ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 253 มู่เจ๋อจิ่นประกาศแต่งงาน

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 253 มู่เจ๋อจิ่นประกาศแต่งงาน

ตอนที่ 253 มู่เจ๋อจิ่นประกาศแต่งงาน

เฉียวเยี่ยนนั่งตัวตรงขณะมองการแสดงดีๆ ตรงหน้านี้ เหล่าทูตจากดินแดนซีอวี้ต่างให้ความเคารพฮ่องเต้เฒ่าแค่เพียงเปลือกนอกเท่านั้น ต่อให้คนสมองน้อยมาดูก็รู้แล้วว่ามีคำข่มขู่อยู่ในน้ำเสียง

ดินแดนซีอวี้ไม่ใช่ดินแดนประเทศราชของอาณาจักรเทียนลี่ ซึ่งความแข็งแกร่งของอาณาจักรอยู่ในระดับกลางของทุกอาณาจักรทั่วหล้า แต่เจ้านครของอาณาจักรซีอวี้เป็นคนหนุ่มผู้ทะเยอทะยาน ก่อนหน้านั้นเขาก็ได้ประกาศสงครามตรงชายแดนอยู่เนืองๆ ทว่าหลังจากถูกมู่ฉินเจินสยบได้ เขาก็ทำตัวสงบเสงี่ยมลงมากในหลายปีนี้

ในตอนนี้ทูตของอาณาจักรนั้นกลับส่งคำเตือนทั้งเป็นนัยและเปิดเผยว่าหากฮ่องเต้เฒ่าไม่ยอมรับสาวงามเหล่านี้ไว้เป็นบรรณาการ มันก็จะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดนได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็มีเหตุผลดีๆ ในการประกาศสงครามอีกครั้งหากว่าเวลานั้นมาถึง

เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างเห็นพระพักตร์ของฮ่องเต้เฒ่าดำทะมึนลงอย่างชัดเจน พร้อมกับบรรยากาศโดยรอบพลันตึงเครียด ทว่าทูตจากดินแดนซีอวี้เหมือนจะไม่รู้สึก ยังคงยืนอยู่ตรงกลางโถงและคะยั้นคะยอให้ฮ่องเต้รับสาวงามเหล่านี้ไว้

การจัดงานเลี้ยงต้อนรับอาณาจักรต่างๆ ในวันนี้ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่งผลให้คนหนุ่มเหล่านี้ฉวยโอกาสบีบให้เขารับหญิงงามส่วนหนึ่งเอาไว้ เพื่อที่พวกเขาจะได้มีตำแหน่งสำคัญที่หมายตาไว้ในพระราชวัง

เขาจะทำตัวขลาดเขลาในสถานที่เล็กๆ ภายในอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของเขาได้อย่างไร? เห็นได้ว่าเจ้านครแห่งดินแดนซีอวี้ยังคงคิดไม่ซื่อ และกำลังเสริมสร้างความแข็งแกร่งของดินแดนซีอวี้อยู่

เมื่อเหล่าทูตจากดินแดนซีอวี้เห็นว่าฮ่องเต้ไม่ตอบสนอง พวกเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายและชี้นิ้วไปยังเหล่าองค์ชายต่างๆ “ในเมื่อฮ่องเต้แห่งเทียนลี่ไม่มีพระประสงค์ในการรับสนมนางในเพิ่ม เช่นนั้นข้าน้อยขอถวายสาวงามเหล่านี้ให้กับเหล่าองค์ชายเพื่อเป็นบรรณาการจากดินแดนของเราพะยะค่ะ”

บรรยากาศในโถงหลังเงียบงันลงอีกครั้ง เหล่าขุนนางผู้ใหญ่จำนวนหนึ่งต่างเสนอให้รับเหล่าสาวงามไว้ เพื่อเป็นโอกาสในการแสดงความยิ่งใหญ่เกรียงไกร แบบที่ไม่จำเป็นต้องต่อรองอะไรกับอาณาจักรปลาซิวปลาสร้อยอย่างดินแดนซีอวี้

