ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 321 ลูกคนที่ห้าเคลื่อนไหว

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 321 ลูกคนที่ห้าเคลื่อนไหว

ตอนที่ 321 ลูกคนที่ห้าเคลื่อนไหว

ไม่กี่วันที่ผ่านมา ทุกคนในตำหนักอ๋องซู่รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ ทั้งหมดต่างรอคอยเฉียวเยี่ยนคลอดลูก

มู่ฉินเจินไม่ไปว่าราชกิจตอนเช้าเลยด้วยซ้ำ และนำงานราชการกลับมาทำที่บ้าน ให้ภรรยาอยู่ในสายตาเขาทุกวัน ด้วยกลัวว่าหากเขาไม่อยู่ ทารกในท้องภรรยาจะโผล่ออกมา

หมอตำแยที่มีประสบการณ์ หมอหลวงที่เก่งที่สุดในโรงหมอหลวงต่างถูกมู่ฉินเจินเชิญมาในตำหนัก ขอแค่เฉียวเยี่ยนมีความเคลื่อนไหว พวกเขาก็สามารถเข้ารับมือได้ทันที

ซูเนี่ยนหว่านเองก็มาอยู่กับลูกสาวที่ตำหนักองค์รัชทายาท เมื่อมองท้องนูนป่องเป็นพิเศษนั้น ก็รู้สึกกังวลจนพูดไม่ออก

เสี่ยวเยี่ยนมีความอยากอาหารมากตอนท้อง กลัวว่าจะเลี้ยงทารกในท้องของนางใหญ่เกินไป ถึงตอนนั้นจะคลอดออกมายาก อีกทั้งนางยังกังวลว่าครั้งนี้ลูกสาวจะท้องลูกแฝดอีกครั้ง ฝาแฝดหาใช่จะคลอดออกมาได้ง่ายๆ

เสื้อผ้า ผ้ารองปัสสาวะของลูกน้อยในท้องที่ยังไม่ออกมาถูกเย็บเรียบร้อยหมดแล้ว ใส่ลงในน้ำยาต้มในน้ำร้อนอุณหภูมิสูง แล้วเอาไปตากแดด เสร็จแล้วก็พับเก็บเป็นชั้นๆ ให้เรียบร้อย

ความจริงเฉียวเยี่ยนเตรียมผ้าอ้อมให้ลูกของนางแล้ว ตอนนี้คนในครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุดรู้ตัวตนของนางแล้ว ดังนั้นหากนำมาใช้ก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น

ทว่าเวลาพาลูกไปเที่ยวนอกบ้าน คงเลี่ยงเตรียมผ้าอ้อมเหล่านี้ไว้ไม่ได้

ช่วงปลายเดือนสิบไม่กี่วันที่มา มู่ฉินเจินรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าทุกวัน และให้ความสนใจกับสถานการณ์ของเฉียวเยี่ยนตลอดเวลา แม้กระทั่งการเข้านอนตอนกลางคืนก็รู้สึกตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ

เฉียวเยี่ยนเห็นท่าทางตื่นเต้นของเขา ทั้งรู้สึกขบขัน ทั้งทำอะไรไม่ถูก เหตุใดถึงดูเหมือนว่าเขากำลังจะคลอดลูกเลย!

จากประสบการณ์การคลอดลูกคนแรกของนาง ครั้งนี้เฉียวเยี่ยนไม่รู้สึกประหม่าเลย อีกอย่างระบบตัวน้อยได้ตรวจร่างกายให้นางแล้ว นางกับเด็กในท้องมีสุขภาพแข็งแรงดี จะต้องคลอดออกมาได้อย่างราบรื่นแน่

ทั่วทั้งตำหนักต่างตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ทว่าจวบจนสิ้นสุดปลายเดือนสิบ ทารถน้อยไม่มีวี่แววว่าจะออกมาเลย

ลูกทั้งสี่ที่เฝ้ารอน้องชายหรือน้องสาวออกมาเล่นกับพวกเขาเร็วๆ ทุกวัน ครั้นเห็นเด็กน้อยไม่ยอมออกมาเสียที พวกเขาจึงไปหามารดาพยายามเกลี้ยกล่อมทารกในท้องด้วยความกระวนกระวายใจทุกวัน

รีบออกมาสิ ออกมาแล้วเราก็จะได้เล่นด้วยกัน พวกเรายังเตรียมของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไว้ให้เจ้าด้วย หากยังไม่ออกมาอีก ก็ไม่มีของขวัญแล้วนะ

พวกเด็กๆ ผลัดกันเอ่ยคำท้า และให้เหตุผลกับน้องชายหรือน้องสาวในท้องมารดา บางทีทารกในท้องอาจรับรู้ถึงเสียงเรียกของพวกพี่น้อง ในที่สุดก็เริ่มขยับในเช้าตรู่ของวันที่หนึ่งเดือนสิบเอ็ด

ตอนเช้าเฉียวเยี่ยนตื่นขึ้นมา ถูกมู่ฉินเจินล้างหน้าบ้วนปาก สวมเสื้อผ้าให้ จากนั้นก็นั่งลงที่โต๊ะรับประทานอาหารเช้า

หลังจากกินซาลาเปาลูกเล็กสี่ลูก นมถั่วเหลืองชามใหญ่ และแป้งย่างครึ่งแผ่นลงท้องไป เฉียวเยี่ยนรู้สึกเพียงว่าท้องของนางอบอุ่นและสบายสุดๆ

หลังจากกินอิ่มแล้ว มู่ฉินเจินก็พยุงนางเดินเล่นในสวนอย่างช้าๆ ทว่ายังไม่ทันไปได้ไกลมากนัก เฉียวเยี่ยนรู้สึกได้ถึงความร้อนตรงช่วงล่าง และน้ำบางอย่างก็ไหลลงมา

นางชะงักเท้า เอามือกุมท้อง แล้วรีบคว้ามู่ฉินเจินไว้

มู่ฉินเจินเห็นสีหน้าจริงจังของนาง เส้นประสาทในหัวเขาก็ตึงขึ้นทันที

“เป็นอะไรหรือ? ปวดท้องหรือเปล่า? หรือไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

เฉียวเยี่ยนยิ้มบางเบา และตบมือเขา”ไม่ต้องกังวล แค่น้ำคร่ำแตก และเจ้าตัวน้อยกำลังจะออกมาแล้ว”

มู่ฉินเจินได้ยินดังนี้จะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดทันที พลางมองไปที่ช่วงล่างของเฉียวเยี่ยน ก็พบว่ากระโปรงของนางเปียกเป็นวงกว้าง

เมื่อนึกถึงวิธีการรับมือเหตุฉุกเฉินจำลองมานับครั้งไม่ถ้วน เขาก็ก้มลง พร้อมอุ้มภรรยากลับเข้าไปในห้องทันที

เฉียวเยี่ยนหยุดเขาไว้ และเอ่ยปลอบ “ตอนนี้ข้าแค่น้ำคร่ำแตก ยังไม่เจ็บท้องคลอด ข้าจะเดินกลับจากสวนไป มันจะช่วยให้คลอดง่ายขึ้น ท่านไปบอกพวกหมอตำแยกับหมอหลวงให้เตรียมตัวให้พร้อมก่อน”

มู่ฉินเจินฟังคำพูดของนาง อาการลนลานตึงเครียดของเขาก็สงบลงไปไม่น้อย เขาตะโกนเรียกฮุ่ยเซียง ให้นางไปแจ้งหมอตำแยกับหมอหลวง

เมื่อรู้ว่าไท่จื่อเฟยกำลังจะคลอดแล้ว ทั่วทั้งตำหนักต่างก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ในห้องครัวกำลังต้มน้ำ ในขณะที่หมอตำแยกับหมอหลวงเตรียมอุปกรณ์การคลอด และวัสดุยาต่างๆ สำหรับเหตุฉุกเฉิน

เฉียวเยี่ยนให้คนจัดห้องคลอดไว้ห้องหนึ่งอยู่ในเรือนจิ่งเสวียน เมื่อจะคลอดลูกก็ตรงเข้าไปในห้องคลอดได้เลย รอคลอดเสร็จค่อยกลับเข้าไปในห้องนอน แบบนี้กลิ่นคาวเลือดที่เกิดขึ้นระหว่างการคลอดจะไม่ส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนของผู้คน

ทั่วทั้งตำหนักวุ่นกันขึ้นมา ซูเนี่ยนหว่านไปห้องครัวตุ๋นน้ำแกงไก่ใส่โสมให้เฉียวเยี่ยน และยังคีบขาไก่ใหญ่มาให้นางสองขา ตอนนี้ต้องกินให้อิ่ม กินอิ่มแล้วถึงจะมีแรงคลอดลูก

อากาศเดือนสิบเอ็ดในเมืองหลวงหนาวมากแล้ว กระโปรงช่วงล่างของเฉียวเยี่ยนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำคร่ำ หากไม่เข้าไปในห้อง อีกเดี๋ยวคงได้แข็งเป็นน้ำแข็งแน่

มู่ฉินเจินพยุงนางเข้าไปในห้องโรงงาน ในห้องโรงงานมีความความร้อนใต้พื้นพิภพ ทำให้อบอุ่นมาก

ตอนนี้ท้องของเฉียวเยี่ยนเริ่มเจ็บเล็กน้อย และค่อยๆ เจ็บปวดขึ้น ทว่าก็ไม่ส่งผลกระทบต่อนางมากนัก นางยังขอให้มู่ฉินเจินพยุงนางเดินไปมาในห้องโรงงานด้วย

หมอตำแยเองก็เห็นด้วยกับแนวคิดของนาง ออกกำลังกายให้พอเหมาะก่อนคลอดบุตร จะช่วยเหลือในการคลอดได้

สักพักหนึ่ง อาการปวดก็ทวีความรุนแรงขึ้น จุดปวดก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นบีบอัดขึ้นมา พร้อมด้วยความรู้สึกตึงรั้งเล็กน้อยที่ท้องและช่วงล่าง

ท้องยิ่งปวดมากขึ้นเรื่อยๆ หน้าผากของเฉียวเยี่ยนผุดเหงื่อออกมา สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด ฝ่ามือของมู่ฉินเจินที่พยุงเฉียวเยี่ยนก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ในเวลานี้เขาตึงเครียดมาก ตึงเครียดกว่าเฉียวเยี่ยนที่ตั้งครรภ์อีก

ซูเนี่ยนหว่านยกน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมชามใหญ่เข้ามา แม้จะไม่หิว แต่เฉียวเยี่ยนก็ดื่มน้ำแกงชามใหญ่จนหมด และยังกินน่องไก่อีกหนึ่งน่องไปด้วย

หลังจากกินอิ่มดื่มพอแล้ว นางก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยท่าทางเจ็บปวดอย่างยิ่ง

ปากมดลูกยังไม่ขยายเต็มที่ ยังมีเวลาอีกระยะก่อนที่ทารกจะคลอดออกมา

มู่ฉินเจินในเวลานี้เฝ้าอยู่หน้าเตียงเหมือนกับเสาไม้ ดวงตาทั้งคู่เลื่อนลอย

เฉียวเยี่ยนยกมือขึ้นกุมมือเขา และรู้สึกถึงความชื้นที่ฝ่ามือ ก่อนปลอบเขาอย่างอ่อนโยน “ข้าไม่เป็นไรจริงๆ อย่ากังวลไปเลย ท่านออกไปรออยู่ข้างนอก อีกเดี๋ยวทารกก็ออกมาแล้ว”

มู่ฉินเจินส่ายหัว เขาไม่อยากออกไป เขาจะอยู่กับนาง

เฉียวเยี่ยนถอนหายใจเล็กน้อย ว่ากันว่าภาพผู้หญิงคลอดลูกนั้นน่าเวทนาเกินไป เมื่อก่อนมีสามีอยู่เป็นเพื่อนคลอดไปด้วย หลังจากได้เห็นภาพนั้น ก็มีเงามืดก่อเกิดขึ้นในจิตใจ และความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาก็มาถึงจุดสิ้นสุด

แม้นางจะแน่ใจว่าสามีของตนจะไม่เป็นคนชั่วเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นว่าเขาประหม่าเช่นนี้ ก็ยังอยากให้เขาออกไป

หมอตำแยเคยทำคลอดให้ฮูหยินหลายคน ย่อมรู้ว่าฮูหยินเหล่านี้คิดอะไรอยู่ นางจึงรีบผลักมู่ฉินเจินออกไปข้างนอก

“ไอหยา องค์รัชทายาท พระองค์อยู่ที่นี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทั้งยังจะหันเหความสนใจของไท่จื่อเฟยอีก เชิญพระองค์ออกไปก่อน อย่าก่อกวนอยู่ที่นี่เลยเพคะ”

มู่ฉินเจินไม่ขยับเขยื้อนไปไหน สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ภรรยา

เฉียวเยี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย น้ำเสียงดูอ่อนแรง “ใช่ ท่านอยู่ที่นี่ข้าปล่อยวางไม่ได้ แถมยังเบี่ยงเบนความสนใจของข้าอีก เด็กดี ออกไปก่อน”

มู่ฉินเจินกำหมัดแน่น อยากที่จะอยู่ที่นี่ต่อ แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเจ้าท่อนไม้ เขาก็ทำได้เพียงออกจากห้องไป

เขายืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง จ้องมองประตูที่ปิดสนิท และรอด้วยความร้อนรุ่มใจ

เฉียวจิ่นกับเว่ยอวิ๋นซูรีบมาหา เว่ยอวิ๋นซูเป็นเจ้าสาวมือใหม่ ไม่สามารถทำคลอดได้ จึงไม่เข้าไปก่อกวน และยืนรออยู่หน้าประตูพร้อมกับเฉียวจิ่น

เฉียวจิ่นเห็นสีหน้าเหม่อลอยของน้องเขย ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเดินไปหาเขา และยกมือขึ้นตบไหล่เขาเบาๆ

เขากำลังจะเอ่ยปลอบอีกฝ่าย แต่กลับไม่คิดเลยว่าน้องเขยที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่มาเสมอ กลับซวนเซไปสองก้าวเมื่อถูกเขาตบไหล่เบาๆ และเกือบจะล้มลงไปกับพื้น

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

การคลอดเป็นเรื่องยิ่งใหญ่จริงๆ ไม่มีเรื่องไหนเจ็บปวดมากเท่าคลอดลูกอีกแล้ว

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท