ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 255 ตกใจหรือไม่ แปลกใจหรือเปล่า

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 255 ตกใจหรือไม่ แปลกใจหรือเปล่า

ตอนที่ 255 ตกใจหรือไม่ แปลกใจหรือเปล่า

เด็กน้อยที่อายุเพียงหกขวบกลับลั่นวาจาออกมาเสียงดังฟังชัด จนทำให้ทุกคนในบริเวณนั้นรู้สึกตื่นเต้น

ท่าทางที่เรียกว่าลูกผู้ชายของเด็กน้อย มองอย่างไรก็ตลกเล็กน้อย

หลังจากเสนอหัวข้อทดสอบเสร็จ ฮ่องเต้เฒ่าก็ส่งท่านราชครูไปเป็นผู้ตั้งคำถามสำหรับฝ่ายเทียนลี่ ส่วนทางรัฐเยี่ยนมีเจียงเจี้ยนสวินองค์รัชทายาทแห่งรัฐเยี่ยนออกโรงด้วยตัวเอง

รอบแรกราชครูเป็นคนออกคำถาม หลังจากที่เขากับเจียงเจี้ยนสวินโค้งคำนับให้กันแล้ว การแข่งขันก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

“คำถามแรก บอกบทกลอนที่มีคำว่า ‘ลม’ ออกมาหนึ่งบท”

ราชครูที่ถูกดึงออกมาตั้งคำถามถึงกับปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก หากเขาตั้งคำถามยากเกินไป แล้วองค์ชายน้อยของเขาแพ้ เขาจะเผชิญหน้ากับฮ่องเต้เฒ่าอย่างไร?

ดังนั้นคำถามแรกที่เขาคิดขึ้นมานั้นจึงง่ายมาก เหมือนกับเกมสั่งให้ดื่มเหล้าในวงเหล้าทั่วไป

แน่นอนว่า คำถามนี้ไม่ได้ยากอะไรสำหรับเสี่ยวฉวนเอ๋อร์กับเจียงอวี่เฉียน ทั้งสองยกมือขึ้นเกือบจะพร้อมกัน

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ตอบก่อน “เสียงสายแกว่งไกวสนั่นลั่นวายุ ขุนพลทะยานอาชาล่าสัตว์ขึ้นเว่ยเฉิง”

เจียงอวี่เฉียนก็ไม่น้อยหน้า “ลมโชยดอกหลิวหอมคลุ้งทั่วร้าน โสภานำเมรัยชวนแขกเชยชิม”

โอกาสเช่นนี้ เจ้าปลาอ้วนที่ไม่มีความรู้อะไรเลยก็ทำได้เพียงให้กำลังใจพี่ชาย เมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายตอบคำถามแรกได้อย่างง่ายดาย เด็กน้อยก็เอ่ยกับท่านราชครูว่า “ท่านปู่ราชครู ถามให้มันยากกว่านี้หน่อย พี่ชายข้าเก่งมากๆ อยู่แล้ว!”

ในสายตาของนาง พี่ชายเป็นขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรม คำถามอะไรก็รู้ไปเสียหมด

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์เองก็รู้สึกว่าคำถามมันง่ายไปเช่นกัน เดาว่าท่านราชครูน่าจะกลัวว่าเขาแพ้ จึงเอ่ยเกลี้ยกล่อม “ท่านปู่ราชครู ในเมื่อเป็นการแข่งขัน ก็ควรจะมีความยากหน่อย”

บนหน้าผากท่านราชครูมีเหงื่อผุดซึมอยู่ทั่ว เขารู้สึกลำบากใจเล็กน้อย หากเขาถามคนตัวเล็กยาก จนอีกฝ่ายร้องไห้โฮเพราะแพ้ ฝ่าบาทต้องถลกหนังเขาออกแน่

ฮ่องเต้เฒ่าชื่นชมพระนัดดาตัวเองมาก จึงโบกพระหัตถ์ แล้วตรัสกับราชครู “ท่านถามออกไปอย่างกล้าหาญเถิด หลานของเราหาใช่คนธรรมดา”

เมื่อมีคำพูดนี้ของฝ่าบาท ท่านราชครูก็สงบลงไปไม่น้อย และเริ่มคิดคำถามอย่างจริงจัง

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็พูดต่อ “ ‘ต้นน้ำอยู่ทางซ้าย แม่น้ำฉีอยู่ทางขวา บุตรสาวลาจาก ห่างพี่น้องพ่อแม่ไปไกล’(1) คำถามคือ ในบทกวีนี้เหตุใดหญิงคนนั้นต้องจากไปห่างไกลพ่อแม่พี่น้องด้วย?”

คำถามนี้เริ่มยากขึ้นแล้ว ทว่ากระนั้นเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ก็ยังยกมือขึ้นทันทีที่สิ้นเสียงเขา และครั้งนี้ก็เร็วกว่าเจียงอวี่เฉียนไปก้าวหนึ่ง

“บทกลอนนี้บรรยายถึงฉากที่หญิงสาวรัฐเว่ยคิดถึงครอบครัวระหว่างนั่งเรือออกเดินทางไปแต่งงานแดนไกล ดังนั้นสาเหตุเป็นเพราะแต่งงานออกไป”

เด็กน้อยตอบคำถามออกมาอย่างเชื่องช้า ทว่าทั่วบริเวณพลันมีเสียงปรบมือดังขึ้น สำหรับเด็กที่เพิ่งโตแต่มีความรู้มากมายเช่นนี้อยู่ในหัว นับว่าไม่ง่ายเลยจริงๆ

แม้เจียงอวี่เฉียนจะรู้คำตอบข้อนี้ ทว่าถูกเสี่ยวฉวนเอ๋อร์แย่งตอบไปเสียก่อน จึงกัดฟันด้วยความโกรธกริ้ว

ดูเหมือนนางจะประเมินเจ้าเด็กซนนี้ต่ำเกินไป!

เจียงเจี้ยนสวินประหลาดใจยิ่งนักเช่นกัน ไม่คิดเลยว่าเด็กน้อยจะเก่งกาจเพียงนี้!

เด็กทั้งสองนำหน้าไปหนึ่งแต้ม เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์แตะมือกับพี่ชายอย่างดีใจ พลางทุบไหล่ให้พี่ชายอย่างประจบประแจง และส่งเสียงให้กำลังใจดังเจื้อยแจ้ว

ต่อมาบรรยากาศการแข่งขันก็เป็นไปอย่างร้อนรุ่มยิ่ง ทั้งสองฝ่ายคู่คี่สูสีกัน ในที่สุดคำถามสิบข้อ เสี่ยวฉวนเอ๋อร์นำไปก่อนสามคะแนน และเป็นฝ่ายชนะไปก่อนชั่วคราว

ราชครูเสร็จสิ้นภารกิจ ก็ลงไปอย่างสมเกียรติ เขาพอใจกับการแสดงของคนตัวเล็กมาก ไม่คิดเลยว่าเป็นเขาที่ใจแคบเอง แถมยังอ่อนข้อให้เด็กน้อยอีก ทว่าเด็กน้อยช่างเก่งกาจนัก

ความคิดของเจียงเจี้ยนสวินยังอยู่ในฉากที่ตอบคำถามเมื่อครู่ ยังไม่ได้สติกลับมา หลังจากได้สติแล้ว เขาก็ทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่

ไม่ควรตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกจริงๆ แม้อีกฝ่ายจะอายุน้อย แต่ความรู้กลับไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ใหญ่เลย

เฉียวเยี่ยนรู้สึกภูมิใจในตัวลูกตัวเอง พลางยกนิ้วโป้งให้พวกเขา หากไม่ใช่เพราะสนหน้าตา นางคงเท้าเอวแหงนหน้าหัวเราะไปแล้ว

ลูกของนางเก่งที่สุด!

หลังจาเจียงอวี่เฉียนพ่ายแพ้ไปชั่วคราว ใบหน้านางก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธ พวกคำถามเมื่อครู่ใช่ว่านางจะไม่รู้ ทว่าการตอบสนองของสมองไม่ได้ไวเหมือนเด็กเล็ก จึงพลาดตอบคำถามไปทุกครั้ง

มาถึงตาเจียงเจี้ยนสวินตั้งคำถามแล้ว ณ ตอนนี้เขาไม่กล้าวางใจเลยแม้แต่น้อย แม้น้องสาวตนจะเป็นคนก่อเรื่อง แต่หากแพ้ มันจะส่งผลกระทบไปถึงหน้าตาของบ้านเมืองเลยทีเดียว

ต่อให้แพ้ ก็มิควรแพ้อย่างน่าเกลียดเกินไป

เขาใช้วิธีแปลกใหม่ หาทางใหม่ๆ คำถามเมื่อครู่ที่ราชครูเป็นคนตั้งล้วนเป็นคำถามเกี่ยวกับบทกวี ครั้งนี้เขาจะจำกัดขอบเขตของคำถามอยู่ภายในตำราพิชัยสงคราม

น้องสาวตนชอบฝึกวรยุทธ์มาตั้งแต่เด็กๆ คลุกคลีอยู่กับตำราพิชัยสงครามอย่างลึกซึ้ง ความรู้ธรรมดาเกี่ยวกับตำราพิชัยสงครามไม่ใช่เป็นปัญหาสำหรับนาง อีกทั้งเด็กทั้งสองยังเล็กอยู่ ยังไม่น่าจะได้เรียนตำราพิชัยสงคราม

“คำถามแรก ‘หลักการทหาร หนึ่งคือระบบระเบียบ สองคือคาดการณ์ สามคือคิดคำนวณ สี่คือกำหนดแผน ห้าคือชัยชนะ’ ใน ‘หลักการทหาร พิชัยสงครามซุนจือ’ คำว่า ‘ระบบระเบียบ’ ในนี้หมายความว่าอย่างไร?”

เมื่อเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ได้ยินคำถามนี้ ในหัวพลันโลดแล่น ไม่คิดเลยว่าจะมีคำถามที่นางตอบได้ด้วย!

ในตอนที่เจียงอวี่เฉียนกับพี่ชายยังไม่ได้ยกมือ นางก็ยกมือน้อยของตัวเองขึ้น พลางยิ้มเหมือนเด็กโง่ และเอ่ยด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว “ข้อนี้ข้าตอบได้!”

“‘ระบบระเบียบ’ ในที่นี้คือการคาดการณ์ การคาดคะเน! ”

เด็กน้อยเอ่ยคำตอบที่ถูกต้องออกมาด้วยเสียงอันดัง พลันทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็ตกตะลึงอีกครั้ง

รอยยิ้มบนใบหน้าเจียงเจี้ยนสวินชะงักค้าง เขาคำนวณทุกอย่างแล้ว คิดใคร่ครวญวางแผนเสียอย่างแยบยลแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะแพ้ให้แก่เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้

เมื่อครู่ที่ไม่เห็นนางตอบคำถามมาตลอด จึงเดาว่านางคงไม่รู้อะไรมาก แต่ไม่คิดเลยว่านางจะเป็นประเภทคมในฝัก!

เฉียวเยี่ยนส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจ เมื่อได้ยินคำถาม นางรู้ว่าความคิดของอีกฝ่าย นี่เขากำลังพยายามจะรังแกลูกๆ ของนางอยู่

ทว่าตกใจหรือไม่? แปลกใจหรือเปล่า?

เจ้าปลาอ้วนของนางอย่างอื่นไม่เป็นสักอย่าง ทว่าเรื่องตำราพิชัยสงครามกลับชำนาญเป็นอย่างมาก

มู่ฉินเจินรู้ดีว่าลูกสาวตนมีความรู้เรื่องตำราพิชัยสงครามมากแค่ไหน คำถามเหล่านี้ยิ่งสบายมาก ถึงอย่างไรอักษรที่เด็กน้อยรู้จักล้วนได้มาจากตำราพิชัยสงตราม

เมื่อเห็นท่าทางประหลาดใจของเจียงอวี่เฉียนกับเจียงเจี้ยนสวิน เขาก็รู้สึกโล่งใจอยู่พักหนึ่ง

เจียงเจี้ยนสวินปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว และตั้งคำถามต่อ แต่คราวนี้ยากกว่าเดิม

“’ภูมิประเทศที่เป็นหุบห้วย บริเวณที่เป็นหล่มแอ่ง พื้นที่ถูกปิดล้อม ในราวป่า ที่ทางรกพงด้วยขวากหนาม สภาพพื้นดินเป็นบึงโคลน ช่องทางคับแคบระหว่างซอกผา ต้องรีบเร่งหลีกห่าง ไม่ควรอยู่ใกล้’ ‘บริเวณที่เป็นหล่มแอ่ง’ในที่นี้หมายถึงอะไร?”

ครั้นเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ได้ยินคำถามนี้ นางก็ตอบได้อีกแล้ว พลางยกมือตัวเองขึ้นพร้อมกระโดดโลดเต้น และหัวเราะคิกคักอย่างตื่นเต้น “ข้าตอบได้ ข้าตอบได้!”

“’บริเวณที่เป็นหล่มแอ่ง’ในที่นี้คือภูมิประเทศสูงชันทั้งสี่ด้าน ตรงกลางเป็นแอ่งที่มีน้ำขังอยู่”

เมื่อเด็กน้อยแย่งตอบคำถามไปได้อีกข้อ นางก็มีความสุข พลางยืดอกตัวเองขึ้น และทำหน้าทะเล้นใส่เจียงอวี่เฉียน

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์เองก็ภูมิใจแทนน้องสาว แม้เขาจะคลุกคลีกับตำราพิชัยสงครามอย่างลึกซึ้ง ทว่าไม่ชำนาญเท่าน้องสาว มีน้องสาวอยู่ด้วย ครั้งนี้พวกเขาชนะแล้ว

เจียงอวี่เฉียนโกรธเป็นอย่างมาก จึงกระทืบเท้าใส่เจียงเจี้ยนสวิน “ท่านพี่ ท่านถามอะไรออกมาเนี่ย!”

แม้นางจะเคยอ่านตำราพิชัยสงคราม กระนั้นก็ไม่ได้ชำนาญเท่าบทกวีอะไรขนาดนั้น คำถามพวกนี้นางต้องครุ่นคิดก่อนถึงจะนึกขึ้นมาได้ แต่ไม่คิดเลยว่าเด็กน้อยคนนี้กลับตอบออกมาได้เลยโดยไม่ต้องเปลืองแรง

ฮ่องเต้เฒ่าดีใจจนหัวเราะเสียงดังขึ้นมา ไม่แม้แต่จะไว้หน้ารัฐเยี่ยนเลยแม้แต่น้อย วันนี้หลานสาวช่างทำให้เขาประหลาดใจมากจริงๆ

ไม่นึกเลยว่าเจ้าปลาอ้วนที่มักจะมีท่าทางเรียนไม่เก่ง กลับชำนาญตำราพิชัยสงครามเป็นอย่างยิ่ง!

พวกขุนนางกับสมาชิกในครอบครัวที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างมองเด็กน้อยทั้งสองด้วยความอิจฉาริษยา

ลูกๆ ของพวกเขาอายุไล่เลี่ยกับเด็กทั้งสองคน ทว่าพวกเขาออกมาแข่งเพื่อระบายความโกรธให้มารดา เพื่อกอบโกยเกียรติยศให้กับบ้านเมือง ส่วนลูกๆ ของตัวเองทำได้เพียงซนไปทั่ว แข่งจิ้งหรีด เล่นโคลน

เป็นเด็กเหมือนกัน แต่เหตุใดถึงแตกต่างได้มากเพียงนี้นะ?

………………………………………………………………………………………………………………………….

มาจากคัมภีร์ซือจิ้ง: จู่กัน

สารจากผู้แปล

อึ้งกันทั้งวงล่ะสิ บอกแล้วว่าเด็กสองคนนี้ไม่ธรรมดา

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน