พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 19

ตอนที่ 19

บทที่ 2 ตอนจบพาร์ทแรก

ไม่กี่วันหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นกับลิซ่า โนโซมุก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ในตอนนั้นก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

อย่างไรก็ตามแม้ว่าโนโซมุจะยังคงหยุดอยู่กับที่ แต่เวลาไม่เคยคอยใครเขาจำเป็นที่จะต้องกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

ในอีกแง่หนึ่งมันอาจจะดี ทั้งโนโซมุและลิซ่าก็ต่างหลีกหนีชีวิตอันแสนวุ่นวายของพวกเขาได้

ณ ลานกว้างของโรงเรียนช่วงพักกลางวัน ที่นี่นั้นมีโนโซมุและมาร์ที่กำลังทานอาหารกลางวันที่ซื้อมาและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องวันเกิดของโซเมียจังที่ใกล้เข้ามา

「วันนี้เกิดโซเมียสินะ?ไอริสบอกว่างานเลี้ยงจะเริ่มหลังเลิกเรียน」

「อะ เออ นั่นสินะ……」

ยังไงก็ตามท่าทางของมาร์นั้นแปลกไป ท่าทางแปลกๆตั้งแต่เช้าแล้ว เขาโดนเตือนตั้งหลายครั้งตอนคาบเรียนบรรยาย

「?……เป็นอะไรไปน่ะ เกิดอะไรขึ้นยังงั้นเหรอ」

「ไม่หรอก ไม่มีอะไร หืมมมมกลับมาใช้ชีวิตโรงเรียนตามปกติสินะ……」

「จริงอะ?ถ้างั้นก็ดีน่ะสิ ยังไงก็ตามแล้วอิน่าละเป็นยังไงบ้าง? ข้ารู้สึกแย่นะที่มีพวกเราที่ได้เข้าร่วมปาร์ตี้……」

「น่าไม่เป็นไรหรอก ตอนแรกคนที่ไม่ได้รับเชิญ จะไปงานของแขกก็แปลกๆอยู่น่า……」

「นั่นสิน้า……」

มาร์พูดถูก อิน่าที่ไม่ได้เชิญไปงานเลี้ยงก็ไม่น่าจะได้เข้าร่วมตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่าโนโซมุกังวลเกี่ยวกับมาร์ ที่แสดงท่าทางแปลกๆ เหตุมันเกิดหลังเลิกเรียนหลังจากไปงานเลี้ยงบ้านของไอริส

◇◆◇

ทางตอนเหนือของเมืองอาร์คาซัม สถาบันทางการเมืองของเมืองนี้ตั้งอยู่ที่นี่และเป็นที่บริหารจัดการทางการเมือง

ในเวลาเดียวกันที่นี่ก็เป็นที่อยู่อาศัยของบุคคลสำคัญทางการเมืองต่างๆและคฤหาสน์ของตระกูลฟรานซิสก็อยู่ที่นี่เช่นกัน

อย่างไรก็ตามขนาดของมันใหญ่กว่าบริเวณรอบๆเป็นอย่างมาก

ใหญ่กว่าคฤหาสน์อื่นๆมากกว่าสองเท่าและความสูงๆราวสามเท่า

คฤหาสน์หลังนี้มันใหญ่จนขนาดเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กได้เลย

อย่างไรก็ตามเจ้าของคฤหาสน์ดูเหมือนจะเป็นตัวไอริสเองที่เป็นหัวหน้าคนต่อไปของครอบครัวตระกูลฟรานซิส คฤหาสน์นี้ถูกสร้างขึ้นตอนที่เธอลงทะเบียนเรียนที่สถาบันโซลมินาติ

เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงสำหรับคนธรรมดาที่จะเตรียมคฤหาสน์หลังใหญ่ให้กับการย้ายโรงเรียนของลูกสาว

หลังเลิกเรียนโนโซมุก็อยู่หน้าประตูขนาดใหญ่ของสถานที่จัดงานเลี้ยง คฤหาสน์ของไอริสซึ่งใหญ่โตมาก

「………………กว้างมาก」

「…………ช่าย」

「……………สถานที่จัดงานที่นี่แน่เหรอ」

「…………อาาาา」

「ใหญ่จริงๆนั่นแหละคะ พี่ชายอย่าทำอะไรแปลกๆนะคะ」

โนโซมุและมาร์ต่างตกตะลึงเพราะได้ยินเสียงอันแสนคุ้นเคยอยู่ข้างๆ

「……ยังไงก็ตามมาร์ ไหนบอกว่าอิน่าไม่ได้ถูกเชิญ?」

「เอะ!」

ข้างๆโนโซมุคืออิน่าที่ไม่น่าจะมางานเลี้ยงได้แต่โนโซมุก็รีบถามมาร์ด้วยความสงสัยทันที

อิน่าเริ่มอธิบายสถานการณ์บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอไม่เห็นพี่ชายเธออยู่ในสายตา

「อย่าเข้าใจผิดสิคะคุณโนโซมุ ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงสักหน่อยค่ะ」

「เอ๋ แล้วถ้างั้นมาทำไมเหรอครับ?」

「ก็เพราะว่ามีคนที่ฉันต้องขอโทษให้ได้อยู่น่ะสิคะเพราะพี่ชายไปรบกวนเธอไว้ ถ้าไม่รังเกียจก็ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวก็ได้นะคะ…………」

เห็นได้ชัดว่าอิน่าตามมาที่นี่เพื่อจะมาขอโทษทิม่า มาร์กำลังกุบขมับ เพราะเหตุนี้สินะตอนมาที่สถาบันเลยทำตัวแปลกๆ

「มาร์……หรือว่า……」

โนโซมุส่งเสียงด้วยความตกใจ คงเป็นเรื่องที่น่าสงสารมากๆสำหรับน้องสาวเช่นเธอที่ต้องมาคอยขอโทษคนอื่นแทนพี่ชายอยู่เสมอ

「ไม่ใช่นะเว้ย!แกคิดบ้าไรอยู่หะ!ข้าก็แค่มาเป็นเพื่อนหมอนี่!!」

「พูดอะไรกันคะ!เริ่มสงสัยแล้วสิคะ ว่าพี่ชายจะทำตัวแปลกๆอีกไหมเนี่ย!」

「อย่ากังวลไม่เข้าเรื่องน่า! เธอเป็นแม่ฉันหรือไงกันเนี่ย!!」

「นะนี่ ทั้งสองคน……」

ทั้งสองคนเริ่มทะเลาะกันตามปกติ โดยธรรมชาติแล้วสองคนนี้จะดึงดูดคนรอบข้างมากๆดังนั้นโนโซมุก็เลยจะพูดให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามเรียกหลายครั้งแล้ว แต่พวกเขาสองคนก็ยังทะเลาะกันอยู่อีก

เป็นเรื่องธรรมดาที่จะถูกจับตามองเป็นพิเศาเพราะมายืนทะเลาะอยู่หน้าคฤหาสน์ใหญ่โตเช่นนี้ โนโซมุรู้ว่าทำยังไงก็หยุดสองคนนี้ไม่ได้จึงเดินไปรอบๆและสำรวจดู

เมื่อโนโซมุเดินมาถึงประตูก็พบกับเมดคนหนึ่งที่ดูเหมือนกำลังทำงานอยู่ในคฤหาสน์ด้านใน

「ขอโทษด้วยนะคะ กรุณาอย่าส่งเสียดังบริเวณคฤหาสน์หลังนี้ด้วยค่ะ」

「อะขอโทษนะครับ คือวันนี้คือวันเกิดของโซเมียจัง พวกเราได้รับเชิญมางานวันเกิดของเธอครับ พวกเรามาจากสถาบันโซลมินาติครับ」

「พวกคุณน่ะเหรอค่ะ?」

เมดมองพวกเราด้วยแววตาสงสัย โนโซมุสวมเครื่องแบบสถาบันโซลมินาติ แต่ว่าความวุ่นวายทางด้านหลังทำให้พวกเขากลายเป็นคนน่าสงสัย

อย่างไรก็ตามเครื่องแบบของโนโซมุและมาร์ไม่ใช่เครื่องแบบของชนชั้นสูงที่สามารถสวมมางานวันเกิดของตระกูลที่มีชื่อเสียงเลย

「…………ขอโทษด้วยนะคะ แต่ว่าคนน่าสงสัยแบบพวกคุณฉันคงให้เข้าคฤหาสน์มาไม่ได้หรอกค่ะ「อ้าว โนโซมุคุง มาถึงแล้วเหรอคะ」เอะ คุณหนู!!」

เป็นไอริสเองที่โผล่มาทางด้านหลังของเมดคนนั้นด้านหลังของเธอก็มีทิม่าตามมาด้วย

「พวกเขาคือเพื่อนของดิฉันเองค่ะ ดังนั้นให้พวกเขาเข้ามาด้วยนะคะ และก็กลับไปทำงานตามปกติเถอะค่ะ」

「คะ ค่า」

「ขะ ขอบคุณนะครับ ไอริสซัง」

เมดคนนั้นรีบออกไปโนโซมุเองก็รู้สึกโล่งใจเพราะถูกจ้องเขม่นแบบนั้น

「ฟุฟุ จะปล่อยแขกที่ฉันเชิญมาไว้หน้าประตูแบบนี้ก็ไม่ได้ด้วยสิ………ว่าแต่พวกคุณมาถึงกันนานรึยังคะ?」

ไอริสตอบโนโซมุ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชวนหลงใหล อย่างไรก็ตามพี่น้องสองคนนั้นค่อนข้างน่าเป็นห่วง พวกนั้นยังคงทะเลาะกันโดยไม่ได้สังเกตเห็นเจ้าของบ้านเลยสักนิดแถมตอนนี้ก็มีฝูงชนอยู่รอบๆพวกเขาแล้วนะ

「นี่ทั้งสองคน……หยุดได้แล้ว!! จะเข้าไปข้างในแล้วนะ!พวกเธอทะเลาะกันเสร็จรึยังเนี่ย!!」

「「…………เอะ?」」

โนโซมุตะโกนเรียกทั้งสองคนและดูเหมือนว่าครั้งนี้จะได้ยินแหะ พวกนั้นมองมาพร้อมกับส่งเสียงแปลกๆพร้อมกับรีบมาที่นี่ด้วยความเร่งรีบ ดูเหมือนว่าจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองทำเรื่องโง่ๆลงไป

「โนโซมุ! สังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม!」

「นั่นสิคะ คุณโนโซมุ! ทั้งๆที่สังเกตเห็นแล้วแท้ๆไม่คิดจะห้ามกันบ้างเหรอคะ อายจังเลยค่ะ!」

「………………ไม่รู้ไม่ชี้~」

โนโซมุที่ไม่มีทางเลือกทำได้แค่กุบขมับกับทั้งสองคนที่พูดอะไรแปลกๆออกมา ไอริสเองที่เห็นเช่นนั้นก็มองมาทางนี้ด้วยท่าทีตลก

「ฟุฟุฟุ ดูท่าจะสนุกกันน่าดูเลยนะคะ แต่ว่าช่วยแนะนำตัวเองหน่อยจะได้ไหมคะ?」

ไอริสจ้องไปยังอิน่า ที่อยู่ข้างๆโนโซมุและเป็นเพื่อนเขานั่นเอง

「อ่านั่นสินะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับอิน่าจังสินะ」

「อืมม นั่นสิ ก็อย่างที่ได้ยินแล้วล่ะนะ ดิฉัน ไอริสดิน่า・ฟรานซิส ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ」

「คะ ค่า! ส่วนฉันชื่อ ดิน่า・ดิกเกนส์」

ด้วยบรรยากาศกดดันเล็กน้อยของไอริส อิน่าก็แนะนำตัวเองด้วยท่าทางตึงเครียด ทิม่าที่อยู่ทางด้านหลังก็เริ่มแนะนำตัวบ้าง

「ฟุฟุ、ทิม่า・ไลม์。ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ อิน่าจัง」

「เอ๋ นั่นคุณทิม่าซังงั้นเหรอคะ? ต้องขอโทษด้วยนะคะที่พี่ชายของฉันสร้างความเดือดร้อนให้ค่ะ」

อิน่าโค้งคำนับขอโทษด้วยความจริงใจเมื่อพบว่ามาร์เป็นตัวต้นเหตุ ทิม่าดูผิดหวังเล็กน้อย

「มะไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่าใส่ใจเลยนะคะ……」

「ไม่หรอกค่ะ ฉันทำแบบนั้นไม่ได้……มากกว่านี้พี่ชายเองก็ขอโทษเธอด้วยสิคะ! เพราะพี่ชายทำให้เธอกลัวน่ะ!!」

「ก็บอกแล้วไง! นี่เธอเป็นแม่ฉันรึไง! เพราะเธอน่ะแหละทำให้ข้าคุยกับเธอยากขึ้นไปอีก!」

「อะไรกันคะ! พี่ชายน่ะถ้าอยู่ตัวคนเดียก็ไม่ยอมขอโทษหรอกค่ะ! นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงต้องมาด้วยไงคะ!」

「ก็บอกแล้วไงว่าไม่จำเป็นน่ะ!! เธอนี่เข้าวัยต่อต้านแล้วรึไง!!」

「เอ่อ ทั้งสองคนหยุดเถอะนะ! นี่ขนาดอยู่ต่อหน้าเจ้าของบ้านและนี่ก็เป็นงานวันเกิดด้วยจะมาทะเลาะกันในบ้านเขามันไม่ดีนะ!!」

「ฟุ ฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ」

โนโซมุพยายามจะหยุดทั้งสองที่เริ่มจะงัดกันอีกรอบแล้ว แต่ไอริสที่อยู่ตรงหน้านั่นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา เธอเป็นคนที่สวยและไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใด สงสัยข้าคงคิดไปเองดูแล้วเธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะเป็นมิตรเอามากๆเลยล่ะ

ยังไงก็ตามการที่ได้เห็นเธอหัวเราะเช่นนี้ก็นับว่าดีแล้วล่ะ เพราะปกติเธอมักจะเป็นคนเงียบๆมาตลอดเลยนี่

มาร์และอิน่าที่กำลังทะเลาะกันเห็นไอริสหัวเราะเช่นนั้นก็หยุดทะเลาะกันทันที พวกเขาต่างจ้องมองไปทางไอริสด้วยท่าทีตกใจ

「ฟุฟุขอโทษนะคะ ดูเหมือนทั้งสองคนจะสนิทกันน่าดูเลยนะคะ?。………และนั่นนะเหรอ คืออิน่าจัง? อยากจะเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของน้องสาวฉันไหมคะ?」

「อะเอ่อ……แต่ว่าฉันน่ะไม่เคยเข้าร่วมงานแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ……」

อิน่าค่อนข้างจะลังเล

เดิมทีเธอมาที่นี่เพื่อคอยจับตาดูพี่ชายของเธอ ดังนั้นเลยสับสนเล็กน้อยที่ให้เข้าไปในงานด้วย

อย่างไรก็ตามไอริสไม่สนใจ

「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นี่เป็นงานเลี้ยงที่มีเฉพาะญาติๆของฉันเท่านั้นค่ะ และฉันก็คิดว่ายิ่งคนเยอะน้องสาวฉันน่าจะมีความสุขกว่านี้นะคะ」

「อืมมม………………ถ้าคนจัดงานพูดถึงขนาดนี้ล่ะก็」

「…………เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าหากไม่เป็นการรบกวนก็ขอร่วมงานด้วยนะคะ」

โนโซมุเห็นด้วยกับความคิดเห็นของไอริสดูเหมือนว่าอิน่าก็จำเป็นต้องเข้าร่วมเพราะไม่อยากปฏิเสธนั่นเอง

◇◆◇

เมื่อเข้าไปในพื้นที่จัดงานก็พบกับผู้คนมากมาย แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนของคฤหาสน์

งานเลี้ยงนั้นดูดีมีสไตล์อาหารหลากหลายชนิดถูกวางไว้บนโต๊ะ

แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายต่างเข้าหาโซเมียจังและก็มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนของโซเมียจังมาในงานด้วย

เมื่อไอริสเดินไปหาโซเมียจัง โซเมียก็รีบกระโดดเข้าอ้อมอกของพี่สาวเธอทันที

ไอริสอุ้มโซเมียด้วยรอยยิ้มราวกับเทพธิดาและน้องสาวของเธอที่ยิ้มดั่งตะวันแรกแย้ม

ภาพนั้นดูอ่อนโยนและคนรอบข้างต่างอมยิ้มให้กับภาพที่เห็นสถานที่จัดงานนั้นต่างเต็มไปด้วยบรรยากาศแสนอบอุ่น

◇◆◇

「ขอบคุณมางานเลี้ยงฉลองวันเกิดน้องสาวแสนรักของดิฉันในวันนี้นะคะ อยากให้ทำตัวปกติเหมือนที่เคยเป็นเลยค่ะและขอให้สนุกกับงานวันนี้นะคะ」

งานเลี้ยงเริ่มต้นด้วยคำกล่าวทักทายจากไอริสซึ่งเป็นเจ้าของงาน

โนโซมุนั่งมองพื้นที่รอบๆด้วยความเพลิดเพลินพร้อมกับทานอาหารไปกับพรรคพวก

มีคนมากมายอยู่ล้อมไอริส โซเมีย และ ทิม่า ทุกๆคนกำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข

โซเมียกำลังพูดคุยกับเพื่อนของเธอ แต่เมื่อเห็นโนโซมุเธอก็โบกมือมาทางนี้

「สวัสดีตอนเย็นค่ะ!คุณโนโซมุ」

「สวัสดีตอนเย็นครับ โซเมียจัง สุขสันต์วันเกิดนะครับ」

「ไง」

「ขอบคุณทุกคนนะคะที่มาร่วมงานในวันนี้!」

โซเมียตอบกลับอย่างร่าเริง ดูเหมือนว่าเธอจะมีความสุขดี

「คุณโนโซมุคะ คนตรงนั้นคือใครเหรอคะ?」

โซเมียหันมาสบตากับอิน่าที่อยู่ข้างๆกับมาร์

「ยินดีที่ได้รู้จักน้าาา ฉันชื่อ อิน่า・ดิกเกนส์ เป็นน้องสาวของมาร์น่ะ พอดีว่าโดนคุณไอริสชวนให้เข้าร่วมงานด้วย ยินดีที่ได้รู้จักนะโซมิเลียน่าจัง」

「ค่ะ โซเมียเองค่ะ เรียกแบบนี้ได้ตามสบายเลยนะคะ ไม่ต้องกังวล!」

「เข้าใจแล้วจ้ะ โซเมียจัง」

「ค่าาาา!」

สองคนนั้นเริ่มพูดคุยกันด้วยรอยยิ้ม เป็นการแนะนำตัวเองจากทั้งสองฝ่ายดูท่าจะเข้ากันได้ดี

ตอนนี้เองพวกเธอก็คุยเกี่ยวกับพี่ชายและพี่สาวของพวกเธอ แลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกัน อิน่าเล่าเรื่องความก้าวร้าวของมาร์ให้เธอฟัง ส่วนโซเมียก็มองไปทางมาร์ที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ

มาร์ที่แพ้ภัยน้องสาวตัวเองทำหน้าตาไม่พอใจอยู่ ทิม่าเองก็มาเข้าร่วมวงสนทนากับโซเมียจังด้วย ช่วยเข้ามาหยุดการทะเลาะระหว่างพี่ชายน้องสาวคู่นั้น

โนโซมุเองก็จ้องมองสถานการณ์จากตรงนี้ ไอริสเองก็เข้ามาหาเขา

「นี่ โนโซมุคุง งานเลี้ยงเป็นยังไงบ้างสนุกรึเปล่าคะ?」

「ครับ มีหลายอย่างให้ทำมากเลยล่ะครับ เอ่อนี่ข้าควรจะไปหยุดพวกเขาดีไหม?」

「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มาร์กับเธอคนนั้นทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติสินะคะ โซเมียเองก็ดูท่าทางสนุกอยู่ด้วย ทิม่าเองก็ดูจะลำบากหน่อยๆ แต่ว่าบางครั้งก็มีด้านดีๆให้เห็นบ้างค่ะ」

เธอพูดออกมาอย่างมีความสุขและหัวเราะคิกคัก รูปร่างหน้าตาที่เหมาะสมกับวัยทำตัวน่ารักเหมือนกับอดีตแฟนของข้า แต่สำหรับเธอคนนี้แล้วรอยยิ้มนั่นดูน่าดึงดูดยิ่งนัก

「(สวยเกินไปแล้ว)!」

「?มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอคะ?」

「ปะเปล่าไม่มีอะไรครับ!」

「?แน่ใจนะคะ?」

โนโซมุรู้สึกเขินที่เห็นรอยยิ้มของเธอใกล้ๆเช่นนี้

ไอริสพยายามเข้าใกล้โนโซมุที่ทำท่าทางแปลกๆ มันยิ่งทำให้หัวใจของโนโซมุเต้นแรงมากขึ้นไปอีก

「ยังไงก็ตามยังไม่ได้ขอบคุณเลยนะคะ」

「ขอบคุณงั้นเหรอครับ?」

โนโซมุงงกับคำพูดของไอริสที่บอกว่าจะต้องขอบคุณโนโซมุ

「แม่ของพวกเราหลังจากให้กำเนิดโซเมียมาก็เสียไปค่ะ….นั่นเป็นเหตุผลที่ดิฉันพยายามทำตัวเป็นแม่ของโซเมียไม่ให้เธอต้องเหงา………ฉันเองก็ได้แต่สงสัยค่ะ ว่าโซเมียเธอจะคิดถึงแม่จริงๆของเธอบ้างรึเปล่าหรือว่าโซเมียต้องรู้สึกเศร้าทุกครั้งที่วันเกิดของเธอใกล้เข้ามาค่ะ」

โนโซมุรับฟังเรื่องราวของเธอ

โนโซมุไม่รู้เลยว่าแม่ของเธอเสียชีวิตไปแล้ว

「แต่ว่าสำหรับคราวนี้มันไม่ใช่แบบแต่ก่อนแล้วคะ ฉันคิดว่าเป็นเพราะโซเมียได้พบกับคุณ โซเมียมักจะเล่าเรื่องของคุณให้ฟังอยู่เสมอว่าเธอพบเจอกับพี่ชายคนหนึ่งที่ทำตัวแปลกๆ」

「ยังงั้นเองเหรอครับ」

เมื่อมองไปทางโซเมียดูเหมือนว่าเธอพยายามจะหยุดการทะเลาะกันระหว่างมาร์และอิน่า ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากลำบาก และไม่น่าอภิรมณ์นักแต่เธอก็ยิ้มออกมาจากใจจริง

「ชักไปกันใหญ่แล้วนะคะ!พี่คะ!คุณโนโซมุ!ได้โปรดช่วยหยุดสถานการณ์ตรงนี้ทีนะคะーーーー」

ไอริสกับโนโซมุหัวเราะออกมาขณะที่มองโซเมียพยายามห้ามทั้งสองคน

「เอาล่ะ ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงจะเรียกให้ไปช่วยแล้วนะคะ」

「อะเอ่อ ถ้างั้นข้าจะไปหยุดมาร์ให้นะครับ」

ทั้งสองพยักหน้าให้กันและรีบวิ่งไป

◇◆◇

ณ ประตูหลักของคฤหาสน์ตระกูลฟรานซิส มีชายชราที่สวมชุดพ่อบ้านอยู่ ณ ที่ตรงนั้นเขากดกริ่งและมีเมดสาวที่เคยขับไล่พวกโนโซมุออกไปรับ

「ค่าาาา ไม่ทราบว่าใครงั้นเหรอคะ?」

「กระผมต้องขอโทษด้วยนะครับ จุดประสงค์หลักที่กระผมมาที่นี่เพราะเป็นตัวแทนงานในคืนนี้ครับ?」

「ต้องขออภัยด้วยนะคะ วันนี้มีการจัดงานเลี้ยงวันเกิดของน้องสาวคุณหนู ไม่อนุญาตให้มีตัวแทนเข้าไปในงานนะคะ หากมีคำถามใดๆก็ให้ถามได้เลยค่ะ ฉันจะเอาไปบอกคุณหนูให้ ดังนั้นขออภัยด้วยนะคะ?」

เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้คือไอริส ดิน่า เมดคนนั้นเห็นชายชราคนนั้นแต่งตัวสุภาพก็เลยตอบกลับไปแบบสุภาพ แต่ว่ามีอะไรแปลกๆ

เขาถามอะไรต่างๆมากมายถึงข้อกำหนดในการเข้างานนี้ แต่ว่าก็บอกไปหมดแล้วแต่ว่าชายชราคนนี้กลับไม่ยอมแพ้

ชายชราคนนั้นขอให้เธอเรียกคุณหนูของเธอออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ยอม

「อืม ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้นะขอรับ…………」

ในที่สุดชายชราคนนั้นก็ถอนหายใจออกมา ถอดเสื้อคลุมนอกชุดพ่อบ้านออกและดีดนิ้วขวา

ทันใดนั้นเองเมดคนนั้นก็ล้มลงอยู่ ณ ที่แห่งนั้น

「ต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่ว่านี่ก็เพราะเป็นความต้องการของนายท่าน」

ชายชราคนนั้นรับตัวสาวใช้แล้วรีบพาเธอไปวางไว้ตรงประตูรั้วแล้วใช้ดีดนิ้วขวาขึ้นกลางอากาศ

ตอนนั้นเองก็มีวงเวทย์จตุรัสขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่เท้าของชายชราคนนั้นและพลังเวทมนตร์ก็ปกคลุมทั่วทั้งคฤหาสน์

◇◆◇

เวลาแห่งความสนุกสนานได้ผ่านไปและงานเลี้ยงก็จบลง เหล่าคนใช้ก็เริ่มมาทำความสะอาด

อย่างไรก็ตามสำหรับโนโซมุยังคงรอโซเมียเพราะยังไม่เสร็จธุระกับเธอ

「ขอบคุณที่รอนะคะทุกท่าน!」

โซเมียพุ่งเข้าไปหาโนโซมุและเหล่าเพื่อนๆของเขา ด้านหลังนั้นมีไอริสและคนอื่นๆ

โนโซมุที่รออยู่นั้นเพราะจะให้ของขวัญแก่โซเมียจัง

คนอื่นๆก็ทยอยให้ของขวัญในงานเลี้ยงแต่ว่าโนโซมุหาโอกาสไม่ได้สักที

อย่างไรก็ตามการทะเลาะระหว่างมาร์และอิน่าก็เป็นโนโซมุที่ทำหน้าที่เป็นคนหยุดไว้ เพราะทั้งสองคนทำให้โนโซมุพลาดโอกาสที่จะให้ของขวัญ

โซเมียมองมาที่ข้าด้วยความตื่นเต้นราวกับลุ้นอยู่ว่าข้าจะให้อะไร

ตอนนั้นเองข้าก็หัวเราะออกมาพร้อมกับจะหยิบของขวัญออกมา

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาประตูห้องงานเลี้ยงก็ถูกเปิดออกและมีเสียงดีดนิ้วเข้ามาพร้อมกับชายชราคนหนึ่งจากทางเข้า

ชายชราคนนั้นสวมชุดพ่อบ้านสีดำมีผมสีเงินมัดไว้ด้านหลังและมีดวงตาสีแดงสวมแว่นข้างเดียว

ไอริสมองไปทางชายคนนั้นพร้อมกับขมวดคิ้วทันที ทั้งไอริสและโนโซมุต่างไม่เคยเห็นคนๆนี้ในงานเลี้ยงเลย เห็นได้ชัดว่าเป็นคนนอก

「นายเป็นใคร?ฉันจำไม่เห็นได้เลยว่าเคยชวนคนแบบนายมาด้วย」

「ต้องขอโทษด้วยที่กระผมมารบกวนพวกท่าน ที่จริงคือมีข้อความจากนายท่านของข้ามาฝากถึงคนในคฤหาสน์แห่งนี้…กระผมมาที่นี่ในฐานะตัวแทนของท่านรูกาโต้ เป็นพ่อบ้านของตระกูลวาเซียร์ตแห่งจักรวรรดิดิซาร์ต คุณผู้หญิงทางนี้น่าจะเป็นท่านไอริสดิน่า กับ คุณหนูโซมิเลียน่าสินะครับ?」

ไอริสถามเขาด้วยท่าทางเกร็งๆ เขาคนนั้นโค้งคำนับให้กับไอริสและยิ้มที่มุมปาก

「จักรวรรดิดิซาร์ต…ที่อยู่ทางตะวนตกเฉียงเหนือของทวีป……」

โนโซมุบ่นพึมพำ

「……แน่นอน ดิฉันเป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ไอริสดิน่า・ฟรานซิส ส่วนเด็กคนนี้คือน้องสาวของฉันเองนามว่า โซมิเลียน่า แล้วคนของรูกาโต้มาทำอะไรที่แห่งนี้ล่ะ?」

「จุดประสงค์ที่กระผมมาที่นี่ก็เพื่อที่จะเอาสมบัติที่คุณยืมไปจากตระกูลฟรานซิสมาคืนให้ครับ สมบัติที่ชื่อว่า “เตาหลอมจิตวิญญาณแห่งเปลวเพลิง”」

「เตาหลอมวิญญาณ?」

เห็นได้ชัดว่าไอริสเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสมบัติชิ้นนั้น

「ครับนี่เป็นสมบัติที่จะ “รับวิญญาณของผู้อื่นเข้ามาในเตาหลอมและแปรเปลี่ยนเป็นพลังให้แก่ผู้ใช้งาน” มันเป็นของตระกูลอูราเซียร์ตที่ข้าเคยรับใช้ แต่เดิมแล้ว…ดูเหมือนว่าเตาหลอมวิญญาณนี่จะหลอมรวมกับจิตวิญญาณของคุณหนูโซมิเลียน่าแล้วล่ะครับ เพราะฉะนั้นกระผมเลยเอามาคืน」

「ว่าไงนะ!!」

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกใจ

ตามเรื่องราวของรูกาโต้แล้ว จิตวิญญาณของโซเมียได้หลอมรวมเข้ากับเตาหลอมจิตวิญญาณแห่งเปลวเพลิง และเขาบอกว่าเขาจะมาเอาสิ่งนั้นคืน

「ถ้างั้นละก็มาทำตามสัญญาเถอะครับ」

「รอเดี๋ยว!!」

ไอริสพยายามเรียกร้องให้คนของรูกาโต้หยุดแต่ว่าพลังเวทย์จำนวนมากก็ไหลไปทั่วคฤหาสน์แล้ว

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน