ตอนที่ 639 คุ้มค่าแล้ว
ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทเฉินเฟยมีเดียในศูนย์ศิลปะยุคใหม่เมืองปักกิ่ง
อาคารที่ได้รับการรีโนเวทแล้ว ภายใต้การขับดุนของต้นไม้สีเขียวรอบๆ และทะเลสาบเล็กๆ ดูเหมือนว่าเพิ่งสร้างเสร็จ เผยให้เห็นบรรยากาศที่ทันสมัยรอบด้าน
โลโก้ขนาดใหญ่ที่ทำจากวัสดุโลหะผสมอลูมิเนียมคุณภาพสูงและตัวอักษรสี่ตัวของ ‘เฉินเฟยมีเดีย’ ถูกฝังอยู่บนผนังสีเทาอมฟ้า เมื่ออยู่ภายใต้แสงแดดแลดูสะดุดตามาก
สัญลักษณ์ของเฉินเฟยมีเดียถูกออกแบบโดยนักออกแบบชื่อดังท่านหนึ่งของปักกิ่ง ใช้อักษรภาษาอังกฤษ ‘C’ และ ‘F’ มาประกอบเข้าด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งทั้งดูดีและสง่างาม
ตั้งแต่ที่ภาพยนตร์เรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ เผยแพร่ไปทั่วประเทศ จนถึงตอนนี้ที่รายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ออกอากาศอย่างร้อนแรง โลโก้นี้ก็ยิ่งเป็นที่คุ้นเคยของผู้คนทั่วไป
ชั้นล่างของสำนักงานใหญ่เฉินเฟยมีเดีย สตูดิโอจัดแสดงเดิมของอวี๋จี้จง ในวันนี้ได้ถูกดัดแปลงให้เป็นสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ขนาดใหญ่และสตูดิโอสเปเชียลเอฟเฟกต์แล้ว
สตูดิโอสเปเชียลเอฟเฟกต์ของเฉินเฟยมีเดีย มันเป็นอะไรที่พิเศษมาก
สตูดิโอสเปเชียลเอฟเฟกต์นี้ถูกขนานนามว่า ‘ดรีมเวิร์กชอป’ แม้ว่าจะเพิ่งตั้งขึ้นมาไม่นาน แต่ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรบุคคลหรือว่าขอบเขตของการลงทุน ล้วนเกินหน้าทุกแผนกในบริษัทไปเลย
หากไม่นับสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ไฮเทคที่มีราคาแพง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับมืออาชีพระดับไฮเอนด์ของสตูดิโอดรีมเวิร์กชอปเพียงอย่างเดียวได้ใช้เงินไปกว่า 15 ล้านหยวนแล้ว ไม่นับอุปกรณ์การผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์อื่นๆ อีก
เพื่อดรีมเวิร์กชอปแล้วลู่เฉินตั้งงบลงทุนไว้หนึ่งร้อยล้าน แต่เงินก้อนนี้ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเงินที่ทำให้หลายคนตกตะลึงได้เลย สำหรับสตูดิโอสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่เหมือนสัตว์ประหลาดกลืนทองแล้ว อันที่จริงใช้ไม่นานก็หมดแล้ว
การผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์ของภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เป็นโครงการที่มีการลงทุนขนาดใหญ่และมีการผลิตจำนวนมากมาแต่ไหนแต่ไร บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ทั่วไปไม่สามารถจ่ายได้ ในประเทศ แม้แต่บริษัทภาพยนตร์ขนาดใหญ่ยังจ้างบริษัทมืออาชีพ รวมถึงสตูดิโอชื่อดังในญี่ป่น เกาหลี กระทั่งฮอลลีวูดสหรัฐอเมริกาผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์ให้
บริษัทที่ก่อตั้งทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ขนาดใหญ่ด้วยตัวเองอย่างเฉินเฟยมีเดียนั้นหายากราวกับขนฟีนิกส์และเขาของกิเลนจริงๆ หลายคนในวงการไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
การผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์นั้นแพงเกินไป และสตูดิโอที่สร้างขึ้นเองก็มีราคาแพงกว่านั้นอีก ไม่ต้องพูดถึงการลงทุนอุปกรณ์ การจัดสรรบุคลากรและการฝึกอบรมล้วนเป็นปัญหาใหญ่ทั้งหมด คนเก่งมีความสามารถระดับแนวหน้าที่แท้จริงนั้นกระจุกตัวอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว นักทำสเปเชียลเอฟเฟกต์ระดับสองระดับสามในประเทศเองรวมทั้งฮ่องกงไม่สามารถทำงานใหญ่ได้ เพิ่งจบมายังไม่มีประสบการณ์ รวมถึงเหตุผลที่ไม่เอื้อต่างๆ ต้องกลายเป็นภาระของการบริหารงานในบริษัทแน่
หลายคนไม่เข้าใจ ลู่เฉินทำไมต้องสร้างสตูดิโอสเปเชียลเอฟเฟกต์ของตัวเอง หากมองจากมุมของการบริหารงานแล้วมันเสี่ยงมาก ต่างคิดว่าลู่เฉินมั่นใจและลำพองใจเกินไป
แต่ที่ลู่เฉินสร้างสตูดิโอดรีมเวิร์กชอปนั้นมีที่มา
ก่อนอื่นเลยทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์นี้ทำงานให้กับโครงการผลงานลิขสิทธิ์ขนาดใหญ่ของเขา งานลิขสิทธิ์แนวกำลังภายในที่จะพัฒนาในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพยนตร์หรือว่าถ่ายละคร ก็ล้วนเกี่ยวข้องกับสเปเชียลเอฟเฟกต์ทั้งนั้น
เอางานส่วนที่สำคัญมากนี้ไปจ้างบริษัทอื่นทำให้ นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ก่อนอื่นเลยภาพยนตร์กำลังภายในมีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ในยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ขาดพื้นฐานความเข้าใจด้านวัฒนธรรมในการผลิตเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องใช้เวลาและกำลังจำนวนมากเพื่อทำความเข้าใจ ค่าใช้จ่ายย่อมสูงมาก
อีกอย่างหนึ่ง สตูดิโอสเปเชียลเอฟเฟกต์และบริษัทรับจ้างทำสเปเชียลเอฟเฟกต์ในประเทศ แม้ว่าจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่ในด้านการสะสมเทคนิคและประสบการณ์สู้ต่างประเทศไม่ได้เลย จึงทำได้เพียงใช้กลยุทธ์ราคาต่ำเพื่อการอยู่รอด บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ในประเทศก็กดราคามากขึ้นไปอีก
แต่สเปเชียลเอฟเฟกต์ในภาพยนตร์หรือละครนั้นคุณภาพก็ตามราคาที่ให้เลย การแข่งขันที่วนลูปไปมาอยู่ที่หากราคาต่ำก็คุณภาพต่ำ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่าสเปเชียลเอฟเฟกต์ ‘ห้าสลึง’ ออกมามาบนจอแก้วหรือจอเงินจำนวนมาก ถูกผู้ชมหัวเราะเยาะและประณามเสมอ
ดังนั้นหนังดังในประเทศที่ลงทุนหลายร้อยล้านเหล่านั้น แน่นอนว่าก่อนอื่นต้องเลือกทีมจากฮอลลีวูดมาทำสเปเชียลเอฟเฟกต์ แต่สุดท้ายผลงานที่ออกมาเมื่อเทียบกับหนังดังทางอเมริกาแล้ว มักจะแย่กว่าอยู่หลายส่วน นอกจากเรื่องเงินทุนที่ไม่เพียงพอแล้ว อีกด้านหนึ่งก็เพราะว่าสิทธิ์ขาดอำนาจนั้นถูกอีกฝ่ายกุมเอาไว้เสียแน่นนั่นเอง
การที่ลู่เฉินสร้างสตูดิโอดรีมเวิร์กชอป ก็เพราะไม่อยากให้คนอื่นมากุมส่วนสำคัญเอาไว้ บางทีเส้นทางนี้อาจไม่ราบรื่นนัก ช่วงแรกลงทุนมหาศาลแต่ไม่มีผลงานสักเท่าไร ทว่าเขายินดีที่จะนำทีมพยายามสู้ไปด้วยกันเพื่อหาเส้นทางที่เป็นของตัวเอง
ก็เพราะว่ามีแต่ตัวลู่เฉินเอง ที่เข้าใจที่สุดว่าตนเองอยากได้สเปเชียลเอฟเฟกต์แบบไหน
ในห้องอัดที่อยู่ติดกัน เปิดเครื่องปรับอากาศเอาไว้อย่างเย็นฉ่ำ คอมพิวเตอร์กว่าสิบเครื่องกำลังทำงานพร้อมกัน กำแพงด้านหนึ่งถูกหน้าจอทั้งน้อยใหญ่ครอบครองไปจนเต็มผนัง ด้านหน้านั้นคือเคาน์เตอร์ควบคุมการทำงานตัวยาว
หน้าจอหลักขนาด 75 นิ้วแสดงภาพท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันกว้างใหญ่ ยานอวกาศที่มีกลิ่นอายของหนังไซไฟกำลังเคลื่อนผ่านสุญญากาศอย่างช้าๆ และส่วนหางของมันกำลังพ่นไฟสีน้ำเงินออกมา แม้จะไร้เสียง แต่ก็ยังทำให้ผู้คนรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
และทิศทางที่มันมุ่งหน้าไปนั้น ก็คือดาวโลกสีฟ้าครามนั่นเอง
“ไม่เลวเลย…”
ลู่เฉินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เอ่ยกับชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านข้างว่า “เหนื่อยหน่อยนะ”
ชายวัยกลางคนคนนี้เป็นวิศวกรสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่ลู่เฉินไปซื้อตัวมาจากฮ่องกง ชื่อของเขาคือริชาร์ด เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย (USC) ในสหรัฐอเมริกามานานแล้ว และศึกษาด้านสเปเชียลเอฟเฟกต์ในขั้นตอนหลังการผลิตภาพยนตร์โดยเฉพาะ
USC ตั้งอยู่ใจกลางลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งโดยคณะกรรมการกำกับดูแลในปี 1880 เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่เก่าแก่ที่สุดในแคลิฟอร์เนียและแถบชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีการวิจัยทางวิชาการครอบคลุมระดับชั้นนำของโลกอีกด้วย และสาขาภาพยนตร์ก็ถือว่ามีชื่อเสียงดีที่สุดในวงการนี้เลย
เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับบัณฑิตภาพยนตร์จาก USC ที่จะหางานทำในฮอลลีวูด ริชาร์ดเองก็เช่นกัน เขาเคยทำงานในสตูดิโอผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์หลายแห่ง เขากลับมาที่ฮ่องกงบ้านเกิดเมื่อห้าปีที่แล้วด้วยเหตุผลส่วนตัว มาเป็นหัวหน้านักทำสเปเชียลเอฟเฟกต์ในบริษัทสเปเชียลเอฟเฟกต์แห่งหนึ่งของฮ่องกง
ริชาร์ดมีส่วนร่วมในการผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์ของภาพยนตร์ดังทั้งในและต่างประเทศหลายเรื่อง ประสบการณ์นั้นเต็มเปี่ยมอย่างหาที่ไหนเทียบไม่ได้เลย ลู่เฉินสามารถดึงตัวคนมีความสามารถอย่างนี้มาได้ นอกจากต้องให้เงินเดือนสูงแล้ว เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งคือ อีกฝ่ายหนึ่งเกิดข้อขัดแย้งร้ายแรงกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในขณะนั้นพอดี
ต้องขอบคุณเฉินเหวินเฉียงที่ทำงานอยู่ที่สตูดิโอในฮ่องกงนั้นหูตาไว ข้อมูลแน่น เมื่อรู้จากวงในก็เข้าหาริชาร์ดทันที ถึงได้ดึงตัวเขามาทำงานด้วยได้
นิสัยของของริชาร์ดค่อนข้างดื้อรั้นและมีอารมณ์แบบศิลปิน เขายินดีมาปักกิ่งเพื่อจัดการทีมดรีมเวิร์กชอป นอกเหนือจากเงื่อนไขต่างๆ ที่เฉินเฟยมีเดียสัญญาไว้ เขายังชื่นชมในตัวลู่เฉินด้วย
“รายละเอียดยังคงไม่โดดเด่นพอ”
สำหรับคำชมของลู่เฉิน ริชาร์ดส่ายหัวอย่างเคร่งขรึม ก่อนจะพูดว่า “ยังมีปัญหากับการแสดงผลและการจับคู่สี พวกเขามีประสบการณ์น้อยเกินไป ยังมีปัญหาเยอะ”
ริชาร์ดเข้มงวดมากกับผลงานทุกชิ้นที่ผ่านมือ นิสัยนี้ติดมาตั้งแต่ทำงานที่ฮอลลีวูด แต่เมื่อมาที่ฮ่องกงกลับไม่ชินเสียเลย เพราะว่าการที่เข้มงวดมากนั้นหมายถึงต้นทุนก็จะสูงไปด้วย นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่เขามีปัญหากับผู้บริหารระดับสูงในบริษัทเดิม
ลู่เฉินหัวเราะก่อนจะพูดว่า “ค่อยเป็นค่อยไป นี่แค่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น”
ลู่เฉินมีความอดทนมากพอ และก็ยินดีที่จะทุ่มเทไปกับสิ่งนี้ เพราะว่าเขาเชื่อว่ามันคุ้มแน่นอน
……………………………………