ตอนที่ 725 กังฟู
นับตั้งแต่ความฝันอันยาวนานเปลี่ยนชีวิตของเขา ลู่เฉินเริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ทุกวัน และค่อยๆ กลายเป็นนิสัยที่ฝังลึกในชีวิตของเขา โดยปกติแล้วเว้นแต่จะมีสถานการณ์ที่พิเศษมากๆ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะตื่นขึ้นมาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายในทุกเช้า
เทียบกับเมื่อสามปีก่อน สามารถพูดได้ว่าสุขภาพร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นหลายเท่า ทักษะของเขาคล่องตัวปราดเปรียวขึ้นเรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบกระสุนปืนในเที่ยวบิน UD725 และปราบอดีตสมาชิกชั้นยอดของนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาได้ในคราวเดียว
และตอนนี้ที่สวมชุดติดเซ็นเซอร์สาธิตหมัดทลายภูเขาไม่ใช่ว่าลู่เฉินจงใจอวดดี แต่เขาต้องการทดสอบความความสามารถทางเทคนิคของอีกฝ่าย เพื่อตัดสินใจว่าจะนำเข้าประเทศไปใช้กับโปรเจกต์ผลงานกำลังภายในของเขาในอนาคตดีหรือไม่
ตามแผนของลู่เฉิน ภายในสิบปีนี้เขาจะเปิดตัวผลงานกำลังภายในหลายชุด ซึ่งครอบคลุมไปถึงการสร้างผลงานภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ทีวีซีรีย์เรื่องยาว เกมออนไลน์ เกมมือถือ วิดีโอแอนิเมชัน เป็นต้น
เป็นเพราะความพิเศษของธีมกำลังภายใน เทคโนโลยีการจับการเคลื่อนไหวจะมีบทบาทในเรื่องนี้เป็นอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัย!
แม้ว่าในการใช้งานจริงนักแสดงหรือนักแสดงแทนไม่จำเป็นต้องรวดเร็วขนาดนี้ก็ได้ แต่ยิ่งเทคโนโลยีล้ำหน้ามากเท่าไร ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะยิ่งโดดเด่นขึ้นเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อลู่เฉินปล่อยหมัด จึงไม่ได้ออมแรง แต่กลับปล่อยออกไปสุดแรง!
สิ่งนี้ทำให้ชาวอเมริกันที่อยู่ในเหตุการณ์เกิดความตื่นตะลึงอย่างมาก
แม้แต่เฉินเฟยเอ๋อร์ที่สนิทกับลู่เฉินที่สุดยังถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตะลึง เธอรู้ว่าทักษะของลู่เฉินนั้นเก่งกาจ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเทพขนาดนี้
ฟึบ!
ลู่เฉินชกออกไปอีกหมัด เสียงหมัดกระทบอากาศดังออกมา
เมื่อร่างของเขาหยุดลง ราวกับเวลาได้หยุดนิ่งในทันที จากนั้นใช้เวลาครู่หนึ่งถึงจะชักมือกลับเข้ามา
ลู่เฉินสูดหายใจเข้ายาวๆ พลางทำสัญญาณมือ ‘โอเค’ ให้กับเมียร์ที่ตอนนี้ได้ตะลึงค้างไปแล้ว เพื่อบ่งบอกว่าเขาทดลองเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เป็นเพราะถูกเรียกจากพนักงานคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ เมียร์ถึงได้หลุดออกจากภวังค์คล้ายกับตื่นขึ้นจากความฝัน จับต้นชนปลายไม่ถูกพูดขึ้น “หืม? จบแล้ว? โอเค เยี่ยมมาก โอมายก็อด!”
เขาไม่รู้ว่าตนเองกำลังพูดอะไรอยู่
ลู่เฉินหัวเราะครู่หนึ่ง บอกกับพนักงานที่อยู่ด้านข้าง “ผมจะเปลี่ยนชุดครับ”
กลับไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาถอดชุดที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีระดับสูงชุดนี้ออก เปลี่ยนกลับไปสวมเสื้อคลุมของตนเอง
ท่าทางการแสดงออกของพนักงานสองคนที่รับผิดชอบช่วยเหลือลู่เฉินเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแต่พวกเขาจะกระตือรือร้นขึ้นมาก ยังแฝงไปด้วยความนับถือชื่นชม…ช่างสมคำร่ำลือจริงๆ!
เมื่อลู่เฉินกลับมาอีกครั้ง เมียร์ก็กลับมาเป็นปกติแล้วเช่นกัน แต่ถึงอย่างไรก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี จนอดใจไม่ไหวถามขึ้น “คุณลู่ครับ เมื่อสักครู่คุณแสดงทักษะอะไร เป็นทักษะการต่อสู้ของประเทศจีนใช่ไหมครับ”
“ถ้าจะพูดให้ถูกละก็เป็นทักษะการต่อสู้…”
ลู่เฉินอธิบายต่อ “คุณสามารถเรียกมันว่ากังฟูจีน”
‘กังฟู’ เขาพูดสองคำนี้เป็นภาษาจีน
“Chinese-Kong-Fu?”
เมียร์พูดซ้ำคำที่ลู่เฉินเพิ่งพูดพร้อมกับพยักหน้าและยกนิ้วให้ “เยี่ยม!”
เขาดันลู่เฉินให้ไปดูจอภาพที่วางอยู่ด้านหน้าของเขา
ในจอคอมพิวเตอร์นั้นกำลังเล่นวิดีโอความละเอียดสูงพิเศษจากทุกมุมที่เพิ่งถ่ายไป ใช้กล้องเปิดภาพสโลว์การเคลื่อนไหวแต่ละท่วงท่าของลู่เฉินออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ภาพที่แสดงบนจอภาพหลายจอพร้อมกันนั้นค่อนข้างน่าตื่นตะลึง
แต่นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น คริสโตเฟอร์ลงสนามด้วยตัวเอง ดึงโมเดลตัวละครสามมิติจากฐานข้อมูลและแนบข้อมูลที่ Mocap รวบรวมไว้ ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
หลังผ่านการสร้างภาพกราฟฟิกอย่างง่าย ตัวละครเอลฟ์แฟนตาซีสามมิติที่สร้างขึ้นนี้ถูกสั่งการด้วยท่าทางของลู่เฉิน ราวกับว่าเป็นร่างอวตารของลู่เฉินเอง เล่นวนซ้ำหมัดทลายภูเขาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์!
แม้ว่าลู่เฉินจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็เห็นถึงความสามารถอันทรงพลังของเทคโนโลยีของบลูสกายสตูดิโอเซ็ตนี้ ที่สำคัญเลยก็คือการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วโดดเด่นมาก ท่วงท่าในทุกย่างก้าวไม่มีความรู้สึกถึงความฝืดและแข็งกระด้างราวกับเป็นธรรมชาติ
เมียร์ถามขึ้น “เป็นอย่างไรบ้างครับ”
ลู่เฉินยกนิ้วโป้งให้เขา “เยี่ยม!”
เมียร์หัวเราะเสียงดัง ดูภูมิใจมากอย่างเห็นได้ชัด
บอกตามจริงว่าหลังจากพบปะเจรจากับพวกระดับสูงของวอลล์สตรีตในนิวยอร์กแล้ว ลู่เฉินกลับชอบคนนิสัยแบบเมียร์เสียด้วยซ้ำ เรียบง่ายตรงไปตรงมาไม่ยุ่งยากซับซ้อน แสดงความรู้สึกออกมาทางสีหน้า
เขาชี้ไปที่หน้าจอและพูดว่า “การเคลื่อนไหวชุดนี้เหมาะสำหรับ อืม ตัวละครที่แข็งแกร่งกำยำ”
“โอเค!”
เมียร์คล้อยตาม และขอให้คริสโตเฟอร์เปลี่ยนพวกเอลฟ์เป็นออร์กทันที จากนั้นจึงสร้างกราฟฟิกใหม่อีกครั้ง
ตัวละครซีจีตัวเดียวกัน ออร์กที่ดูแข็งแรงกำยำแสดงหมัดทลายภูเขาแบบเดียวกัน เอฟเฟกต์ที่น่าประทับใจกลับทำให้ผู้คนมีความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้คริสโตเฟอร์ยังจับคู่เอฟเฟกต์เสียงง่ายๆ อย่างชำนาญ จนสามารถใช้เป็นวิดีโอสำหรับโปรโมตภาพยนตร์และเกมได้!
หลังจากลู่เฉินดูจบแล้วพอใจมาก ถึงกับมีความคิดและไอเดียต่างๆ ผุดออกมาอีกด้วย
คำแนะนำของริชาร์ดนั้นถูกต้องจริงๆ บลูสกายสตูดิโอเหมาะสมที่จะเป็นผู้ร่วมงานของเฉินเฟยมีเดียอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนว่าในตอนนี้เขาจะไม่ตัดสินใจว่าต้องการลงทุนเท่าไรหรือทำอะไรในทันที การเจรจาที่เป็นรูปธรรมนี้จะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเข้ามาจัดการ
สิ่งที่ลู่เฉินคิดคือความเป็นไปได้ในการซื้อหุ้นของบลูสกายสตูดิโอให้ได้มากที่สุด เพื่อให้บรรลุข้อตกลงที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น
หลังจากทดลองระบบ Mocap ของบลูสกายสตูดิโอด้วยตนเองแล้ว การศึกษาดูงานที่สตูดิโอสเปเชียลเอฟเฟกต์ของลู่เฉินถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้น ทุกคนสามารถนั่งพูดคุยอย่างเป็นทางการได้แล้ว
เมียร์เชิญลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันอย่างกระตือรือร้น
ในช่วงบ่ายไม่ถือว่าเป็นการเจรจาที่จริงจังนัก ส่วนมากจะเป็นการแสดงจุดประสงค์และเงื่อนไขในการร่วมมือกัน เมียร์เป็นตัวแทนของบลูสกายสตูดิโอและยินดีที่จะขายหุ้นมากถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ราคาที่พวกเขาเสนอคือ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นี่ก็หมายความว่าเมียร์ให้มูลค่าสตูดิโอของตนเองอยู่ที่ 400 ล้านเหรียญ!
ลู่เฉินไม่ได้แสดงความคิดเห็นของเขาออกมาในทันที แต่กลับแสดงออกให้เห็นว่าตนเองจะพิจารณาอย่างรอบคอบถึงเงื่อนไขที่บลูสกายสตูดิโอเสนอมา และจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาทำการประเมินก่อน แล้วค่อยดำเนินการเจรจาอย่างเป็นทางการ
เมียร์ไม่ได้หวังว่าลู่เฉินจะตกลงทันที ถึงแม้ว่าเขาจะเห็นลู่เฉินสนใจและจริงใจมากก็ตาม แต่การลงทุนหลายสิบล้านเหรียญแม้แต่มหาเศรษฐีก็ยังต้องระวังให้มาก
บรรยากาศการพูดคุยของทั้งสองฝ่ายนับว่าดีมาก ก่อนแยกจากกันเมียร์และคริสโตเฟอร์เกิดความลังเลขึ้นมาเล็กน้อย
จู่ๆ คริสโตเฟอร์ก็พูดขึ้นว่า “คุณลู่เฉินครับ วิดีโอกังฟูจีนของคุณที่ถ่ายในสตูดิโอวันนี้ ผมขออนุญาตอัปโหลดลงบนทีบุ๊กได้ไหมครับ”
แววตาของเขากระตือรือร้นอย่างแรงกล้า “ผมคิดว่าคนทั่วทั้งโลกควรจะได้เห็นมัน!”
ลู่เฉินตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากคิดดูแล้วเขาพยักหน้าและพูดว่า “ได้สิครับ”
“ขอบคุณครับ!”
คริสโตเฟอร์มีความสุขมากพร้อมกับโผเข้ากอดลู่เฉิน “ขอบคุณครับ!”
ลู่เฉินยิ้มและตบไหล่อีกฝ่าย
เมื่อเทียบกับเมียร์แล้ว เขามีความประทับใจต่อพวกเนิร์ดทางเทคโนโลยีมากกว่า ดังนั้นเขาถึงได้ตอบรับคำขอของอีกฝ่ายไป
……………………………………………………
