ตอนที่ 544 กุหลาบและหนังในวันวาเลนไทน์
‘‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ รอบปฐมทัศน์กระแสตอบรับดีเยี่ยม เตรียมลงจออย่างเป็นทางการทุกโรงภาพยนตร์ทั่วฮ่องกงในวันวาเลนไทน์’
‘ศิลปินแห่แหนชื่นชมงานเปิดตัว ’พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ รอบปฐมทัศน์’
‘เปิดมิติใหม่แห่งหนังแฟนตาซีฮ่องกง เอฟเฟกต์ของ ’พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ เทียบได้กับฮอลลีวูด!’
‘เจียงเหว่ยคุยโว ’พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ต้องได้บ็อกซ์ออฟฟิศห้าสิบล้าน!’
‘หลังจากดู ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ รอบปฐมทัศน์แล้ว …’
หลังจากงานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ของ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ วันรุ่งขึ้นสื่อใหญ่ในฮ่องกงรวมทั้งสื่อบันเทิงออนไลน์ลงแต่ข่าวของภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปหมด ศิลปินดาราที่ไปร่วมงานฉายหนังรอบปฐมทัศน์ออกมาโพสต์ข้อความชื่นชมเรื่องราวของภาพยนตร์ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ว่าสนุกแค่ไหน เอฟเฟกต์ทำได้ตระการตาเพียงใด
นักวิจารณ์ภาพยนตร์หลายคนในฮ่องกงเขียนบทความแนะนำ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ลงในหนังสือพิมพ์และบล็อก คิดว่าผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีที่หาได้ยากในหลายปีที่ผ่านมา คุ้มค่าที่จะจ่ายเงินค่าตั๋วสามสิบหยวนเพื่อเข้าไปชมในโรงภาพยนตร์
บทความวิจารณ์ที่ดีของพวกเขาและคำชื่นชมจากสื่อ ล้วนเป็นไปเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ที่กำลังจะเข้าโรง ซึ่งก็ให้ผลตอบรับดีเป็นพิเศษ โรงภาพยนตร์แต่ละโรงในวันวาเลนไทน์หนังเรื่อง ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ถูกจองจนเต็มทุกที่นั่ง แม้แต่ตั๋วของวันที่ 15 และ16 ยังถูกจองไปแล้วกว่าครึ่ง
นี่เป็นพลังของการโฆษณาโปรโมต ก่อนที่หนังจะเข้าโรง ผู้ชมมักถูกสื่อชักนำได้ง่าย การโปรโมตทางสื่อเป็นตัวกำหนดทิศทางการบริโภค
แน่นอนว่าชื่อเสียงของภาพยนตร์ไม่ได้มาจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์และโฆษณาที่โอ้อวด สุดท้าย ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ จะประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงหรือไม่ ต้องให้ผู้ชมเป็นคนตัดสิน
เพียงแต่ก่อนหน้านั้น กระแสของ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ กำลังมาแรงอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ เรียกว่าเป็นผู้นำในตลาดเลยก็ว่าได้!
“นายไม่กังวลสักนิดเลยเหรอ”
บนถนนคนเดินเรดโรสในย่านเซ็นทรัลของฮ่องกง ท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมา เฉินเฟยเอ๋อร์ถามลู่เฉินที่เดินจับมือกับเธออยู่ “อีกไม่กี่วันหนังของเราจะเปิดรอบปฐมทัศน์แล้วนะ”
วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ถนนคนเดินในย่านการค้าใจกลางเมืองพลุกพล่านกว่าปกติ ทั้งสองข้างทางดอกไม้เบ่งบานเต็มแปลงดอกไม้ ยังมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของรัฐบาลคอยมอบดอกไม้ให้คู่รัก ร้านค้าริมฝั่งถนนติดโปสเตอร์โฆษณาสินค้าตามเทศกาลไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว
กลิ่นอายของความโรแมนติกลอยอยู่กลางอากาศ
เมื่อคืนเฉินเฟยเอ๋อร์บินมาที่ฮ่องกง วันวาเลนไทน์เป็นวันสำคัญเธอต้องมาฉลองพร้อมกับลู่เฉิน และยังจะอยู่ที่ฮ่องกงจนกว่าจะถึงวันเปิดตัวภาพยนตร์ ‘โปเยโปโลเย’ รอบปฐมทัศน์อีกด้วย
เธอตั้งใจปฏิเสธการออกงานและคำเชิญจากรายการต่างๆ ไปไม่น้อยเพื่อการนี้
คืนนี้ทั้งสองคนร่วมรับประทานอาหารค่ำอย่างอบอุ่น หลังจากมื้ออาหารก็ออกมาเดินเล่น จูงมือกันเดินไปท่ามกลางคู่รักอื่นๆ ช่างเป็นเรื่องที่มีความสุขมากเรื่องหนึ่ง
สิ่งสำคัญคือ นี่เป็นวันวาเลนไทน์ปีที่สองตั้งแต่ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์คบกัน
แต่เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ใช่หญิงสาวที่คลั่งไคล้ความรักโรแมนติก
วันนี้เป็นวันที่ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ซึ่งเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดของ ‘โปเยโปโลเย’ เข้าโรงเป็นวันเแรก หนังเรื่องนี้ได้ผ่านการโปรโมตอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอที่อยู่ไกลถึงปักกิ่งยังได้ยินข่าวเลย
เทียบกันแล้ว การโปรโมตอันเรียบง่ายของ ‘โปเยโปโลเย’ ยังรักษาระดับอยู่เท่าเดิม
ทำให้เฉินเฟยเอ๋อร์อดเป็นกังวลไม่ได้
หลายครั้งในการแข่งขัน ผู้ที่เริ่มออกตัวก่อนมีโอกาสดีกว่าและได้เปรียบกว่า ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ นำหน้า ‘โปเยโปโลเย’ ไปไกลมากแล้วตอนนี้
จะไล่ตาม ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ที่เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ไปหลายวันแล้วทันไหม เป็นปัญหาที่เธอกังวลใจ
ลู่เฉินยิ้ม “ผมไม่กังวล เพราะผมรู้ว่ากังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ อีกอย่างวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์นะ คุณอยากจะคุยกับผมแต่เรื่องงานเหรอ”
เฉินเฟยเอ๋อร์เหลือบตามองบนใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “ก็คนเขาเป็นห่วงนายนี่นา”
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องหนึ่งขาดทุนจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจแก่ลู่เฉินอย่างรุนแรง ต่อให้เงินที่ลงทุนไปหลายสิบล้านจะเจ๊งหมด ก็ไม่ทำให้เขาบาดเจ็บสักนิด
แต่ ‘โปเยโปโลเย’ เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของลู่เฉิน ทั้งยังเป็นคู่แข่งกับ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ อีก ถ้ายอดขายตั๋วในบ็อกซ์ออฟฟิศพ่ายแพ้ หรือถึงขั้นไม่อาจได้รับสิทธิ์สนับสนุน ก็จะส่งผลถึงชื่อเสียงการงานของเขาไม่น้อย
ในวงการมีคนบอกว่าลู่เฉินมั่นใจในตัวเองสูงเกินไป ร้องเพลงเก่งไม่ได้หมายความว่าจะเล่นละครได้ดี เล่นละครได้ดีไม่ได้หมายความว่าจะเล่นหนังได้ดี เส้นทางของศิลปินที่เลือกเดินทั้งสามสายนั้นไม่ได้เดินได้ง่ายๆ หรอกนะ!
ถ้า ‘โปเยโปโลเย’ พ่ายแพ้ จะเป็นการยืนยันคำเยาะเย้ยของคนเหล่านี้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคู่แค้นอย่างหวาก้วนพิคเจอร์สที่จะหัวเราะเยาะพวกเขามากขนาดไหน!
ลู่เฉินกุมมือเธอบอกว่า “ผมรู้ว่าคุณหวังดีกับผม…”
แม้ทั้งสองจะมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแล้ว แต่ความอบอุ่นอ่อนโยนของลู่เฉินในตอนนี้ ทำให้เฉินเฟยเอ๋อร์รู้สึกเขินอายและอ่อนหวานได้เหมือนเดิม
ทั้งสองเดินจูงมือกันไปตามท้องถนน คนรอบข้างเดินสวนไปมา แต่ราวกับว่าบนโลกนี้มีแค่พวกเขาสองคน สิ่งอื่นเป็นเพียงฉากหลัง
“คุณผู้ชายคะ แฟนสาวของคุณสวยขนาดนี้ ทำไมไม่มอบช่อดอกกุหลาบให้เธอล่ะคะ”
ตอนนั้นเอง เด็กสาวคนหนึ่งถือตะกร้าดอกไม้เดินเข้ามาหา เสนอขายดอกกุหลาบให้ลู่เฉินช่อหนึ่ง “ดอกเดียวพอที่ไหน!”
ถนนเรดโรสเต็มไปด้วยดอกกุหลาบ ยังมีการมอบดอกกุหลาบฟรีด้วย ดังนั้นเด็กสาวที่ขายดอกกุหลาบจึงขายไม่ค่อยดีนัก ในตะกร้ายังเหลืออีกสิบกว่าช่อที่ไม่มีใครเหลียวแล
ในมือของเฉินเฟยเอ๋อร์มีดอกกุหลาบแล้วดอกหนึ่ง
แต่สาวน้อยไม่ยอมแพ้ จ้องมองลู่เฉินด้วยดวงตาใสปิ๊งน่าสงสาร
ลูกไม้แบบนี้เด็กสาวขายดอกไม้ใช้กับคู่รักทั่วไปไม่เกิดผลนัก
ลู่เฉินไม่ใช่คนที่ยอมเสียเงินแบบโง่ๆ แต่ก็ยังถามกลับว่า “ช่อละเท่าไหร่”
เด็กสาวรีบตอบ “ร้อยหยวนค่ะ ช่อหนึ่งมีสิบสองดอก เพิ่งเก็บมาสดๆ เมื่อเช้าเองนะคะ!”
ลู่เฉินนับช่อดอกไม้ในตะกร้า ก่อนจะควักเงินออกมา “ดอกไม้ของหนูทั้งหมดสิบเอ็ดช่อ พี่เหมาหมดเลย”
เด็กสาวดีใจ รีบก้มโค้งขอบคุณ “ขอบคุณค่ะคุณผู้ชาย ขอบคุณค่ะ!”
เธอส่งดอกกุหลาบทั้งตะกร้าให้ลู่เฉิน จากนั้นหายตัวไปท่ามกลางฝูงชนด้วยความปลื้มปริ่ม
ลู่เฉินถือตะกร้าดอกไม้ ยิ้มให้เฉินเฟยเอ๋อร์ “จะว่าไปผมไม่ค่อยได้มอบดอกกุหลาบให้คุณเลย ครั้งนี้ชดเชยให้แล้วกัน!”
ทั้งสองคนคบหากันมาจนถึงวันนี้ ลู่เฉินเคยมอบดอกกุหลาบให้เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่มากจริงๆ
เฉินเฟยเอ๋อร์เหลือบตามองเขา “นายเพิ่งรู้หรือไง”
แม้จะพูดแบบนี้ เธอก็ยังรับกุหลาบช่อใหญ่ที่ลู่เฉินยื่นให้อย่างยินดี
ก้มลงไปดอมดม เฉินเฟยเอ๋อร์ถามว่า “ต่อไปเราจะไปไหนต่อดี”
ลู่เฉินเผยตั๋วหนังสองใบในมือเหมือนเล่นมายากล “ไปดูหนังน่ะสิ!”
“หา?”
เฉินเฟยเอ๋อร์อุทานออกมาเบา “หนังเรื่องไหน”
ลู่เฉินยิ้มน้อยๆ ตอบว่า “พลิกตำนานโปเยโปโลเย”
…………………………………………