ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 219 เพาะเห็ด

ตอนที่ 219 เพาะเห็ด

ตอนที่ 219 เพาะเห็ด

มู่ฉินเจินไม่ได้ถามนางว่าฝันอะไร แต่คาดเดาไว้ในใจว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับชีวิตเมื่อก่อนของนาง นางตะโกนเรียกหาแม่ในฝัน หรือว่าคนผู้นั้นจะเป็นท่านแม่ของนาง?

ดังนั้นเจ้าท่อนไม้คงจะคิดถึงบ้าน?

เขากอดเจ้าท่อนไม้ไว้แน่นอย่างสงสาร มือหนาก็ลูบศีรษะปลอบนางไปมาโดยไม่ส่งเสียงใดๆ

สำหรับเรื่องที่นางมาที่นี่ได้อย่างไร เขายังฉงนนัก หากเป็นไปได้ เขาก็อยากเจอครอบครัวของนาง อย่างไรพวกเขาก็เป็นครอบครัวเขาเช่นกัน

นางจากบ้านมาหลายปี ทว่าข้างกายกลับไม่มีผู้ใดให้นางปรับทุกข์ได้ มิรู้ว่าวันคืนที่ผ่านมา นางจะหลั่งน้ำตานองหน้าเพราะคิดถึงบ้านในยามราตรีหรือไม่

เขารู้ว่าข้างกายนางมีนางฟ้ามากความสามารถอย่างมหัศจรรย์อยู่ตนหนึ่ง ทว่านางฟ้าผู้นี้เหมือนจะมิอาจทำความปรารถนาของนางที่อยากจะกลับบ้านให้เป็นจริงได้

เขาเปรมปรีดิ์ยิ่งนักที่นางฟ้าผู้นี้ปล่อยให้นางอยู่ข้างกายเขา กระนั้นการที่นางมาโลกนี้เพียงลำพัง ก็ทำให้เขาสงสารนัก

บางคราเขาก็คิดว่า หากนางไม่มาอยู่ข้างกายเขา ชีวิตเขาจะเป็นอย่างไร?

หรือหากว่าครั้งหนึ่งนางเคยแทรกซึมเข้ามาในชีวิตของเขา ทว่าจู่ๆ ก็จากไปในสักวันหนึ่ง แล้วชีวิตของเขาต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร?

เขาไม่อยากจะคิด และไม่เต็มใจจะคิดด้วย เขามิอาจอยู่ได้โดยปราศจากนาง!

แม้จะรู้ว่านางคิดถึงบ้านมาก หรือวันหนึ่งอาจจะกลับไปยังโลกของนางได้ แต่เขาก็หวังว่านางจะอยู่เคียงข้างเขา ส่วนความรักจากครอบครัวที่นางขาดไป เขาก็จะรักนางอย่างเอาใจใส่มากยิ่งขึ้น และชดเชยความเสียใจที่อยู่ในใจนาง

สองสามีภรรยากอดกันนอนหลับ แต่พวกเขาในเวลานี้ต่างรู้สึกสับสนอย่างมาก

เฉียวเยี่ยนยังคงคิดถึงเรื่องฝันเมื่อครู่ นางแยกไม่ออกจริงๆ ว่ามันคือความจริงหรือความฝัน และแทบอยากจะไปทำให้มันชัดเจนอย่างรีรอไม่ไหว

ในขณะที่ท่านอ๋องกอดเจ้าท่อนไม้เอาไว้ด้วยอารมณ์อ่อนไหว คิดถึงความเป็นไปได้ของพวกเขานับจากนี้ไป

ราตรีผันผ่าน เฉียวเยี่ยนหลับใหลอย่างเชื่องช้าอยู่ในอ้อมกอดมู่ฉินเจิน และไม่ได้ฝันเหมือนก่อนหน้านี้อีก

เมื่อตื่นขึ้นในวันถัดมา มู่ฉินเจินที่อยู่ข้างกายได้ไปว่าราชกิจยามเช้าก่อนแล้ว เฉียวเยี่ยนนั่งอยู่บนเตียงในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนรังนก ดวงตาว่างเปล่า ดูเสียใจเล็กน้อย

คงจะดีมิน้อยหากนางจัดการความฝันนั้นสำเร็จ!

เมื่อวานหลังจากคิดมาทั้งคืน นางก็มีการคาดเดาอย่างองอาจในใจ

บางทีเด็กในความฝันเมื่อคืนนี้อาจจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนางในอดีต เฉียวเยี่ยนคนเดิมยังไม่ตาย แต่ได้แลกเปลี่ยนวิญญาณกับนางในสมัยปัจจุบัน นางเลยข้ามมาในสมัยโบราณ ขณะที่เจ้าของร่างเดิมข้ามไปสมัยปัจจุบัน

พวกนางอาศัยฐานะของอีกฝ่ายในการมีชีวิตอยู่ และมีชีวิตเป็นของตัวเอง

เมื่อลองคาดเดาเช่นนี้ ใจนางก็รับได้ไม่น้อย ความรู้สึกเป็นหนี้พ่อแม่ในหลายปีที่ผ่านมาก็น้อยลงไปมาก

อย่างน้อยก็ไม่มีคนผมหงอกไปส่งคนผมดำ(1) ไม่มีการเจ็บปวดเศร้าโศกเพราะการจากไปของนาง อย่างน้อยก็มีคนหนึ่งที่อยู่เคียงข้างพวกเขา และแสดงความกตัญญูต่อหน้าพวกเขา

จากความฝันเมื่อคืนเห็นได้ว่า ผู้ใหญ่ทั้งสองนั้นมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีลูกๆ หลานๆ คอยปรนนิบัติดูแลไปตลอดชีวิต

แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การคาดเดาของนาง แค่ความฝันเดียวนางก็คิดเป็นตุเป็นตะขนาดนี้ จนบางครั้งต้องก่นด่าตัวเองในใจว่าคิดมากเกินไปหรือเปล่า?

หรือเพราะความรู้สึกเป็นหนี้พ่อแม่ในใจนางจะมากเกินไป ถึงทำให้นางฝันเช่นนี้จนตัวเองขนลุกเอง เพื่อทำให้ในใจตนรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย?

……

ไม่กี่วันต่อมา เฉียวเยี่ยนยังคงง่วนอยู่กับเรื่องของเรือนกระจกเช่นเคย

เชื้อเห็ดที่เพาะเลี้ยงชุดแรกสามารถย้ายปลูกได้แล้วหลังผ่านไปไม่กี่วัน สองสามวันนี้เฉียวเยี่ยนจึงพาพวกคนงานไปเตรียมอาหารเพาะเลี้ยงเห็ด

เรือนกระจกเกือบหนึ่งร้อยหมู่ต้องการคนงานจำนวนมาก และนางยังคงมองหาทหารปลดประจำการในค่ายเช่นเคย

ทหารปลดประจำการหนึ่งร้อยยี่สิบนาย ขอแค่ร่างกายไม่มีปัญหาใหญ่อะไรมาก เฉียวเยี่ยนก็รับหมดตามแผนการจัดการของนาง แบ่งพวกเขาเป็นกลุ่มต่างๆ และแบ่งให้ไปอยู่เรือนกระจกในแต่ละพื้นที่

เงินเดือนของพวกเขาเหมือนกับคนงานก่อนๆ แม้บางคนร่างกายจะมีความบกพร่องเล็กน้อย นางก็ปฎิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียม

การเตรียมเพาะเห็ดแต่เนิ่นๆ นั้นไม่ต้องมีทักษะมากมาย ขอแค่มีแรงในการทำงานก็เพียงพอแล้ว ฉะนั้นเมื่อทหารปลดประจำการชุดนี้ไปถึงที่ พวกเขาก็เริ่มลงมือทำงานทันที

เห็ดหอม เห็ดนางฟ้ากับเห็ดเขากวางทั้งสามชนิดนี้ต่างต้องการอาหารเพาะที่แตกต่างกัน

อาหารเพาะที่เอาไว้เลี้ยงเห็ดหอมคือขี้เลื่อย รำข้าวสาลีกับผงปูนขาว ผสมอาหารเพาะทั้งสามชนิดนี้ตามสัดส่วน แล้วเอาใส่หม้อฆ่าเชื้อโดยผ่านการนึ่งด้วยอุณหภูมิสูง สุดท้ายก็บรรจุใสในถุงเพาะ รอปลูกเชื้อรา

เห็ดนางฟ้าต้องการอาหารเพาะเป็นซังข้าวโพด ฟางข้าวสาลี ที่มีการซึมผ่านของอากาศสูง นำซังข้าวโพดกับฟางข้าวสาลีมาบดให้ละเอียด ผสมให้เข้ากัน แล้วนำไปนึ่งฆ่าเชื้อเช่นเดียวกัน

หลายวันมานี้พวกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เรือนกระจกต่างเป็นบ้ากันไปแล้ว พวกเขาต่างแย่งชิงกันนำซังข้าวโพดกับฟางข้าวสาลีที่ใช้จุดไฟในบ้านบรรทุกลงเกวียนมาขายเอาเงินที่เรือนกระจกกันอลหม่าน

เมื่อก่อนของเหล่านี้นับว่าไร้ค่าไร้ประโยชน์ นำมาใช้ได้แค่จุดไฟ แต่ตอนนี้กลับขายได้เงินสิบเหวินต่อหนึ่งเล่มเกวียน ทำให้พวกชาวบ้านต่างปิติดีใจน้ำตาไหลออกมา

คนอื่นไม่รู้หรอก พวกเขาลำบากมาหนึ่งปี เก็บเกี่ยวพืชพรรณจ่ายภาษี แต่สิ่งที่เหลือมากที่สุดก็คือของไร้ประโยชน์เหล่านี้ ซึ่งมักจะนำมาใช้จุดไฟ

ตอนนี้กลับขายได้สิบเหวินต่อหนึ่งเล่มเกวียน และในบ้านของพวกเขาก็มีของพรรค์นี้เป็นกองโตๆ สามารถขายได้ตั้งหลายสิบเหวิน!

ไม่เพียงแต่ฟางข้าวสาลีกับซังข้าวโพดเท่านั้นที่ขายได้เงิน แม้แต่ขี้เลื่อยที่ได้จากการเลื่อยไม้ก็ขายได้ ช่างไม้หลายคนจึงฉวยโอกาสนี้หาเงินก้อนโต

พวกเขาเป็นช่างไม้ ของอย่างอื่นจึงมีไม่มาก ทว่ามีเศษไม้กับขี้เลื่อยอยู่มากโข เมื่อก่อนขี้เลื่อยเป็นสิ่งไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง นำมาใช้จุดไฟก็จุดไม่ติด เอากองไว้ในบ้านหรือนำไปทิ้งก็เป็นมลพิษทางสภาพแวดล้อม

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาเกลียดอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ขี้เลื่อยสามารถขายแลกเงินได้แล้ว ทำให้พวกเขาแทบอยากขุดขี้เลื่อยที่อยากทิ้งในอดีตออกไปให้หมด!

เห็ดหอมกับเห็ดนางฟ้าจะปลูกไว้ในถุงเพาะ ซึ่งถุงเพาะจะใช้ผ้าเย็บเป็นถุงผ้าที่เปิดปลายสองด้านเหมือนถุงแขนเสื้อ และใส่อาหารเพาะไว้ข้างใน

หลังจากใส่อาหารเพาะและรดน้ำแล้ว ก็ใช้คีมคีบเชื้อเห็ดไปปลูกในรูเล็กตรงกลางถุงเพาะ และวางราบบนแปลงเพาะเพื่อเพาะเลี้ยงต่อไป

ความจริงแล้วเห็ดเลี้ยงง่ายกว่าผักทั่วๆ ไปมาก สภาพแวดล้อมที่มันชอบมีเพียงหนึ่งเดียว แค่ต้องรักษาความชื้นกับคลุมผ้าให้มืดเพียงพอก็ใช้ได้แล้ว

นอกจากเห็ดหอมกับเห็ดนางฟ้าก็เป็นเห็ดเขากวาง ตอนเพาะเลี้ยงก็ต้องระวังการระบายอากาศเช่นกัน

วิธีเพาะเลี้ยงเห็ดเขากวางต่างกับเห็ดทั้งสองชนิด เฉียวเยี่ยนนำมันไปปลูกในขวดกระเบื้องเพาะเลี้ยงโดยตรง ขวดกระเบื้องวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่บนชั้นเพาะเลี้ยง กำหนดเวลารดน้ำและรักษาสภาพแวดล้อมให้มืดสนิท

เห็ดเขากวางสามารถงอกขึ้นมาจากปากขวดอย่างเป็นระเบียบ รอจนถึงตอนเก็บเกี่ยว ก้สามารถใช้มีดตัดเก็บจากปากขวดได้เลย และขวดที่ตัดแล้วก็สามารถเพาะเลี้ยงไปต่อได้ ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวเห็ดได้ประมาณสองครั้ง

เนื่องจากเรือนกระจกชุดนี้เป็นการซื้อต่อจากคนอื่น ดังนั้นที่ตั้งจึงค่อนข้างกระจัดกระจาย ระยะการเดินทางจากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่งจึงนับเป็นหนึ่งวันได้ ดังนั้นช่วงนี้เฉียวเยี่ยนจึงพักอยู่ข้างนอกส่วนใหญ่ และมอบหน้าที่ให้มู่ฉินเจินเป็นคนดูแลลูกๆ ที่บ้าน

มู่ฉินเจินเป็นคนดีที่เชื่อฟังมาก เจ้าท่อนไม้ให้เขาไปซ้ายเขาก็จะไม่ไปขวาเป็นอันขาด อยู่บ้านเลี้ยงลูก ไปทำงานอย่างขยันขันแข็ง

พวกข้ารับใช้ในตำหนักต่างยกย่องท่านอ๋องว่าเป็นแบบอย่างชายที่ดีมีสามเชื่อฟังสี่จรรยา

และลูกน้อยห้าขวบทั้งสองตอนนี้ก็รู้ความอย่างมาก ไม่เกาะแกะมารดาไม่ปล่อยอีกแล้ว และอยู่บ้านกับบิดาอย่างเชื่อฟัง ตอนเช้าก็สะพายกระเป๋าไปสำนักศึกษา ตอนบ่ายกลับมาทำการบ้านที่อาจารย์สั่งเสร็จ ก็ไปเล่นกับเจ้าดำ เจ้าส้ม และเจ้าเต่าน้อยของพวกเขา

………………………………………………………………………………………………………………………….

(1)白发人送黑发人 หมายถึงการที่คนเป็นลูกเสียชีวิตก่อนคนเป็นพ่อแม่ จนพ่อแม่ต้องไปส่งศพลูกแทน

สารจากผู้แปล

มีความเป็นไปได้สูงอยู่ค่ะ ที่สองคนนี้จะข้ามภพสลับร่างกัน

เห็นเค้าลางความมาม่าอยู่รำไรเลย เกิดวันหนึ่งเฉียวเยี่ยนคนนี้กลับสู่โลกเดิมของตัวเองแล้วท่านอ๋องจะทำยังไงเนี่ย อาจารย์คนเขียนจะใจร้ายขนาดนั้นไหมนะ หวั่นใจเหลือเกิน

ไหหม่า(海馬)