ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 82 นี่ถือว่านางชอบใครคนหนึ่งแล้วใช่ไหม

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 82 นี่ถือว่านางชอบใครคนหนึ่งแล้วใช่ไหม

ตอนที่ 82 นี่ถือว่านางชอบใครคนหนึ่งแล้วใช่ไหม

มันเทศทั้งหมดในตำหนักถูกขุดไปทำเป็นต้นกล้าแล้ว ในช่วงเดือนสี่ ฮ่องเต้ก็มีรับสั่งให้ผลักดันการปลูกมันเทศทั่วประเทศ กล้ามันเทศทั้งหมดที่นางปลูกถูกส่งไปยังท้องพระคลัง ส่วนที่อยู่ในเรือนกระจกแห่งหมู่บ้านลวี่หลัวนอกจากเอาไปให้ทางหมู่บ้านม่ายเซียงกับจิ่วหลีพัวแล้ว ที่เหลือก็มอบให้ส่วนกลางเช่นกัน

ตอนเริ่มปลูกมันเทศแรก ๆ ก็มักจะประสบความลำบากอยู่บ้าง ผู้คนจึงไม่กล้าพนันนัก เพราะพวกเขาไม่เคยปลูกอะไรแบบนี้จึงกลัวจะเก็บเกี่ยวไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เฉียวเยี่ยนได้คาดเดาไว้นานแล้ว นางจึงเสนอให้ฮ่องเต้ส่งพวกขุนนางกรมการคลังไปถ่ายทอดการปลูกผักให้พวกชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถนำมันเทศกลับมาใช้เป็นเสบียงสำรองในท้องพระคลังได้

พืชชนิดนี้ทนทานต่อการจัดเก็บและขนส่งมาก ถึงครานั้นขนส่งไปเป็นเสบียงของทหารก็สะดวก อีกทั้งมันเทศยังไม่เลือกสภาพดิน ปลูกได้ง่าย เพียงเอาหัวฝังลงดินมันก็งอกแล้ว

บรรดาขุนนางตงฉินในราชสำนักบางส่วนสนับสนุนการปลูกมันเทศอย่างมาก เพื่อเป็นแบบอย่าง พวกเขาจึงไถที่ปลูกมันเทศไว้ในจวนตัวเอง ทว่าก็มีพวกหัวแข็งบางส่วนยืนหยัดไม่ให้ความร่วมมือกับการปลูกผัก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือจวนท่านอัครเสนาบดี

ตั้งแต่การทำสวนเป็นที่นิยมมากขึ้น งานอดิเรกของพวกชนชั้นสูงในเมืองหลวงก็เปลี่ยนไป เมื่อก่อนพวกฮูหยินต่างดื่มชาชมดอกไม้ ส่วนพวกผู้ชายก็ร่ำสุราเขียนบทกวี ทว่าตอนนี้ทุกครัวเรือนล้วนสนุกสนานกับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำสวนมาก

พอได้ยินว่าแตงบ้านนั้นเจริญเติบโตได้ดี? ก็รีบพาทั้งครอบครัวไปเที่ยวชมและเรียนรู้กลเม็ดเคล็ดลับ!

การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การปลูกผักได้กลายเป็นที่นิยมใหม่ในเมืองหลวงไปแล้ว และอิทธิพลของมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวัน เมื่อก่อนมีแต่การประชันกันด้วยบทกวี ทว่าเดี๋ยวนี้แย่งกันจัดงานเลี้ยง เอาอาหารจานโปรดของตัวเองมาอวดสหายเก่า

คนนี้นำผักกาดขาวหัวใหญ่มา คนนั้นนำหัวไชเท้าใหญ่มา บ้างก็ถือตะกร้าผลไม้สีแดงสด พืชผักมากมายหลากหลายชนิดถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะ และคนกลุ่มหนึ่งก็เริ่มพูดคุยกันขึ้นมา

กระแสนิยมเช่นนี้ได้แผ่ขยายไปถึงราชสำนัก ซึ่งแน่นอนว่าฮ่องเต้เฒ่าย่อมเป็นผู้นำกระแสนิยมการปลูกผัก พระองค์พากลุ่มขุนนางไปเยี่ยมชมเรือนกระจกกับอุทยานผักของเขาทุกวัน ทำให้พวกขุนนางต่างอิจฉาตาร้อน

ยามชำเลืองมองผักที่ปลูกในน้ำ พวกมันจะอวบน้ำแค่ไหนกันนะ ส่วนผลไม้สีแดงเล็กที่แขวนห้อยอยู่กลางอากาศก็เหมือนดอกไม้ที่ปลูกในกระถางนัก ต้นกล้าที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบบนชั้นวางเหล่านั้นอีก เห็นแล้วช่างสบายตาเหลือเกิน

พวกเขาก็อยากมีเรือนกระจกเช่นกัน แต่ซู่หวางเฟยไม่เผยแพร่เทคนิคการสร้างออกสู่ภายนอก อีกทั้งพวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโครงสร้างของเรือนกระจกกับวิธีการดูแลเลย แม้จะสร้างให้พวกเขาหนึ่งหลังก็ไม่แน่ว่าพวกเขาจะปลูกผักออกมาได้

บางครั้งฮ่องเต้ก็สนทนากับพวกขุนนางเกี่ยวกับข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์การปลูกผักในราชสำนัก พวกขุนนางที่เข้าร่วมการเพาะปลูกด้วยตัวเองได้แสดงความรู้สึกออกมา ล้ำลึกจนฮ่องเต้ให้คำชมเชย แต่กระนั้นพวกหัวแข็งที่แสร้งทำเป็นสูงส่ง และใช้วิธีการไม่ชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศ ก็เข้ากันกับบรรยากาศอันอบอุ่นในราชสำนักไม่ได้

ทุกคราที่องค์ชายใหญ่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างท้อแท้ อาณาจักรกำลังล่มสลายแล้ว!

เขาเป็นโอรสแห่งสวรรค์ที่แท้จริง เขาต้องผดุงไว้ซึ่งเทียนลี่ มิให้เทียนลี่ถูกทำลายอยู่ในเงื้อมมือของฮ่องเต้เฒ่า!

มู่ถิงเฉิงที่รู้สึกถึงความรับผิดชอบอันหนักหน่วงก็มุมานะเขียนสาส์นยื่นให้ฮ่องเต้เฒ่า โดยหวังว่าจะทำให้ฮ่องเต้เฒ่าได้สติกลับมา ทว่าเขากลับได้รับกากบาทขนาดใหญ่สีแดงกลับมาทุกครา

…..

เฉียวเยี่ยนกำลังเก็บผักอยู่ในเรือนกระจก ลุงฉูก็พาหวังกงกงมาหานาง บอกว่ามาส่งพระราชโองการชมเชยให้นาง

ในพระราชการโองการสีเหลืองทองแวววาวเขียนคำพูดชมนางอย่างยิ่งใหญ่ ชมเชยนางที่ค้นพบพืชพรรณใหม่ซึ่งเป็นประโยชน์ให้กับคนทั่วไป นอกจากพระราชโองการแล้ว ยังมีเงินรางวัลอีกสองสามร้อยตำลึง

เฉียวเยี่ยนถือพระราชโองการด้วยความสงสัย ฝ่าบาทพระราชทานรางวัลให้นางแล้วมิใช่หรือ? ใยตอนนี้ถึงส่งมาอีก?

นางหิ้วตะกร้าผักกลับไปที่เรือนจิ่งเสวียน ค้นหาพระราชโองการที่มู่ฉินเจินให้นางก่อนหน้านั้นมาเทียบกับตอนนี้ ลายมือนั้นคล้ายกันมาก ทว่าหากเพ่งมองดี ๆ ก็จะพบว่ามีบางส่วนที่ไม่เหมือน นั่นคือฉบับที่มู่ฉินเจินให้นางมีน้ำหนักการเขียนที่แข็งแรงกว่าอย่างชัดเจน

ดังนั้น พระราชโองการที่ท่านอ๋องให้นางมาเป็นของปลอมรึ?

ความคิดหนึ่งได้ก่อตัวขึ้นในหัวนาง นางหวนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเวลานั้น และยิ่งคิดนางก็ยิ่งรู้สึกอบอุ่นใจมากขึ้น

ช่วงเวลานั้น เรือนกระจกของนางใกล้จะกำลังสร้าง ภัตตาคารก็ต้องซ่อมแซมใหม่ จึงขาดแคลนเงิน และเขาก็นำ ‘เงินรางวัล’สามหมื่นตำลึงมาให้นางเพื่อคลี่คลายเรื่องจวนตัวของนาง

ตอนนั้นนางยังกล่าวว่าฮ่องเต้ใจกว้าง แค่มันเทศต้นเดียวก็ให้เงินตั้งสามหมื่นตำลึง แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่าเงินเหล่านั้นจะเป็นของท่านอ๋องที่กลัวว่านางจะไม่รับ เลยเปลี่ยนวิธีนำเงินมาให้นาง

บุรุษโง่ทึ่มผู้นี้ไยจึงน่ารักขนาดนี้ ทำเรื่องดีๆ ไม่เอ่ยออกมาสักคำ นางยกความดีความชอบให้กับคนอื่น เขาก็ไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ เพียงเพื่อให้นางรับเงินของเขาไปโดยไม่ต้องมีภาระใด ๆ

เฉียวเยี่ยนในเวลานี้ใจอ่อนยวบ และมีคลื่นแห่งความอบอุ่นไหลเวียนอยู่ในตัวนาง เขาดีเพียงนี้ นางควรจะตอบแทนเขาอย่างไรดี!

ระบบตัวน้อยได้ยินเสียงใจเต้นตึกตักของโฮสต์ ก็ปิดปากหัวเราะอย่างโง่งม คิกๆๆ นางใกล้จะได้กินลูกกวาดมงคลแล้ว!

เป็นครั้งแรกที่เฉียวเยี่ยนเริ่มตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างนางกับมู่ฉินเจิน จะบอกว่าเป็นสหายทั่วไปก็ไม่ใช่ เพราะพวกเขาสามารถนอนร่วมเตียงเดียวกันได้ ซึ่งใกล้ชิดสนิทสนมกันเกินกว่าจะเป็นสหายทั่วไป แต่หากบอกว่าเป็นคู่รักหรือสามีภรรยา มันก็ห่างไกลอยู่เล็กน้อย

ดังนั้น พวกเขานับว่าเป็นอะไรกันแน่?

เฉียวเยี่ยนคิดไม่ออก แต่นางรู้ว่าตนไม่ได้ผลักไสท่านอ๋อง แต่ถึงขั้นที่ชอบให้เขาอยู่ข้างกายตัวเอง ชอบมองเขาเล่นกับลูก ๆ ชอบมองเขาโมโหเหมือนเด็กตัวโต…

นี่ถือว่านางชอบใครคนหนึ่งแล้วใช่ไหม?

ในขณะที่คิดเรื่องเหล่านี้ ก็มีภาพมู่ฉินเจินที่มองนางอย่างอ่อนโยน หรือยิ้มบางเบาให้กับนางผุดขึ้นมาในหัว ทำให้พวงแก้มพลันร้อนขึ้นไม่หยุด และในที่สุดมันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ

ไม่ได้ หยุดคิดได้แล้ว!

นางบังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ลง และกำจัดความคิดฟุ้งซ่านในใจออกไป แม้จะชอบใครสักคน นางก็ต้องรักษาสติตัวเองเอาไว้ และสังเกตไปทีละขั้น รับรู้ไปทีละความรู้สึก ห้ามยอมรับเด็ดขาดจนกว่าจะแน่ใจว่าคนผู้นี้ควรค่าแก่การมอบความไว้วางใจตลอดชีวิต

ระบบตัวน้อยสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นภายในห้องเล็ก ก็รู้แล้วว่าโฮสต์ตัวเองหน้าแดงอีกแล้ว และในระหว่างที่ฟังความคิดของโฮสต์ตัวเอง นางก็ตื่นเต้นไม่หยุด

ดีจังเลย! โฮสต์คอนกรีตเสริมเหล็กของนางมีเค้าลางแห่งวัยแรกแย้มแล้ว!

แต่เมื่อนางได้ยินคำพูดสมเหตุสมผลเกินไปในช่วงท้าย ก็เหมือนดั่งถูกน้ำเย็นสาดใส่ในพริบตา

เอาล่ะ ดูเหมือนพี่มู่คนหล่อต้องรอไปอีกสักระยะหนึ่งแล้ว

หลังจากเฉียวเยี่ยนปรับอารมณ์เสร็จก็เข้าไปในห้องเครื่อง และยังไม่ทันได้เริ่มทำกับข้าว เกาจัวหยวนก็วิ่งเข้ามารายงาน บอกว่าเย็นนี้ท่านอ๋องจะกลับมาสายหน่อย ให้พวกนางกินข้าวก่อนได้เลย

เพราะเหตุใดนะหรือ? เพราะ ‘งาน’ ของท่านอ๋องกองสุมกันมากเกินไป จึงต้อง ‘รีบสะสาง’ให้เสร็จน่ะสิ

งานราชการทหารที่ถูกส่งมาจากทั่วทุกเขตพื้นที่กองอยู่บนโต๊ะด้วยความสูงคนหนึ่งคน ซึ่งเรื่องง่ายๆ นั้นถูกผู้ใต้บังคับบัญชาจัดการไปเรียบร้อยแล้ว ทว่ายังมีอีกมากมายที่ต้องให้เขามาจัดการด้วยตัวเอง

เมื่อเฉียวเยี่ยนฟังจบ ก็คิดอยากไปส่งอาหารให้ท่านอ๋องที่ค่ายทหารทันที สองสามวันมานี้เอาแต่ดูสมุดบัญชีอยู่ในตำหนัก ไม่มีเวลาออกไปเดินเล่นเลย วันนี้ประจวบเหมาะไปเดินเล่นพอดี ก็แวะไปขอบคุณเขาเสียหน่อยดีกว่า

นางหาหม้อดินใบเล็กมาสามอัน ตัดสินใจทำข้าวอบหม้อดินที่ทั้งอร่อยทั้งง่าย หม้อดินมีสรรพคุณในด้านรักษาอุณหภูมิ เช่นนี้ต่อให้ไปถึงค่ายทหาร อาหารก็ยังคงอุ่นอยู่

กลิ้งน้ำมันเล็กน้อยในหม้อดินเผา แล้วก็ใส่ข้าวที่ซาวเสร็จแล้วลงไป นำไส้กรอกมาหั่นเป็นแผ่นและวางไว้บนข้าว จากนั้นก็เติมน้ำในปริมาณที่เหมาะสม แล้วปิดฝาหม้อนำไปตั้งไว้บนเตาไฟเพิ่มความร้อน

จนกระทั่งหุงข้าวได้พอประมาณแล้ว ก็ตอกไข่ไก่ใส่ตรงกลางข้าว แล้วก็ทาน้ำมันบนขอบฝาหม้อ ให้ข้าวชั้นนอกสุดกลายเป็นข้าวดัง รอจวบจนข้าวสุกแล้ว ก็ใส่ผักที่ต้มสุกแล้วลงไป แล้วราดเครื่องปรุงที่ผสมมาแล้วลงไป แล้วตั้งให้มันร้อนต่ออีกสักหน่อย เพื่อให้น้ำปรุงรสซึมซาบเข้าไปในข้าวได้ดียิ่งขึ้น

ไม่นานข้าวอบหม้อดินเล็กสามหม้อก็ทำเสร็จแล้ว เฉียวเยี่ยนถือโอกาสในตอนที่มันยังร้อนอยู่นำหม้อดินใส่เข้าไปในกล่องอาหาร ชั้นนอกของหม้อดินยังคลุมด้วยผ้า พยายามรักษาความอุ่นเอาไว้

การกินข้าวอบหม้อดินทำให้รู้สึกเลี่ยนได้ง่าย นางจึงตักหัวไชเท้าดอง ถั่วฝักยาวดองมาหั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ แล้วใส่ไว้ในชามใบน้อย

เมื่อเตรียมอาหารเรียบร้อยแล้ว นางก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็กทั้งสอง จากนั้นก็หยิบขวดน้ำใบน้อยของพวกเขาแล้วออกจากบ้านไป

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

โฮสต์ช็อตฟิลระบบระดับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเลยทีเดียวเชียวค่ะ ๕๕๕+ การคบใครสักคนมันก็ต้องจริงจังแบบนี้แหละ

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท