พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 37

ตอนที่ 37

บทที่4ตอนที่7

 

 

「บรู้วววววววววววววววววว!!」

 

 

มีตัวหนึ่งเป็นจ่าฝูง

 

 

มันวิ่งเข้ามาหวังเที่จะกินเหยื่อตรงหน้า

 

 

โนโซมุใช้เสริมพลังกายและวิ่งอยู่

 

 

หมาป่าพยายามกระโดดเข้ามากัดคอโนโซมุแต่ดาบของโนโซมุก็กันไว้ได้

 

 

「อั่กห์…………」

 

 

ดาบที่ดึงออกมาแทงทะลุคอของหมาป่าตัวนั้นและเลือดจำนวนมากก็พุ่งราวกับน้ำพุ ตกลงมาบนหน้าของโนโซมุ

 

 

(อีก 14 ตัว……)

 

 

โนโซมุคิดเช่นนั้นง่ายๆว่ายังเหลือศัตรูที่มากกว่าตัวเองถึง 15ตัว

 

 

แม้จิตใจแห่งความวุ่นวายนี้จะยังคงลุกโชนแต่เหตุผลของโนโซมุก็ไม่ได้สูญเสียไป

 

 

อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยจิตวิญญาณของนักสู้ อย่างไม่เคยมีมาก่อนและแรงกระตุ้นที่อกคู่นี้มันสะบัดความลังเลที่จะฆ่าศัตรูตรงหน้าให้สิ้นซาก

 

 

แม้จะฆ่าพวกของมันไปได้แล้ว แต่ว่ามันก็ยังคงล้อมโนโซมุด้วยท่าทางอันแสนสงบราวกับรอจังหวะ เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าฝูงมันคุมลูกน้องได้ดี

 

 

ดูเหมือนว่าตัวเมื่อกี้จะถูกบังคับให้เข้ามาเพื่อวัดความสามารถของศัตรู

 

 

「กรูววววว!」「บรู้วววววว!」「กาโอวววววว!」

 

 

คราวนี้บุกมาด้านหน้า 1 ตัว ด้านข้างสองตัว รวมทั้งหมด 3 ตัว มันพยายามโจมตีโนโซมุในคราวเดียว

 

 

โนโซมุถอยหลังกลับครึ่งก้าวและในขณะที่หมุนรอบตัวหนึ่งครั้งก็ชักดาบออกไปแล้วทั้งสามนั่นก็รีบถอยห่างทันที

 

 

จากนั้นก็มีอีกตัวหนึ่งโผล่มาทางด้านหลังและกระโดดโจมตีพร้อมกับตัวที่ถอยไปก่อนหน้านี้ มันพยายามเอาเขี้ยวอันแหลมคมขยำคอโนโซมุ

 

 

โนโซมุฟันดาบไปที่ศัตรูอย่างรวดเร็ว

 

 

โนโซมุตอนนี้ถูกล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าหากหยุดไม่ได้ก็จบกัน

 

 

และหากหยุดเคลื่อนไหวเมื่อไรยามนั้นก็จะถูกพวกมันกลืนกิน

 

 

◇◆◇

 

 

พวกหมาป่ามันรู้วิธีล่าศัตรูที่เก่งกว่าตัวเองใช้จำนวนเข้าว่าซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและความเสี่ยงต่ำ

 

อย่างแรกเลยคอยไล่ต้อนคู่ต่อสู้ให้เหนื่อยจนขยับตัวไม่ได้ แต่สำหรับโนโซมุแล้วมันตรงกันข้ามเลย แผนนี้ใช้ไม่ได้ผล

โนโซมุไม่ได้ล่าถอยแม้แต่น้อยดังนั้นพวกนั้นจึงตัดสินใจที่จะหยุดและลุมในคราวเดียว

 

ตัวก่อนหน้านี้ถูกจัดการไป แต่ถ้าสามตัวช่วงกันเบี่ยงเบนความสนใจและอีกตัวคอยสนับสนุนทีหลัง

ในความจริงโนโซมุควรจะหยุดการโจมตีของเหล่าหมาป่า

 

 

แต่ตัวเขากลับกระโดดขึ้นไปเหนือพวกมัน

 

 

และการโจมตีนั่นก็ประสบความสำเร็จ

หมาป่าเหล่านั้นโดนตัดออกเป็นชิ้นๆและหล่นลงพื้นเสียงดังตุบ

 

สิ่งที่แปลกก็คือโนโซมุไม่ได้เคลื่อนไหวที่จะโจมตีโดนเหล่าหมาป่าได้เลย และเขาเองก็ไม่ได้ชักดาบออก

โดยทั่วไปแล้วการต่อสู้นั่นควรจะเป็นตัวต่อตัว แต่กรณีนี้มันไม่ใช่

 

ความจริงโนโซมุไม่ได้ใช้ดาบฟันออกไป

 

 

ดาบของโนโซมุส่องแสงจางๆเป็นข้อพิสูจน์

อันที่จริงโนโซมุใช้วิชาก่อนหน้านี้แล้ว

 

คิ“คมดาบผ่ามายา-หวนกลับ-”

 

เป็นวิชาคิที่ใช้พลังของคมดาบที่คมอย่างมากและสร้างภาพลวงตาออกมาเป็นใบมีดเพื่อฟาดฟันศัตรู

และวิชานั่นเป็นแบบฉบับปรังปรุงคือ “หวนกลับ” ซึ่งเป็นการทำให้คมดาบเหล่านั้นเปรียบเสมือนเกราะรอบกายของตัวเอง เป็นวิชาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

 

อย่างไรก็ตามเทคนิคนี้ที่ถูกยกระดับขึ้นกลายเป็นระดับแฟนท่อม

 

เดิมทีแล้ว “คมดาบผ่ามายา” เป็นวิชาง่ายๆที่ใช้ตัดหินและถ้าใส่มันลงไปในดาบมันก็เหมือนกับดาบเวทย์ได้แม้จะใช้กับมีดสั้นธรรมดาก็ตาม

 

 

ยังไงก็ตามการที่ใช้ “คมดาบผ่ามายา-หวนกลับ-”ในครั้งก่อน ผมใช้คมดาบเพื่อลบคมดาบของอาจารย์ แต่ว่าครั้งนี้ผมใส่พลังลงไปในดาบไม่ได้ปล่อยมันทิ้งไว้ในอากาศ

 

 

ยังไงก็ตามโนโซมุก็ยังเหลือคมดาบภายในอากาศที่มีความคมสูงเอาไว้อยู่ และอากาศที่อยู่ตรงนั้นแม้แต่ฝุ่นก็เข้ามาไม่ได้

 

 

โนโซมุป้องกันการโจมตีของศัตรูด้วยดาบเล่มนี้ ทำให้พวกเหล่าหมาป่าโดนคมดาบลวงตาที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นลดจำนวนไปเรื่อยๆ

 

 

คำถามก็คือวิชาคิเหล่านี้สามารถบีบอัดจนมีความเข้มข้นสูงมากพอจะรักษาได้งั้นเหรอ?

 

 

ในขั้นต้นวิชา “คมดาบผ่ามายา” เดิมทีก็ใช้เทคนิคการควบคุมคิในระดับสูงอยู่แล้ว

 

 

แม้ว่าจะเป็นวิชาแสนยาก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่แม้แต่พวกแรงค์ A ทำกันเล่นๆได้ ไม่ใช่เพียงแค่เปิดใช้งานเท่านั้น แต่ต้องคงสภาพมันไว้ด้วย

 

 

นอกจากนี้โนโซมุที่ผ่านสนามรบแห่งความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

 

 

วิชาของโนโซมุ “คมดาบผ่ามายา -หวนคืน-” ก็ไม่ใช่ของที่สร้างขึ้นมาด้วยความครึ่งๆกลางๆ

 

อย่างไรก็ตามภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมีความสามารถในการฆ่าสูงมากและการปล่อยมันให้คงอยู่ก็เป็นเรื่องที่อันตรายมากเช่นกัน ทำให้โนโซมุไม่ได้ใช้เทคนิคนี้ที่โรงเรียน

 

 

นอกจากนี้ไม่ว่าโนโซมุจะควบคุมมันได้ดีแค่ไหน แต่การรักษาวิชานี้มันก็เป็นอะไรที่ยุ่งยาก โนโซมุไม่ค่อยอยากจะใช้เทคนิคนี้เท่าไรในการสู้ที่เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ เพราะถ้าเสียสมาธิไปแม้แต่นิดเดียว วิชาที่จะพังทลายลงและอาจทำให้เขาถึงแก่ความตาย

แต่ตอนนี้มันต่างออกไปโนโซมุที่กำลังอยากจะอาละวาด ไม่สนใจซึ่งความเสี่ยงอีกต่อไป

 

 

ตอนนี้ผมปล่อยตัวไปตามอารมณ์เหล่านี้ก็เท่านั้นเอง

 

 

◇◆◇

「บรู้ววววววววววว!」

 

หมาป่าทั้งสามที่กำลังโจมตีก่อนหน้านี้นั้น

 

 

เขาฟันดาบที่ใช้ “คมดาบมายา-หวนคืน-”ฟันใส่พวกมัน

 

 

โนโซมุใช้ก้าวพริบตาทันทีไปทางทิศตรงข้ามและจัดการอีกสองตัว

 

 

คมดาบทั้งสองที่ฟาดฟันออกไปปาดคอของหมาป่าออกอย่างสวยงาม

 

สองตัวนั้นล้มลงไปและเลือดจำนวนมากก็พุ่งออกมา

 

 

เลือดที่ไหลออกมาจากลำคอของมันประสานการเต้นกับหัวใจของโนโซมุ ราวกับกำลังตื่นเต้น

 

 

ในที่สุดความตื่นเต้นก็เริ่มจางหายและกลับมาสงบลง

 

(อีก 10 ตัว……)

 

 

ในเวลานั้นโนโซมุไม่สนว่าจะเป็นตัวอะไรก็ตามถ้ามันจะฆ่าเขามันก็ต้องเตรียมใจที่จะถูกฆ่าเช่นกัน

 

หมาป่าที่ล้อมรอบโนโซมุพยายามเปลี่ยนวิธีการโจมตี เพราะมันตระหนักได้ว่าโนโซมุเป็นตัวอันตรายที่จัดการพวกตัวเองไปถึง 5 ตนแล้ว

 

พวกมันไม่พุ่งเข้ามา ยังคงรักษาระยะห่างและจ้องไปที่โนโซมุ

 

 

ปรากฏว่าเหยื่อตรงหน้าดันแข็งแกร่งจนเกินไปแม้พยายามจะจบศึกในระยะสั้นแต่ก็ทำไม่ได้

 

 

นอกจากนี้ มันพยายามจะทำให้โนโซมุต้องเหนื่อย

 

 

แต่ว่าเขานั้นก็ไม่ได้หลบการโจมตีทำให้ไม่เกิดความเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย มันเป็นช่องว่างระหว่างผู้แข็งแกร่งที่ไม่ต้องขยับกลับผู้อ่อนแอที่พยายามดิ้นรนล่าผู้แข็งแกร่ง

 

 

แต่ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเก่งสักเท่าไรแต่ก็มีตัวคนเดียว ไม่มีทางที่จะจัดการพวกมันทั้งหมดได้ในคราวเดียว

 

 

 

นั่นคือสิ่งที่พวกหมาป่าคิดได้ขณะที่เอาชีวิตรอดภายในป่าแห่งนี้

 

 

วิธีการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่าตัวเอง

 

 

หมาป่าพยายามจะ “ฆ่า” ศัตรูของพวกมันด้วยพลังทั้งหมด

 

“ถ้าไม่ฆ่าก็จะถูกฆ่า”

 

นี่เป็นสิ่งเดียวที่โนโซมุและพวกหมาป่าคิดเหมือนกันในตอนนี้

 

 

◇◆◇

 

 

หมาป่าพยายามเข้าหาและออกห่างจากโนโซมุเป็นครั้งคราว

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุเข้าใจจุดประสงค์ของพวกมัน เพราะการตอบสนองของโนโซมุนั้นไว

 

“ถ้าสถานการณ์มันไม่ดีขึ้นเลยจะมัวอยู่เฉยก็ไม่ได้ยังไงก็ตามต้องพลิกสถานการณ์นี้ให้ได้แม้จะต้องฝืนก็ตาม”

 

เมื่อคิดอย่างนั้นโนโซมุก็พยายามจะเข้าโจมตีฝูงหมาป่าที่ล้อมรอบเขา

 

คู่ต่อสู้ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับมัน แต่ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นแล้ว

 

 

ทักษะและประสบการณ์มากมายที่สั่งสมมาจากการร่ำเรียนกับชิโนะ

 

เพียงแค่ทุ่มทุกอย่างไปกับการกระทำของตนเอง

 

 

ซึ่งแน่นอนมันช่างน่าเกลียดและน่าขบขันกับท่าทางอันแสนสง่างามของเธอ

 

 

◇◆◇

 

 

ผมฟันดาบออกไปทั้งๆที่มี “คมดาบมายา-หวนคืน-”ห่อหุ้มอยู่ ร่างถูกตัดเป็นสองส่วนจนไส้ทะลัก เหลือศัตรูอีก 9 ตัว……。

 

ผมไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวและฟันดาบกับศัตรูใกล้ๆ

 

 

ดาบนั่นเฉือนโดนมันเข้าจนขาขาดไปหนึ่งข้าง บาดแผลนั่นน่าจะทำให้เลือดไหลจนหมดตัว เหลืออีก 8 ตัว

 

「「บรู้ววววววว!!」」

 

คราวนี้มีสองตัวโผล่มาจากด้านหลัง แต่ผมเองก็ดักรอไว้อยู่แล้ว

 

 

ขณะที่หมุนตัวก็เอาด้ามเหล็กกระแทกไปที่จมูกของมันและฟันดาบไปที่อีกตัวหนึ่งและอีกตัวก็โดนคมดาบลวงตาฟันไป

 

 

ร่างของพวกมันที่ถูกผ่าเป็นสองท่อนและตัวที่โดนด้ามเหล็กตอกไปที่จมูกเองก็โดนทุบจนหัวบี้

 

 

เมื่อผมฟาดดาบลงไปที่คอของตัวที่ล้มลงและจ้อง 6ตัวที่เหลือ…………。

 

 

จำนวนของมันถูกลดลงต่ำกว่าครึ่งในพริบตามันกำลังครวญครางเบาๆ เพราะกลัวอยู่

 

 

ตัวผมสลัดคราบเลือดเสร็จก็รีบจะทำให้มันจบๆในคราวเดียว

 

 

「บรู้ววววววววววววววว!!」

 

เสียงหอนนั่นปลุกจิตวิญญาณแห่งป่ารอบๆตัว

 

เมื่อมองไปที่เสียง ก็เจอหมาป่าตัวใหม่ปรากฏขึ้นอีกประมาณ 3 ตัว

 

 

ในหมู่พวกนั้นมีหมาป่าที่ร่างกายใหญ่โตน่าจะเป็นจ่าฝูง

 

 

หมาป่าที่รอดตายรีบกลับไปหาหัวหน้าฝูงและจ้องมาทางเขาอีกครั้ง

 

หมาป่าทั้ง9ตัวรวมกับจ่าฝูงเผชิญหน้ากับผมอีกครั้งภายใต้การควบคุมของจ่าฝูงมันจัดแถวอย่างเป็นระเบียบ

 

 

เมื่อรวมกับจ่าฝูงผู้ทรงอำนาจทำให้พวกมันไม่ใช่กลุ่มเล็กๆ แต่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่

 

 

ทันทีที่หัวหน้ามันพยายามส่งสัญญาณ-ผมก็ตัดคอของมันเรียบร้อยแล้ว

 

 

◇◆◇

 

 

เวลาของหมาป่าหยุดลงชั่วครู่

 

 

พวกมันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

มันดูบ้าบอมากๆ

 

 

จังหวะที่จะพุ่งเข้าไปโจมตีศัตรูพร้อมกันร่วมกับหัวหน้า หัวของจ่าฝูงก็หายไปเสียแล้ว

 

 

นั่นคือตอนที่ผมปล่อย “แฟนท่อม”ออกไป

 

 

ใบมีดที่ถูกบีบอัดจนเข้มข้นฟันผ่านหัวของจ่าฝูงจนดับดิ้น

 

เลือดที่กระเซ็นย้อมพวกมันทั้งหมดให้กลายเป็นสีแดงสด กลิ่นเลือดฟุ้งกระจายไปทั่ว กลิ่นของซากศพเน่าๆที่ตลบอบอวล ดวงตาของผมที่แดงก่ำเพราะจิตวิญญาณหรือความกระหายเลือดหรือไม่นั้น ผมรีบวิ่งไปหาศัตรูที่เหลืออยู่อย่างไม่รีรอ

◇◆◇

ความเงียบกลับคืนสู่ป่าโนโซมุยืนอยู่ตรงนั้น

 

 

ซากศพของหมาป่ากระจายอยู่รอบๆตัวเขา มันเป็นปรากฏที่ทำให้ผมต้องเหลียวตามองว่าผมนั้นชินชากับเลือดเนื้อแค่ไหน

 

 

ศพทั้งห้าที่นอนอยู่บนพื้น ที่ทั้งส่วน หัว ขา ขาดหาย และ ชิ้นส่วนบางอย่างต่างหายไป

 

กลิ่นของเลือดและกลิ่นศพที่ปล่อยออกมาจากซากพวกนั้นมันกระจายไปทั่วและมันเข้าไปจนทั่วจมูกของโนโซมุจนจมูกเขาด้านชา

 

 

บางทีอวัยวะภายในที่กระจัดกระจายมันยังคงอุ่นๆอยู่มันสัมผัสกับไอน้ำข้างนอกที่เย็นยะเยือก

 

「…………………」

 

โนโซมุกำลังจ้องมองไปยังจุดหนึ่งภายในป่าอันแสนมืดมิดในความคิดของเขา ไม่ได้คิดถึงพวกหมาป่าเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแต่เสียงเตือนตัวเองว่าตัวเองเข้าป่ามาลึกมากแล้ว

 

 

ในที่สุดก็ได้ยินเสียงดั่งฉ่า เหมือนไอร้อนแต่สักพักก็ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนอยู่เนืองๆ

 

 

ในที่สุดแล้ว “มัน”ก็โผล่ออกมาจากความมืดมิด

 

 

ยักษ์ที่ใหญ่กว่าคนเกือบสามเท่า

 

 

ขาที่ค้ำยันร่างนั้นหนาและหยั่งรากลึกเหมือนต้นไม้ที่ยืนยาว

 

 

เอวที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยหนัง และลำตัวมีกล้ามเหมือนกับเกราะเหล็กกล้า

 

 

แขนของมันหนากว่าลำตัวของเด็กและถือกระบองไว้ในกำมือซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆกับผู้ใหญ่โตเต็มวัย

 

 

และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือดวงตาทั้งสามที่อยู่บนใบหน้าของมัน

 

 

ไซคลอปส์

 

 

สัตว์อสูรอันแสนทรงพลังที่อยู่แรงค์ A เป็นยักษ์ที่หาที่เปรียบมิได้กับศัตรูก่อนหน้านี้

 

 

◇◆◇

 

 

「โอววววววววววววววววววววววววววววววววว!!!」

 

เสียงคำรามของยักษ์นั่นทำให้บรรยากาศสั่นสะเทือน

 

 

บางทีมันอาจจะตามมาเพราะการต่อสู้และกลิ่นเลือด

 

「………………ฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ」

 

โนโซมุเห็นยักษ์ตรงหน้าก็ถือดาบพร้อมกับรอยยิ้ม

 

 

เขาคงจะถอยหนีทันทีถ้าเป็นในยามปกติ

 

 

นอกจากนี้แม้ว่าจะรอดกลับไปได้แต่โนโซมุก็คิดว่าน่าจะเจอสัตว์อสูรตัวอื่นๆดักรออยู่

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ตัวโนโซมุกำลังหาที่ระบายอารมณ์

 

 

เขาปล่อยตัวเองไปตามอารมณ์เลิกคิดที่จะหนีและเผชิญหน้ากับศัตรูตรงหน้า

 

 

เขารู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้เจอกับศัตรูอันแสนทรงเกียรติเหมาะแก่การระบายอารมณ์จากจิตใจอันแหลกสลาย

 

 

(……………หนอยนะแก)

 

มีบางอย่างกำลังพึมพำอยู่ในใจของเขา

นอกจากนี้เขากำลังได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่กำลังโหมกระหน่ำ

 

 

เสียงและการเต้นของหัวใจมันช่างเร้าอารมณ์และยั่วยวนยิ่ง ตามปกติเขาจะปฏิเสธมันทุกครั้งแต่ว่าเพียงครั้งนี้เท่านั้นที่ยอมรับฟัง

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท