ตอนที่ 728 การตอบกลับ
ลู่ซีถือตะกร้าใส่อาหารและผักใบใหญ่มาด้วย อีกทั้งยังมีคำพูดที่อยากจะพูดมากมายเต็มไปหมด
“ครั้งหน้าแกห้ามหุนหันพลันแล่นอีกเด็ดขาด!”
“คิดถึงครอบครัวของแกบ้างสิ หากเกิดอะไรขึ้นกับแก ทั้งพวกเราแล้วก็ยังมีเฟยเอ๋อร์อีกจะทำยังไง”
“อย่าคิดว่าตอนนี้แกปีกกล้าขาแข็งแล้ว…”
เรื่องที่ทำให้พี่สาวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟคงไม่พ้นเหตุการณ์บนเที่ยวบิน UD725 แม้ว่ามันจะผ่านไปสิบวันแล้ว แต่ในใจของเธอยังคงหวาดผวาอยู่ เธอจับหมับเข้าที่ใบหูของลู่เฉิน พร้อมกับต่อว่าเป็นข้อๆ ดูท่าแล้วโดนดุสามวันสามคืนก็ยังไม่จบ
ลู่เฉิมยิ้มด้วยความขมขื่นอย่างช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงให้เธอต่อว่าไม่กล้าโต้เถียงกลับ
ลึกๆ ในใจของเขาไม่เพียงแต่จะไม่มีความไม่พอใจหรือความขุ่นเคืองใดๆ ทั้งสิ้น กลับกันยังสัมผัสได้ถึงความเป็นพี่น้องที่ลึกซึ้งของลู่ซีที่มีต่อตนเอง ดังนั้นเมื่อเขาได้ฟังแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างหนึ่ง
เฉินเฟยเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ มองด้วยรอยยิ้ม ไม่คิดจะห้ามปรามเลยไม่แต่น้อย มิหนำซ้ำพอเห็นลู่ซีพูดจนคอแห้ง ยังรีบส่งน้ำให้อย่างรู้กันอีกต่างหาก
กระทั่งลู่ซีบ่นลู่เฉินเป็นเวลานานกว่าสิบนาที พูดไปพูดมาจนขอบตาแดงรื้นในตอนท้าย จากนั้นจึงโผเข้ากอดลู่เฉิน
“แกรู้หรือเปล่าว่าพวกเราเป็นห่วงกันมากแค่ไหน”
ลู่เฉินพูดไม่ออก ผ่านไปครู่หนึ่งถึงพูดขึ้น “พี่ ผมรู้แล้วน่า ต่อไปผมจะไม่ปล่อยให้พี่เป็นห่วงผมอีกแล้ว อีกอย่างเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญเท่านั้นเอง”
เฉินเฟยเอ๋อร์พูดขึ้น “ใช่แล้ว ไม่รู้จะนับว่าเขาโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ แต่ไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ”
ลู่ซีพยักหน้า เธอเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาจากหางตาและพูดว่า “ไม่พูดแล้ว ฉันจะไปทำอาหารให้พวกเธอทาน”
เฉินเฟยเอ๋อร์รีบลุกขึ้น “พี่ลู่ซี ฉันช่วยนะคะ”
ทั้งสองเดินเข้าครัวไปด้วยกัน
ทานอาหารกลางวันที่บ้าน แม้ว่าอาหารจะไม่หลากหลายมากนัก แต่ฝีมือของลู่ซีนั้นสืบทอดรสมือมาจากฟางอวิ๋น ควบคู่ไปกับความรักความใส่ใจของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่ลงมือทำด้วยตนเอง ทำให้อาหารมื้อนี้สำหรับลู่เฉินแล้วอร่อยเป็นพิเศษอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วลู่ซีก็กลับออกไป
ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ต่างก็พากันอาบน้ำ ตอนอยู่บนเครื่องนั้นเฉินเฟยเอ๋อร์นอนหลับไม่เต็มอิ่ม จึงนอนกลางวันเอาแรงเสียหน่อย
ลู่ฉันยังสดชื่นอยู่มาก จึงรุดไปเปิดคอมพิวเตอร์ที่ห้องหนังสือ
สองวันมานี้เขาแทบไม่ได้เล่นอินเทอร์เน็ตเลย ไม่รู้ว่ากระแสในโลกออนไลน์ในตอนนี้ไปในทิศทางไหน ต้องติดตามสักหน่อย
เพิ่งจะเข้าสู่บัญชีบล็อกของตนเอง ลู่เฉินถึงกับตกใจผงะในทันที
จำนวนข้อความส่วนตัวและยอดแท็กเขาบนไซต์มีมากจนเกินไป การแจ้งเตือนจากระบบเด้งขึ้นมาจนน่ากลัว
หลังจากที่เสียเวลาไปพักหนึ่ง ในที่สุดลู่เฉินก็ดึงสติได้
ก่อนอื่นเขาได้ดูวิดีโอที่เหล่าแฟนคลับแชร์ต่อมาจากทีบุ๊กแล้ว มันเป็นวิดีโอที่คริสโตเฟอร์ทำขึ้นเอง สร้างความฮือฮาอย่างมากทั้งในทีบุ๊กและบล็อกล่างฉาว
เมื่อเห็นตนเองกลายเป็นตัวเอกในวิดีโอยอดนิยมบนคอมพิวเตอร์แล้ว ลู่เฉินรู้สึกว่ามันน่าสนใจดี ทักษะของคริสโตเฟอร์นั้นเทพมาก สร้างซีจีเสร็จภายในระยะเวลาสั้นๆ แค่สองวัน ทำให้เขาต้องยอมกดไลก์ให้!
นี่เป็นสิ่งยืนยันความคิดเขาที่จะร่วมงานกับบลูสกายสตูดิโอ
สำหรับโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของเขาในตอนนี้ การผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์เป็นจุดอ่อนอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์กำลังภายใน ละครโทรทัศน์ หรือเกม ล้วนต้องอาศัยสเปเชียลเอฟเฟกต์เป็นจำนวนมาก
แม้ว่าดรีมเวิร์กจะได้รับการจัดตั้งขึ้นแล้ว แต่ยังต้องใช้เวลาและการลงทุนมากกว่านี้ถึงจะเติบโตขึ้นอย่างเต็มตัวจริงๆ
การเข้าถือหุ้นบลูสกายสตูดิโอและนำทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ชั้นหนึ่งในอเมริกามาไว้ในค่ายของเฉินเฟยมีเดีย จะชดเชยจุดอ่อนในด้านนี้ได้อย่างมาก ทั้งยังช่วยให้ดรีมเวิร์กเติบโตได้เร็วขึ้นและดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ในตอนนี้หวังเยี่ยนผู้ช่วยที่ปรึกษาธุรกิจของลู่เฉินกำลังเจรจากับบลูสกายสตูดิโอในลอสแองเจลิส และด้วยความช่วยเหลือของหลี่มู่ซือ เชื่อว่าท้ายที่สุดจะบรรลุข้อตกลงความร่วมมือที่พอใจกันทั้งสองฝ่าย เพียงแค่รอเวลาเท่านั้นเอง
เมื่อดูวิดีโอจบแล้ว ลู่เฉินก็หันความสนใจไปที่แจ็ค รอสส์
พูดตามตรง แม้ว่าเขาจะเคยดูการแข่งขันอเมริกันคิกบ็อกซิ่งอาชีพที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ แต่แทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผู้ที่ครองเข็มขัดทองคำอันโด่งดังคนนั้นเลย ดังนั้นตอนที่เฉินเฟยเอ๋อร์ถามมาจึงไม่รู้อะไรสักอย่างเดียว
การสนทนากับจางเสี่ยวฟางในรถครั้งก่อนกระตุ้นความสนใจของลู่เฉินเป็นอย่างมาก
มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับแจ็ค รอสส์บนอินเทอร์เน็ต หลังจากอ่านบทความเกี่ยวกับเขาหลายบทความลู่เฉินถึงได้รู้ว่าแชมป์รุ่นมิดเดิลเวทของ AFS ที่ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จคนนี้เป็นคนที่น่าทึ่งมาก
ผู้อาวุโสรอสส์พ่อของเขาก็เป็นนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งเช่นกัน แต่ด้วยความสามารถที่ธรรมดา ดังนั้นเขาจึงไม่มีเคยผลงานและได้รับโอกาสดีๆ อะไรในอาชีพเลย จากนั้นเขาก็ฝากความหวังและความฝันของตนเองไว้กับลูกชายของเขา
แจ็ค รอสส์ไม่เคยทำให้พ่อของเขาผิดหวังเลย เขาแสดงความสามารถโดดเด่นในด้านคิกบ็อกซิ่งมาตั้งแต่เด็ก เข้าสู่สังเวียนอาชีพตั้งแต่อายุ 18 ปี จนถึงตอนนี้มีประวัติยาวนานถึง 12 ปี เขาได้รับรางวัลเข็มขัดทองคำรุ่นมิดเดิลเวท 3 สมัยติดต่อกัน เรียกได้ว่าสถิติของเขานั้นน่าประทับใจอย่างยิ่ง และเขายังเป็นหนึ่งในตัวแทนของ AFS อีกด้วย
แจ็ค รอสส์ยังมีงานอดิเรกอีกอย่าง นั่นก็คือชอบท้าทายตัวท็อปของศิลปะการต่อสู้รูปแบบต่างๆ เขาเคยประลองฝีมือกับปรมาจารย์ด้านเทควันโด มวยไทย และได้รับชัยชนะทุกครั้ง
เพราะเหตุนี้เอง ดังนั้นเขาท้าลู่เฉินบนทีบุ๊กจึงเป็นเรื่องปกติ ไม่มีเจตนาที่จะสร้างกระแสหรืออะไรทั้งนั้น
คำขวัญประจำตัวของแจ็ค รอสส์คือการไม่หยุดท้าทายตัวเอง
สำหรับการท้าทายของแจ็ค รอสส์ บนบล็อกล่างฉาวบรรดาแฟนคลับของลู่เฉินแบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน
ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนให้ลู่เฉินประลองกับแจ็ค รอสส์ และคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของลู่เฉินแล้ว การเอาชนะแชมป์รุ่นมิดเดิลเวทของ AFS คนนี้ไม่มีน่าจะมีปัญหาอะไร และจะเป็นการดีที่สุดถ้าแย่งชิงเข็มขัดทองคำของอีกฝ่ายมาได้!
แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีขนาดนั้น แจ็ค รอสส์เป็นผู้เล่นมืออาชีพตัวจริง ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ระดับมืออาชีพถึง 12 ปี แม้ว่าลู่เฉินจะแข็งแกร่งมาก แต่จะตีเสมอเขาได้อย่างไร
ที่สำคัญที่สุดลู่เฉินเป็นดารา แข่งขันกับผู้เล่นมืออาชีพไปจะมีประโยชน์อะไร
สำหรับการแย่งชิงเข็มขัดทองคำหรืออะไรก็ตาม เป็นแค่เรื่องตลกขำขัน เป็นข้อโต้แย้งของคนทั่วไปทั้งนั้น ไม่คุ้มค่าที่จะตอบโต้
แฟนคลับทั้งสองฝ่ายแสดงความคิดเห็นบนบล็อกของลู่เฉินอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ชมที่เฝ้ารอดูอย่างตื่นเต้น ทำให้บรรยากาศในนั้นเต็มไปด้วยความพิลึกพิลั่น
เมื่อได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ลู่เฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเขียนโพสต์บล็อกใหม่
ในโพสต์บล็อกนี้ ก่อนอื่นเขาขอบคุณบรรดาแฟนคลับที่เป็นห่วงเขา และบอกว่าเขาเพิ่งกลับมาถึงประเทศจีน และในเร็วๆ นี้เขาจะทุ่มเทให้กับการถ่ายทำละครเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ จะพยายามเร่งการถ่ายทำกลับมาให้คืบหน้าอย่างเร็วที่สุด
ในส่วนของแจ็ค รอสส์นั้น ลู่เฉินชื่นชมความสำเร็จในศิลปะการต่อสู้คิกบ็อกซิ่งของเขาเป็นอย่างมาก และรู้สึกเป็นเกียรติสำหรับการท้าทายที่เขาเสนอมา แต่คงจะไม่พิจารณาในตอนนี้
เพราะวิดีโอของลู่เฉินที่ถ่ายในบลูสกายสตูดิโอ ไม่ได้มีไว้เพื่ออวดหรืออะไร เป็นเพียงการทดสอบเทคโนโลยีหลักที่จะนำไปใช้กับภาพยนตร์กำลังภายในเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ที่จะถ่ายทำในปลายปีนี้!
โพสต์บล็อกการตอบกลับของเขาที่เพิ่งโพสต์ออกไป ทำให้เกิดเสียงสะท้อนกลับในวงกว้างบนบล็อกล่างฉาวทันที
…………………………………….