ตอนที่ 717 คิดถึงนายแล้ว
หลังจากเอฟบีไอและเอฟเอเอจัดงานแถลงข่าวเหตุการณ์เที่ยวบิน UD725 สิ้นสุดลง วิดีโอข่าวที่เกี่ยวข้องและเนื้อหาการสัมภาษณ์ของนักข่าวนอกเหนือจากการถ่ายทอดสดแล้ว เนื้อหาหลังจากนี้ได้ถูกนำมาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ใหญ่หลายแห่งอย่างรวดเร็ว และได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ในสหรัฐ
ขณะเดียวกันวิดีโอข่าวเหล่านี้ได้ถูกแพร่ภาพไปทั่วโลกพร้อมกัน แน่นอนว่ารวมถึงประเทศจีนด้วย
การแสดงความคิดเห็นของประชาชนในประเทศจีนเดิมทีก็อึกทึกครึกโครมอยู่แล้ว คราวนี้ยิ่งเหมือนเทน้ำมันลงบนกองไฟ ทันใดนั้นเองรูปภาพของลู่เฉินสามารถพบเห็นได้ทุกที่ตามสถานีโทรทัศน์ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์
ประโยคนั้นของเขา ‘With Great Power Comes Great Responsibility!’ ถูกแพร่กระจายไปในวงกว้าง ถึงขนาดได้รับคำชมจากสื่อซีซีทีวี สมควรอย่างยิ่งที่เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลเหนือใคร
ในบล็อกล่างฉาว แฟนคลับของลู่เฉินทะลุเกินเจ็ดสิบล้านคน มากกว่าเฉินเฟยเอ๋อร์สิบล้านคน กลายเป็นดาราที่มีแฟนคลับเยอะที่สุดในวงการบันเทิง!
แฟนคลับมากมายนับไม่ถ้วนเข้าไปทิ้งคำชมไว้ในบล็อกของเขา
แต่ก็มีแฟนคลับที่กังวลมาก
สิ่งที่พวกเขากังวลก็คือ ลู่เฉินที่เพิ่งได้รับเกียรติเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของนครนิวยอร์กไปหมาดๆ จะเลือกย้ายถิ่นฐานหรือไม่!
เมื่อได้ชื่อนี้แล้ว ถ้าหากลู่เฉินอยากจะย้ายไปอยู่อเมริกา นั่นไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย รับรองว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกาต้องอ้าแขนสองข้างต้อนรับเขาแน่นอน
และระดับความมีชื่อเสียงและการเป็นที่รู้จักในอเมริกาของลู่เฉินในตอนนี้ ถ้าหากเขาย้ายไปอยู่อเมริกา และเข้าไปเติบโตที่ฮอลลีวูด เจ็ดบริษัทใหญ่ของอเมริกามีบริษัทไหนบ้างที่จะไม่เปิดประตูใหญ่ให้เขา
สิ่งยั่วยวนเหล่านี้ เกรงว่ายากที่คนจะปฏิเสธ
เมื่อก่อนมีดาราดังในประเทศจีนหลายคนอยากจะมุดศีรษะเข้าไปในฮอลลีวูด และที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเลยก็มีไม่น้อย ทว่ามีไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จ
เงื่อนไขของลู่เฉิน แข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก!
ความกังวลของแฟนคลับเหล่านี้ใช่ว่าไร้เหตุผล กระทั่งเกิดการตอบสนองและโต้แย้งกันไม่น้อยในกลุ่มแฟนคลับของลู่เฉิน
แต่ตอนเย็นลู่เฉินได้โพสต์ในบล็อกของตัวเอง ถ้าหากมีโอกาส เขายินดีมากที่จะร่วมงานกับบริษัทภาพยนตร์ของฮอลลีวูด แต่ไม่มีความคิดใดๆ ที่จะย้ายถิ่นฐานไปอเมริกา
เขากล่าวในบล็อกว่า “ผมเกิดที่นี่ โตที่นี่ ร้องเพลงที่นี่ และจะตายที่นี่ครับ!”
การแสดงทัศนคติของลู่เฉิน ยุติข้อโต้แย้งทั้งหมดเกี่ยวกับเขาจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกาหรือไม่ได้ทันที และทำให้เขาได้รับความชื่นชอบจากผู้คนมากขึ้น
วันที่สองหลังจากงานแถลงข่าวสิ้นสุดลง ลู่เฉินไปกับหลี่มู่ซือเข้าร่วมเจรจากับนักลงทุนจากวอลล์สตรีต
นี่คือการเจรจาธุรกิจที่นัดกันล่วงหน้า ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าตลาดแนสแด็กของเว็บไซต์ระดมทุน
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นขนาดของตลาด เสียงสะท้อนหรือว่าผลกำไรที่ดีในอนาคต เว็บไซต์ระดมทุนได้เข้าเงื่อนไขความต้องการของตลาดแนสแด็กแล้ว แต่บรรลุความต้องการกับสามารถเข้าตลาดได้หรือไม่เป็นคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิง
หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าอยากจะมาหาเงินในพื้นที่ของคนอื่น ก็ต้องทำตามกฎกติกาที่คนอื่นกำหนด ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่จะไม่พาคุณเล่นเกมนี้ เงื่อนไขของคุณต่อให้สุกงอมแค่ไหนก็ไม่มีผล
เว็บไซต์ระดมทุนจะเข้าตลาดแนสแด็ก หุ้นส่วนและมูลค่าหุ้นมีความสำคัญมาก ประการแรกหลี่มู่ซือครอบครองหุ้นทั้งหมดเยอะไป จำเป็นต้องทำให้เจือจางลง เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้มากขึ้น สร้างสิ่งที่เรียกว่าสัดส่วนตลาดที่ ‘แข็งแกร่ง’
นอกจากนี้หุ้นต่างประเทศที่เข้าจดทะเบียนจำเป็นต้องใช้ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และโบรกเกอร์ของอเมริกาเพื่อรับประกันและจัดจำหน่ายหุ้น ต้องแบ่งผลกำไรออกไปอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นไม่ว่าบริษัทต่างชาติที่ไหนถ้าอยากเข้าตลาดแนสแด็ก จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการเดิมพันที่ดุเดือดเหล่านี้
หลี่มู่ซือพักอยู่ที่อเมริกาสองสามเดือนแล้ว ไม่รู้ว่าได้เจรจากับนักลงทุนจากวอลล์สตรีตไปกี่ครั้งแล้ว
สำหรับเรื่องธุรกิจพวกนั้น ลู่ฉันจริงๆ แล้วไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เขาในฐานะผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ระดมทุน ถือครองหุ้นผู้ก่อตั้งสิบเปอร์เซ็นต์ จะทำตัวอยู่เหนือปัญหาไม่ได้
เพื่อรับประกันว่าเว็บไซต์ระดมทุนสามารถจดเข้าตลาดแนสแด็กได้ในที่สุด และไม่ทำให้ความทุ่มเทของหลี่มู่ซือต้องเสียเปล่า ดังนั้นเขาจึงไม่ผลักภาระให้ผู้อื่น
สถานที่ในการเจรจา ก็คือห้องประชุมของสำนักงานใหญ่ธนาคารเพื่อการลงทุนดอว์สันวอลล์สตรีต
ตอนที่ลู่เฉินกับหลี่มู่ซือพาผู้ช่วยและทนายเดินเข้าไปในห้องประชุมของธนาคารดอว์สัน เหล่าหัวกะทิของวอลล์สตรีตกลุ่มหนึ่งที่มารออยู่ในนี้ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน ต้อนรับด้วยเสียงปรบมือที่คึกคักและอบอุ่น
การปฏิบัติตัวเช่นนี้ หลี่มู่ซือไม่เคยได้รับมาก่อน เสียงปรบมือของพวกเขามอบให้กับลู่เฉิน!
เพราะว่าลู่เฉินในตอนนี้ เป็นถึงฮีโร่ในดวงใจของคนอเมริกัน!
คนเก่งหัวกะทิเหล่านี้เดินเข้ามาจับมือกับลู่เฉินด้วยความกระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัด และเอ่ยคำชมอย่างเต็มที่
ทว่าตอนที่พวกเขานั่งลงเริ่มเจรจาอีกครั้ง เรื่องของผลประโยชน์กลับไม่ยอมถอยให้สักนิดเดียว
เวลาช่วงเช้าผ่านไปกับการเถียงกันอย่างรุนแรง
ระหว่างทางกลับ ลู่เฉินถอนหายใจเอ่ยว่า “โชคดีที่ตอนแรกผมเลือกร้องเพลงไม่ได้ทำธุรกิจ ไม่อย่างนั้นคุยกับคนพวกนี้คงเหนื่อยตาย”
ลู่เฉินพูดออกมาจากใจจริง จะว่าไปแนวคิดสร้างสรรค์ด้านธุรกิจเขาเองก็ไม่ขาดเหลือ แต่ไม่ถนัดพูดจาปากหวานก้นเปรี้ยวและไม่มีสมองที่เจ้าเล่ห์ ต่อให้มีความคิดสร้างสรรค์ดีแค่ไหนก็ได้แค่ทำชุดแต่งงานให้คนอื่นเท่านั้น
การเจรจาตลอดช่วงเช้า ส่วนใหญ่แล้วลู่เฉินฟังอย่างเดียว เมื่อเกี่ยวกับผลประโยชน์ของตัวเองก็อาศัยการเจรจาของหวังเยี่ยน การดำรงอยู่ของเขาเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น
ลู่เฉินไม่คิดว่าทำแบบนี้จะผิดอะไร หากเปลี่ยนเป็นเขาไปเจรจาเอง เกรงว่าสุดท้ายคงถูกหัวกะทิของวอลล์สตรีตพวกนั้นกินเนื้อและกระดูกจนเรียบ!
หลี่มูซือยิ้มเอ่ยว่า “ครั้งนี้มีความก้าวหน้าเยอะแล้ว! เพราะมีความดีความชอบส่วนหนึ่งของนาย…”
กุญแจสำคัญของความก้าวหน้าขึ้นอยู่กับงานแถลงข่าวเมื่อวาน ลู่เฉินทำโฆษณาให้เว็บไซต์ระดมทุนได้เยี่ยมมาก ยกระดับการเป็นที่รู้จักของเว็บไซต์ระดมทุนให้สูงขึ้นอีกระดับ ทำให้การเจรจาในวันนี้มีแต้มต่อรองเพิ่มขึ้น
ดังนั้นหลี่มู่ซือจึงรู้สึกสบายใจมาก
เธอรับสายตอนขึ้นรถ พูดสองสามประโยคแล้ววางสาย จากนั้นก็พูดกับลู่เฉินว่า “ฉันมีธุระ เดี๋ยวจะส่งนายที่หน้าประตูโรงแรมนะ ข้าวเที่ยงนายจัดการเองได้ใช่ไหม หวังเยี่ยนก็ต้องไปกับฉันด้วย”
ลู่เฉินไม่ได้คิดอะไรมาก เอ่ยว่า “ไม่มีปัญหาครับ มีธุระพวกเราค่อยติดต่อกันทางโทรศัพท์”
เมื่อถึงหน้าประตูโรงแรมฮิลตัน หลี่มู่ซือปล่อยลู่เฉินลงไปคนเดียว
ตอนที่บอกลา เธอยิ้มอย่างลึกลับ เอ่ยว่า “งั้นนายก็ดูแลสุขภาพด้วยนะ อย่าหักโหมเกินไป”
ลู่เฉินพยักหน้า รู้สึกงงเล็กน้อย
แต่ไม่ช้าเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
พอกลับไปที่ห้องของตัวเอง ลู่เฉินเพิ่งใช้คีย์การ์ดเปิดประตู เงาร่างที่สวยงามคนหนึ่งก็โผเข้ามากอดเขา ทำให้เขาได้กอดสาวงามเต็มอ้อมแขน
“อ้าว คุณมาได้ยังไงครับ”
ลู่เฉินแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เพราะว่าคนที่เขากอดอยู่คือเฉินเฟยเอ๋อร์!
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มยั่วยวนเอ่ยว่า “ทำไมฉันจะมาไม่ได้ คิดถึงนาย ดังนั้นฉันจึงมา!”
วินาทีนี้ อารมณ์ของลู่เฉินไม่อาจใช้คำพูดบรรยายได้
เขาใช้เท้าปิดประตู กอดเฉินเฟยเอ๋อร์ อุ้มเธอเดินเข้าไปที่ห้องนอน
เวลานี้ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ใช้การกระทำพิสูจน์ดีกว่า!
…………………………………………………………………………