พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 72

ตอนที่ 72

บทที่5ตอนที่19

 

 

 

 

หลังเที่ยงวันไปแล้ว ถึงครึ่งหลังของการฝึกวันแรก ฟีโอและเหล่าผองเพื่อนก็ได้ทำภารกิจคุ้มกันจนสำเร็จและกำลังทำขั้นตอนต่างๆที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ของสำนักงานใหญ่

 

 

「อืมมมมมม เสร็จภารกิจแล้วววว ขี้เกียจแล้วอ่าาา?」

 

 

「อืมมมม….จำนวนคนก็เหลือไม่เยอะแล้ว ในตอนนี้ควรจะจัดการพวกหลงเหลืออยู่ไหมนะ?」

 

 

「ฮี่ฮี่~!น่ารำคาญเป็นบ้าเลยน้า มันก็ยังดีกว่าไปเจอพวกไอริสและคนอื่นๆที่แต้มเยอะกว่าพวกเราอีกไม่ใช่เหรอ? ไปแทรกพวกนั้นยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวดีมะ」

 

 

ซีน่าให้คำตอบถึงแนวทางเก็บคะแนนอย่างปลอดภัย แต่มิมุรุไม่พอใจกับข้อเสนอนั่น

 

 

จนถึงตอนนี้พวกเขายังอยู่แถบทางใต้ไม่ได้เคลื่อนที่ไปส่วนอื่นเลย เวทย์วิญญาณของเธอเหมาะสำหรับกันฐานมากกว่าเป็นฝ่ายบุก รวมกับเวทย์ของฟีโอและทักษะการใช้กระบองแล้วมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก แถมยังมีการเล่นแร่แปรธาตุของทอมช่วยสนับสนุนเรียกได้ว่าเป็นป้อมปราการที่ยึดตอนใต้ไปแล้ว

 

 

อาจจะเป็นเพราะเหตุนั้นพวกที่เจอส่วนใหญ่ก็โดนซีน่า ฟีโอ และทอมจัดการจนหมด

 

 

เวทย์วิญญาณของซีน่าและการยิงธนูสุดแม่น ยันต์เวทย์ของฟีโอที่สามารถตรวจหาเป้าหมายจากระยะไกล และเวทย์ของทอมที่ช่วยเร่งปฏิกิริยาตรวจสอบศัตรูโดยรอบทำให้ศัตรูเข้าใกล้ไม่ได้เลย

 

 

ด้วยเหตุนี้เอง มิมุรุที่ใช้การต่อสู้ระยะใกล้แทบไม่ได้ออกโรงเลยจึงหงุดหงิดสุดๆ

 

 

「……มิมุรุก็เอาชนะเป้าหมายพิเศษไปก็พอแล้วนี่ แค่นั้นก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?」

 

 

「ก็รู้อยู่หรอกนะซีน่า แต่ว่าก็กังวลเป็นเหมือนกันนะ~」

 

 

บางทีเธอยังปวดหัวกับท่าทีของมิมุรุที่เปลี่ยนไปมา ซีน่าเอานิ้วกุมขมับตัวเอง ทอมเองก็ยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น

 

 

「อืม แต่ว่าสิ่งที่มิมุรุพูดก็มีเหตุผลอยู่ วิธีเดียวที่จะได้คะแนนตอนนี้คือต้องไปไล่ต้อนฝ่ายอื่นแล้ว……」

 

 

「ถูกต้อง แต่ว่า……」

 

 

แน่นอนตามที่ทอมบอก การบุกจะมีประสิทธิภาพในการเก็บคะแนนมากกว่า

 

 

「แล้ว ตอนนี้พวกโนโซมุอยู่ที่ไหนกันล่ะ~? ทางฝั่งทิศใต้ของพื้นที่ฝึกก็ไม่เห็นเลยนะ……」

 

 

ฟีโอยังคงมุ่งหน้าต่อไป มีแต่ทำให้ทั้งสามคนปวดหัวยิ่งกว่าเดิม

 

 

「นี่ ไม่ลองไปทางเหนือหน่อยละคราวนี้? พวกเรายังไม่ได้ไปเลยนะ」

 

 

「นั่นสินะ!ไปกันเถอะ!」

 

 

มิมุรุและฟีโอเข้าขากันอย่างดี ดูเหมือนว่าผู้ก่อปัญหาทั้งสองจะไม่ฟังอะไรแล้วล่ะ

 

 

「นี่ อย่างน้อยก็ช่วงระแวงมากกว่านี้หน่อยได้ไหม?」

 

 

「ถ้ากังวลมากไปก็ไม่เป็นอันทำอะไรพอดีนะซีน่า? จนถึงตอนนี้พวกเราล่อเก็บคะแนนจากทางทิศใต้จนเกือบจะหมดแล้วนะ จำนวนศัตรูเองก็แทบจะไม่มีแล้ว เพราะงั้นหน้าที่ของพวกเราแถวทิศใต้ก็น่าจะเสร็จดีแล้วนี่?」

 

 

ในที่สุด ทอมซึ่งเป็นพันธมิตรคนเดียวก็แปรพรรค ซีน่าเองก็เข้าใจดีว่าวิธีเดิมๆมันไม่ได้ผลอีกแล้ว ดังนั้นเลยได้แต่ต้องก้มหน้ายอมรับมัน

 

 

「อืมม….เข้าใจแล้วล่ะ」

 

 

 

 

「อุมุ อุมุ! ต้องแบบนี้สิ! ทอม ขอบคุณน้าาา」

 

 

「ดะเดี๋ยวก่อนสิครับมิมุรุ…หวาาาาาา!」

 

 

มิมุรุพุ่งเข้าไปกอดทอม เพราะพอใจที่ทอมกล่อมซีน่าสำเร็จ มิมุรุที่กอดทอมก็เริ่มโลมเลียไปตามร่างของทอม

 

 

ทอมที่ร่างน้อยตัวเล็ก ที่ยังคงสับสนแต่ว่าใบหน้าก็ดูมีความสุขดีและยอมให้เธอนัวเนียต่อ

 

 

「ถ้าโดนโจมตีกระทันหันมันจะอันตรายนะเพราะฉะนั้นรีบไปเถอะ」

 

 

ซีน่าจ้องมองทั้งสองและยิ้มออกมาแม้ว่าจะมีน้ำเสียงเหงาหงอยหน่อยๆ ฟีโอที่เห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ยิ้ม

 

 

หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของพื้นที่ฝึก น่าแปลกที่สนามรบในตอนนี้กลายเป็นสถานการณ์ที่แสนดุเดือดเอามากๆ

 

 

◇◆◇

 

 

ขณะที่ซีน่าและผองเพื่อนกำลังมุ่งหน้ามาทางเหนือ ก็เกิดการต่อสู้ระหว่างปาร์ตี้ของไอริสและปาร์ตี้ของลิซ่าที่สูสีกัน

 

「ย๊าหหหหห์!」

 

ลิซ่าเหวี่ยงดาบในเมือขวาลงมา

 

 

ดาบของเธอที่มีพลังทางกายภาพอันโดดเด่นพยายามจะฟันเข้าไปที่ไอริสแต่ดาบนั่นก็โดนเหวี่ยงวิถีไปโดยดาบของไอริส

 

「ลืมด้านหลังไปรึเปล่า!」

 

「อั่ก!!」

 

อย่างไรก็ตามเคนก็พุ่งเข้าด้านหลังและพยายามใช้ดาบนั่นฟันใส่ไอริส

 

 

ไอริสสะบัดดาบของเธอไปกันการโจมตีแต่ว่าก็โดนลูกหลงไปบ้างจนสูญเสียท่าทางไป

 

 

ลิซ่าไล่ตามไอริสที่สูญเสียท่าทางไป

 

 

ลิซ่าหมุนตัวและฟันดาบออกไปทางไอริสอย่างแรง

 

 

อย่างไรก็ตามไอริสใช้บาเรียเวทย์กันการโจมตีเอาไว้

 

 

 

「ยังไม่หมดหรอกนะ!」

 

เคนโจมตีประสานเข้าแทนลิซ่า บางทีเพราะไอริสกำลังวุ่นอยู่กับทางด้านหลัง เคนเองก็อ้อมไปพยายามจะต้อนไอริสให้จนมุม

 

อย่างไรก็ตามเวทย์ของทิม่าก็หยุดเขาไว้

 

 

มวลเปลวไฟขนาดใหญ่เวทย์ “ภัยพิบัติแห่งลางร้าย”ถูกปล่อยออกมาอีกครั้งและพุ่งเข้าหาเคน

 

「อั่ก!」

 

เคนเลิกตามไอริสไปและพยายามหลบเวทย์นั้นอย่างเต็มที่ ทันทีที่กระโดดถอยออกไปบอลเพลิงก็กระทบกับพื้น

 

 

พลังเวทย์อันมหาศาลของทิม่าที่ถูกปล่อยออกมามันระเบิดกระจายไปรอบๆพื้นที่ๆเคนเคยอยู่

 

 

อย่างไรก็ตามเคนเองก็เป็นถึงนักเรียนแรงค์ A เขากางบาเรียออกมาและพยายามกันเวทย์ของทิม่า

 

「หนอยแน่!ยังรุนแรงเหมือนเคยเลยนะ!」

 

อย่างไรก็ตามเปลวเพลิงนั่นพยายามกลืนกินบาเรียเวทย์ของเคนไป

 

 

เดิมทีทิม่านั้นน่ะเป็นแนวหน้าในด้านของพลังเวทย์และการใช้เวทย์ แม้ว่าจะเป็นแรงค์ A บาเรียก็โดนพลังของทิม่ากลบไปได้ง่ายๆ ลิซ่าเองก็เข้ามาขัดบาเรียที่ถูกทำลายระหว่างเคน

 

 

เธอกางบาเรียเวทย์อย่างรวดเร็วและเข้าไปช่วยเคน

 

 

 

「คามิลล่า!!」

 

「รู้แล้วน่า!!」

 

คราวนี้คามิลล่าที่ร่ายเวทย์อยู่ด้านหลัง เปิดใช้งานเวทย์ มันไม่ถึงระดับของทิม่าก็จริงแต่เวทย์ที่ถูกสร้างขึ้นก็ยิงไปทางทิม่า

 

「ไม่ยอมให้ทำแบบนั้นหรอกค่ะ!」

 

ไอริสวิ่งและรวมพลังเวทย์ไว้รอบๆตัวเธอ เธอปล่อยวายุที่เป็นคลื่นเกลียวเป็นเวทย์ “อุโมงค์ลมแห่งความกระหาย”พุ่งเข้าไปกลืนกินเปลวเพลิงของคามิลล่าจนหายไป

 

 

ไอริสที่มายืนด้านหน้าเพื่อปกป้องทิม่ามองไปด้านข้างเปลวเพลิงที่กระจัดกระจาย

 

 

ลิซ่าและคนอื่นๆก็ยืนหยัดขึ้นด้วยพลังเวทย์ของตนเองและพยายามปกป้องคามิลล่าที่ใช้เวทย์

 

 

 

「ผลัดกันรุกรับสินะเนี่ย……」

 

「แน่นอน แต่ว่าฝั่งนี้มีจำนวนคนเยอะกว่า อีกไม่นานก็ขึ้นอยู่กับคามิลล่า แต่ถ้าฉันเป็นเธอคงจะอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากมากๆเลยนะนะ」

 

ลิซ่าตอบคำพูดของไอริส

 

 

แน่นอนลิซ่าและพรรคพวกได้เปรียบในเรื่องของจำนวนคนและถ้าคิดตามปกติ ไอริสและทิม่าน่าจะโดนจัดการแน่ๆ

 

 

ในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องยากที่จะรับมือลิซ่าและเคนในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนจากคามิลล่า

 

 

อย่างไรก็ตามไอริสเองก็ได้ทิม่าคอยซัพพอร์ต ซึ่งมันก็พอสูสีกัน

 

 

แม้ว่าลิซ่าและเคนจะมีคามิลล่า แต่ไอริสและทิม่าก็สู้กันมาได้เพราะประสบการณ์ของตัวเองล้วนๆ

 

 

ก่อนหน้านี้พวกเธอเคยเจอกับรูกาโต้ที่เป็นถึงแรงค์ S ที่จะช่วงชิงวิญญาณของโซเมียไปเพราะพันธสัญญาที่ทำกันไว้ พวกเขาต่อสู้โดยต้องแลกกับชีวิตของตัวเอง

 

 

พลังเวทย์ ประสบการณ์ และเทคนิคที่เหนือชั้น พวกเธอต่างต่อสู้กับศัตรูที่เหนือกว่าตัวเองมาโดยตลอด

 

 

แม้ว่าจะไม่เทียบเท่ากับรูกาโต้ได้ในขณะนี้ แต่ประสบการณ์นั่นก็ยังคงไหลเวียนอยู่ในกาย

 

(ไอ จะทำยังไงกันดี? ถ้าเป็นแบบนี้แล้วละก็……)

 

(รู้อยู่แล้วละ……)

 

อย่างไรก็ตามฝั่งไอริสก็ยังเสียเปรียบอยู่ดี

 

 

ลิซ่าและพรรคพวกไม่ปล่อยเวลาให้เลยผ่านไปเฉยๆ ลิซ่าใช้เสริมพลังเวทย์ด้วยความสามารถแม่มดเนวี่ เพื่อตัดสินฉากจบ

 

 

หลังจากลิซ่าร่ายเวทย์เสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายตัวเอง คามิลล่าก็ร่ายเวทย์ตาม

 

「ทิม่า! จะหนีแล้วนะ!」

 

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ไอริสเองก็เปิดใช้งานเวทย์

วินาทีถัดเกิดหมอกควันสีดำกระจัดกระจายไปรอบๆไอริสและลิซ่า

 

「บ้าเอ้ย! นี่มัน……」

 

ลิซ่าหยุดลง เคนเองก็ดูสถานการณ์โดยรอบ

 

 

เวทย์ที่ถูกใช้งานคือ “หมอกควันแห่งจันทร์เดือนดับ”

 

 

ผลของมันก็ตามชื่อมันเป็นหมอกควันที่ทำให้ศัตรูมองไม่เห็น

 

 

 

「……ไม่ได้บุกมางั้นเหรอ?」

 

「งั้นเหรอเนี่ย หนีไปแล้วสินะ?」

 

ตอนแรกก็คิดว่าจะใช้หมอกนั่นบดบังทัศนวิสัยและโจมตีเข้ามา แต่ดูเหมือนว่าจะหนีไปแล้ว

 

「หืมม….งั้นเหรอเนี่ย! เข้าใจแล้ว!!」

 

ลิซ่าหันหลังกลับจุดหมายคือที่ๆคามิลล่าอยู่

 

 

เมื่อคามิลล่าโผล่ออกมาก็มีเงาพุ่งมาทางด้านหลังอย่างที่คาดไว้

 

「ไม่ยอมให้ทำแบบนั้นหรอกน่า!」

 

「หนอยย อีกนิดเดียวเองแท้ๆ!」

 

ลิซ่ากระโดดเข้าไปในเงามืดที่กำลังเข้าหาคามิลล่าและฟันไปที่เงานั่นด้วยดาบและมีดสั้นของเธอ แต่เงานั่นก็กระโดดออกไปและปัดป้องดาบที่ฟันเข้ามา

 

 

นั่นคือไอริสผู้ซึ่งใช้เงาคลุมตัว พยายามโจมตีคามิลล่าจากด้านข้าง เหตุผลที่ทำเป็นตะโกนก็เพื่อแกล้งทำเป็นหนีและให้อีกฝ่ายตื่นตัว แต่ก็โดนจับได้

 

 

นอกจากนี้เคนและคามิลล่าที่พยายามจะไล่ตามไปก็เจอเวทย์ของทิม่าพุ่งเข้าใส่ จนทำให้ทั้งสองต้องแยกออกจากกันอีกครั้ง

 

สองฝ่ายต่างจ้องตากัน

 

 

ในเวลานั้นเองไอริสก็ได้ยินน้ำเสียงอันแผ่วเบาจากระยะไกล

 

 

◇◆◇

 

 

ในเวลานั้นใกล้ๆกับการต่อสู้ของพวกไอริส พวกโนโซมุก็ยังคงต่อสู้กับเควิน

 

「โอร่าโอร่าโอร่า!!」

 

「ฟู่!!」

 

โนโซมุป้องกันหมัดของเควินที่กระหน่ำโจมตีเข้ามา เขากัดแกว่งดาบด้วยแรงที่พอจะสลัดการโจมตีให้หลุด แต่ดาบของเขาเองก็โดนกระแทกอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงแหลมสูง

 

 

เควินหลบไปด้านข้างและพยายามเตะใส่โนโซมุทางด้านข้าง โนโซมุกระโดดถอยหลังและหลีกเลี่ยงลูกเตะหมุนตัวนั่น

 

 

ในขณะที่กำลังลงจอดนั่นเอง โนโซมุพยายามจะเข้าไปหาเควิน แต่เควินดันเป็นฝ่ายบุกมา

 

 

 

「ช้าไปโว้ย!!」

 

「หนอย!」

 

เควินชกไปที่ใบหน้าของโนโซมุ โนโซมุคิดว่ามันช้าเกินไปที่จะเอาดาบมากันเขาเลยกระโดดไปทางด้านข้างและหลบกำปั้นของเควิน แต่เควินเองก็เร็วกว่าโนโซมุและเข้าปะทะเขาในพริบตา

 

「ก็บอกแล้วไงว่าช้าเกินไปแล้วโว้ย!!」

 

「อั่ก!」

 

เควินตามโนโซมุด้วยการกระโดดสั้นๆและเตะโนโซมุด้วยแรงบิดเต็มที่

 

「แหลกไปซะ!」

 

ลูกเตะที่มีแรงบิดตัวของเควินเสริมเข้ามาทางโนโซมุ

 

 

โนโซมุมองหาจังหวะอย่างใจเย็นขณะสังเกตลูกเตะที่พุ่งเข้ามา

 

「ฟู่!!」

 

ในเวลาต่อมาโนโซมุก็เปิดใช้”ก้าวพริบตา-ดาบเริงระบำ-”โดยใช้การเคลื่อนไหวเป็นวงกลมซึ่งเดิมใช้เป็นการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน เขาเหวี่ยงดาบลงพร้อมกับฟันไปที่ลูกเตะของเควิน

 

「อั่ก!」

 

เควินไม่คิดเลยว่าจะโดนหลบได้ เขาตกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปกระทันหันของโนโซมุ เควินเองที่เสียสมดุลก็โดนลูกเตะของโนโซมุที่เสริมพลังด้วย ก้าวพริบตาจากด้านล่าง

 

「หนอยยยยย!」

 

「ย๊าหหหหหหหห์!!」

 

เควินรับลูกเตะด้วยแผ่นหลังของเขา แต่โนโซมุก็ใส่แรงทั้งหมดที่มีเข้าไป

 

 

มาร์พุ่งตามเควินที่กระเด็นไปเพราะลูกเตะของโนโซมุ

 

「โอววววววววววววววววววววววววววววว!」

 

「!!」

 

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่ที่มีคมดาบวายุ เควินพยายามหลบดาบนั่นด้วยกายใช้ปลายเท้าพร้อมกับบิดตัวไปในอากาศ

 

「ฮ่าหหหหหหหหหหหหหหหหหห์!」

 

「อาาาาาาาาาาาาาาาาา!」

 

อย่างไรก็ตามเควินไม่สามารถหลบได้และโดนเข้าไปเต็มๆ

 

 

เควินโดนฟันและปลิวไปกับพื้น อย่างไรก็ตามเขาก็ลุกขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่โกรธจัด

 

「ไอ้กร๊วกเอ้ย!กล้าดีนักนะ!!」

 

เควินจ้องมองไปที่โนโซมุและมาร์ด้วยความโกรธ

 

 

ตอนแรกก็คิดว่าจะชนะได้ง่ายๆ แต่เลือดขึ้นหน้ามากเกินไปจนขาดสติ

 

 

ในทางกลับกันพวกโนโซมุเองก็กังวลเกี่ยวกับพวกจินมากกว่าตัวเอง

 

 

ทั้งสี่กำลังต่อสู้กับสมาชิกห้อง 1 แต่สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก

 

 

บางทีเพราะเป็นพวกห้อง 1 เลยมีความแข็งแกร่งอยู่พอตัวทำให้พวกพ้องของจินรับมือค่อนข้างลำบาก แต่พวกเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ไม่ให้ฝั่งนี้ต้องกังวล เพราะถ้าฝ่ายจินแพ้จะเป็นฝ่ายเราที่ต้องรับศึกหนักกลายเป็นโอกาสชนะได้ยากกว่าเดิม

 

 

(คำถามคือเราจะผ่านสถานการณ์ยากลำบากขนาดนี้ได้เร็วแค่ไหน……)

 

「……มาร์」

 

「ว่าไง?」

 

โนโซมุพูดเงียบๆกับมาร์ที่จับตามองเควิน เมื่อได้ยินข้อเสนอของโนโซมุ มาร์เบิกตากว้างกับความคิดบ้าๆนั่น

 

「……เอาจริงเหรอวะเนี่ย?」

 

มาร์ถามเพื่อความมั่นใจ โนโซมุพยักหน้าเช่นนั้นและเริ่มอัดพลังคิไปทั่วร่างกาย

 

 

มาร์ที่เห็นโนโซมุเอาจริงก็เริ่มตั้งท่า

 

 

เควินมองไปทั้งสองที่ปลดปล่อยคิออกมาตัวเองก็ปลดปล่อยมันออกมาเช่นกัน

 

คิที่โนโซมุปลดปล่อยถูกรวมไปที่ปลายเท้าและมันก็ระเบิดออกทันที ควันมากมายฟุ้งกระจายไปโดยรอบทั้งสามคนและบดบังการมองเห็น

 

「ไอ้เวรเอ้ย! แบบนี้เดี๋ยวก็ตาบอดพอดีไอ้บ้า!」

 

เควินบ่นเช่นนั้นแต่จู่ๆก็ได้ยินเสียง วูบ! เขารีบตั้งท่าเตรียมพร้อมทันที

 

 

วินาทีถัดมาเห็นบางอย่างพุ่งเข้ามา เควินเตรียมตั้งท่าพร้อมรับมือด้วยกำปั้นของเขา

 

 

อย่างไรก็ตาม หมอนั่นพุ่งผ่านไปโดยไม่ทำอะไร

 

「เอ๋!?」

 

ภาพที่พุ่งเข้ามาคือมาร์ที่กำลังพุ่งเข้าไปช่วยพวกจินนั่นเอง

 

 

มาร์ทุ่มพลังทั้งหมดแล้วใช้ คิ “ ค้อนสะบั้นปฐพี” ลมที่ห่อหุ้มดาบขนาดใหญ่ปลดปล่อยเสียงคำรามและกระแทกเข้าไปที่นักดาบ

 

ข้อเสนอของโนโซมุคือให้มาร์ไปช่วยพวกจิน

 

 

ถ้าคิดตามปกติแล้วปล่อยโนโซมุไว้กับเควินคนเดียวนี่มันบ้ามากๆ แต่โนโซมุบอกอย่าใส่ใจ

 

 

นั่นคือเหตุผลที่โนโซมุปล่อยให้ทำแบบนั้น เพราะเพื่อเซอร์ไพร์สฝั่งนั้น มาร์เองก็เป็นขุมพลังของปาร์ตี้พวกเขาเลยก็ว่าได้

 

 

 

ต่อหน้าเควินมาร์ที่เข้าโจมตีนักดาบด้วยการโจมตีครั้งเดียวทำให้ไม่สามารถสู้ได้และรีบพุ่งเข้าหาผู้ใช้หอกอีกคน

 

「หนอยยย………ไอ้พวกเศษเดน!」

 

เควินที่โดนทิ้งไว้รีบวิ่งเข้าไปช่วง แต่โนโซมุก็เข้ามาขวางทันทีและฟันใส่

 

「ไอ้หมอนี่!!」

 

「ต้องขอโทษด้วยนะ แต่ว่าไม่ยอมให้ผ่านไปได้หรอก!!」

 

โนโซมุฟันดาบเป็นชุดด้วยการฟันจากด้านบนและเหวี่ยงดาบไปทางด้านข้าง

 

「อย่ามาขวางกันนะโว้ย….!」

 

เควินพยายามจะหยุดดาบของโนโซมุและพยายามวิ่งไปด้านข้างเขา แต่คราวนี้โนโซมุเอาฝักดาบมากันไว้

 

 

โนโซมุพยายามหยุดเควินไม่ให้หนีไปได้ หยุดด้วยการใช้ฝักดาบ การเตะ และเทคนิคทางกายภาพมากมาย

 

 

โนโซมุกระแทกฝักดาบด้วยแรงเหวี่ยงและใช้แรงหมุนตัวเพื่อปล่อยลูกเตะออกไป

 

 

เควินหงุดหงิดอย่างมากจากการโจมตีที่คาดไม่ถึง การโจมตีแต่ละครั้งไม่หนักหน่วงก็จริง แต่ก็ต้องถอยกลับเนื่องจากการโจมตีนั้นเล็งไปที่ช่องว่างอย่างแม่นยำมาก

 

ในขณะเดียวกันมาร์เองก็เข้าหานักเรียนที่ใช้หอก และจัดการเธอทิ้งในทันใด

 

「ฮึย๊ากกกกกห์!」

 

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่ใส่ศัตรูที่ไร้การป้องกัน เขาพยายามกะแรงไม่ให้มันกระทบถึงชีวิตเอาแค่สลบพอ

 

「ไอ้เชี้ยเอ้ย!」

 

อย่างไรก็ตามมีกระสุนเพลิงลอยเข้าหาระหว่างมาร์และนักเรียนหญิงคนนั้น

 

「มาร์คุง!?」

 

「อะไรกัน!?」

 

จินตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้า โนโซมุกับเควินเองก็ถูกรบกวนด้วยเช่นกัน

 

「ไอ้เวรเอ้ย! อะไรกันอีกวะเนี่ย!?」

 

มาร์โผล่ออกมาท่ามกลางหมอกควันเขาโดนลูกไฟนั่นไปเต็มๆเสื้อผ้าฉีกขาดและมีรอยไหม้ แต่ไม่โดนตัดสิทธิ์ เพราะกันการโจมตีได้

 

 

นักเรียนใช้หอกเองก็ปลิวไปเช่นกัน

 

 

จี้ของเธอยังไม่ส่องแสงสีแดง เธอพยายามจะลุกขึ้นแต่ว่าเจ็บหนักเกินไป

 

 

นอกจากนี้ยังมีลูกศรหลายดอกพุ่งเข้าหาโนโซมุและเควินด้วย

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

「อะไรกันละเนี่ย!」

 

ลูกศรปักลงพื้นระหว่างโนโซมุและเควินที่หลบออกจากจุดนั้น มีเงาโผล่มาจากพุ่มไม้และเข้าโจมตีโนโซมุ

 

「ในที่สุดก็เจอตัวสักที โนโซมุ!!」

 

「ฟีโอ! แกเองงั้นเหรอ!」

 

เป็นฟีโอที่อยู่ในกลุ่มของซีน่าเข้ามาโจมตี เด็กชายเผ่าจิ้งจอกพุ่งเข้ามาพร้อมเหวี่ยงกระบองมาทางนี้

 

「อิคูโซว!!」

 

โนโซมุกระโดดถอยหลังและหลบกระบองนั่น แต่ฟีโอหันร่างของตัวเองและหมุนตัวเหวี่ยงกระบองอีกรอบจนกวาดบริเวณรอบๆ

 

 

โนโซมุหมอบลงและหลบกระบองนั่น โนโซมุฟันดาบไปที่กระบองที่เหวี่ยงผ่านหัวเขาไปอย่างรุนแรง

 

「อย่าเมินกันสิ!」

 

「บ้าเอ้ย! แกก็ด้วยเหรอ!!」

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุโดนประกบข้างพยายามสลัดเควินให้หลุดโดยเหวี่ยงวิถีดาบขึ้นไป

 

 

ดาบของโนโซมุฟันเข้าไปที่หลังมือของเควินจนเกิดประกายไฟสีแดง

 

「โอร่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!」

 

「กรอดดดดดดด!!」

 

นอกจากนี้เควินยังใช้ศอกโจมตีพร้อมกับฝ่ามือ ลูกเตะต่ำและลูกเตะสูง โนโซมุรับการโจมตีทั้งหมดด้วยดาบและปัดมันไปทางขวาส่วนฝักดาบใช้การกันเตะต่ำ แต่ครั้งสุดท้ายเขากันไม่ทัน

 

 

หลังเท้าที่เข้าใกล้หน้าของโนโซมุ แต่ฟีโอก็กันการโจมตีนั้นด้วยกระบอง

 

「ไอ้จิ้งจอกเวรระยำ! แกนะแก!」

 

「อย่ามาขวางกันสิเน้อ! โนโซมุเป็นเหยื่อของข้าน้อยนะ!」

 

ฟีโอพยายามขวางเควินที่เข้าโจมตีโนโซมุ เควินตัดสินใจว่าฟีโอเป็นศัตรูและพยายามจะจัดการพวกเขาทั้งหมด

 

 

ทั้งสามแลกกันรุกและรับก่อนที่จะรู้ตัวก็กลายเป็นศึกสามด้านไปแล้ว

 

ทางฝั่งมาร์เองก็เป็นศึกสามด้านเช่นกัน

 

 

มิมุรุพุ่งเข้าหามาร์และจินและนักเรียนหญิงที่ใช้หอก

 

 

จินและเพื่อนๆพยายามล้อมมิมุรุเอาไว้โดยใช้จำนวน แต่ว่าซีน่าก็ยิงสนับสนุนและทอมเองก็ใช้เวทย์สนับสนุนด้วย

 

 

มาร์ที่ถือดาบใหญ่กำลังรับศึกหนัก การต่อสู้ระยะแคบเป็นสิ่งที่มาร์ไม่ถนัดที่สุดเพราะเดี๋ยวพรรคพวกโดนลูกหลง

 

สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

 

 

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงคำรามดังก้องไปทั่ว เงาทั้งห้าทะลุผ่านม่านควัน ดินและเศษไม้ต่างม้วนตัวขึ้น

 

「ทิม่า!เป็นอะไรไหม!?」

 

「อ่าา! สบายดี!」

 

「ลิซ่า! จะลุยเลยมั้ย!?」

 

「ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นแย่แน่!」

 

ชายและหญิงห้าคนปรากฏตัวขึ้น ไอริส ทิม่า ลิซ่า เคน และคามิลล่า

 

「อะไรกันเนี่ย!? ไอริส!? และก็…ลิซ่า!?」

 

「นะ โนโซมุ!?」

 

「นี่มัน!!」

 

「……เฮ้ย」

 

โนโซมุ ไอริส และลิซ่ามองหน้ากันต่างทำเสียงตกใจเควินและฟีโอที่เห็นภาพตรงหน้าก็ตกใจเช่นกันที่จู่ๆพวกไอริสก็โผล่มา

 

โนโซมุ ไอริส ลิซ่า ซีน่า เควิน ทั้งห้าฝ่ายที่เอาชนะเป้าหมายพิเศษได้ทั้งหมดต่างมารวมตัวกันแล้ว

◇◆◇

「กูรูลูลูลู……」

 

อืมยังง่วงอยู่เลย ความมืดทีล้อมรอบตัวหมอนี่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง มันห่อหุ้มร่างกายเขาไว้ยามนอนหลับ

 

 

ร่างกายของเขาขยับเล็กน้อย ผ่อนลายราวกับเหมือนมนุษย์กำลังพลิกตัวนอนหลับเพื่อให้หลับสบาย

 

อะไรมารบกวนข้ากัน? หากมองใกล้ๆแล้วมีอะไรตกลงมาจากข้างบนเขา หมอนั่นส่ายหัวเพื่อปัดเป่าสิ่งที่ตกลงใส่หัว มันรบกวนการนอนของหมอนั่น

 

 

บางทีเขาอาจจะไม่ตื่นและดวงตาก็จะหลับสนิทเพียงแค่ขยับคอไปมาและดวงตาก็ไม่ได้เปิดออกเลยแม้แต่น้อย

 

 

หมอนั่นพยายามจมลงสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง อย่างไรก็ตามมีเสียง ซู่มดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิด

 

ร่างของเขาเคลื่อนไหวอีกครั้งตามเสียงนั่นและคอของเขาก็ถูกยกขึ้นมา ดวงตาที่หลับไปนานแสนนานก็เปิดออกและมันก็จ้องมองไปทางเพดานถ้ำที่ตัวมันเองกำลังหลับไหลอยู่

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท