ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 197 ขนมบริหารฟัน

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 197 ขนมบริหารฟัน

ตอนที่ 197 ขนมบริหารฟัน

เฉียวจิ่นมึนงงเล็กน้อยขณะในมือมีกล่องเพิ่มเข้ามา ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบ คนมอบกล่องก็วิ่งหนีไปไกลแล้ว

เว่ยอวิ๋นเหล่ยยิ้มเอ็นดู และทิ้งคำพูดสองประโยคไว้กับเฉียวจิ่น “ตั้งใจชิมให้ดี ท่านต้องประหลาดใจแน่!”

จากนั้นก็ก้าวเท้าตามเว่ยอวิ๋นซูไป

เฉียวจิ่นมองหญิงสาวที่จากไปไกล ในใจก็เกิดระลอกคลื่นขึ้นมา เขากระชับมือที่จับกล่องไว้แน่น แล้วนั่งรถม้ากลับบ้าน

ครั้นนั่งในรถม้าแล้ว เขาก็เปิดกล่องออก มันคือกล่องไม้ประณีตกล่องหนึ่ง ทันทีที่เปิดออกก็ได้กลิ่นหอมฟุ้งอบอวล

ภายในเป็นขนมอบสีเหลืองทองชิ้นเล็กดูน่าอร่อยมาก เขาจึงลองหยิบขึ้นมาหนึ่งชิ้นและกัดเบาๆ ไปหนึ่งคำ

ผลที่ได้คือกัดไม่ลง พอกัดอีกครั้ง ก็ยังกัดไม่ลง

เมื่อมองขนมอีกครึ่งกล่อง เขาก็ยิ้ม แม่นางคนนี้ส่งขนมบริหารฟันมาให้เขาหรือ?

หลังจากกัดไปสองสามคำ ในที่สุดเขาก็กัดขนมอบได้ ทว่ามันหวานมาก หวานจนไม่เพียงแต่หวานทั้งปากทั้งคอ แต่ยังหวานไปถึงหัวใจอีกด้วย

เขาสามารถจินตนาการถึงภาพสาวน้อยจอมแก่นผู้นี้ทำขนมอย่างจริงจังได้ จึงอดหัวเราะเสียงเบาออกมาไม่ได้

จิ้งหมิงที่กำลังขับรถม้าอยู่ด้านนอกได้ยินเสียงหัวเราะ ก็ถามด้วยความประหลาดใจ “นายท่าน มีเรื่องอันใดหรือขอรับถึงได้มีความสุขนัก?”

เฉียวจิ่นรีบหุบยิ้ม และตอบอย่างแผ่วเบา “แค่นึกถึงเรื่องที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งได้ก็เท่านั้น”

……

เข้าสู่เดือนสาม ทุกสรรพสิ่งกำลังฟื้นตัว ผู้คนที่ทำงานหนักเริ่มเตรียมตัวสำหรับการไถพรวนดินในฤดูใบไม้ผลิปีใหม่ ชีวิตของเฉียวเยี่ยนก็ยังคงวุ่นเหมือนเคย

หลังจากไปๆ มาๆ ระหว่างกิจการต่างๆ โดยเฉพาะหมู่บ้านลวี่หลัว ช่วงนี้ก็เป็นช่วงเพาะกล้าพอดี ซึ่งการเพาะกล้าเป็นพื้นฐานสำหรับการเพาะปลูกต่อไป จึงต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ

ผลสตรอเบอร์รี่บางส่วนเริ่มสุกแล้ว รอเข้าสู่กลางจนถึงปลายเดือนสามก็เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวอย่างเป็นทางการ

ตอนนี้เมื่อเข้าไปในเรือนกระจกกล้าสตรอเบอร์รี่ ก็เหมือนกับเข้าไปในดงสตรอเบอร์รี่ ไม่เพียงแต่ปลูกสตรอเบอร์รี่บนพื้นดินเท่านั้น แต่ยังปลูกห้อยอยู่กลางอากาศด้วย

ตะกร้าที่แขวนเอาไว้ดูน่ารักมาก ผลสตอเบอร์รี่ห้อยออกสู่ด้านนอก เหมือนตะกร้าใส่ผลไม้น้อยเป็นใบๆ

นอกจากไปที่เรือนกระจก เฉียวเยี่ยนก็เริ่มวางแผนการเพาะปลูกฤดูใบไม้ผลิในตำหนักอ๋องกับพระราชวัง ตำหนักอ๋องปลูกผักมาสองปีแล้ว พวกข้ารับใช้ล้วนมีประสบการณ์ช่ำชอง นางจึงไม่ค่อยหนักใจนัก

สวนผักในพระราชวังทั้งหมดล้วนเป็นระเบียบเรียบร้อย พวกนางข้าหลวงกับขันทีกำลังขุดดินกันแล้ว หลังจากจัดการดินเรียบร้อย ถึงครานั้นเหลือแค่เพาะกล้าก็พอ

ช่วงนี้ฮ่องเต้เฒ่ากับฮองเฮาก็วุ่นอยู่กับสวนผักน้อยของพวกเขา ลงมือไถแปลงด้วยตัวเอง ไม่ให้พวกข้าหลวงยื่นมือเข้ามาแทรก

คนแก่ทั้งสองขุดดินกันอย่างมีความสุข หลังจากทำงานมาทั้งวัน และหลับสบายๆ มาทั้งคืน ก็รู้สึกว่าทั่วร่างผ่อนคลายมาก

ต้นฤดูใบไม้ผลิ เด็กทั้งสองต้องสอบวัดระดับแล้ว คะแนนเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ยังครองอันดับหนึ่ง ถึงขึ้นสามารถกระโดดข้ามไปอีกระดับหนึ่งได้ ในขณะที่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ยังอยู่อันดับรั้งท้ายโดยไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง

นอกจากวิชาศิลปะการต่อสู้ที่ได้อันดับหนึ่งแล้ว วิชาที่เหลือล้วนสอบได้คะแนนต่ำจนทำให้เฉียวเยี่ยนตกใจ

บนกระดาษคำตอบข้อสอบวิชาการแผ่นหนึ่ง สองในสามส่วนล้วนเป็นกากบาทสีแดง เฉียวเยี่ยนเห็นแล้วก็แทบอยากเป็นลม

ในห้องหนังสือ

เฉียวเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ในมือถือกระดาษข้อสอบของเจ้าปลาอ้วน พลางพยายามระงับโทสะของตัวเองอย่างสุดความสามารถ

“เฉียวจืออวี๋ เจ้าอธิบายกับแม่มาเดี๋ยวนี้ เจ้าต่อประโยค ‘หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล’ เป็นอะไร?”

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ยืนอยู่ตรงหน้ามารดาอย่างเชื่อฟัง พลางก้มหน้ามองนิ้วมือน้อย ก่อนพึมพำเสียงเบาด้วยโทนเสียงน่าสงสาร “จะทำอย่างไรหากพระเจ้าบันดาลสายฟ้าฟาด”

เฉียวเยี่ยนแทบจะหัวเราะอย่างโมโหออกมาจริงๆ ‘หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล จะทำอย่างไรหากพระเจ้าบันดาลสายฟ้าฟาด’ ไม่นึกเลยว่ามันจะคล้องจองมาก นางควรจะชมเด็กน้อยว่ามีพรสวรรค์หรือเปล่า

นางมองข้อสอบอัตนัยบทกวีโบราณของเด็กน้อยอีกรอบ ทั้งหมดสิบห้าข้อ มีไม่กี่ข้อเท่านั้นที่ถูกต้อง

‘เถาวัลย์เก่าต้นไม้แก่นกกาคล้ำ ยามสูงวัยแล้วตาพร่าซ้ำ จีจีแล้วก็จีจี* นกน้อยกระตุกกี่ มิได้ยินเสียงกระสวย ยินเพียงนกถอนหายใจ’(1)

*(เสียงทอผ้า)

หลังจากดูแต่ละข้อจบ เฉียวเยี่ยนรู้สึกหายใจไม่ออก หลังจากสงบสติอารมณ์อยู่นานก็ดึงมือเด็กน้อยเข้ามา และถามด้วยสีหน้าจริงจัง

“ลูกรัก เจ้าบอกแม่มา ลูกทำข้อสอบพวกนี้ไม่เป็นจริงๆ หรือ? หรือแค่คิดว่ามันน่าสนุกถึงได้เขียนเช่นนี้? ”

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ได้ยินเสียงอ่อนโยนของมารดาดังนั้นก็เงยหน้าน้อยขึ้นมองอย่างขลาดกลัว จากนั้นน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่

“ท่านแม่ ลูกขอโทษ ลูกผิดไปแล้ว ลูกไม่ควรขีดเขียนเล่น”

ความจริงนางทำข้อสอบพวกนี้เป็น เพียงแต่รู้สึกว่าคนโบราณเขียนบทกวีไว้แข็งทื่อไร้อรรถรสจนเกินไป จึงอยากเพิ่มความสนุกให้ข้อสอบที่น่าเบื่อเสียหน่อย

เมื่อเฉียวเยี่ยนเห็นเด็กน้อยร้องไห้ก็ใจอ่อน ก่อนอุ้มนางมานั่งบนตักตัวเอง

นางรู้ ลูกของนางฉลาดมาก สำหรับพวกเขาแล้วการท่องบทกวีโบราณล้วนเป็นเรื่องง่ายราวปอกกล้วย แต่เหตุที่เด็กน้อยได้กากบาทสีแดงมากมายคงเป็นเพราะความขี้เล่นอย่างแน่นอน

นางเอ่ยอย่างนุ่มนวล “ลูกฉลาดมาก ต่อประโยคก็คล้องจองมาก แต่นั่นน่ะเป็นข้อสอบเชียวนะ อาจารย์ท่านออกข้อสอบมาอย่างยากลำบาก สุดท้ายเจ้ากลับมาขีดเขียนเล่นบนนั้น นับว่าเป็นการดูหมิ่นการทำงานของพวกเขาอย่างหนึ่ง”

“การทำข้อสอบ เราควรตั้งใจทำข้อสอบ ข้อไหนที่ทำเป็นก็ทำไป ทำไม่เป็นก็ปล่อยว่างไว้ มิควรขีดเขียนไปเรื่อยลงบนกระดาษข้อสอบ และมิควรเขียนคำตอบมั่วซั่ว”

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ร้องไห้จนน้ำตานองหน้า และพยักหน้าน้อยอย่างเชื่อฟัง หลังจากเฉียวเยี่ยนกล่อมนางเสร็จแล้ว ก็กอดลูกชายที่ไม่เคยทำให้นางเป็นห่วง

“ลูกรักเจ้าเองก็เก่งมากๆ และก็เป็นความภาคภูมิใจของแม่”

เด็กน้อยอายุห้าขวบเริ่มรู้จักเขินอายแล้ว รู้จักหลบเลี่ยงการหอมของมารดา ทุกคราที่เฉียวเยี่ยนไล่หอมเขา ก็หยอกล้อจนหน้าเขาแดงก่ำ

อาจารย์ให้ความเห็นว่าเด็กน้อยโดดข้ามไปอีกชั้นปีได้ ทว่าเฉียวเยี่ยนปฏิเสธ

ในชั้นเรียนตอนนี้ เด็กทั้งสองมีอายุน้อยสุดแล้ว หากโดดข้ามระดับไปอีก สหายข้างกายเขาก็จะยิ่งโตกว่าเขามาก

ความแตกต่างของอายุที่มากเกินไปจะทำให้หาหัวข้อสนทนาไม่ค่อยได้ และหาเพื่อนไม่ได้ ซึ่งส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจของพวกเขา

ปลายเดือนสาม เข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยวสตรอเบอร์รี่ เฉียวเยี่ยนยังคงใช้วิธีเดิม ส่งกล่องสตรอเบอร์รี่ไปให้แต่ละจวน

เนื่องจากมีปริมาณจำกัด นางจึงส่งให้จำนวนน้อยมาก แต่ละบ้านส่งให้แค่สิบกว่าผล ให้พวกเขาได้ลองชิมแบบสดใหม่ เพื่อกระตุ้นความอยากของพวกเขา

ตามคาด ทันทีที่สตรอเบอร์รี่เปิดสู่ตลาด ก็กระตุ้นความอยากของพวกฮูหยินคุณหนูทันที ผลไม้ที่ทั้งหวานเปรี้ยวและหน้าตาดีนี้ล้วนครองใจพวกนางได้ไม่ยากเย็น

การปลูกสตรอเบอร์รี่มีค่าใช้จ่ายสูง ราคาที่เฉียวเยี่ยนขายจึงไม่ต่ำเลย หนึ่งตำลึงซื้อได้แค่สองสามลูกเท่านั้น แต่เพราะว่ามันมีราคาสูงนี่เอง จึงกลายเป็นของแสดงฐานะของพวกเจ้าขุนมูลนายในพริบตา

ห้องโถงรับแขกบ้านใครมีสตรอเบอร์รี่วางไว้ ที่นั่นก็จะมีหน้ามีตาเป็นพิเศษ

สิ่งที่เฉียวเยี่ยนทำในครั้งนี้คือการกำหนดเส้นทางกับออกขายในราคาสูง ลูกค้าสั่งจองล่วงหน้า นางก็จะส่งคนงานไปเก็บเกี่ยวชั่วคราว เพื่อให้แน่ใจว่าสตรอเบอร์รี่แต่ละลูกสดใหม่ จากนั้นบรรจุลงในกล่องไม้อันประณีต และจะมีคนส่งไปให้ที่จวนเป็นพิเศษ

คล้ายกับเค้กของร้าน Blackswan (2)ในยุคอนาคต ที่สร้างความมั่นใจกับลูกค้าได้ว่าทุกช่วงเวลาของลูกค้าจะได้รับความเพลิดเพลินอันสูงส่งและสง่างาม

พวกคนรวยรักศักดิ์ศรีเป็นที่สุด วิธีการขายที่ดูหรูหราสูงส่งของเฉียวเยี่ยนคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ เมื่อพวกพี่น้องมารวมตัวกัน พวกเขาจะสั่งสตรอเบอร์รี่หนึ่งกล่องเพื่อเติมเต็มบรรยากาศ

ปริมาณสตรอเบอร์รี่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ กระทั่งกล่องหนึ่งก็ยังหายาก ด้วยเหตุนี้ราคาจึงสูงขึ้นมาก ทำให้เฉียวเยี่ยนทำเงินได้มหาศาล

…………………………………………………………………………………………………………………………

บทกวีจริงๆ แล้วคือ ‘枯藤老树昏鸦, 小桥流水人家,古道西风瘦马. 夕阳西下, 断肠人在天涯.’ (เถาวัลย์เก่าต้นไม้แก่นกกาคล้ำ สะพานน้อยธาราไหลคนคลาคล่ำ มรรคาเก่าลมประจิมม้าผ่ายผอม ยามตะวันรอนลับนภา คนช้ำอุรารวมกันที่ปลายฟ้า) มาจากบทกวี 天净沙·秋思 ของหม่าจื้อหยวน กวีในสมัยราชวงศ์หยวน แต่ด้วยความนึกสนุกของเจ้าปลาอ้วน ความหมายของบทกวีบทนี้จึงเพี้ยนไปตามที่เห็น

ร้านเค้กและเบเกอรี่ชื่อดังของจีน เจ้าของคือ Hollyland Group มีหลายสาขากระจายทั่วประเทศ

สารจากผู้แปล

มีหวังแล้วอวิ๋นซู แผนส่งคุกกี้แทนใจของเธอได้ผลแล้ว

สตรอเบอรี่กลายเป็นของหรูของแพงไปเสียแล้วสิ ทีนี้พวกคนที่สร้างเรือนกระจกคิดจะก๊อปแบรนด์อีกไหมคะ

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน