Perfect Superstar – ตอนที่ 120 สยายปีกโบยบิน

Perfect Superstar

ตอนที่ 120 สยายปีกโบยบิน

“ชีวิตก็เหมือน แม่น้ำสายหนึ่ง บางทีหยุดนิ่ง บางคราไหลเชี่ยว…”

“ความจริงก็เหมือน กุญแจดอกหนึ่ง กักขังฉันไว้ ไม่อาจหลุดลอย…”

“ชีวิตอันพิศวงเหมือนมีดเล่มคม แทงฉันซ้ำๆ ให้เจ็บช้ำ…”

ฉันรู้ว่าความสุขที่ต้องการ ล่องลอยอยู่บนนภาฟ้าไกล”

“ฉันอยากจะบินให้สูง บินขึ้นไปให้สูงอีก!”

“…”

ทั้งแกรนด์สตูดิโอเงียบกริบ มีเพียงเสียงของลู่เฉินที่กึกก้องสะท้อนทั่ว ถาโถมใส่…

ใบหูของทุกคน ทะลุเข้าไปสู่หัวใจของพวกเขา!

ผลงานเพลงที่ลู่เฉินนำมาร้องนี้มีชื่อว่า ‘บินให้สูงขึ้น’ เพลงนี้เคยร้องมาแล้วครั้งหนึ่งในการแข่งขันการแสดงของเว็บไซต์จิงอวี๋ทีวี จากนั้นก็ไม่เคยนำออกมาร้องอีกเลย

ส่วนคืนนี้เขายืนอยู่บนเวทีของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง เขาทำให้เพลงสมบูรณ์แบบอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่รู้จักกันดีและเต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพของเขา

เมื่อเทียบกับการร้องในห้องออกอากาศสด เพลง ‘บินให้สูงขึ้น’ ครั้งนี้ผ่านการทำ ทำนองเพลงใหม่มาแล้ว มีเสียงเครื่องดนตรีประกอบมากมาย ทำให้ทั้งทำนองและจังหวะมีชั้นเชิงมากขึ้น สั่นสะเทือนเข้าไปถึงใจของคนฟัง

ลู่เฉินใช้เพลงนี้ แสดงความสามารถทั้งหมดที่มีออกมา

โดยเฉพาะท่อนฮุค เขาเปิดโทนเสียงของทั้งหมด ท้าทายกับเสียงร้องใหม่ของตัวเอง

เป็นการโจมตีต่อทั้งผู้ชมในห้องส่งทั้ง 1500 คนและผู้ชมทางบ้านทั้งหน้าจอโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์

ขณะเดียวกันก็ทำให้คณะกรรมการทั้งสี่ประทับใจอย่างสุดซึ้ง

เพลงเดินไปร้องไปที่ลู่เฉินร้องในการประกวดครั้งแรก แนวเพลงยังอ่อนด้อยค่อนไปทางตามใจฉัน เขาร้องเพลงรักที่สวยงามนี้ด้วยอารมณ์อันลึกซึ้ง ทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจ รื่นหู อ่อนหวาน และอบอุ่น

เมื่อถึงรอบคัดเลือก 32 คนเหลือ16 คน ลู่เฉินเปลี่ยนเป็นเพลงสไตล์ซอฟท์ร็อค ‘เพลงเธอผู้เป็นเพื่อนผู้ร่วมโต๊ะของฉัน’ ที่ทั้งเศร้าสร้อยและโหยหาได้กระทบจิตใจผู้คนไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ทำให้ความทรงจำของพวกเขานึกย้อนกลับไปถึงวัยรุ่นอันสวยงาม

เพียงแค่ผลงานเพลงอย่างเดียวก็ควรค่าแก่การพูดถึง เพลง ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ แน่นอนว่าชนะเพลง ’เดินไปร้องไป’

นักร้องหนุ่มไฟแรง นำพาความประหลาดใจอย่างใหญ่หลวงมาให้ผู้ชมรายการขับร้องให้ก้องจีน

ไม่ว่าจะทั้งถานหงหรือเฉินเฟยเอ๋อร์ หลินจื้อเจี๋ยต่างรอคอยการประกวดรอบตัดสินของเขตปักกิ่งในคืนนี้ ลู่เฉินเองก็สามารถนำเอาผลงานเพลงที่ไพเราะโดดเด่น ออกมามอบให้กับทุกคน สร้างความประทับใจให้ทุกคนอีกครั้ง

พวกเขารู้ดีว่า นี่ไม่ง่ายเลย

นักร้องนักแต่งเพลงวัยรุ่น นำเอาผลงานเพลงดีๆ ออกมาได้เพลงสองเพลงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การทำผลงานเพลงอันไพเราะเพลงแล้วเพลงเล่านั้น จะต้องใช้พรสวรรค์ชั้นสูงและพื้นฐานอันหนักแน่นมั่นคง

ลู่เฉินยังหนุ่มจะทำได้เหรอ? เขายังแสดงความพิเศษออกมาให้เป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่ทุกคนได้หรือไม่?

นอกจากแฟนคลับตัวยงของลู่เฉิน ก่อนที่เขาจะขึ้นเวที ใครๆ ก็ไม่รู้ผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

คำตอบคือลู่เฉินไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เพลงใหม่ของเขาเพลงนี้เยี่ยมยอดเหมือนเดิมหรือยิ่งกว่า

แนวเพลงของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง อารมณ์ที่ถูกเก็บกดไว้มานานถูกระบายผ่านเพลงนี้ออกมา เขาเปิดใจอย่างหมดเปลือก ปลดปล่อยขีดจำกัดอย่างร้อนแรง ขึ้นสู่จุดหมายอันสูงสุด!

“ฉันจะบินให้สูง บินขึ้นไปให้สูงอีก! ลมแรงพัดผ่านเหมือนระบำพลิ้ว ปลดปล่อยจากอ้อมกอด!”

“ฉันจะบินให้สูง บินขึ้นไปให้สูงอีก!ปีกสยายม้วนตามพายุ เสียงใจร่ำร้อง บินขึ้นไปให้สูงอีก!”

“ฉันจะบินให้สูง บินขึ้นไปให้สูงอีก…”

ผู้ชมในห้องส่งหลายคนลุกขึ้นยืน ไม่สนใจว่าเพลงของลู่เฉินยังไม่จบ พวกเขาออกแรงปรบมือตามจังหวะเพลง เพื่อส่งแรงเชียร์ให้เขา เพื่ออวยพรเขา!

บรรยากาศที่อบอุ่นและประทับใจคนเช่นนี้ ผู้เข้าแข่งขันคนก่อนหน้ายังทำไม่ได้

เพราะผู้ชมเหล่านี้ทางสถานีโทรทัศน์ไม่ได้เชิญมา พวกเขาไม่ได้เตรียมสคริปต์คำพูดมาล่วงหน้า และไม่ได้รับมอบหมายภารกิจใดในการถ่ายทำ ความรู้สึกของพวกเขาล้วนเป็นจริง พวกเขาแสดงสิ่งที่พวกเขารู้สึกออกมาจากใจ!

บรรยากาศในที่นี้ ไม่มีทางที่คนที่อยู่หน้าจอจะรับรู้ได้

จนกระทั่งลู่เฉินตะโกนเสียงร้องบาดใจของท่อนสุดท้ายออกมา

“ฉันจะบินให้สูง บินขึ้นไปให้สูงอีก!ลมแรงพัดผ่านเหมือนระบำพลิ้ว ปลดปล่อยจากอ้อมกอด!”

โฮ้ว~

ผู้ชมทั้งห้องส่งลุกขึ้นยืนแสดงความจริงใจ รวมทั้งกรรมการทั้งสี่คน

ทุกคนใช้เสียงปรบมือกึกก้องเหมือนลมพายุ ช่วยให้ลู่เฉินบินขึ้นไปให้สูงขึ้น!

ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้คำใดมาอธิบาย เสียงปรบมือบอกแทนทุกอย่าง

หลายคนเชื่อว่าภาพเหตการณ์นี้ ได้จารึกลงในความทรงจำของชีวิตพวกเขาอย่างลึกซึ้ง

กล้องออกอากาศเปลี่ยนจากภาพบนเวทีไปที่เขตรอหลังเวที

คืนนี้เป็นการแข่งขันรอบตัดสิน ลู่เฉินมีสมาชิกอีกสองคนตามมาให้กำลังใจ

พวกเขาคือลู่ซีและเฉินซิน

วันนี้หลังจากลู่เฉินคุยกับเฉินซินแล้ว หญิงสาวผู้มาจากเมืองชวนสู่ได้ลาออกจากงานในวันรุ่งขึ้น แล้วเข้ามาร่วมงานกับออฟฟิศลู่เฉิน กลายเป็นผู้ช่วยของลู่ซีและพนักงานเอกสารไปโดยปริยาย

หลังจากทดลองงานไม่กี่วัน ลู่ซีพอใจในตัวเธอมาก จึงพาเธอมาดูการแข่งขันของลู่เฉินในคืนนี้ด้วย

เฉินซินกำลังปรบมือเพราะทั้งตื่นเต้นและยินดี ใบหน้ากลมของเธอแดงระเรื่อราวกับผลแอปเปิลสุก ทำให้ดูอ่อนหวานน่ารัก

เมื่อเทียบกับลู่ซีแล้ว ลู่ซีดูสงวนท่าทีมากกว่า จังหวะปรบมือไม่ช้าไม่เร็ว

แต่แววตาที่สะท้อนออกมานั้นกำลังบอกคนอื่นว่า ความจริงแล้วในใจของเธอไม่เหมือนกับกิริยาอันสงบเสงี่ยมที่แสดงออกเลย

เพลง ‘บินให้สูงขึ้น’ เพลงนี้ ทำให้ลู่ซีซาบซึ้งมาก

เธอสังเกตเห็นแล้วว่า น้องชายของตัวเองไม่ใช่เด็กชายจอมซนไม่รู้เดียงสาคนนั้นอีกต่อไป

เขาเติบโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว เขามีปีกที่ใช้โบยบิน!

อยู่ๆ เธอรู้สึกสับสนขึ้นมา

เสียงปรบมือทอดยาวนานถึงหนึ่งนาทีถึงจะสิ้นสุด

ลู่เฉินโค้งตัวลงต่ำ “ขอบคุณครับ!”

อารมณ์ของทุกคนปรับเข้าสู่ภาวะปกติ เจินเจินพูดขึ้นมาก่อนว่า “เพลงนี้ทำให้ฉันนึกถึงเพลงในฤดูใบไม้ผลิ อารมณ์เพลงรุนแรง เนื้อเพลงเปี่ยมไปด้วยความหมาย”

“ลู่เฉิน คุณรู้ไหม คุณทำให้ฉันเชื่อว่า การสร้างสรรค์เพลงใหม่ในประเทศของเรายังไม่สูญหายไป มีความหวังมาโดยตลอด!”

เธอกดเครื่องให้คะแนนลงไปอย่างแรง “ดังนั้นฉันจึงให้คุณ 10 คะแนนเต็ม!”

เสียงปรบมือดังกึกก้องทั้งห้องส่งอีกครั้ง

ในการแข่งขันครั้งก่อน เจินเจินเป็นคนเดียวที่ให้คะแนนลู่เฉิน 9 คะแนน

ลู่เฉินขอบคุณ “ขอบคุณครับอาจารย์เจินเจิน”

ถานหงผุดลุกขึ้นยืน เดินก้าวยาวๆ ขึ้นมาบนเวที กางแขนทั้งสองข้างกอดลู่เฉิน

“เขียนเพลงได้ดี ร้องเพลงยิ่งดี!”

กิริยาของเขาอยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน เสียงหัวเราะและเสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกัน

ถานหงที่เดินกลับมายังที่นั่งของกรรมการ ให้คะแนนลู่เฉิน 10 คะแนนเต็ม!

เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะ “พี่ถานชอบสนับสนุนคนหน้าใหม่ ฉันก็ชอบเพลงนี้เหมือนกัน”

“ลู่เฉิน คุณเป็นนักร้องที่ยอดเยี่ยม ผลงานของคุณฉันชอบทั้งนั้น ฉันเลยอยากเชิญคุณให้มาเป็นแขกในงานร้องเพลงครึ่งปีหลังของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง คุณยอมรับไหม?”

ว้าว!

ไม่ว่าทั้งผู้ชมในห้องส่งทั้ง1500 คนหรือผู้ชมทางบ้านอีกหลายล้านคน ต่างรู้สึกคาดไม่ถึงและประหลาดใจ

เฉินเฟยเอ๋อร์ชื่นชมลู่เฉิน ใครๆ ก็มองออก แต่ไม่มีใครคิดว่าเธอจะเชิญลู่เฉินไปเป็นแขกในงานร้องเพลงของตัวเอง

สำหรับนักร้องหน้าใหม่คนหนึ่งแล้วนี่เป็นเกียรติอย่างสูง และเป็นโชคดีอย่างที่สุด

เฉินเฟยเอ๋อร์อยู่ในวงการร้องเพลง เป็นราชินีเพลงรักอันอ่อนหวานมาโดยตลอด เธอเคยสร้างสถิติการขายแผ่นเสียงของนักร้องหญิงเอาไว้มากมาย แม้ตอนนี้จะไม่รุ่งเรืองเท่าในอดีตแต่เธอยังคงเป็นซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งของวงการ

ได้รับการเกื้อหนุนจากเฉินเฟยเอ๋อร์ ได้แสดงในงานแสดงของเธอ ผลที่ได้ไม่ได้ด้อยกว่าการขึ้นเวทีประกวดรายการขับร้องให้ก้องจีน

ลู่เฉินอึ้ง แต่เขารู้ตัวเร็ว รีบตอบกลับทันใด “เป็นเกียรติอย่างสูงของผมครับ!”

เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มอย่างอ่อนหวาน กล้องหันมาจับจ้องที่สีหน้าของเธอในตอนนี้

ช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน

เฉินเฟยเอ๋อร์ให้ลู่เฉิน 10 คะแนนเต็มเช่นกัน!

คนสุดท้ายหลินจื้อเจี๋ย เขาเอ่ยให้กำลังใจลู่เฉินสองสามประโยค แล้วให้ลู่เฉิน 10 คะแนน

40 คะแนนเต็ม!

ลู่เฉินได้รับคะแนนจากคณะกรรมการแล้ว เขาได้เข้ารอบเป็นหนึ่งในสิบคนได้อย่างไม่ต้องกังวล ไม่มีใครได้คะแนนสูงกว่านี้แล้ว ทำให้โอกาสที่เขาจะได้ครอบครองตำแหน่งอันดับหนึ่งก็ยิ่งมีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้น!

ต่อไปดูการโหวตให้คะแนนจากผู้ชมในห้องส่งและผู้ชมทางบ้าน

พิธีกรขึ้นมาบนเวที ยืนอยู่ข้างกายลู่เฉิน ในมือถือแท็บเล็ตไว้อันหนึ่ง

เขามาประกาศผลคะแนนโหวตแบบเรียลไทม์

ผู้เข้าแข่งขัน: ลู่เฉิน

หมายเลขผู้เข้าแข่งขัน: 007

เพลงที่ร้อง: บินให้สูงขึ้น

คะแนนจากกรรมการ: 40 คะแนน

คะแนนจากผู้ชมในห้องส่ง: 1488 คะแนน

คะแนนจากผู้ชมทางบ้าน: 1,275,280 คะแนน

สรุปคะแนนรวมทั้งหมด 98.71 คะแนน

ไม่มีใครได้มากกว่านี้แล้ว!

การแข่งขันเวทีก่อน ในการโหวตให้คะแนน ลู่เฉินได้คะแนนโหวตมากกว่าครั้งก่อนถึงเกือบสองเท่า จากเจ็ดแสนกว่าคะแนนเป็น หนึ่งล้านสองแสนเจ็ดหมื่นกว่าคะแนน เพียงพอที่จะเห็นความนิยมในตัวของเขาแล้ว

คะแนนรวมสูงถึง 98.71 คะแนน ทำให้เขาเข้ารอบ10 คนสุดท้ายอย่างไม่มีเงื่อนไข

ต้องรู้ก่อนว่าผู้เข้าแข่งขันสองคนก่อนที่โดดเด่นเหมือนกันคือจางจวิ้นหวาและจั่วชิวชิง คะแนนรวมยังแค่ 94. 23และ 93.17 คะแนนเท่านั้น ห่างจากลู่เฉินอยู่มาก

อาศัยคะแนนที่สูงลิ่วนี้ ชื่อของลู่เฉินขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งบนตารางจัดอันดับ

ทั้งห้องแกรนด์สตูดิโอเกิดเสียงปรบมือสนั่นหวั่นไหวอีกครั้ง!

ความคึกคักในห้องออกอากาศสดลู่เฟยในเว็บไซต์จิงอวี๋ทีวี และโพสต์ของแอดมินรายการขับร้องให้ก้องจีนก็เช่นกัน

โดยเฉพาะในโพสต์ แฟนคลับของลู่เฉินที่ทนอดกลั้นอยู่กว่า 10 นาที ออกมาเคลื่อนไหว ทุกคนพร้อมกันโจมตีข้อความที่สงสัยหรือมีประสงค์ร้ายต่อลู่เฉินแตกพ่ายยับเยิน ประชดประชันเยาะเย้ยจนพอใจ!

คนที่ถูกโจมตีหายตัวไปหมด พวกเขาอยากจะตอบโต้แต่ไม่มีอาวุธใด

ลู่เฉินไม่เพียงแต่ได้เป็นผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบนี้ เขายังได้รับการชื่นชมจากสองซูเปอร์สตาร์ถานหงและเฉินเฟยเอ๋อร์ ฝ่ายหลังยังชวนเขาไปร่วมรายการร้องเพลงด้วยกัน

ยังมีสิ่งใดต้องสงสัยอีก จะทำให้เสียชื่อได้ยังไง?

มีเพียงผู้ใช้ไอดีไม่กี่คนที่ยังปากแข็ง บอกว่าการแข่งขันยังไม่จบ ใครจะเป็นผู้ชนะยังไม่รู้ได้

แต่พวกเขาต้องผิดหวังแน่นอนที่ผู้เข้าแข่งขันหลังจากลู่เฉินอีก 8 คน ไม่มีใครทำลายสถิติของเขาได้เลย แม้แต่จางจวิ้นหวาและจั่วชิวชิงก็ไม่มีทางเหนือกว่า

ด้วยเหตุนี้ลู่เฉินจึงได้คว้าแชมป์ 10 อันดับแรกของรายการร้องให้ก้องจีนอย่างไม่มีปัญหา!

นอกจากเกียรติยศและชื่อเสียงแล้วเขายังได้รับรางวัลเป็นเงินก้อนหนึ่งจากทางสถานีโทรทัศน์ด้วย

หนึ่งแสนหยวน

……………………………………………………………….

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท