ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 129 ยังกล้าให้เขากินเนื้อกวางอยู่อีกหรือไม่

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 129 ยังกล้าให้เขากินเนื้อกวางอยู่อีกหรือไม่?

ตอนที่ 129 ยังกล้าให้เขากินเนื้อกวางอยู่อีกหรือไม่?

วินาทีที่เฉียวเยี่ยนแนบใบหน้าลงบนใบหน้าเขา มู่ฉินเจินก็รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่กระจายจากช่องท้องส่วนล่างไปยังแขนขา เขาหอบหายใจแรง และยื่นมือออกไปคว้าเจ้าท่อนไม้ที่ยังคงวุ่นอยู่กับร่างกายเขา

หากนางยังถูไถลูบคลำเช่นนี้อีก เขาต้องทนไม่ไหวจริงๆ แน่!

เขาพลิกตัวกลับกดเฉียวเยี่ยนไว้ใต้ร่าง แนบหน้าผากกับหน้าผากนาง แล้วจูบริมฝีปากนาง เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มพร่า

“คนดี อย่าขยับ ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว”

ร่างกายของเฉียวเยี่ยนแข็งทื่อราวกับท่อนไม้และนอนตัวตรงอยู่บนเตียง ไม่กล้าขยับตัว

สีหน้านางพลันแดงก่ำ เป็นถึงแม่ของเด็กสองคนแล้ว แม้จะไม่เคยมียุทธศาสตร์ยิ่งใหญ่ในการผลิตประชากรให้ชาติ แต่เรื่องทางอินเทอร์เน็ตในยุคสมัยใหม่ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ ถึงไม่เคยกินเนื้อหมู แต่จะไม่เคยเห็นหมูวิ่งเลยหรือ? *

(*แม้จะไม่เคยกินเนื้อหมู แต่ก็เคยเห็นหมูวิ่ง หมายถึง เราอาจจะไม่เคยประสบสิ่งนั้นมาด้วยตนเอง แต่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อน อย่างไรก็ต้องรู้มาบ้าง)

ดังนั้น นางจึงเข้าใจสถานการณ์ของชายผู้นี้ในทันที

“พี่ชาย…เราอย่าเพิ่งวู่วาม ท่านจงหายใจเข้าลึกๆ…ผ่อนคลายความรู้สึก และกำจัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปซะ”

นางพูดติดอ่างอย่างประหม่า และท่าทางประหม่านั้นก็ทำให้มู่ฉินเจินรู้สึกขบขัน เขาจูบที่ริมฝีปากนางอีกครั้ง และเอ่ยเสียงต่ำด้วยรอยยิ้ม “จะยังกล้าให้ข้ากินเนื้อกวางอยู่อีกไหม?”

เฉียวเยี่ยนส่ายศีรษะรัวเหมือนกลองป๋องแป๋ง “ไม่กล้า ไม่กล้าแล้ว!”

นางรู้แค่ว่าเนื้อกวางบำรุงกำลัง แต่ใครจะรู้ว่าคนขี้โมโหผู้นี้กินมันเข้าไปแล้วจะ…จะเกิดคึกคักขึ้นมาเล่า!

นางจับผ้าห่มไว้แน่น กระพริบตาโตอย่างไร้เดียงสาน่าสงสาร ทว่าท่าทางนั้นยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่ จนมู่ฉินเจินต้องระงับความร้อนรุ่มทั้งกายและใจ เขาลูบหน้านางอย่างปลอบโยน พลางยืดตัวขึ้นลุกออกจากร่างนาง

เขาลุกขึ้นสวมเสื้อผ้า และเอ่ยเสียงเบา “เจ้านอนไปก่อนเถิด ข้าจะออกไปรับลมข้างนอกเสียหน่อย”

เฉียวเยี่ยนมองเขาออกจากกระโจมไปจนลับสายตา ก่อนจะเอาผ้าห่มคลุมหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดโมโห หากรู้ว่าการกินเนื้อกวางจะทำให้เขารู้สึกไม่สบายเช่นนี้ นางคงไม่บังคับให้เขากินหรอก

ระบบตัวน้อยกลิ้งตัวหัวเราะอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง เฉียวเยี่ยนจึงตวาดด้วยความอับอาย “เจ้าเด็กซน รอเจ้าออกมาเมื่อไหร่ คอยดูว่าข้าจะจัดการเจ้าหรือไม่ จะตีตูดเจ้าให้บวมเลย!”

ระบบตัวน้อยไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย และมองบนใส่โฮสต์ตัวเอง

[ฮึ! ระบบไม่กลัว! ]

ตอนนี้นางเลื่อนขั้นมาอยู่ระดับห้าแล้ว ยังเหลืออีกครึ่งทางที่จะได้ออกจากทะเลแห่งจิตสำนึก แต่ยิ่งขึ้นไประดับสูงเท่าใดก็ยิ่งยากลำบากขึ้นเท่านั้น กว่าจะถึงระดับสูงสุด คงต้องใช้เวลาอีกนาน

ถึงอย่างไรโฮสต์ก็จัดการนางไม่ได้สักระยะหนึ่ง พอถึงตอนที่นางได้ออกมา โฮสต์ก็ลืมเรื่องพวกนี้ไปหมดแล้ว

ระบบตัวน้อยยังคงหัวเราะอย่างไม่เกรงกลัว เฉียวเยี่ยนสลึมสลือคิดบางอย่างในหัว ก่อนจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว กระทั่งมู่ฉินเจินกลับมาเมื่อใดก็ไม่รู้

หลังจากมู่ฉินเจินออกกระโจมมาได้ก็หาช่องยืนรับลม ลมวสันต์ไม่ได้หนาวเข้ากระดูกดั่งลมเหมันต์ ทว่ายังคงเจือไปด้วยความเย็นเล็กน้อย ทำให้ท่านอ๋องที่ร่างกายรุ่มร้อนได้สติขึ้นมาบ้าง

……

วันรุ่งขึ้นการล่าสัตว์ยังคงดำเนินต่อไป เว่ยอวิ๋นซูหิ้วกระต่ายตัวหนึ่งไปหาหาเฉียวเยี่ยนที่กระโจมตั้งแต่เช้า

“เฉียวเฉียว เรามาย่างมันกินกันเถิด!”

นางเป็นนักชิมคนหนึ่ง และก็ได้ศิโรราบต่อฝีมือการย่างปลากับเนื้อของเฉียวเยี่ยนเมื่อคืนนี้แล้ว นางจึงตื่นแต่เช้าออกไปล่าสัตว์มา

เฉียวเยี่ยนกำลังกินอาหารเช้ากับพวกเด็กๆ ครั้นเห็นเว่ยอวิ๋นซูโหวกเหวกเข้ามา และเห็นความตะกละเด่นหราอยู่เต็มหน้า ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ทำไม? เจ้าไม่กลัวท่านอ๋องของข้าแล้วรึ?”

เมื่อเว่ยอวิ๋นซูได้ยินเช่นนี้ ก็สำรวจภายในกระโจมอย่างระแวดระวัง ครั้นแน่ใจว่าไม่มีใครก็เบาใจ “ข้าไม่กลัว ข้าเห็นเขานำคนออกลาดตระเวนไปแล้ว ถึงได้วิ่งมาที่นี่!”

เห็นนางเป็นคนโง่หรือ! หากมัจจุราชมู่อยู่ที่นี่ นางจะกล้ามาที่นี่อย่างสบายๆ รึ?

เฉียวเยี่ยนเห็นท่าทางภูมิใจของนางก็ส่ายหัวอย่างจนใจ เสี่ยวฉวนเอ๋อร์กินอาหารอยู่ในปาก ทว่าสีหน้าที่แสดงออกมากลับเหมือนกับพ่อผู้แสนดีของเขาที่ไม่ชอบคนอื่น หากท่านอ๋องอยู่ที่นี่ก็น่าจะมีสีหน้าเช่นนี้

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เคี้ยวอาหารจนแก้มตุ้ย แต่สายตากลับจ้องไปที่กระต่ายอ้วนในมือของเว่ยอวิ๋นซู ซึ่งมันตายสนิทแล้วจากการถูกศรปักตรงหัวใจ

เว่ยอวิ๋นซูคิดว่าเด็กน้อยจะกลัวหรือรู้สึกสงสารกระต่าย จึงรีบโยนกระต่ายออกไปนอกกระโจม เพราะเด็กๆ ส่วนใหญ่ชอบสัตว์ที่มีขนยาวพวกนี้เป็นพิเศษ

แต่ใครจะคิดเจ้าปลาอ้วนกลับกลืนน้ำลายยามเห็นกระต่าย และเอ่ยด้วยเสียงน่ารัก “กระต่าย น่าอร่อยจัง!”

เฉียวเยี่ยนเคยปรุงเนื้อกระต่ายให้พวกเขากิน แค่ตอนนี้คิดถึงรสชาตินั้น เด็กน้อยก็หิวโหยขึ้นมาแทบทนไม่ไหว

เว่ยอวิ๋นซูอึ้งไปเสี้ยววิหนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับมาว่าเด็กน้อยพูดอะไร นางก็เท้าเอวหัวเราะลั่น ลูบหัวเด็กน้อย และเอ่ยชมเสียงดัง “ไม่เลวเลย มีสายตาเฉียบแหลมนัก!”

นางชอบเด็กน้อยคนนี้จริงๆ! เด็กธรรมดาคนอื่นน่าจะอุ้มศพกระต่ายร้องไห้เป็นเผาเต่าไปนานแล้ว

หลังกินอาหารเช้าเสร็จ เฉียวเยี่ยนก็นำกระต่ายไปทำอาหารให้พวกแมวจอมตะกละ พวกพ่อครัวก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าแล้ว ไม่มีใครช่วยนางจัดการกระต่ายได้ นางจึงต้องลงมือทำเอง

มีสองวิธีในการจัดการกระต่าย หนึ่งคือถลกหนังออกสดๆ สองคือลวกขนด้วยน้ำเดือด เมื่อพิจารณาถึงเด็กทั้งสองที่วิ่งตามหลังมา การถลกหนังก็ดูโหดร้ายทารุณเกินไป นางจึงเลือกการลวกด้วยน้ำร้อน

นางยืมเตาจากพวกพ่อครัวแม่ครัวมาหนึ่งเตา และต้มน้ำให้เดือด หลังจากน้ำเดือดแล้ว ก็ราดลงบนกระต่ายที่อยู่ในอ่าง เมื่อลวกได้สักพัก ก็สามารถใช้มือถอนขนกระต่ายออกทิ้งได้

นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกทั้งสองได้เห็นการจัดการกับกระต่าย จึงอ้าปากน้อยอุทานออกมาอย่างตกใจ เว่ยอวิ๋นซูเองก็ได้เห็นเป็นครั้งแรกเช่นกัน และรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก จึงส่งเสียงดังอยากจะถอนขนกระต่ายกับเฉียวเยี่ยน

การเคลื่อนไหวทางด้านนี้ดึงดูดความสนใจของพวกคุณหนูไร้ประโยชน์ที่อยู่ไม่ไกลนัก กลุ่มเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวของอี้จื่อจิ้นเหลือบมองหน้ากันก่อนจะเดินไปทางเตาไฟ

เมื่อเว่ยอวิ๋นซูเห็นคนเหล่านั้น ก็กลอกตาอย่างอารมณ์เสีย “นังปีศาจพวกนั้นมาที่นี่ด้วย ต้องไม่มีอะไรดีแน่!”

เฉียวเยี่ยนเองก็รู้สึกเหมือนกัน จึงไม่คิดจะสนใจพวกนาง และรีบถอนขนกระต่ายอย่างรวดเร็ว

พวกอี้จื่อจิ้นเดินเข้าไปใกล้ พบว่าคนพวกนี้ไม่แม้แต่จะชายตามองพวกนางเลย พลันมีสีหน้ามืดมนลงไม่น้อย

เมื่อเฉียวเยี่ยนถอนขนกระต่ายเสร็จก็ก่อไฟ และนำกระต่ายไปลนไฟเผาเศษขนปุยออกให้หมด จากนั้นก็วางกระต่ายลงบนเขียงและผ่าเปิดท้องมัน

นางถือมีดทำครัว เฉือนเปิดช่องอกของกระต่ายอย่างคล่องแคล่วชำนาญ หลังจากเปิดอกมันแล้ว ก็ล้วงมือเข้าไปควักอวัยวะภายในออกมา

การนำเครื่องในกระต่ายไปทำอาหารขณะอยู่ในป่านั้นไม่ค่อยสะดวกนัก นางจึงโยนมันทิ้งไปทั้งหมด เหลือเพียงแค่ร่างกระต่าย ก่อนนำไปล้างเอาเลือดออกให้หมด แล้วสับเนื้อกระต่ายเป็นชิ้นเล็กๆ

เสียงปังดังขึ้นมา!

มีดทำครัวสับลงบนคอกระต่าย เพียงยกมีดขึ้นลงสับ หัวกระต่ายก็กลิ้งร่วงลงในทันที เลือดสาดกระเซ็นไปโดนชุดกระโปรงนางฟ้าของอี้จื่อจิ้น

อี้จื่อจิ้นกรีดร้องออกมาทันใด พลางปัดสิ่งสกปรกบนกระโปรงนางด้วยความขยะแขยง และด่าเฉียวเยี่ยนอย่างเกรี้ยวกราด “เฉียวเยี่ยน! เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าทำให้เสื้อผ้าของข้าสกปรกไปหมดแล้ว!”

เฉียวเยี่ยนไม่เงยหน้าขึ้น ยังคงสับเนื้อกระต่ายต่อไป พลางเอ่ยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย “ขอโทษแล้วกัน เปิ่นเฟยไม่เห็นว่ามีคนอยู่”

คำพูดของนางทำให้อี้จื่อจิ้นที่กำลังจะโต้เถียงถึงกับพูดไม่ออก ไม่เห็นว่ามีคนอยู่? หมายถึงพวกนางไม่ใช่มนุษย์รึ?

เว่ยอวิ๋นซูยืนหัวเราะอยู่ด้านข้างอย่างไม่ไว้หน้า ยิ่งทำให้สีหน้าอี้จื่อจิ้นกับคนอื่นๆ ดูย่ำแย่ลงไปอีก

ฐานะของอี้จื่อจิ้นไม่สูงส่งเทียบเท่ากับเฉียวเยี่ยน นอกจากโกรธเกรี้ยวแล้ว นางก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ จึงเปลี่ยนเป้าหมายไปทางเว่ยอวิ๋นซูแทน

พ่อของนางเป็นอัครเสนาบดี มีฐานะตำแหน่งพอสูสีกับอันซีโหวได้ ไม่นึกเลยว่าคนหยาบกร้านแกว่งมีดถือดาบตลอดทั้งวันอย่างนางจะริอาจหัวเราะเยาะนางได้!

“เว่ยอวิ๋นซู เจ้าหัวเราะอะไร?”

อี้จื่อจิ้นเปลี่ยนทิศทางการโจมตี และลูกสมุนที่เหลือก็จ้องไปที่เว่ยอวิ๋นซูอย่างดุดันเช่นกัน

เว่ยอวิ๋นซูยิ้มเยาะอย่างไม่เก็บอาการแต่อย่างใด กลับเอ่ยเสียงกังวาน “คุณหนูอี้แม้แต่คนอื่นหัวเราะเจ้าก็สนหรือ? เจ้าเป็นบุตรขุนนางแบบไหนกัน ลองบอกให้ข้ารู้ที ข้าอยากเห็นนักว่าบุตรขุนนางใดจะทำงานหนักไปกว่าฝ่าบาท!”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เกือบไปแล้วไหมเสี่ยวเยี่ยนเอ๊ย ถ้าท่านอ๋องระงับอารมณ์ไม่อยู่นี่ทำไง

มาผิดที่แล้วคุณหนูอี้ มาไม่ดูตาม้าตาเรือก็โดนแบบนี้แหละ

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน