ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 174 มอบพ่อแม่ให้เสร็จก็มอบพี่ชายให้

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 174 มอบพ่อแม่ให้เสร็จก็มอบพี่ชายให้

ตอนที่ 174 มอบพ่อแม่ให้เสร็จก็มอบพี่ชายให้

เฉียวเยี่ยนดูสมุดบัญชีกว่าสิบเล่มเสร็จโดยที่เว่ยอวิ๋นซูอยู่กับนางตลอดเวลา ทันใดนั้นนางก็นึกถึงซีเป่ย จึงเอ่ยถามขึ้น “เฉียวเฉียว เจ้าได้ร่วมมือกับพ่อค้าในซีเป่ยหรือไม่? อาหารแปรรูปพวกนี้สามารถหาซื้อได้ในซีเป่ยไหม?”

เฉียวเยี่ยนส่ายหน้า อาณาเขตกิจการของนางยังไม่ขยายไปถึงทางซีเป่ย และพ่อค้าที่นางร่วมมือด้วยส่วนใหญ่จะไปขายที่ทางเหนือกับทางใต้

เว่ยอวิ๋นซูเงียบไป “อ่า เช่นนั้นหากข้ากลับไปซีเป่ยแล้วอยากกินอาหารแปรรูปขึ้นมาจะทำอย่างไร? ไม่ได้การแล้ว ข้ากลับไปเมื่อใด จะต้องลากกลับไปด้วยหนึ่งคันรถ!”

หลังจากได้รับคำแนะนำจากนาง เฉียวเยี่ยนก็มีความคิดอุกอาจหนึ่งขึ้นมา เหตุใดนางไม่สร้างกลุ่มคาราวานพ่อค้าขึ้นมาเองล่ะ? และให้รับผิดชอบขนส่งนำสินค้าไปขายที่เขตซีเป่ย

เมื่อความคิดนี้แวบเข้ามาในหัว นางก็ระงับเอาไว้ทันที นี่เป็นโครงการใหญ่ ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ตอนนี้นางควรจัดการงานในมือให้เสร็จไปก่อนดีกว่า

เมื่อดูบัญชีเสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงครึ่งแล้ว เฉียวเยี่ยนไม่คิดจะกลับไปรับประทานอาหารกลางวันที่ตำหนัก แต่พาเว่ยอวิ๋นซูไปกินข้าวที่โรงอาหารของคนงานเพื่อประทังชีพมื้อหนึ่ง

ลูกทั้งสองไปสำนักศึกษาแล้ว มู่ฉินเจินเองก็มีเรื่องที่ต้องจัดการมากมาย ฮ่องเต้เฒ่ายอมแพ้ไปแล้ว และมอบสาส์นทั้งหมดมาให้เขาจัดการ ฝ่าบาทว่างอย่างหาได้ยาก จึงไปเก็บผักกับฮองเฮาและทำอาหารเสวยกัน

ตอนนี้หลังจากท่านอ๋องเลิกว่าราชกิจแล้วก็ไม่ตรงกลับตำหนักเลย แต่นั่งพิจารณาสาส์นอยู่ในตำหนักหย่างซิน เพียงอ่านไปชั่วครู่เดียวก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว บางครั้งหลังกลับมาถึงตำหนักก็ยังนำสาส์นที่เหลือกลับบ้านมาอ่านต่อประหนึ่งห่ออาหารเหลือกลับบ้านมาด้วย

ลูกทั้งสองเองก็ใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างรันทดมาก ตอนออกไปเที่ยวเล่นนั้นมีความสุขมาก แต่การไปเที่ยวแค่ชั่วครู่เดียวก็ผ่านไปสองเดือนแล้ว ทำให้พวกเขาอิจฉาเพื่อนร่วมชั้นที่เข้าเรียนอย่างสม่ำเสมอตรงเวลานัก

การทำการบ้านเสริมนับว่าเป็นงานที่หนักมาก เสี่ยวฉวนเอ๋อร์นั้นไม่มีปัญหาใดๆ สำหรับนักเรียนเก่งอย่างเขาแล้ว การทำการบ้านล้วนเป็นความสนุกอย่างหนึ่ง ส่วนเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ได้แต่คร่ำครวญว่าจบเห่แล้วอย่างไม่หยุดปาก

ครอบครัวสี่คนต่างยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง กลางวันส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยเจอหน้ากัน ตอนเย็นถึงจะสามารถนั่งรับประทานข้าวร่วมกันได้

อาหารในโรงอาหารคนงานอร่อยเช่นเคยแม้หน้าตาจะดูธรรมดามาก และอาหารของวันนี้คือหมูสามชั้นผัดผักกาดดอง ยำแตงกวา แล้วก็มะเขือม่วงเคี่ยวน้ำมัน

ตั้งแต่เข้ามาทำงานในโรงงาน คนงานหลายคนล้วนอวบอ้วนขึ้น ทุกวันได้กินข้าวที่มีน้ำมัน ทำให้มีกำลังวังชาในการทำงานมากขึ้น

หลังกินข้าวเสร็จ เฉียวเยี่ยนกับเว่ยอวิ๋นซูก็ออกจากโรงงาน และรุดไปที่จวนสกุลเฉียว วันนี้เป็นวันสำคัญของเฉียวจิ่น ต้องไปฉลอง

วันนี้เฉียวเยี่ยนวางแผนจะทำอาหารเลี้ยงฉลองให้พี่ชายที่จวนสกุลเฉียว จึงสั่งให้องครักษ์ที่ติดตามปกป้องนางกลับไปหาลุงฉูที่ตำหนัก ให้เขาเข้าวังไปแจ้งมู่ฉินเจินว่าเมื่อเขาออกจากวังแล้วให้พาเด็กทั้งสองตรงไปที่จวนสกุลเฉียวเลย

ในเวลานี้ เพื่อนบ้านใกล้จวนสกุลเฉียวต่างพากันส่งของขวัญไปที่จวนสกุลเฉียวแล้ว เขาเป็นถึงทั่นฮวา และจะเป็นขุนนางในอนาคต จึงจำต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในตอนนี้

เฉียวจิ่นกลับมาจากการเดินขบวนแล้ว เขากำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้ากับมารดา และสีหน้าของทั้งสองคนก็ดูไม่ค่อยสู้ดีอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเฉียวเยี่ยนเข้าไปในห้องโถงด้านหน้าก็เห็นทั้งสองมีท่าทางเงียบสงบ จึงกลืนคำยินดีเอาไว้ และถามขึ้นมา “ท่านแม่ ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?”

ซูเนี่ยนหว่านยิ้มอย่างขมขื่น “ไม่มีอะไร แค่คนผู้นั้นมาที่นี่”

นางไม่ได้อธิบายว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ทว่าเฉียวเยี่ยนกลับรู้อย่างชัดเจน นั่นคือเฉียวเจิ้นผิง บิดาห่วยแตกที่นางไม่นับว่าเป็นบิดา

นางแค่นหัวเราะเย็นชา สีหน้าเยือกเย็นลง “เขามาอ้างความสัมพันธ์ฉันท์ญาติกับพี่ชายหรือ?”

ซูเนี่ยนหว่านพยักหน้า”เขาบอกว่าพี่ชายของเจ้าเพิ่งเข้าสู่ราชสำนักเป็นขุนนาง จำเป็นต้องให้คนช่วยประคับประคอง หากพวกเขาฟื้นฟูความสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูก เขาก็สามารถช่วยเฉียวจิ่นในราชสำนักได้”

เฉียวเยี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “เหอะ! พี่ชายข้ามีน้องเขยอย่างท่านอ๋องซู่ แถมยังมีน้องสาวอย่างข้าเป็นซู่หวางเฟย จำเป็นต้องให้เสนาบดีกรมพระคลังขั้นสามมาช่วยด้วยรึ? ตลกนัก! ข้าว่าเขาว่างจนรู้สึกเบื่อเสียมากกว่า!”

เว่ยอวิ๋นซูฟังจนรู้สึกสับสน แต่เมื่อได้ยินคำว่าเสนาบดีกรมพระคลัง นางก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านป้าหว่านเคยเล่าเรื่องจวนเสนาบดีให้นางฟัง ตอนนี้ดูเหมือนเฉียวเจิ้นผิงเห็นว่าพี่เฉียวจิ่นสอบติดทั่นฮวา จึงอยากกลับมาสานต่อความสัมพันธ์อีกครั้ง

นางรีบเอ่ยต่อคำพูดของเฉียวเยี่ยน “ยังมีท่านอันซีโหวที่เป็นบิดาข้า แล้วก็แม่ทัพใหญ่ปกป้องเมืองผู้เป็นพี่ชายข้าที่สามารถช่วยพี่เฉียวจิ่นได้อยู่นะเจ้าคะ!”

เมื่อนางพูดออกไป ดวงตาสามคู่ก็มองไปทางนางเป็นตาเดียว นางจึงอธิบายด้วยความลำบากใจ “ข้ากับเฉียวเฉียวเป็นสหายที่ดีต่อกัน ข้าก็เรียกพี่เฉียวจิ่นว่าพี่ชาย ดังนั้นพ่อแม่ของข้าก็เป็นพ่อแม่ของพี่เฉียวจิ่นเช่นกัน พี่ชายของข้าก็ย่อมเป็นพี่ชายของพี่เฉียวจิ่นด้วย…”

เสียงของนางยิ่งแผ่วเบาลงเรื่อยๆ ด้วยรู้สึกว่าคำอธิบายนี้ค่อนข้างน่าอายเล็กน้อย

เรื่องของครอบครัวเขาเจ้าจะเข้าไปผสมโรงด้วยทำไม มอบพ่อแม่ให้ไม่พอยังมอบพี่ชายให้อีกด้วย เจ้าเป็นนังโง่หรืออย่างไรกัน!

เฉียวเยี่ยนยิ้มอย่างมีเลศนัย ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้จะรู้สึกหวั่นไหวกับพี่ชายของนางเข้าแล้วจริงๆ

ซูเนี่ยนหว่านก็ยิ้มอย่างใจดี นางชอบสาวน้อยคนนี้นัก หากได้แต่งงานกับจิ่นเอ๋อร์ คงไม่มีอะไรดีไปกว่านั้นแล้ว

เฉียวจิ่นหน้าแดงเล็กน้อย เมื่อนึกถึงภาพนางโยนผ้าเช็ดหน้าให้ตัวเองในวันนี้ ก็อดใจเต้นรัวเร็วไม่ได้

เว่ยอวิ๋นซูถูกเฉียวเยี่ยนหัวเราะเยาะจนแทบอยากขุดหลุมแทรกหนีไปจริงๆ แล้ว ใบหน้านางแดงก่ำราวกับก้นลิง ได้แต่ก้มหน้างุดราวกับนกกระทาตัวหนึ่ง

“ไอหยา เฉียวเฉียว หยุดหัวเราะได้แล้ว!”

นางอายจะแย่อยู่แล้ว ยัง! ยังจะขำอยู่อีก!

ทว่าเฉียวเยี่ยนยิ่งหัวเราะเสียงดังขึ้น จนเว่ยอวิ๋นซูคิดในใจ นางแน่ใจแล้ว ว่านี่คือสหายสนิทประเภทที่มีความสุขเมื่อเห็นนางอับอายขายขี้หน้า

ซูเนี่ยนหว่านตำหนิลูกสาวทางสายตา และคลายความลำบากใจให้เว่ยอวิ๋นซูด้วยรอยยิ้ม “หยุดขำได้แล้ว รีบไปทำกับข้าวไป ประเดี๋ยวท่านอ๋องกับพวกเด็กๆ จะกลับมาแล้ว”

เฉียวเยี่ยนจึงหยุดขำ และก้าวเท้าไปยังห้องครัว เว่ยอวิ๋นซูก็ตามไปด้วยอย่างรวดเร็ว และทิ้งคำพูดเอาไว้ “ข้าจะช่วยเจ้าด้วย!”

ซูเนี่ยนหว่านคอยจนเด็กสาวทั้งสองเดินไปไกลแล้ว ถึงได้เอ่ยถามลูกชาย “จิ่นเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกอย่างไรกับแม่หนูอวิ๋นซูหรือ?”

เฉียวจิ่นได้ยินคำพูดนี้ แก้มที่เพิ่งคลายร้อนเมื่อครู่ก็แดงเรื่อขึ้นมาอีกครั้ง และเอ่ยเสียงเบา”น้องอวิ๋นซูเป็นคนดีมาก และน่ารักมากด้วย”

ซูเนี่ยนหว่านมองบนใส่เขา และเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “อย่ามาแกล้งทำเป็นสับสนหน่อยเลย แม่ถามเจ้าชอบนางหรือไม่? หากเจ้าชอบ ข้าจะไปสู่ขอให้เจ้า ทว่าฐานะครอบครัวเรากับจวนอันซีโหวต่างกันมาก ทางจวนอันซีโหวอาจจะไม่เห็นด้วย”

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ นางก็ถอนหายใจหนัก จวนอันซีโหวมีรากฐานมานับร้อยปี และยังเป็นบุคคลที่มีเกียรติมากในสถานที่ที่ผู้สูงศักดิ์มารวมตัวกันในเมืองหลวง ขณะที่พวกเขาเป็นแค่คนตัวเปล่าเล่าเปลือย ต่อให้นางอยากจะขอสาวน้อยอวิ๋นซูมาเป็นลูกสะใภ้ แต่ก็กล้าคิดแค่ในใจเท่านั้น

ให้นางที่เป็นคุณหนูมีฐานะแต่งเข้ามาในสกุลธรรมดาอย่างพวกเขา มันดูไม่ยุติธรรมจริงๆ และอีกอย่างนางก็อาจจะไม่ชอบจินเอ๋อร์ก็ได้

ทว่าในวันนี้ นางกลับรู้สึกว่าระหว่างเด็กทั้งสองมีเค้าลางที่ดี อีกอย่างจินเอ๋อร์ก็มีชื่อเสียงแล้ว และนับว่าเป็นคนที่ก้าวเข้าสู่วงการขุนนาง เป็นเช่นนี้ความคิดของนางก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครา

เฉียวจิ่นรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย จึงหมุนตัวเดินออกจากห้องโถงด้านหน้า พลางเอ่ยขณะเดินไปด้วย “ท่านแม่ ลูกขอตัวกลับไปอ่านหนังสือที่ห้องหนังสือก่อนนะขอรับ”

เขากลับมาที่ห้องหนังสือราวกับหลบหนี พลางปิดประตูห้อง พยายามระงับหัวใจที่เต้นแรงของตัวเองให้สงบลง

เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อ บนผ้าเช็ดหน้าสีขาวบริสุทธิ์ปักดอกไม้งามดอกเล็กสีแดงอ่อนไว้บนนั้น ซึ่งดูร้อนแรงเหมือนเจ้าของมัน

ผ้าเช็ดหน้าสี่เหลี่ยมผืนนี้เป็นผ้าเช็ดหน้าที่เว่ยอวิ๋นซูโยนให้เขาในวันนี้ และเขาก็พกมันติดตัวมาด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจ

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

คู่นี้เหมาะสมกันดีนะคะ น้องอวิ๋นซูดูเปิดเผยตรงไปตรงมาดี ไม่มากจริตแบบคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ดูแลพี่เฉียวจิ่นได้สบายเลย

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน