ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 74 ท่านอ๋องขอคำชม

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 74 ท่านอ๋องขอคำชม

ตอนที่ 74 ท่านอ๋องขอคำชม

พวกทหารต่างตกใจ ท่านอ๋องลงนามใบสัญญาความเป็นตาย ก็หมายความว่าได้มอบชีวิตให้แก่หวางเฟยแล้ว นี่ต้องเชื่อใจอีกฝ่ายมากแค่ไหนถึงได้ตัดสินใจอย่างไม่มีความลังเลเช่นนี้!

พวกเขารู้สึกละอายใจนัก หวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าหวางเฟยจะเตรียมหนทางเลี้ยงชีพให้ แต่พอต้องลงนามใบสัญญาความเป็นตายพวกเขากลับลังเล ทว่าท่านอ๋องผู้ดูยอดเยี่ยม สูงส่ง เป็นคนที่น่านับถือสำหรับลูกผู้ชายมากมายปานนั้น กลับเต็มใจมอบชีวิตตัวเองให้อยู่ในกำมือผู้อื่น

แล้วพวกเขายังจะลังเลอะไรอีก บุคคลที่ท่านอ๋องเคารพชื่นชอบ จะต้องเป็นคนใจคอกว้างขวางและตรงไปตรงมาเหมือนเขาเป็นแน่

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ทหารปลดประจำการคนหนึ่งก็ลุกขึ้นประทับลายมือลงบนใบสัญญาเป็นตาย

“ข้าเชื่อท่านอ๋อง และเต็มใจเชื่อหวางเฟย เราทุกคนล้วนเคร่งครัดในกฎเกณฑ์ ไม่มีทางพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไปแม้แต่คำเดียว!”

พอมีคนหนึ่งเริ่ม คนด้านหลังก็เริ่มคลายความกังวลลง และพากันลงนามใบสัญญาเป็นตาย มอบชีวิตของตัวเองไว้ในมือของเฉียวเยี่ยน

ครึ่งเค่อต่อมา ทหารทั้งหมดลงนามเรียบร้อยแล้ว แต่ละคนยืนตัวตรงในท่าทหาร เคร่งขรึมสง่างามดั่งฟื้นขึ้นมาจากความตาย

เฉียวเยี่ยนเห็นพวกเขาเป็นเช่นนี้ก็ยกมุมปากขึ้นด้วยความพอใจ สั่งให้ทุกคนนั่งลง และเริ่มเรียนการทาบกิ่งคาบแรกของวัน

หากอยากทาบกิ่งเป็น ก็ต้องเข้าใจความรู้พื้นฐานของการทาบกิ่งก่อน นางไม่ได้อธิบายอย่างลึกซึ้งมากนัก เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ล้วนมาจากความรู้ทางชีววิทยาของชั้นมัธยมต้น นางใช้วิธีอธิบายที่ง่ายที่สุด เพื่อให้พวกเขาเข้าใจต่อความรู้ที่ต้องเรียนอย่างท่องแท้

พวกทหารนั่งอย่างเรียบร้อยบนม้านั่งเล็ก พวกที่เขียนได้ก็นำสมุดออกมาจด ส่วนพวกที่เขียนไม่ได้ก็ฟังอย่างตั้งใจและจำไว้ในหัว หากจำไม่ได้ก็ไปขอคำปรึกษาและทำสมุดบันทึกขึ้นมาอีกที

ทว่าต่อให้พวกเขาตั้งใจแค่ไหน ก็ยังสับสนมึนงง

กิ่งไม้ที่นำมาใช้ทาบกิ่งเรียกว่ากิ่งพันธุ์ดี ส่วนต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่ถูกทาบเรียกว่าต้นตอ และพืชสองชนิดที่นำมาทาบกิ่งกันต้องมีสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกัน…

คำศัพท์ใหม่ ๆ หลั่งไหลเข้ามาในหัวพวกเขาทีละคำ ราวกับเส้นด้ายเล็ก ๆ ที่พันกันอยู่ในหัว

ไอ้วิธีการที่เรียกว่าทาบกิ่งมันจะทำได้จริงหรือ? นำกิ่งของอีกต้นหนึ่งมาทาบกับต้นไม้อีกต้น มันจะรอดรึ? แล้วมันจะออกผลใหม่ได้รึ?

แม้พวกเขาจะเชื่อท่านอ๋องกับหวางเฟย แต่ก็อดคิดไปไกลไม่ได้

พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองท่านอ๋อง เห็นท่านอ๋องนั่งตัวตรงเรียบร้อย ตั้งใจฟังกว่าพวกเขาอีก

เฮ้อ ช่างเถิด ดูจากระดับความติดภรรยาของท่านอ๋องแล้ว ต่อให้หวางเฟยเรียกลาว่าม้า เขาก็ยังคิดว่ามันถูกต้อง

หลังจากเฉียวเยี่ยนอธิบายความรู้ขั้นพื้นฐานเสร็จ ก็หยิบกิ่งไม้กิ่งหนึ่งขึ้นมาสาธิตให้พวกเขาดู

ขั้นแรกใช้มีดเฉือนต้นตอให้เห็นกระพี้ไม้ก่อน ตอนเฉือนต้องเฉือนให้เรียบเกลี้ยงเกลา จากนั้นก็เฉือนกิ่งพันธุ์ดีโดยการเฉือนขึ้นบน พยายามเฉือนให้พอดีกับแผลต้นตอและทาบให้แนบชิดที่สุด จากนั้นนำแผ่นกันน้ำพลาสติกมาห่อหุ้มให้แน่นหนาอีกที เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนแทรกซึมเข้าไป

มู่ฉินเจินตั้งใจดูเป็นพิเศษ ตอนแรกสุดเขาแค่มาเฝ้าดูเท่านั้น ครั้นเห็นเจ้าท่อนไม้อธิบายความรู้อย่างกระฉับกระเฉง เขาก็อดฟังอย่างเคลิบเคลิ้มไม่ได้

เดิมทีเขาคิดว่าวิธีการทาบกิ่งเป็นเพียงจินตนาการในหัวของนาง แต่วันนี้กลับพบว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น ท่าทางนางคล่องแคล่วชำนาญ อธิบายความรู้ได้อย่างชัดเจนมีเหตุผลราวกับว่าเคยทำมาแล้วเป็นพัน ๆ ครั้ง

หลังจากสาธิตจบ เฉียวเยี่ยนก็ให้ฮุ่ยเซียงแจกมีดทาบกิ่งกับพลาสติกที่เตรียมไว้ให้กับพวกทหาร ให้พวกเขาได้คุ้นเคยกับเครื่องมือก่อน

เหล่าทหารมองมีดเหล็กขนาดเล็กแต่หาได้ยากในโลกนี้อย่างประหลาดใจและดีใจ พวกเขาสัมผัสมันอย่างชื่นชอบ มีดดีเช่นนี้มอบให้พวกเขารึ?

ทหารที่ชำนาญดาบปืน มีใครไม่ชอบมีดบ้าง บางครั้งเจอมีดดี ๆ ก็ยอมอดอยากสองสามวัน และใช้เงินซื้อมีดนั้นมา

มู่ฉินเจินเองก็ได้รับมีดเล่มนั้นเช่นกัน เขาใช้มือหยั่งเชิงความคมของมีดดู มันยังไม่ได้ลับคม แต่ใบเหล็กละเอียดเกลี้ยงเกลา ปลายมีดแหลม เป็นมีดดีที่หาได้ยาก แม้แต่ดาบที่เขาใช้ตอนนี้ ยังไม่ดีเท่ามีดขนาดเล็กนี้เลย

นางได้มีดพวกนี้มาอย่างไรกัน?

แล้วก็ไอ้ม้วน ๆ ที่เรียกว่าพลาสติกในมือนางอีก เมื่อฉีกออกมันจะเป็นชั้นบาง ๆ โปร่งใส ยืดหยุ่นได้ และเป็นของที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนอีกแล้ว

เขาจ้องของสองอย่างในมือด้วยแววตาไม่เข้าใจ เจ้าท่อนไม้ของเขาชักจะลึกลับมากขึ้นทุกทีแล้ว!

หลังจากพวกทหารได้รับมีดทาบกิ่งแล้ว นางก็มอบหมายงานให้พวกเขา ซึ่งก็คือการลับคมมีด!

การลับคมมีดดี ๆ เล่มหนึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และมีดทาบกิ่งยังมีข้อกำหนดคุณสมบัติของใบมีดที่สูง ประการแรกคือใบมีดต้องคม มีดที่ผ่านการลับอย่างดีต้องโกนเคราได้ ประการที่สองคมมีดต้องเรียบ มีเพียงคมมีดเรียบกริบเท่านั้นถึงจะสามารถกรีดแผลให้เรียบได้

นางให้ข้ารับใช้ในตำหนักไปซื้อหินลับมีดมาจำนวนมาก และวางไว้อย่างเรียบร้อยบนขอบลานแสดงการต่อสู้ พวกทหารถือมีดที่ได้มาใหม่อย่างมีความสุข แล้วรับหินลับมีดขนาดเล็กไปคนละอัน ก่อนเริ่มทำการลับมีด

พวกเขาสัมผัสกับมีดกันเป็นปกติ ดังนั้นการลับมีดจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขา แต่ละคนลับมีดได้อย่างชำนาญ มู่ฉินเจินเองก็กระโจนเข้าไปในฝูงชน ลับมีดอย่างจริงจัง เหมือนเด็กนักเรียนที่เชื่อฟัง

เฉียวเยี่ยนมองท่านอ๋องที่นั่งบนพื้นลับคมมีดกับพวกทหารแล้วก็ขบขันอย่างยิ่ง คนผู้นี้ช่างเหมือนเด็กนักเรียนที่ได้ของเล่นใหม่อย่างไรอย่างนั้น

หลังจากจบชั้นเรียนการทาบกิ่งของทั้งสองห้องในช่วงเช้า และมอบหมายให้พวกเขาไปลับมีดแล้ว ช่วงบ่าย เฉียวเยี่ยนก็ให้ห้องที่รับผิดชอบเลี้ยงไก่แบบปล่อยมาเข้าเรียน

การเลี้ยงไก่แบบปล่อย พูดง่าย ๆ ก็คือการเลี้ยงไก่บ้านแบบปล่อยเป็นอิสระ เอาลูกไก่ไปไว้บนภูเขาแล้วปล่อยให้พวกมันกินรากหญ้ากินหนอนแมลงบนภูเขาไป ไก่ที่เลี้ยงด้วยวิธีนี้จะมีเนื้อสดอร่อยมาก

ชั้นดินของป่าท้อนั้นบาง นอกจากต้นท้อแล้วก็ไม่มีต้นอย่างอื่นอีก แต่มีชั้นหญ้าแน่นหนา แดดส่องดี เลี้ยงไก่ไว้ที่นี่ก็มีอาหารเพียงพอ สะดวกให้คนงานดูแลได้

นอกจากนี้ในช่วงท้อออกผลก็จะต้องมีหนอนผีเสื้ออยู่บนใบต้นท้ออย่างแน่นอน ซึ่งคนงานผู้ดูแลสามารถจับหนอนผีเสื้อมาเป็นอาหารพวกไก่ได้ ทั้งสะดวกและได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากทุกสรรพสิ่ง

นางตั้งใจจะสร้างเล้าไก่ชุดหนึ่งวางกระจายไว้ในป่าท้อ ส่วนหนึ่งนำมาขยายพันธุ์ลูกไก่ ส่วนที่เหลือก็ใช้เป็นที่ซุกหัวนอนสำหรับไก่โตเต็มวัยในตอนกลางคืนหรือใช้หลบฝน

นางไม่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงไก่มากนัก นางเรียนการเกษตรมา จึงเข้าใจเรื่องพืชมาก แต่การเลี้ยงสัตว์นั้นรู้แค่ระดับทั่วไปเท่านั้น

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานางอาศัยความรู้ที่มีทั้งหมดซื้อไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยกับระบบตัวน้อย

เฉียวเยี่ยนใช้เวลาสามวันในการอบรมความรู้พื้นฐานให้ทหารหนึ่งร้อยนายเสร็จ และขั้นตอนต่อไปก็คือการพาทหารฝ่ายทาบกิ่งสองห้องไปปฏิบัติจริง

หลังจากออกไปตัดกิ่งไม้นอกตำหนักกลับมาสองคันรถ พวกทหารแต่ละคนก็ดึงกิ่งไม้ออกมา นั่งลงบนพื้นและเริ่มจำลองการทาบกิ่ง

เฉือนกิ่งต้นตอหนึ่งแผล แล้วก็เฉือนยอดพันธุ์ดีที่เอาไว้ทาบ นำยอดที่เฉือนมาทาบบนแผลให้แนบชิด แล้วใช้พลาสติกมาคลุมมัดให้แน่น…

เห็นหวางเฟยสาธิตดูง่ายมาก แต่พอเริ่มทำเองจึงรู้ว่ามันยากมากแค่ไหน ไม่ออกแรงมากจนตัดกิ่งขาดก็เฉือนแผลไม่เรียบ

ชายรูปร่างสูงใหญ่ดูแข็งแรงบึกบึนกลุ่มหนึ่งกำลังเฉือนกิ่งไม้อย่างระมัดระวัง จริงจัง เอาแต่จับจ้องไปที่มีดทาบกิ่งเล็ก ๆ ในมือ

นักเรียนดีเด่นอย่างท่านอ๋องนั่งอย่างสง่างามอยู่บนเก้าอี้ไท่ชือ ใช้มีดในมือเหมือนเล่นฆ่าเวลา ไม่นานก็ทาบกิ่งสำเร็จไปหลายกิ่ง

เฉียวเยี่ยนยืนอยู่ในกลุ่มฝูงชน เห็นใครทำไม่ถูกต้องก็ชี้แนะให้ เห็นใครทำถูกต้องก็ชื่นชม พวกทหารที่ถูกชมต่างยิ้มกว้าง ทำให้สหายพี่ ๆ น้อง ๆ กลุ่มหนึ่งอิจฉา

ครั้นมู่ฉินเจินเห็นภาพที่เฉียวเยี่ยนชมคนอื่น นัยน์ตาเขาพลันวาววับ และเดินไปหานางพร้อมกิ่งไม้ในมือ

เขายื่นกิ่งไม้ออกไปตรงหน้าเฉียวเยี่ยนอย่างสบาย ๆ ด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ สงบและจริงจัง ทว่าความจริงรู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังมาก

เจ้าท่อนไม้รีบชมเขาเร็วสิ เขาต้องเก่งกว่าพวกงี่เง่าพวกนี้แน่!

เฉียวเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และรับกิ่งไม้ที่ทาบกิ่งมาตรวจดูอย่างระมัดระวัง ถูกต้องมาก ด้วยฝีมือระดับนี้ อัตราการรอดชีวิตน่าจะมีมากถึงแปดส่วนขึ้นไป

สมแล้วที่เป็นท่านอ๋อง ช่างมีความสามารถในการเรียนรู้ที่ดีเลิศยิ่งนัก

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ท่านอ๋องอย่าว่าผู้แปลนะ แต่ในหัวผู้แปลตอนนี้มีแต่ภาพหมาไซบีเรียนฮัสกี้ตัวหนึ่งคาบกิ่งไม้มาวางไว้ตรงหน้าเจ้าของแล้วก็เห่าบ๊อกแบ๊กกระดิกหูหางดิ๊กๆๆๆ ให้เจ้าของเอ่ยชมว่าเก่งมากลูกเก่งมากอย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ ๕๕๕๕+

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน