ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 345 โตวตางปู้ (ผ้าเตี่ยว)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 345 โตวตางปู้ (ผ้าเตี่ยว)

ตอนที่ 345 โตวตางปู้ (ผ้าเตี่ยว)

ผลลัพธ์ที่พวกชาวตงอิ๋งหกคนด่าคือถูกหวังสยงอันจัดการไปยกหนึ่ง จากนั้นก็ยึดแป้งย่างเย็นชืดแข็งโป๊กไว้ ให้พวกเขาหิวตายไปเลย

ถึงอย่างไรการอดอาหารไปเพียงมื้อเดียวก็ไม่ทำให้คนตายหรอก จะได้ประหยัดอาหาร ไม่ให้พวกเขากินอิ่มมีแรงขัดขืน!

มู่ฉินเจินนั่งอยู่ข้างกองไฟอยู่ไม่ไกลนัก ในมือถือจดหมายที่ภรรยากับลูกๆ เขียนถึงเขา อ่านแล้วอ่านอีก

บนซองจดหมายที่เฉียวเยี่ยนส่งให้เขายังคงมีรูปการ์ตูนของคนสองคนยู่ปากและมีหัวใจดวงน้อยๆ ลอยออกมา ส่งจุ๊บให้อีกฝ่าย

ทุกครั้งที่นางเขียนจดหมายถึงเขา บนซองจดหมายจะมีสิ่งเล็กๆ น่ารักแบบนี้ติดอยู่เสมอ และทุกฉบับก็ต่างก็ไม่เหมือนกัน

หลังจากอ่านจดหมายจบ เขาก็เก็บมันไว้ในอกเสื้อราวกับเป็นสมบัติ รอกลับไปเมืองหลวงค่อยเก็บใส่ไว้ในกล่องสะสม

เกาจัวหยวนกับองครักษ์คนอื่นๆ ยืนอยู่ตรงข้ามกับมู่ฉินเจิน และส่งสายตาให้กัน สื่อสารกันอย่างลับๆ

ดูสิ เจ้านายของพวกเขาคิดถึงบ้านอีกแล้ว อ่านจดหมายฉบับนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งที่พักเป็นต้องหยิบออกมาอ่าน สีหน้านั้นช่างดูสุขสมหวังนัก

ไม่รู้ว่าไท่จื่อเฟยเขียนจดหมายมาว่าอย่างไร ถึงทำให้คนผู้นี้มีความสุขได้ขนาดนี้

พวกเขากำลังคิดว่า หากเจ้านายของพวกเขาทำจดหมายนี้หาย เขาจะร้องไห้ออกมาหรือเปล่า?

ก็อาจจะเป็นไปได้ ถึงอย่างไรนายท่านก็ไม่ใช่คนหน้าตายที่ควบคุมสถานการณ์อีกต่อไป ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนติดเมีย!

เห็นเช่นนี้ พวกเขาก็พลอยคิดถึงภรรยาไปด้วย น่าเสียดายที่ภรรยาเขียนจดหมายไม่เป็น และมิอาจหาคนส่งข้อความมาให้พวกเขาได้ จึงทำได้แต่คิดถึงเท่านั้น

ส่วนเกาจัวหยวนที่เพิ่งมีความสัมพันธ์กับหลันหนิงนิดหน่อย จะกล้าคาดหวังว่าหลันหนิงจะเขียนจดหมายถึงเขาได้อย่างไร เพียงแค่หวังว่ากลับไปครั้งนี้จะไม่โดนนางดึงหูบ่อย เท่านี้เขาก็มีความสุขมากแล้ว

ท้องฟ้าเริ่มมืดไปตามเวลา ข้างนอกเริ่มเงียบสงบลง

หวังสยงอันจัดทีมลาดตระเวนเสร็จ พวกทหารก็ผลัดกันพักผ่อน แต่แม้ว่าจะพักผ่อน ก็ยังคงสวมชุดเกราะ และเก็บอาวุธไว้ไม่ห่างมือ เพียงแค่มีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย พวกเขาจะลุกขึ้นต่อสู้ทันที

มู่ฉินเจินรู้สึกว่าคืนนี้จะไม่สงบ เพราะมันเงียบมาสองวันแล้วตั้งแต่การดักฆ่าครั้งก่อน พรรคพวกของคนตงอิ๋งพวกนี้คงไม่ปล่อยพวกเขาจับคนของตัวเองไปเมืองหลวงแน่นอน และคนที่แอบติดต่อกับพวกตงอิ๋งลับๆ คงไม่มีทางไม่ลงมือทำอะไรเด็ดขาด

เป็นอย่างที่คิดไว้ ราวๆ ยามโฉ่ว ป่าไม้อันเงียบสงบก็เกิดการเคลื่อนไหวขึ้น นกที่เกาะอยู่บนต้นไม้ต่างตกใจบินหนี บรรดาม้าก็ร้องเสียงดังลั่นด้วยความตกใจ

หน่วยลาดตระเวนเคาะฆ้องดังขึ้น พวกทหารที่พักผ่อนทั้งหมดตื่นตัวขึ้นมาทันใด พร้อมรับมือกับศัตรูอีกระลอก

ผู้มาเยือนครั้งนี้ยังคงสวมชุดสีดำ แต่มู่ฉินเจินสังเกตเห็นว่าดาบในมือของพวกเขาดูแปลกไป ดาบของนักรบชาวตงอิ๋งล้วนดูต่างจากกระบี่และดาบใหญ่ที่พวกเขาใช้กันทั่วไป

กลุ่มศัตรูที่เข้ามาดักฆ่าก่อนหน้านี้ล้วนมีดาบนักรบตงอิ๋งอยู่ในมือ ทว่าวันนี้พวกเขาใช้ดาบใหญ่ที่พบเห็นได้ทั่วไปในเทียนลี่ แถมยังมีบางคนถือกระบี่

หรือมีคนกำลังพยายามทำให้สับสน?

เมื่อทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากัน ในไม่ช้าก็จะเริ่มทำศึกกันขึ้นมา

มู่ฉินเจินชักกระบี่ยาวของตัวเองออกมา เล็งคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจากอีกฝ่าย ถือกระบี่พุ่งเข้าไปปะทะ จัดการมือสังหาร อีกฝ่ายถูกรุกโรมรันจนล่าถอยไป

แม้จะเปลี่ยนดาบ ทว่ากระบวนท่าของบางคนในนั้นกลับไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นคนตงอิ๋ง และในกลุ่มคนนี้มีคนจากเทียนลี่ปะปนอยู่ด้วย

ดูเหมือนว่าจะมีคนสมรู้ร่วมคิดกับพวกเลวนี้จริงๆ !

อีกฝ่ายมากันสี่สิบกว่าคน ซึ่งต่างก็เป็นนักรบยอดฝีมือทั้งนั้น พวกทหารฝ่ายมู่ฉินเจินกว่าหลายร้อยนายต่อสู้กับอีกฝ่ายอย่างดุเดือด และมีทหารล้มตายจำนวนไม่น้อย แต่พวกเขายังคงปกป้องรถคุมนักโทษทั้งหกอย่างสุดกำลัง

ดวงตาทุกคนแดงฉานด้วยไอสังหาร กระบี่ในมือยังคงกวัดแกว่งไปที่ร่างของอีกฝ่ายไม่หยุด เลือดสาดกระเซ็นเป็นสาย ร่างศพล้มลงไปทีละคน ต้นไม้น้อยใหญ่ในป่าคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นคาวรุนแรง

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี ชายชุดดำที่เหลือเตรียมจะหลบหนี ทว่ามู่ฉินเจินไม่ให้โอกาสพวกเขา กระโดดลอยตัวเบาๆ ไปขวางทางพวกเขาเอาไว้ คนที่เหลือวิ่งมาล้อมรอบทันที ขังพวกเขาไว้ในวงล้อมนั้น

พวกชุดดำที่ไร้ทางหนีทีไล่เตรียมจะฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพิษ แต่มู่ฉินเจินได้เดาว่าพวกเขาจะใช้วิธีนี้ก่อนแล้ว

เขาโบกมือ เกาจัวหยวนกับองครักษ์สองสามคนพุ่งเข้าไปควบคุมอีกฝ่ายไว้ทันที และยัดก้อนที่ไม่รู้จักในมือเข้าปากพวกเขาไป

มือถูกหักไปข้างหลัง ชายชุดดำร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด ทว่าปากถูกอุดไว้ เสียงที่เปล่งออกมาจึงมีแต่อือๆ อาๆ

หลังจากได้สติกลับมา ก็พบว่าสิ่งที่อุดอยู่ในปากนั้น มีกลิ่นฉุนรุนแรงชวนเวียนหัวเลยทีเดียว

ทั้งเค็มทั้งเหม็น ไฉนถึงมีกลิ่นเหม็นปลาเค็ม? ทั้งยังมีกลิ่นเหม็นเหงื่อด้วย!

ไอ้ของสิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่? คงไม่ใช่ถุงเท้าหรอกใช่ไหม?

เกาจัวหยวนให้คนนำเชือกมามัดพวกเขาอย่างแน่นหนา ก่อนตบหน้าพวกเขาอย่างสนุกสนาน “เป็นอย่างไร? ถุงเท้าอาวุธลับของพวกข้ารสชาติไม่เลวใช่หรือไม่?”

“นี่ใส่เดินทางมาสองวันถึงจะถอดออกมา ตั้งใจไม่ซักโดยเฉพาะเพื่อเก็บไว้ให้พวกเจ้าเลยนะ ค่อยๆ ลิ้มรสไป”

เดิมคิดว่าคนตงอิ๋งกลุ่มนี้ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด แต่ไม่คิดเลยว่าเมื่อเขาพูดจบ ก็มีคนพ่นคายออกมาทันที

ทว่าปากถูกอุดไว้แน่นมาก จึงพ่นคายของออกมาไม่ได้ กลั้นเอาไว้จนหน้าแดงก่ำ และถึงกับตาเหลือกขาวขึ้นมา

เกาจัวหยวนสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ จึงเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เอ๊ะ ดูเหมือนไอ้สารเลวพวกนี้จะเข้าใจที่ข้าพูด! หรือพวกมันไม่ใช่คนตงอิ๋ง?”

มู่ฉินเจินมีความคิดอยู่ในใจนานแล้ว จึงเอ่ยสั่ง “ถอดกางเกงพวกมันออก”

คำสั่งนี้ทำให้ทหารทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง

นี่…

องค์รัชทายาทเปลี่ยนรสนิยมไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

เกาจัวหยวนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ท่าทางตกตะลึงที่ค้นพบความลับอันน่าตกใจนั้น กำลังคิดอยู่ว่าไม่สู้กลับไปฟ้องไท่จื่อเฟย และเปิดโปงเจ้านายพวกเขาว่าบังคับให้ผู้อื่นถอดกางเกงอยู่ข้างนอกดีกว่า!

เมื่อมู่ฉินเจินเห็นท่าทางนั้นของเขาก็รู้แล้วว่าเขาคิดอะไรไม่ดีอยู่ จึงยกเท้าขึ้นถีบผางไปที่บั้นท้าย จนเกาจัวหยวนเกือบล้มหัวคะมำกับพื้น

เขากุมก้นกำลังจะบ่น เห็นสีหน้าเคร่งขรึมของนายตัวเอง ก็ทำท่าหุบปากแน่นสนิททันที ไม่กล้าส่งเสียงอันใดอีก

เขาทำตามคำสั่ง ถอดกางเกงพวกนักโทษออก เผยให้เห็นต้นขาเปลือยเปล่าหลายคู่

สายตาของทุกคนต่างจดจ้องผ้าอ้อมที่เชลยบางคนสวมใส่

นี่ใส่อะไรกันเนี่ย? โตขนาดนี้แล้วยังใส่โตวตางปู้[1]อีก?

มุมปากของมู่ฉินเจินหยักยิ้มเย้ยหยัน ภาพตรงหน้ายืนยันการคาดเดาของเขาแล้ว

ในกลุ่มคนเหล่านี้ มีทั้งคนตงอิ๋ง และคนของเทียนลี่ ซึ่งสามารถแยกความแตกต่างได้จากโตวตางปู้

ในจดหมายที่อาเยี่ยนส่งมาบอกว่า กางเกงชั้นในของชาวตงอิ๋งแตกต่างจากของเทียนลี่ กางเกงชั้นในของพวกเขาเรียกว่าฟุนโดชิ[2] ซึ่งคล้ายกับโตวตางปู้ ในสงครามที่โลกเดิมของนางได้มีบางคนแยกแยะศัตรูและมิตรจากกางเกงชั้นในที่ใส่

ครั้งนี้มีนักโทษที่จับได้สิบสองคน ในบรรดานั้นสวมโตวตางปู้อยู่ห้าคน ที่เหลือสวมกางเกงซับในหมด

ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายได้ร่วมมือกันแล้ว จึงกันไม่ให้พวกเขากลับเมืองหลวง และปลิดชีวิตเขาที่นี่

แต่อย่างไรเขาไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายสมหวังแน่ ไอ้พวกที่เรียกว่านักรบตงอิ๋งเหล่านี้เก่งแต่ร้องเอะอะ ไอ้พวกนินจาก็มีแผนชั่วร้ายลับๆ อยู่มาก ดูดีทว่าใช้ไม่ได้ มาหนึ่งคนเขาก็จะฆ่าหนึ่งคน!

รุ่งเช้า คนกลุ่มหนึ่งได้ออกเดินทางต่อ

พื้นที่ในรถคุมนักโทษมีจำกัด ไม่สามารถรองรับนักโทษจำนวนมากได้ บรรดาพวกที่ถูกจับเมื่อวานต่างถูกมัดเป็นตั๊กแตนเดินอยู่หลังรถคุมนักโทษ และให้ทหารคุมตัวเดินไป

เมื่อเทียบกันแล้ว นักโทษที่นั่งอยู่ในรถคุมนักโทษต่างบังเกิดความรู้สึกปิติยินดีเล็กน้อย โชคดีที่พวกเขามีรถให้นั่ง หากเดินไปจนถึงเมืองหลวง เท้าคงได้ขาดพอดี

เพื่อป้องกันนักโทษฆ่าตัวตายระหว่างทาง จึงปิดปากพวกเขาไว้ตลอดทาง จะเปิดเฉพาะตอนกินข้าวเท่านั้น ถึงมีทหารฝืนเทน้ำป้อนอาหารให้พวกเขา

พวกนักโทษเอาชีวิตรอดแบบนี้ไปวันๆ อยากตายก็ตายไม่ได้ ทุกวันมีชีวิตอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น

[1] 兜裆布 ผ้าเตี่ยว

[2] 褌 – ふんどしฟุนโดชิหรือผ้าเตี่ยว เป็นชุดชั้นในแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นสำหรับผู้ใหญ่ชายและหญิง ทำจากผ้าฝ้าย ปัจจุบันยังเห็นได้ตามการแข่งซูโม่

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

จงชินเสียเถิดพวกเจ้า องค์รัชทายาทของพวกเจ้าเป็นคนติดเมียนานแล้ว

นึกสภาพตอนต่อสู้กับตอนคุมนักโทษแล้วก็ เฮ้อ ทั้งโหดทั้งฮา งานนี้ได้มีคนกระอักเลือดแน่ คิดแผนการซะสวยแต่สภาพจริงกลับไม่ตรงปกอย่างลิบลับ

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน