่าเหตุใดเมื่อครู่นี้หญิงคนนี้ถึงกลอกตา จึงคิดทบทวนอย่างละเอียดว่าตัวเองพูดอะไรไม่เหมาะสมหรือไม่
ในขณะที่เฉียวเหยียนฝืนตัวเองไม่ให้ไปทุบก้นระบบตัวน้อย และเอ่ยกับมู่ฉินเจินว่า “เพิ่มพื้นดินอุดมสมบูรณ์อีกพันหมู่ ท่านก็รายงานมันเทศต่อราชสำนักได้ ข้าจะมอบวิธีการเพาะปลูกให้ ว่าอย่างไร?”
มู่ฉินเจินชะงักไป ไม่คิดเลยว่าหญิงคนนี้จะต้องการแค่ที่ดินผืนเดียว แค่พื้นดินอุดมสมบูรณ์พันหมู่สำหรับเขามันช่างง่ายดายเหลือเกิน!
เฉียวเยี่ยนที่คิดว่าความต้องการของตัวเองสูงมากนั้นสังเกตท่าทางของอีกฝ่ายอย่างสงบ แต่กลับรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมา
หรือว่านางต้องการมากเกินไป? ไม่เช่นนั้นห้าร้อยหมู่ล่ะ?
ในขณะที่นางกำลังจะเปิดปาก เสียงอันเย็นชาน่าดึงดูดของมู่ฉินเจินก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ย่อมได้”
เฉียวเยี่ยนมีความสุขมาก มุมปากยกขึ้นสูง ขณะที่วายร้ายในใจก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
เย่! ต่อไปนางจะเป็นนายหญิงเจ้าของที่ดินสองพันหมู่แล้ว!
มู่ฉินเจินสังเกตเห็นว่านางมีความสุขก็ขยับมุมปากขึ้นเล็กน้อยและรู้สึกขบขัน ช่างเป็นสตรีที่พอใจได้ง่ายจริง ๆ!
เฉียวเยี่ยนที่รู้ตัวว่าตัวเองพอใจจนเสียกิริยาก็รีบหุบปากฉับทันที พลางนั่งตัวตรง กระแอมไอ ก่อนจะคุยโวโอ้อวดอย่างวางมาดขรึม “อย่ามองว่ามันเทศข้าดูเหมือนก้อนดินเชียว มันให้ผลผลิตสูง รสชาติดี ที่ดินพันหมู่แลกกับพืชผลใหม่ไม่เสียเปรียบแน่นอน!”
ขณะกล่าวก็ยังกังวลว่ามู่ฉินเจินจะกลับคำ จึงมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเตรียมตั้งป้อมจนทำให้เขาลอบขบขัน
สตรีผู้นี้ดูไปดูมาก็น่ารักไม่หยอก!
เขาเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยอย่างจนใจ “ไม่ต้องกังวล คำพูดข้าเปรียบดังทองพันตำลึง รับปากอะไรไว้ก็จะทำตามนั้น”
เฉียวเยี่ยนฟังจบก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก และยังรู้สึกว่าเขาดูไม่ขัดหูขัดตาแล้ว
อีกอย่าง เขายังหล่อมากด้วย จมูกเป็นจมูก ตาเป็นตา!
ระบบตัวน้อยในทะเลแห่งจิตสำนึกรู้ว่าโฮสต์ตัวเองคิดเช่นนี้ มุมปากก็กระตุกสองครั้ง
มีการชมคนหล่อแบบนี้ด้วยหรือ?
อาหารถูกกวาดจนเหี้ยนโดยเหล่าชายร่างใหญ่ กินจนไม่เหลือเศษอะไรเลย หากไม่ใช่เพราะเสี่ยวอวี่เอ๋อร์กินข้าวอิ่มและป้อนอาหารให้สุนัขตัวน้อยที่เป็นสหายตัวน้อยของนางล่วงหน้า ตอนนี้ก็อาจจะหิวแย่แล้ว
หลังจากพักวางชามตะเกียบลง เกาจัวหยวนก็รีบพาองครักษ์สองสามคนไปล้างจาน เฉียวเยี่ยนไม่ได้โต้เถียงกับพวกเขา นางมีความสุขด้วยซ้ำที่มีแรงงานให้ใช้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ตกเย็น เฉียวเยี่ยนต้มน้ำให้เด็กทั้งสองอาบ และมู่ฉินเจินถูกนางจัดให้อยู่ในห้องถัดไป ทั้งยังให้ผ้าปูที่นอน จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีก
ให้นางปรนนิบัติเขา? ฝันไปเถิด!
ส่วนองครักษ์เหล่านั้น มู่ฉินเจินบอกว่าไม่ต้องไปสนใจพวกเขา นางก็ไม่สนใจจริง ๆ ถึงอย่างไรพื้นที่ในบ้านนางก็กว้างขวางขนาดนั้น พวกเขาจะนอนในลานบ้านหรือนอนข้างนอกก็ได้ทั้งหมด
หลังจากฟ้ามืดลงแล้ว เหล่าองครักษ์ก็ไปประจำตำแหน่งตัวเองรอบลานบ้านและผลัดเวรกันเฝ้ายาม
ฐานะของนายพวกเขานั้นพิเศษมาก ต่อให้อยู่ในสถานที่รกร้างทรุดโทรมก็มิอาจวางใจได้
มู่ฉินเจินหาใช่คนรุ่นสองเอาแต่ใจ การที่เฉียวเยี่ยนไม่มาปรนนิบัติก็อยู่ในความคาดเดาของเขาแล้ว เขาเดินไปที่โอ่งเก็บน้ำในลานบ้าน ตักน้ำเย็นมาล้างหน้าล้างตาเสร็จก็กลับเข้าไปในห้อง
ภายในห้องเล็กนี้ดูทรุดโทรม ตะเกียงน้ำมันส่องแสงสลัว เครื่องเรือนก็มีน้อยมาก มีเพียงเตียงเล็ก ๆ หนึ่งเตียง และตู้ข้างเตียงหนึ่งตู้ ที่เหลือเป็นเครื่องปั้นดินเผาเล็กใหญ่วางเต็มมุมกำแพง
อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องปรุงและผักดอง มู่ฉินเจินที่นอนในสภาพแวดล้อมเช่นนี้เป็นครั้งแรกก็ไม่รังเกียจอะไร แต่กลับรู้สึกว่ามันแปลกใหม่เล็กน้อย
เขาเอนหลังพิงหัวเตียง ประคองหลังด้วยผ้าห่มที่เฉียวเยี่ยนนำมาให้ ในมือถือหนังสือที่นำมาจากห้องหนังสือของเด็ก ๆ ไว้เล่มหนึ่ง
ก่อนนอน เขามีนิสัยชอบอ่านหนังสือ ทว่าคืนนี้เขาอ่านอย่างไรก็อ่านไม่เข้าหัว
กำแพงห้องกั้นเสียงได้ไม่ดีนัก และประสาทรับรู้ทางการได้ยินของเขาก็ดีมาก บทสนทนาของสามแม่ลูกที่อยู่อีกฝั่งกำแพงดังเข้ามาในหูเขา จึงยกยิ้มมุมปากขึ้นโดยไม่รู้ตัวท่ามกลางความรู้สึกอบอุ่น
หญิงคนนั้นถลึงตาใส่เขา ไม่สนใจเขา แต่กลับอ่อนโยนต่อเด็กทั้งสองมาก เมื่อได้ยินเสียงร้องเพลงและเสียงน้ำดังผ่านกำแพงออกมา เขาก็จินตนาการได้ว่านางอาบน้ำให้เด็กทั้งสองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างไร
อีกฝั่งของกำแพง
“ข้าชอบอาบน้ำเหมือนเต่าตกน้ำ”
“อะอ่าว อะอ้าว”
“ระวังเจ้าหมัดน้อยและฟองมากมาย”
……
เฉียวเยี่ยนอาบน้ำให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์อยู่หลังฉากกั้นลม นางอาบน้ำไปด้วยร้องเพลงให้เด็ก ๆ ฟังไปด้วย
เพลงนี้เด็ก ๆ ฟังกันหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งที่อาบน้ำ ท่านแม่มักจะร้องให้พวกเขาฟัง เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์นอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ ร้องเพลงตามท่านแม่ด้วยน้ำเสียงเด็กเล็ก ตัวอ้วนกลมขาวนวลทำให้คนรู้สึกอยากขย้ำ
เรือนผมอ่อนนุ่มของนางในเวลานี้ถูกปั้นเป็นเกลียวแหลมเสียดฟ้าด้วยฟองสบู่ แม้แต่จมูกน้อยก็ยังถูกแต่งแต้มไปด้วยฟอง
เฉียวเยี่ยนบีบครีมอาบน้ำถูลงบนตัวเด็กทั้งสอง และถูจนเด็กน้อยเหมือนปลาน้อยอวบอ้วนตัวลื่นแวววาว
ครีมอาบน้ำและแชมพูที่ใช้ที่ในบ้านล้วนซื้อมาจากระบบ หลังจากมาที่นี่ นางเคยใช้สบู่หอมมาแล้วครั้งหนึ่ง แพงไม่ว่าหรอก แต่นางก็ยังรู้สึกว่าล้างไม่สะอาด จากนั้นมานางก็ใช้แต่สินค้าในระบบ
โดยเฉพาะของใช้ของลูกทั้งสอง นางล้วนกัดฟันทนยากลำบาก ยอมซื้อของที่ดีและไม่มีวันยอมประหยัดเงินซื้อของชั้นเลวแน่ เพราะการรักษาในยุคนี้ล้าหลังยิ่งนัก หากร่างกายของเด็ก ๆ มีปัญหา คงไม่มีหมอให้ความช่วยเหลือแล้วจริง ๆ
เจ้าปลาอ้วนขยับมือล้างพุงน้อยไปมา เดี๋ยวก็ทำท้องป่อง เดี๋ยวก็ทำท้องแฟบ เล่นอย่างสนุกสนาน
เมื่อเห็นว่าครีมอาบน้ำยังไม่พอก็ยื่นมือน้อยไปกดมาอีก แต่ถูกเฉียวเยี่ยนจับไว้ และบีบจมูกน้อยเบา ๆ พลางดุด้วยรอยยิ้ม “ห้ามถูมันแล้ว มันเยอะพอแล้ว ไม่อย่างนั้นเจ้าจะกลายเป็นปลาอ้วนไปจริง ๆ แม่จะจับก็จับไม่ได้”
ปลาอ้วนตัวน้อยที่ถูกจับได้ยิ้มอย่างมีความสุข นางยิ้มจนตาหยี และเอ่ยด้วยเสียงน่ารัก “ลูกไม่หนี ลูกรอให้ท่านแม่มาจับอยู่”
เฉียวเยี่ยนหอมลูกสาวสุดที่รักสองครั้งอย่างเห็นได้ไม่บ่อยนัก และรีบล้างครีมอาบน้ำกับแชมพูสระผมบนตัวเด็กน้อยออกอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็ใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวให้แห้ง แล้วห่มผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ก่อนพาไปบนเตียง
หลังจากอาบให้คนหนึ่งเสร็จ เฉียวเยี่ยนก็ต่อสู้กับอีกคนต่อ เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ไม่ยุ่งยากมาก นั่งอย่างเชื่อฟัง ปล่อยให้แม่ขัดถูราวกับผู้ใหญ่น้อยตีหน้าขรึม
หากเฉียวเยี่ยนไม่บอกว่าเขายังเด็ก อาบน้ำไม่สะอาด ผู้ใหญ่ตัวน้อยคนนี้อาจจะขออาบน้ำด้วยตัวเองแล้ว
หลังจากอาบน้ำให้ลูกทั้งสองคนเสร็จสิ้นแล้ว เฉียวเยี่ยนก็ทาครีมบำรุงผิวให้พวกเขาและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน จากนั้นก็กอดลูกทั้งสองซ้ายขวา
มีเด็กน้อยตัวหอมฉุยอยู่ในอ้อมแขน เฉียวเยี่ยนจึงสูดดม และแสดงท่าทางมึนเมาราวกับผู้ชายหน้าหม้อ
ลูกของนางตัวหอมมากจริง ๆ!
ก่อนที่สามแม่ลูกจะเข้านอน ก็มักจะคุยกันหรือเล่านิทานก่อนนอน คืนนี้ในขณะที่เล่า ๆ อยู่นั้น หัวข้อก็เปลี่ยนมาเป็นมู่ฉินเจิน
เมื่อพูดถึงพ่อของพวกเขา เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็เหมือนกับคนช่างพูด ขยับปากพูดไม่หยุด แม้แต่เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ก็เผยแววตาชื่นชมออกมา
ครั้นมู่ฉินเจินได้ยินสามแม่ลูกเอ่ยถึงเขา ก็อดตั้งใจฟังไม่ได้ และรู้สึกคาดหวังอยู่เลือนราง
เขาจะเป็นอย่างไรในสายตาของเด็กทั้งสองและหญิงคนนั้นกันนะ?
เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์นับนิ้วอ้วนของตัวเอง นับข้อดีของท่านพ่อที่เพิ่งรู้จักในวันนี้ด้วยเสียงน่ารัก
“ท่านพ่อหล่อ”
“ท่านพ่อตัวหอม”
“ท่านพ่อเล่านิทานเป็น และเรียกลูกว่าลูก”
ได้ยินลูกตัวเองชมท่านพ่ออย่างนู้นอย่างนี้ เฉียวเยี่ยนก็รู้สึกอิจฉา พวกเด็ก ๆ เห็นผู้ชายคนเดียวกันกับนางหรือไม่?
เฉียวเยี่ยนกลอกตาอย่างไม่พอใจ พลางเอ่ยอย่างอิจฉาว่า “เขาดีขนาดนั้นเชียวรึ? แม่ว่าเขาก็งั้น ๆ แหละ ลูกรัก แม่จะบอกให้ รู้คน รู้หน้า ไม่รู้ใจ เจ้าต้องสังเกตสักสองสามวันก่อนถึงจะสามารถสรุปได้”
เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ถูกหลอกจนไขว้เขว
มันเป็นแบบนี้จริงหรือ?
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
คาดหวังอะไรหรือท่านอ๋องโบ้ เดี๋ยวโดนช็อตฟีลขึ้นมาแล้วจะตั้งหลักไม่ทันนะ
ไหหม่า(海馬)