ฮ่องเต้เฒ่ามีพระพักตร์บึ้งตึงไป ก่อนทอดพระเนตรมองเหล่าพระโอรสที่นั่งอยู่ข้างๆ มู่เฉินเจินเป็นคนแรกที่เขยิบถอยห่างโดยอัตโนมัติ ดูจากนิสัยของเขาแล้ว หากยังกล้าส่งสตรีให้เขาอีก เกรงว่าเขาคงหอบภรรยาและบุตรหนีไปเป็นแน่

เขาจึงทอดพระเนตรมองมู่เจ๋อจิ่นโอรสองค์รอง และมู่เวินเหยียนโอรสองค์เล็ก

มู่เวินเหยียนถึงกับขนพองสยองเกล้า มองเหล่านางระบำจากดินแดนซีอวี้ที่ดูงดงามราวกับนางสวรรค์แล้วก็ส่ายหัวรัว เขาเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง ไม่อยากได้สตรีมากมายขนาดนี้หรอก!

นอกจากนี้เขายังใช้พี่สะใภ้สี่เป็นมาตรฐานในการเลือกคู่ครอง ในอนาคตเขาจะหาสตรีคู่ใจที่ดีงามมากความสามารถเหมือนอย่างพี่สะใภ้สี่ เขาจะไม่ปล่อยให้นางปีศาจยั่วสวาทเหล่านี้มาทำลายร่างกายวัยหนุ่มอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของเขาเด็ดขาด!

ฮ่องเต้เฒ่าส่ายพระพักตร์เช่นกัน เด็กคนนี้ดูไม่เหมือนผู้ใหญ่เลยสักนิด ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรหากเจ้าเด็กคนนี้โดนหญิงงามเหล่านี้รุมทึ้งร่าง?

เขาจึงทำได้เพียงทอดพระเนตรโอรสองค์รอง ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดแล้วในตอนนี้

มู่เจ๋อจิ่นนั่งยืดตัวตรง พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนสง่างามผุดบนใบหน้าและกิริยาดุจสายลมกระจ่างจันทราสว่าง ในขณะที่อี้จื่อจิ้นผู้นั่งเยื้องอยู่ตรงข้ามเขากำมือแน่นพร้อมกับสายตาร้อนผ่าว

ไม่! นางเท่านั้นที่จะเป็นสตรีขององค์ชายรอง! เขาสัญญาว่าเขาจะแต่งงานกับนางแล้ว!

no! She can only be the second prince’s woman! He said he would marry her!

ในขณะที่หัวใจของนางเกิดความรู้สึกหลากหลาย มู่เจ๋อจิ่นกลับยืนขึ้น และเดินไปกลางโถง ก่อนทำความเคารพฮ่องเต้อย่างนอบน้อม

“เสด็จพ่อ ลูกมีหญิงที่ชอบอยู่แล้ว และต้องการจะแต่งงานกับนางเพียงคนเดียว เกรงว่าจะไม่อาจรับสาวงามเหล่านี้ไว้ได้”

ฮ่องเต้เฒ่าและฮองเฮาต่างมองหน้ากันด้วยสายตาประหลาดใจ

เฉียวเยี่ยนมองแผ่นหลังของมู่เจ๋อจิ่นแล้วก็ยิ้มเยาะ งานเลี้ยงในวันนี้ช่างตื่นเต้นดีจริงๆ

ฮ่องเต้เฒ่าถึงกับตรัสถามดังลั่น “นางเป็นคุณหนูจากบ้านไหน? บอกข้ามา แล้วข้าจะพระราชทานงานแต่งให้เจ้า!”

ว่าแล้วชายชราก็ลูบเคราอย่างยินดีปรีดา โอรสองค์รองมีสุขภาพย่ำแย่มาตั้งแต่ยังเล็ก และอาศัยอย่างสันโดษนับตั้งแต่เจริญวัยเป็นหนุ่ม ทำให้ยากที่จะเห็นตัวเขา แต่เมื่อได้ยินว่าตอนนี้เขามีหญิงในดวงใจแล้ว เขาก็รู้สึกมีความสุขมาจากก้นบึ้งของจิตใจ ในที่สุดเขาก็ได้สร้างครอบครัวเสียที

มู่เจ๋อจิ่นคุกเข่าลงคำนับจรดพื้น “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ สตรีที่ลูกหมายปองคืออี้จื่อจิ้นจากจวนอัครเสนาบดี ขอให้เสด็จพ่อโปรดพระราชทานงานแต่งให้ลูกด้วย”

สิ้นคำพูดของเขา บรรยากาศในโถงพลันสงบลงมาก หลายคนรู้อยู่แก่ใจว่าครั้งหนึ่งอี้จื่อจิ้นเคยมีใจให้กับมู่ฉินเจิน แต่แล้วนางก็ไม่อาจคว้าใจของมู่ฉินเจินไว้ได้ มาตอนนี้นางกลับเบนเป้าหมายมาแต่งงานกับองค์ชายรองแทน

ฮ่องเต้เฒ่ามีความประทับใจในตัวอี้จื่อจิ้นอยู่บ้าง เขาได้ยินว่านางมีใจให้กับเจ้าเด็กที่เป็นโอรสองค์ที่สี่ของเขามาก่อน แต่ทำไมตอนนี้เกิดจับพลัดจับผลูมาคบกับโอรสองค์รองได้?

ครั้นอี้จื่อจิ้นได้ยินคำประกาศแต่งงานขององค์ชายรองต่อสาธารณชน ในใจของนางก็รู้สึกหวานล้ำและเขินอาย แต่นางแสดงออกด้วยการเชิดหน้าอย่างภาคภูมิ แม้ว่าครั้งหนึ่งนางจะถูกท่านอ๋องซู่ปฏิเสธ แต่แล้วอย่างไรล่ะ?

นางยังมีวาสนาที่จะได้เป็นหวางเฟย และนางก็รอให้ผู้คนที่เคยหัวเราะเยาะนางกลับมามองนางด้วยความอิจฉาแทบไม่ไหว!

แน่นอนว่าในที่นี่มีเหล่าคุณหนูบ้านรวยบางคนอยู่ด้วย ซึ่งบางคนก็รู้สึกอิจฉา บางคนก็รู้สึกเปรี้ยวเข็ดฟัน ทำไมพวกนางถึงไม่มีชะตาแบบนี้บ้าง?

แม้องค์ชายรองอย่างอ๋องรุ่ยจะเป็นองค์ชายพิการ แต่ถ้าได้แต่งงานกับเขาแล้วก็ยังคงได้เป็นหวางเฟยเอก เมื่อคิดจากสถานะของเขาแล้ว เขาก็ยังเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้สูงส่งอยู่ดี!

แม้ฮ่องเต้เฒ่าจะนึกกังขา แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยล้อเล่นแต่อย่างใด นับจากที่ให้สัญญาว่าจะพระราชทานงานแต่งให้พวกเขาแล้ว เขาก็ไม่อาจตรัสคืนคำของตนได้

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะพระราชทานงานแต่งให้พวกเจ้า และเลือกฤกษ์งามยามดีที่จะแต่งงาน”

มือที่กำแน่นของอี้จื่อจิ้นพลันคลายออก พร้อมกับความกังวลที่สลายหายไปสิ้น นางลุกจากที่นั่งแล้วเดินมาคุกเข่าข้างมู่เจ๋อจิ่น ก่อนก้มลงคำนับขอบพระทัยฝ่าบาทด้วยกัน

คนส่วนมากในที่นี้ต่างพากันสรรเสริญ บุรุษเก่งกล้ากับสตรีงามเช่นนี้ นับว่าสมกันดุจกิ่งทองใบหยก ต่อจากนั้นก็เข้าไปแสดงความยินดีกับอี้เกิงหรู

อี้เกิงหรูเองก็มีสีหน้าแจ่มใส หลังถูกสยบอยู่ใต้เท้าเฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินมานาน ในที่สุดเขาก็มีวันได้ภาคภูมิใจเสียที

เฉียวเยี่ยนมองอัครเสนาบดีที่กำลังลำพองใจแล้วก็แค่นยิ้มในใจ หากตอนนี้เขาหัวเราะ ต่อไปเขาก็จะร้องไห้ มู่เจ๋อจิ่นไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปหรอก

เหตุที่มู่เจ๋อจิ่นเลือกจะแต่งงานกับอี้จื่อจิ้น ส่วนมากก็เพื่อหาแรงสนับสนุนจากอัครเสนาบดี แม้ว่าอี้เกิงหรูจะไม่ถูกกับมู่ฉินเจิน แต่เขาก็ยังไม่เข้าข้างฝ่ายตรงข้ามเต็มตัว แต่เมื่อตอนนี้เขามีองค์ชายเป็นลูกเขยแล้ว บางทีเขาก็อาจจะอยากเป็นผู้นำอาณาจักรเสียเอง

หลังถูกเรื่องของมู่เจ๋อจิ่นมาขัด ทูตจากดินแดนซีอวี้ก็พลันถูกลืมเลือนไป ทำให้เขายืนอยู่กลางโถงด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน

หลังจากที่มู่เจ๋อจิ่นและอี้จื่อจิ้นกลับเข้าประจำที่ของตนแล้ว เขาจึงได้เสนอประเด็นต่ออย่างไร้ยางอาย

ฮ่องเตเฒ่ากลอกตาใส่เขาอย่างเห็นได้ชัด และรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง หากเขาไม่คิดจะรักษาหน้าตาตัวเองแล้ว เขาก็คงจะลากอีกฝ่ายไปโบยเสียสิบไม้

เมื่อเห็นบรรยากาศกลับมาสงบอีกครั้ง เฉียวเยี่ยนก็เกิดความคิดหนึ่งในใจ

นางยืนขึ้น แล้วกล่าวแก่ฮ่องเต้เฒ่าด้วยรอยยิ้ม “เสด็จพ่อ ในเมื่อไม่มีใครรับหญิงงามเหล่านั้นแล้ว เหตุใดพระองค์จึงไม่พระราชทานให้กับพระสุณิสาของพระองค์เล่าเพคะ?”

เมื่อเห็นว่าใครบางคนหาทางออกให้เขาได้ ฮ่องเต้เฒ่าก็ยิ้มกว้างจะแทบจะไม่เห็นฟัน พลางโบกมือวูบอย่างเห็นด้วย พระสุณิสาของเขาดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่นางกลับมีความคิดมากมาย ทำให้เขาวางใจได้เมื่อส่งต่อเรื่องนี้ให้นางจัดการ

ทูตจากดินแดนซีอวี้ไม่ได้รู้จักเฉียวเยี่ยนดีนัก เห็นว่านางยินดียอมรับหญิงเหล่านี้ พวกเขาก็คิดว่านางจะมอบพวกนางให้เป็นสนมของอ๋องซู่

เหล่าทูตหัวเราะเช่นกัน พลางสรรเสริญเฉียวเยี่ยนว่ามีน้ำใจประเสริฐสมเป็นต้นแบบของศรีภรรยายิ่งนัก

เฉียวเยี่ยมยอมรับคำสรรเสริญเหล่านี้โดยไม่รู้สึกผิด เพราะอย่างไรนางก็บอกไปว่าจะรับคนเหล่านั้นมา ไม่ได้บอกว่าจะมอบให้ท่านอ๋องของนางเสียหน่อย และนางก็ไม่ขัดหากว่าจะได้แรงงานมาใช้งานเพิ่มโดยไม่คิดเงิน

มู่ฉินเจินมองนางด้วยความประหลาดใจ แต่เมื่อนางส่งสายตาเป็นนัยมาให้เขา เขาก็ทำได้เพียงยิ้มอย่างจนใจ

เขาไม่สงสัยในความรู้สึกที่เจ้าท่อนไม้มีต่อเขาเลยสักนิด และตอนนี้นางก็คิดหาทางจัดการคนเหล่านี้อยู่

หลังจากถูกขัดจังหวะไปพักใหญ่ งานเลี้ยงก็กลับมารื่นเริงเช่นเดิม จอกแล้วจอกเล่าถูกยกขึ้นดื่ม จนเฉียวเยี่ยนที่ดื่มชาทั้งคืนรู้สึกเบื่อหน่ายเหลือประมาน แต่โชคยังดีที่นางยังมีลูกสองคนคอยคลายความเบื่อหน่ายไปบ้าง

…………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

อย่าเพิ่งดีใจไปคุณหนูอี้ อ๋องรุ่ยเป็นคนมีแผนล้ำลึก เขาจะแต่งงานโดยไม่หวังอะไรได้ไง

ร้ายกาจมาก รับสาวๆ พวกนี้มาเป็นแรงงานฟรีเหรอเสี่ยวเยี่ยน

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท