พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 78

ตอนที่ 78

บทที่5ตอนที่25

 

 

หลังกเลิกเรียนในวันรุ่งขึ้นพวกไอริสและผองเพื่อนกำลังเดินไปในป่าตามคำแนะนำของซีน่า มีอันริและนอร์นอยู่ด้านหลังด้วย

 

 

จุดหมายปลายทางคือกระท่อมที่โนโซมุอยู่

 

 

อันริและนอร์นก็ตามมาดูเพราะอยากจะเจอเขาเหมือนกัน

 

 

「…ซีน่าคุงทำไมถึงรู้จักสถานที่แบบนี้เหรอคะ?」

 

 

ไอริสยิงคำถามๆเพื่อนๆของเธอ

 

 

เธอเคยสงสัยอยู่แล้วว่าซีน่าที่เกลียดโนโซมุมากมายในตอนแรก จะมาเข้ากันได้ดีกับโนโซมุ ไม่เคยได้ยินเรื่องของเธอจากโนโซมุมาก่อนเลย แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นเหตุผล

 

 

「อาาา เคยสัญญาไว้สินะว่าจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้น」

 

 

ขณะที่เธอเดินอยู่ในป่าพวกเธอก็พบกับสัตว์อสูรสีดำในป่าแห่งนี้

 

 

ซีน่าที่ลืมตัวจากการสู้สัตว์อสูรสีดำ เพราะความแค้นและความโกรธทำให้เพื่อนๆต้องจนมุม โนโซมุเข้ามาช่วยพวกเขา ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของเขา ทำให้สามารถเอาชนะสัตว์อสูรสีดำได้และก็ได้กลายมาเป็นเพื่อนกัน

 

 

ซีน่าพูดถึงความผิดพลาดในอดีตเดินพร้อมกับยืดหน้าตรง ราวกับว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นสมบัติที่ไม่สามารถทดแทนได้

 

 

ทั้งมาร์และไอริสก็ต่างตะลึงกับท่าทางที่เธอมี เธอกล้าพูดถึงความผิดพลาดของเธอโดยไม่ลังเล

 

 

「อืมมมม~เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเหรอเนี่ย」

 

 

「ใช่แล้วล่ะ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องงี่เง่ามากๆเลย……」

 

 

「…………」

 

 

มาร์จ้องมองซีน่าที่พูดด้วยท่าทางอันสง่างาม

 

 

บางทีเธออาจจะเห็นมาร์ที่จ้องมองเธอ ซีน่าก็ค่อยๆหันกลับมาและจ้องมาที่เขา

 

 

「……ดังนั้นฉันไม่โทษนายหรอกนะสำหรับเรื่องนั้น ฉันไม่คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอที่จะตำหนิติเตียนนาย เพราะฉันเองก็ทำผิดพลาดแบบเดียวกัน แต่ถ้านายอยากจะคืนดีกับเขา ก็ไปเผชิญหน้ากับเขาซะ ไม่งั้นอาจจะไม่ได้คุยกันอีกเลย」

 

 

「……อาา รู้แล้วน่า」

 

 

ซีน่าพูดเช่นนั้นกับมาร์ที่ทำร้ายเพื่อนของตัวเองเหมือนกับเธอ

 

 

มาร์พยักหน้ารับคำด้วยสีหน้าหนักแน่น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความกังวลว่าจะเป็นเพื่อนกันอีกครั้งได้หรือไม่

 

 

เมื่อมาร์มองไปข้างๆก็เจอทิม่าที่เดินอยู่ข้างๆกำลังมองมาที่เขา

 

 

บางทีเธอเองก็กังวลเลยพยักหน้าให้กับเขาเพื่อเป็นการย้ำเตือน

 

 

「……พี่คะ ไม่เป็นไรใช่ไหม?」

 

 

โซเมียจ้องมองสถานการณ์ก็พูดด้วยความกังวล เมื่อคืนน้องสาวก็มาหาที่ห้อง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังกังวลอยู่

 

 

「ไม่เป็นไรหรอกนะโซเมีย ทุกอย่างจะต้องโอเค……」

 

 

ไอริสพูดให้กำลังใจโซเมียพร้อมกับยิ้มให้

 

 

เธอก็ยังกังวล แต่ว่าเธอไม่อยากจะเสียโนโซมุไปอีกแล้ว

 

 

แน่นอนว่าอย่างที่ซีน่าพูด คราวนี้เรามาเผชิญหน้ากับตัวตนเขาจริงๆกันเถอะ

 

 

ไอริสยังนึกถึงคำสาบานที่ให้ไว้แก่โซเมียเมื่อวานนี้

 

 

ในที่สุดแสงก็เริ่มส่องลงมาบนผืนป่าที่มืดสลัว กลุ่มคนทั้งหลายต่างตื่นตาตื่นใจกับภาพที่ปรากฏขึ้น

 

 

ตรงหน้าฉันเป็นพื้นที่เปิดโล่งดูเหมือนว่าจะเป็นป่าทั้งพื้นที่และมีกระท่อมทางด้านหลังเข้ามาในสายตา

 

 

กระท่อมไม้ที่เรียบง่าย มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้ากระท่อมนั่น

 

 

「……อาาาา」

 

 

ไอริสเห็นก็ส่งเสียงออกมาโดยไม่ตั้งใจ ด้านหลังของคนที่ตามมาเองก็หันไปจ้องเขา โนโซมุ ก็ค่อยๆหันกลับมาเพราะรู้สึกตัว

 

 

「……มาแล้วเหรอครับ」

 

 

ไอริสและคนอื่นๆจ้องมองโนโซมุที่มองกลับมา

 

 

「ขอบคุณนะซีน่า ที่พาทุกคนมาที่นี่」

 

 

「ไม่ต้องคิดมากหรอก ก็แค่อยากจะช่วย ก็อยากจะพูดแบบนั้นหรอกนะ?」

 

 

ซีน่ายิ้มขณะพูดเช่นนั้น เธอยักไหล่ราวกับบอกว่าช่วยไม่ได้

 

 

「อาจารย์อันริ อาจารย์นอร์น ขอบคุณที่มาถึงที่นี่เลยนะครับ」

 

 

「ไม่ต้องกังวลไปหรอกน้า~」

 

 

อันริตอบโนโซมุด้วยรอยยิ้ม และนอร์นเองก็พยักหน้า

 

 

โนโซมุที่เห็นเช่นนั้นก็เผลอยิ้ม

 

 

「ที่นี่คือ……」

 

 

สถานที่แห่งความทรงจำอันแสนสำคัญของเขา สถานที่ๆเขาเริ่มต้นขึ้นและให้คำมั่นสัญญากับอาจารย์

 

 

ขณะที่ไอริสพึมพำโนโซมุก็ค่อยๆพูดออกมา

 

 

「ครับ ที่นี่คือที่ๆผมฝึกดาบ ผมฝึกดาบกับอาจารย์ที่นี่ตั้งแต่สองปีที่แล้ว」

 

 

「อาจารย์…ซีน่า ใครเป็นคนสอบวิชาดาบให้กับเขาเหรอ?」

 

 

「……อาาา」

 

 

โนโซมุพยักหน้าด้วยแววตาที่นึกถึงวันวาน การแสดงนั่นอ่อนโยนมากจนไอริสและเพื่อนๆไม่เคยเห็นมาก่อน

 

 

「…………」

 

 

ไอริสจับจ้องไปที่ใบหน้าของเขา ในเวลาเดียวกัน ก็มีบางอย่างผุดขึ้นมาในอก

 

 

มันคล้ายกับความรู้สึกที่ไม่อยากเสียเขาไป แต่มันเป็นความรู้สึกที่ต่างออกไป

 

 

เธอค่อยๆวางมือลงบนอกและไต่ถามว่าความรู้สึกเหล่านี้คืออะไร

 

 

「โนโซมุ……」

 

 

「มาร์……」

 

 

มาร์ก้าวไปด้านหน้าของไอริสและโนโซมุก็จ้องไปที่เขา

 

 

ท่าทางอันกล้าหาญตามปกติและบรรยากาศอันหนักหน่วงล่องลอยไปมา

 

 

「……โนโซมุข้าขอโทษเพราะข้า……」

 

 

มาร์ขอโทษโนโซมุ โนโซมุฟังคำพูดนั้นอย่างเงียบๆ

 

 

「ข้าน่ะอิจฉาแก แกที่มีพลังอันมากมายอยู่ในกำมือ……」

 

 

มาร์ถอนหายใจออกเพราะเขาอิจฉาโนโซมุ

 

 

เขาต้องการพลังที่เหมือนกับโนโซมุ ดังนั้นจึงใช้เทคนิคผสาน เป็นผลมาจากความคิดตื้นๆของเขาที่อยากแข็งแกร่งขึ้น โนโซมุและคนอื่นๆตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ข้าที่เห็นว่าโนโซมุมีพลังก็ได้แต่สงสัยทำไมถึงไม่ใช้พลังนั่น

 

 

โนโซมุฟังอย่างเงียบๆ

 

 

「……ไม่ได้ขอให้ยกโทษให้หรอกนะ…บางทีแกเองก็ไม่อยากเห็นหน้าข้าแล้วเหมือนกันก็ได้…แต่ยังไง…ข้าก็อยากเจอแกอีกครั้งและขอโทษ..ขอโทษนะ」

 

 

「……อืม ผมเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่ามาร์หรอกเพราะผมเองก็มีแต่ความกลัวและไม่กล้าดึงพลังออกมาใช้……」

 

 

มาร์ทำเพียงแค่ก้มหัวของเขา โนโซมุจ้องมองที่มาร์พร้อมกับส่ายหัวไปมา

 

 

「……ใจจริงผมก็ไม่ได้อยากได้พลังนี้มาเลย ผมต่อสู้กับมันเพราะไม่อยากตายแต่สุดท้ายก็รับมันมาจนได้……」

 

 

เขาได้รับมันมาโดยบังเอิญ สารภาพได้เลยว่าแอบเก็บมันไว้อยู่นาน แม้ว่าจะมีอันริอยู่เคียงข้างผมก็ยังไม่กล้าพูดออกไป ผมรู้สึกเสียใจเอามากๆ

 

 

「ผม…ผมหนีมาโดยตอลด ทั้งที่รู้ว่ากำลังหนี แต่ว่าผมก็ก้าวไปข้างหน้าไม่ได้」

 

 

「มันเหมือนกันกับฉันเลยล่ะ ฉันกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆฉันรู้ว่าเธอกำลังทุกข์ทรมานแต่ว่าฉันก็ทำอะไรไม่ได้……」

 

 

สอดคล้องกับคำสารภาพของโนโซมุไอริสเองก็พูดความในใจของตัวเองออกมา

 

 

「ถ้าได้เป็นเพื่อนจริงๆคงได้คุยกันมากกว่านี้…แต่ว่าฉันก็ทำได้แค่มองดู…กว่าจะรู้ตัวฉันก็มัวแต่ทำเรื่องไร้สาระไปมากมาย……」

 

 

เธอละอายใจที่เธอไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยเขาไม่ได้ แม้จะเพียงก้าวเดียวก็ตาม เธอกุมมือไว้ตรงหน้าอกแน่น

 

 

「เพราะแบบนั้นฉันอยากจะเจอกับนายอีกครั้ง」

 

 

「…………」

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของไอริส โนโซมุก็หลับตาลง เพียงไม่กี่วินาที แต่คนอื่นๆกลับรู้สึกว่ามันยาวนานมาก

 

 

「ผม…สงสัยมาตลอดกลัวจะโดนทุกคนปฏิเสธหากรู้ถึงพลังที่แท้จริงของผม บางทีมันอาจจะเป็นอะไรที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น…บอกตรงๆว่าผมกลัวมากๆ……」

 

 

ขณะที่กัดริมฝีปากแน่น โนโซมุพยายามทำให้ไอริสเลิกกังวล

 

 

「แต่ผมเป็นแบบนี้ตลอดไปก็ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่สามารถจะหยุดเดินได้อีกต่อไป ผมต้องก้าวไปข้างหน้าเพราะผมต้องการใช้พลังนี้จริงๆ ผมอยากจะก้าวไปข้างหน้าให้ได้เหมือนกับซีน่า……。」

 

 

โนโซมุที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล วางมือซ้ายไว้บนอกและกำหมัดแน่น ในมือของเขามีโซ่ที่มองไม่เห็น มันเป็นสิ่งที่เขาเห็นเพียงคนเดียว

 

 

โนโซมุเสริมพลังกายด้วยความระมัดระวัง มาร์เอื้อมมือไปหยิบดาบใหญ่บนหลัง ขณะที่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไหลทั่วร่าง

 

 

「มาร์คุง……」

 

 

อย่างไรก็ตามทิม่าค่อยๆจับมือของเขาลง

 

 

ทิม่าส่ายหัวพร้อมกับกุมมือขวาของมาร์ไว้

 

 

「ไม่เป็นไรหรอก…ทุกอย่างจะโอเค」

 

 

มาร์มองไปที่โนโซมุอีกครั้งด้วยคำพูดนั้น เขาจ้องมองโนโซมุต่อไป แต่ความอบอุ่นจากมือของทิม่าทำให้จิตใจของมาร์สงบลง

 

 

「ฟู่……」

 

 

มาร์ถอนหายใจออกและทำท่าทีสงบ

 

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นเองความมุ่งมั่นของโนโซมุก็เพิ่มขึ้น

 

 

「ย๊ากกกกกกก……!」

 

 

โนโซมุพยายามใช้มือซ้ายของเขาพังทลายโซ่ที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ราวกับว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งความวิตกกังววลใจของเขา

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกห์!……โอวววววววววว」

 

 

ขณะที่โนโซมุทุ่มเทมากขึ้นไปอีก รอยเปื้อนสีแดงก็ปรากฏใต้เสื้อผ้าของเขา บางทีเป็นเพราะพยายามจะเอา “พันธนาการ”ออก เลือดก็ไหลออกมาบาดแผลที่ต่อสู้กับมังกรแห่งความตายเริ่มเปิดออก

 

 

ยังไงก็ตาม โนโซมุยังปลดพลังออกมาไม่ได้ เขาอดทนต่อความเจ็บปวดเหล่านั้นพร้อมกับกัดฟันแน่น

 

 

ในขณะนั้นเอง จู่ๆโนโซมุก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังจ้องมาที่เขา สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากแววตานั่น เธอคนนั้นกำลังเฝ้ามองดูตัวผมอยู่

 

 

ทันใดนั้นที่เงยหน้าขึ้น ไอริส และมาร์ก็จ้องมองมาที่โนโซมุ ซีน่าและอันริก็เฝ้ามองจากด้านหลัง

 

 

และความรู้สึกคิดถึงที่มาจากด้านหลังของผม เมื่อโนโซมุเหลือบตามองไปข้างๆ ดาบของชิโนะก็พุ่งเข้ามาในสายตา

 

 

“เป็นอะไรไปพ่อหนุ่ม?ทุกอย่างจะไม่เป็นไรหรอกนะ?”

 

 

เสียงนั้นดังเข้ามาในหูของโนโซมุ อาจเป็นเพียงภาพหลอน อาจเป็นภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมาจากความทุกข์ใจของเขา แต่นั่นก็ดีแล้วสำหรับเขา ทุกคนมาที่นี่มาเพราะต้องการเห็นพลังของผมหากผมดึงมันออกมาไม่ได้ทุกอย่างก็จบเห่

 

 

「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!」

 

 

โนโซมุรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีไว้ในมือซ้ายกระชากโซ่และมือเองที่จับโซ่นั่น มือซ้ายนั่นเริ่มมีเลือดไหลออกมา แต่โนโซมุไม่สนใจ

 

 

รอยแตกนับไม่ถ้วนเข้าสู่ห่วงโซ่ที่มองไม่เห็นเกิดเสียงดังแกร๊ก

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกห์!!」

 

 

โนโซมุพยายามทำลายโซ่ด้วยแรงเฮือกสุดท้ายวินาทีต่อมา โซ่ที่พันธนาการเขาไว้ก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

 

 

ในเวลาต่อมาพลังอันมหาศาลก็ไหลเข้ามาทั่วร่างของโนโซมุความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างกาย

 

 

พลังของเทียแมทที่ถูกระงับไว้ถูกปลดปล่อยด้วยตัวเขาเอง เดินทีมันพยายามพังทลายร่างของโนโซมุจากภายใน และพลังเหล่านั้นก็เอ่อล้นกระจายไปรอบๆ

 

 

พลังที่รั่วไหลออกมาจากร่างโหมกระหน่ำราวกับพายุ ประทับความยิ่งใหญ่ของมันไว้กับสิ่งมีชีวิตรอบๆตัว

 

 

「เฮอะ ยังเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยนะ……」

 

 

「อืม นี่มันอะไรกัน……」

 

 

มาร์และเพื่อนๆต่างเหงื่อออก ความรู้สึกกดดันจากโนโซมุอันรุนแรงพุ่งเข้ามา มิมุรุและเพื่อนๆที่อยู่ข้างหลังต่างมองมาโดยไม่พูดอะไร

 

 

แม้แต่อันริก็ยังยิ้มออกมาอย่างตกตะลึงและพูดอะไรไม่ออก

 

 

「……ยังหรอกนะ」

 

 

ในขณะเดียวกันไอริสจ้องมองโนโซมุด้วยดวงตาสงบนิ่ง ขณะที่กังวลว่าจะโดนกระแสพลังนั่นพัดพาไปหรือไม่ แต่เมื่อเห็นเขาที่ปลด “พันธนาการ”ออกมา ก็เข้าใจได้ถึงความไม่สบายใจของเขาในทันที

 

 

「เนะ เน่! เอาจริงดิ……。อะไรกันละนั่นพลังนี่……」

 

 

ใบรรดาทุกคนมีเพียงฟีโอที่ตกตะลึงกับพลังของโนโซมุ

 

 

「ฮึก……」

 

 

「เดี๋ยว! ซีน่า!」

 

 

ในขณะเดียวกันซีน่าก็ถอยหลังไป เธอทรุดตัวลงอย่างกระทันหันราวกับหมดแรง ขณะที่มิมุรุพยายามพยุงร่างกายของซีน่า ใบหน้าของเธอซีดและร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

 

 

「นี่ ซีน่า! เป็นอะไรไหม!?」

 

 

「อะไรกันนะวิญญาณตนนั้น….? วิญญาณที่ไร้ซึ่งสีสัน เช่นนั้น สิ่งนั้นมัน……」

 

 

「ซีน่า! ซีน่า ตั้งสติไว้!!」

 

 

เธอจ้องโนโซมุด้วยความหวาดกลัว ราวกับว่าเธอไม่ได้ยินเสียงของมิมุรุ

 

 

「พลังแห่งจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่กำลังหมุนวนรอบตัวเขา……นั่นไม่ใช่พลังที่คนๆหนึ่งสามารถครอบครองมันได้ ถ้ามีพลังแบบนั้น……ร่างกายจะต้องพังทลายอย่างแน่นอน……」

 

 

ทุกคนลืมตาขึ้นและจ้องมองไปทางโนโซมุตามคำพูดของซีน่า พลังที่รั่วไหลออกมาจากร่างยังคงหมุนวนเหมือนกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก

 

 

ในขณะเดียวกันไอริสก็ก้าวเข้าไปหาโนโซมุ

 

 

「……เขาบอกว่าเขาได้รับพลังนั่นโดยบังเอิญ วิธีการต่อสู้อันรุนแรงที่ไม่เข้ากับสไตล์ดั้งเดิมของโนโซมุ และพลังแห่งวิญญาณที่คุณซีน่าสัมผัสได้ เขาต้องเผชิญหน้ากับตัวอะไรอยู่กันน่ะ……」

 

 

「พลังนั่น…มันไม่ใช่พลังของวิญญาณทั่วไป….นอกจากนี้……」

 

 

ซีน่าพึมพำด้วยใบหน้าซีดเซียวกับคำถามของไอริส ในสายตาของเธอที่สามารถสัมผัสวิญญาณได้ ความแตกต่างของพลังนั่นมันมากเกินไปสำหรับไอริส

 

 

เปลวไฟสีแดงเข้มที่ควบแน่นจนบริสุทธิ์ผุดพ่อง การสร้างขึ้นมาใหม่ และการทำลายล้าง

 

 

น้ำสีฟ้าที่ควบคุมการเกิดและความเยือกเย็นของชีวิต แต่บางครั้งก็ทำให้เกิดความขุ่นมัวและความวุ่นวาย

 

 

ดินสีน้ำตาลที่ให้พรแก่โลกและทำเครื่องหมายตราตรึงไว้ชั่วนิรันดร์

 

 

บางครั้งลมแปลกๆก็พัดพาเมล็ดพันธ์ุแห่งชีวิตและการเดินทาง บางครั้งก็เป็นอุปสรรค

 

 

และความมืดมิดที่ย้อมน่านฟ้าซึ่งมอบความสงบ ความวิตกกังวลและความขัดแย้งให้เหล่าผู้คน

 

 

สีสันอันแสนว้าวุ่นดูเหมือนจะเป็นส่วนผสมของวิญญาณหลายตัวที่ไม่ใช่วิญญาณธรรมดา ซีน่ารู้สึกได้ถึงกระแสพลังที่โหมกระหน่ำนั่น

 

 

ในขณะนั้นเองก็เจอร่างของมังกรยักษ์ที่มี 6 ปีก 5 สี ปรากฏขึ้นในใจเธอ

 

 

มังกรตัวตนที่สูงตระหง่านตาเหนือท้องฟ้าและปีกที่ครอบคลุมท้องฟ้า

 

 

กรงเล็บและเขี้ยวขนาดใหญ่ที่ลับคมจนถึงที่สุดแม้แต่แผ่นดินก็สะบั้นให้ขาดได้

 

 

และดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่จะทำลายล้างทุกสิ่งในโลกใบนี้

 

 

วิญญาณที่มีตัวตัวอยู่ในโลกนี้แสดงตัวตนที่หยาบด้าน แต่ก็น่ากลัวเกินกว่าจะเทียบได้

 

 

「อาาา! ไม่มีทางงงง!」

 

 

และมีวิญญาณเพียงหนึ่งเดียวที่สอดคล้องกับร่างนั้นในทวีปอาร์คมีล

 

 

ร่างของโนโซมุทับซ้อนกับมังกรที่ครั้งหนึ่งเคยกินเผ่าพันธ์เดียวกัน

 

 

เมื่อเธอตระหนักได้ถึงสิ่งนั้นใบหน้าของเธอก็ซีดเผือกเหมือนกับคนตาย

 

 

「สังเกตเห็นแล้วสินะครับ……」

 

 

โนโซมุเห็นท่าทีของซีน่าก็ตระหนักได้ว่าเธอรู้ถึงพลังอันแท้จริงของโนโซมุแล้ว

 

 

「นั่นมัน……พลังของดราก้อนสเลเยอร์ เหตุผลที่ผมได้พลังนี้มาด้วยตัวเอง……ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าทำได้ยังไง」

 

 

ขณะนั้นโนโซมุก็เล่าเรื่องราวตอนที่เขาปราบมังกรได้

 

 

「ระหว่างทางไปกระท่อมแห่งนี้เพื่อมาฝึกตามปกติ ก็ไปโผล่ในที่ๆไม่รู้จักมาก่อนและเจอมังกรที่มี 6 ปีก 5 สี เข้าโจมตี。」

 

 

「มังกร 6 ปีก 5 สี……」

 

 

ไอริสและคนอื่นๆสังเกตเห็นตัวตนของโนโซมุที่เอาชนะมังกรได้ และพวกเขาก็พูดไม่ออก ขณะที่จ้องมองไป โนโซมุก็ยังพูดต่อไป

 

 

「ระหว่างที่ต่อสู้กัน ผมสามารถปลดปล่อย “พันธนาการ”ได้และบังเอิญชนะมันมาได้ ในขณะนั้นตอนที่ผมกำลังหมดสติ สิ่งที่เข้ามาในสายตาคือมังกรที่พ่ายแพ้ให้กับผมและกลายเป็นละอองแสงเข้าสู่ร่างของผม」

 

 

มันเป็นการต่อสู้แห่งปาฏิหาริย์ที่ผมสามารถเอาชนะได้ ยังจำได้เลยหากพลาดเพียงนิดก็ตาย

 

 

「……พลังของหมอนั่นยิ่งใหญ่เกินไปจนไม่เหมาะกับร่างกายของผม ผมรอดมาได้เพราะพันธนาการที่มีอยู่ แต่หมอนั่นยังคงอยู่ในตัวผม……」

 

 

ขณะที่พูดโนโซมุยังคงต่อต้านเทียแมทที่พยายามกลืนกินตัวเอง

 

 

เขาดกัดฟันแน่นและพยายามระงับพลังอันบ้าคลั่งของเขา แต่หมอนั่นกลับยินดีที่ได้อาละวาดอยู่ในร่างกายของเขา ราวกับเยาเย้ยความพยายามของโนโซมุ

 

 

「อืม…ทุกครั้งที่ผมปลดปล่อย “พันธนาการ” มันอาจจะเข้ามาแทนที่ผมและกลืนกินร่างผมในที่สุด…ผมฝันถึงฉากนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า」

 

 

โนโซมุอดทนต่อไปเรื่อยๆขณะกัดฟันแน่น มีเหงื่อไหลออกมาที่หน้าผากของเขา และใบหน้านั้นตึงเครียดมาก

 

 

「ผมไม่รู้ว่าคนรอบตัวจะคิดยังไงหากรู้เกี่ยวกับพลังของผม ผมจะกลายเป็นหนูทดลอง เครื่องมือทางการเมือง หรือเป็นเพียงแค่อุปกรณ์สงครามเดินได้?……」

 

 

โนโซมุอดทนต่อไปเรื่อยๆ และพยายามบอกว่าเขาเป็นดราก้อนสเลเยอร์ และย้ำถึงความวิตกกังวลของเขาและสื่อไปถึงไอริสและคนอื่นๆ

 

 

「ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าทุกคนรู้ถึงพลังนี้ ผมไม่รู้ว่าทุกคนจะคิดยังไง……」

 

 

และโนโซมุเองก็ยอมเปิดใจของเขา

 

 

เขามีความกังวลและความเสียใจที่เขาหนีมาตลอด และโศกนาฏกรรมที่ผมทำผิดพลาดไป

 

 

「อึก!……พลังของเทียแมทในตัวผม หากผมถูกกลืนกินจะกลายเป็นว่าผมฆ่าทุกคนด้วยมือของผมเอง……。ต่อให้จะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าทุกคนรับรู้ถึงพลังนี้ทุกคนอาจจะจากผมไป……。พอนึกได้แบบนั้นก็เริ่มคิดขึ้นมา……ผมกังวลและไม่สบายใจมากๆ……」

 

 

หากชิโนะยังมีชีวิตอยู่ โนโซมุก็ไม่ต้องมาจนมุมแบบนี้

 

 

แต่เธอไม่อยู่อีกแล้ว โนโซมุต้องแบกรับความเสี่ยงและความกังวลเพียงลำพัง

 

 

「ผม……」

 

 

「ในที่สุดก็บอกออกมาสักทีนะ……」

 

 

「อาา ขอบคุณนะโนโซมุที่บอกทุกอย่างให้ฟัง……」

 

 

คำพูดของไอริสและมาร์พูด้วยความอ่อนโยน พวกเขามีสีหน้าโล่งใจราวกับว่ายกภูเขาออกจากอก

 

 

「ทั้งสองคน……」

 

 

「โนโซมุ ฉันอยากจะให้เธอเล่าเกี่ยวกับตัวเองเยอะๆและก็พูดคุยกับฉันคะ……」

 

 

ไอริสวางมือลงบนอกเพื่อยืนยันความรู้สึก

 

 

「อยกาให้เธอเล่าเรื่องราวของเธอมากกว่านี้ ฉันอยากจะได้ยินเรื่องราวของเธอ…อยากจะรู้จักเธอมากกว่านี้」

 

 

ไอริสพูดด้วยความตั้งใจจริงและก้าวเข้าไปใกล้มากขึ้น

 

 

「อาาา!!」

 

 

อย่างไรก็ตามมันเป็นดั่งดาบที่พุ่งเข้าหาไอริส

 

 

คมดาบที่ถูกบีบอัดและกลายเป็นคมดาบเวทย์ ดาบนั่นตั้งอยู่ระหว่างเขากับเธอเป็นกำแพงที่คอยขวางกั้น

 

 

「……หากอยากรู้มากกว่านี้ก็คงย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว หากเข้ามาใกล้กว่านี้อาจจะถึงชีวิตนะครับ มันเกี่ยวข้องกับโซเมียจังคนสำคัญเลยนะครับ……」

 

 

อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด

 

 

ความปรารถนาที่ได้รับการยอมรับและความสุขที่ถูกยอมรับ ยังคงความปรารถนาจะยืนยันความในใจ

 

 

หัวใจของโนโซมุนั้นไร้ซึ่งความสมดุล จิตใจของเขากำลังโลเล

 

 

「……อืม พลังอันยิ่งใหญ่จะดึงดูดหลายสิ่งหลายอย่าง บางคนพยายามจะใช้เธออยากที่อยากที่เขาอยากให้เป็น บางคนอาจจะกำจัดเธอทิ้งไปก็ได้ บางคนอาจจะมุ่งเป้าไปที่คนรอบข้าง ไม่ใช่ตัวเธอเอง」

 

 

พวกที่แสวงหาผลประโยชน์ของตนเอง พวกที่กลัวบาป และเมื่อพวกเขาตัดสินใจว่าตัดสินใจกับปัญหาเองไม่ได้ ก็จะตกเป็นเป้าหมายของคนรอบข้าง

 

 

「……แต่นั่นก็เหมือนกันสำหรับฉัน」

 

 

ครอบครัวฟรานซิสที่มีอำนาจมหาศาลมีหลายคนที่เข้ามายุ่งกับฉันและน้องสาว

 

 

แน่นอนสถานการณ์ระหว่างตระกูลฟรานซิสกับดราก้อนสเลเยอร์แบบโนโซมุนั้นต่างออกไป

 

 

โนโซมุที่มีพลังมหาศาล แต่ไม่มีการสนับสนุนจากใคร กับไอริสที่มีอำนาจมหาศาลและเป็นหัวหน้าตระกูลคนต่อไป

 

 

อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญนั้นเหมือนกันก็คือการดึงดูดคนโดยรอบ

 

 

「มันเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับฉันเลยล่ะ ฉันเกลียดการหายตัวไปของเธอมากกว่าค่ะ」

 

 

ฉันไม่อยากให้เธอจากไปไหนอีกแล้วโนโซมุ คำพูดนั้นแทรกเข้าไปในอกของเขา

 

 

ดวงตาของโนโซมุสั่นเทามากขึ้น บุคคลที่โหยหาตัวเขาอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอ

 

 

ขณที่ไอริสเดินต่อไป ร่างของโนโซมุก็พยายามถอยห่าง

 

 

ไอริสจ้องมองโนโซมุ โนโซมุก็จ้องมองไปที่เธอ

 

 

มาร์ซึ่งอยู่ข้างหลังไอริสก็เดินตามกันมา

 

 

「พอมาคิดดูแล้ว พวกเราก็ไม่เคยบอกอะไรแกเลย อันที่จริงพวกเรายังไม่เคยคุยกันจริงๆจังๆเลยด้วยซ้ำ……」

 

 

ไอริสและมาร์ก้าวต่อไปทั้งสองเข้ามาในเขตการโจมตีของโนโซมุ รอบๆนั้นมี แฟนท่อม-ชั่วพริบตา-อยู่หากเอื้อมออกไปก็จะทำลายฝ่ายตรงข้าม

 

 

「มาเริ่มกันใหม่เถอะนะ ณ ที่นี่ ตรงนี้……」

 

 

ทั้งสองเอื้อมมือไปหาโนโซมุ

 

 

แฟนท่อมที่ควรจะตัดมือของพวกเขาไปแล้วกลับไม่ทำงาน

 

 

อย่างไรก็ตามทั้งสองยังคงยื่นมือต่อไป

 

 

สองมือนั่นกำลังแตะดาบของโนโซมุ

 

 

ช่วงเวลาที่มือเหยียดออกสัมผัสใบมีด……。

 

 

「…………」

 

 

「……โนโซมุ」

 

 

แฟนท่อมของโนโซมุโผล่ออกมา

 

 

มือทั้งสองข้างค่อยๆเข้ามาจับดาบของโนโซมุ โนโซมุพยายามลดคมดาบลง

 

 

「ผม ฮะฮึก……」

 

 

โนโซมุร้องไห้ออกมา

 

 

ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาและบวมแดง รืมฝีปากที่กัดแน่น เขาพยามจะอดทนและจ้องมองไปทางพวกเขา

 

 

「ขอบคุณที่กล้าบอกพวกเรานะ ขอบคุณที่ตอบกลับความคิดของเรา……」

 

 

「ขอโทษนะโนโซมุและก็ขอบคุณ ที่คอยเป็นเพื่อนข้าคนนี้……」

 

 

「ฮะ ฮึก……」

 

 

เปลือกตาของเขาทนไม่ไหว น้ำตาไหลอาบแก้มของเขา

 

 

น้ำตาค่อยไหลหยดลงบนพื้น กระพริบตาท่ามกลางแสงเดือน

 

 

มันอดใจไม่ไหวจริงๆ แต่เพียงเท่านี้ก็อิ่มเอมแล้ว……。

 

 

โนโซมุยังคงหลั่งน้ำตาออกมา พร้อมกับมอบความอบอุ่นให้ตัวเอง

 

 

「อาาา!」

 

 

โนโซมุเงยหน้าขึ้นมา

 

 

ดวงตาของเขาเป็นสีแดงและเต็มไปด้วยน้ำตาแต่ใบหน้ายังคงเปล่งประกายราวกับได้สิ่งที่ต้องการ

 

 

「ผมกับทุกคนแล้ว……」

 

 

โนโซมุพยายามสารภาพความรู้สึกของตัวเองอีกครั้ง

 

 

แต่ในวินาทีต่อมา เมื่อดวงตาของโนโซมุเบิกกว้าง ทั้งสองคนก็ปลิวลอยไป

 

 

คลื่นรุนแรงกระทบไอริสและมาร์จนปลิวไปในอากาศ

 

 

เกิดอะไรขึ้นกันแน่? สิ่งที่เขาเห็นคือพวกเขาปลิวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ มันมีเงาสีดำขนาดมหึมาพร้อมกับเสียงคำรามต่อหน้าพวกเขา และร่างของโนโซมุก็ปลิวไปตามมวลสีดำนั่น

 

อาจจะมีได้พักผ่อนกันบ้างละแต่ละตอนยาวเหลือเกิน แปลสองตอนล่อ 8-9ชม.ต่อวัน จะตายเอา~แง่มๆ

เกมส์ก็ไม่ได้เล่นเลยเน้อ น่าสงสารจริงๆคะน้าเอ๋ย ทำไมเจอนิยายตอนยาวตลอดเลยนะ

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท