ตอนที่ 821 ความโกลาหลในยุทธภพ (1)
เฉินเฟยมีเดียก่อตั้งขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ยังไม่ถึงสองปี แม้จะรวมสตูดิโอลู่เฉินที่เก่าเข้าไป เวลาการปักธงในวงการบันเทิงก็ยังไม่เกินสี่ปี ถ้าจะบอกว่าเป็นพลทหารใหม่ในวงการบันเทิงก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง
แต่บังเอิญว่าพลทหารใหม่รายนี้อยู่ภายใต้การนำของลู่เฉิน ซึ่งคุมบังเหียนม้าเข้าสู่วงการบันเทิงสร้างความสำเร็จที่น่าตื่นตาตื่นใจออกมาระลอกแล้วระลอกเล่า ทั้งยังโจมตีหลายทิศทาง แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งของสื่อมีเดียที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
เฉินเฟยมีเดียเป็นบริษัทของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ เป็นแบบอย่างของบริษัทคู่สามีภรรยา เนื่องจากเป็นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จึงไม่จำเป็นต้องประกาศผลงานความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ให้โลกภายนอกทราบ ในเรื่องที่ว่าทำเงินได้เท่าไรนั้น นอกเสียจากบุคคลที่เกี่ยวข้องภายในบริษัทแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงกรมสรรพากรเท่านั้นที่รู้
นอกจากนี้ยังมีการคาดเดาต่างๆ นานาเกี่ยวกับผลกำไรของเฉินเฟยมีเดีย ในจำนวนนั้นการคาดเดาที่ค่อนข้างมีพลังก็คือ แค่ปีที่แล้วเพียงปีเดียว ผลกำไรของเฉินเฟยมีเดียขั้นต่ำอยู่ระหว่างสี่ร้อยล้านไปจนถึงห้าร้อยล้านเป็นอย่างน้อย
ความสามารถในการทำกำไรระดับนี้ข่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไปมากกว่าครึ่ง บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งที่มีพนักงานนับหมื่นคน ทำเงินได้ไม่เท่ากับที่เฉินเฟยมีเดียทำได้เสียด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ยังมีองค์กรมืออาชีพได้ประเมินแรงดึงดูดของแบรนด์ลู่เฉิน และเชื่อว่ามูลค่าทางธุรกิจของลู่เฉินอยู่ที่ประมาณห้าพันล้าน ถือเป็นอันดับหนึ่งในวงการบันเทิงจีนเลยก็ว่าได้
แม้ว่าเฉินเฟยมีเดียและลู่เฉินเองไม่ได้ตอบสนองใดๆ ต่อการคาดเดาและการประเมินเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้ออกมายอมรับหรือปฏิเสธ แต่ในสายตาของคนในวงการหลายคน ความสามารถในการดูดทรัพย์ของลู่เฉินนั้นไม่เป็นที่กังขาเลย
การที่เขาทำเงินมากมายขนาดนั้น อีกทั้งยังเป็นเงินมูลค่ามหาศาล ถ้าไม่มีใครอิจฉาตาร้อนเลยก็คงเป็นไปไม่ได้!
เพียงแค่ว่าตัวลู่เฉินไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อย หลังจากที่เขาเดบิวต์ได้ไม่นานก็ตกหลุมรักกับเฉินเฟยเอ๋อร์ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองมั่นคงมาก กลายเป็นคู่รักในวงการบันเทิงที่ทุกคนต่างก็อิจฉา
ผลงานของลู่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ เส้นทางที่เขาเดินล้วนเป็นคนริเริ่มเองทั้งสิ้น เขาไม่ได้ลอกเลียนแบบหรือตามกระแส เขาเป็นผู้นำเทรนด์อยู่เสมอ พรสวรรค์ของเขาหาตัวจับยาก แม้แต่พวกแอนตี้คิดอยากจะหาเรื่องเขาก็ยังหาช่องโหว่ไม่เจอเลย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแม้ว่าเขาจะทำเงินได้มากมาย แต่ก็ไม่เคยโอ้อวดความร่ำรวยเลย นอกจากนี้เขายังลงทุนเงินก้อนโตในการก่อตั้งมูลนิธิกองทุนการกุศลเฉินเฟยเอาไว้ช่วยเหลือเด็กที่ป่วยจำนวนมาก
แล้วจะหาเรื่องได้อย่างไร
นอกจากนี้ นิสัยของลู่เฉินในวงการขึ้นชื่อในเรื่องถ่อมตนและความใจกว้าง แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยเล่นตัว ไม่เคยวางท่าเป็นดาราระดับบิ๊ก และไม่เคยพูดกับคนอื่นในบล็อกด้วยถ้อยคำหยาบคาย แม้ว่าอีกฝ่ายจะจงใจเสียดสีจุดประเด็นร้อนสร้างชนวนเหตุการณ์ขึ้นมาก็ตาม
ลู่เฉินเป็นคนเช่นนี้ ทำให้บรรดาคู่ต่อสู้ของเขารู้สึกสิ้นหวังจริงๆ
แต่การแข่งขันที่ดุเดือดในเรื่องภาพยนตร์ระหว่างบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวกับเฉินเฟยมีเดียคราวนี้ ในที่สุดผู้คนก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง แต่ทว่าทางด้านเฉินเฟยมีเดียยังคงนิ่งเงียบ ไม่ได้มุ่งประชาสัมพันธ์โต้กลับ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ทำให้หลายๆ คนรู้สึกตื่นเต้นและกระตือรือร้นขึ้นมา
บางสื่อรับเงินใต้โต๊ะ บางสื่อจุดประเด็นร้อน บางสื่อก็ขัดหูขัดตาไปเสียหมด…ควบคู่ไปกับการเติมเชื้อเพลิงอย่างเงียบๆ ของใครบางคน ในวงการบันเทิงจึงมีกระแสด้านลบลดทอนคุณค่าของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ปรากฏออกมา
‘ความคืบหน้าการถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เกิดความล่าช้า ยืนยันแล้วว่าไม่สามารถเข้าฉายในช่วงฤดูร้อนได้อย่างแน่นอน!’
‘ข่าวหลุดวงใน ทีมงาน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เกิดความขัดแย้งขึ้นภายใน คาดว่าเกิดการเกาเหลาระหว่างพระเอกและผู้กำกับ!’
‘จากการรวบรวมข่าวในปัจจุบัน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ มีความเป็นไปได้ที่จะพลาดการเข้าฉายในช่วงวันชาติจีน’
‘ความยากในการถ่ายทำสูงเกินไป ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบาก’
…
เว็บท่าขนาดใหญ่หลายแห่งร่วมงานกับเฉินเฟยมีเดีย จึงไม่มีข่าวที่ไม่เอื้ออำนวยต่อเฉินเฟยมีเดียและทีมงานของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ปรากฏออกมา แต่สื่อขนาดเล็กและขนาดกลางอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะกับคนทั่วไปนี่แหละ กลับไร้ศีลธรรมกว่ามาก
พร้อมกันกับที่การประชาสัมพันธ์ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ทวีความร้อนแรงขึ้น ข่าวเชิงลบที่มีต่อ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกคนจำนวนมากแชร์ไปในบล็อก เทียปา ฟอรัม และกลุ่มเฟยซวิ่น
ทำให้พวกคนที่ไม่รู้เรื่องจริงๆ มาเห็นเข้าเกิดความเข้าใจผิดเอาได้ง่ายๆ นั่นคือ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ที่กำลังจะเข้าฉายกลายเป็นผลงานบุกเบิกชิ้นเอกอย่างแท้จริงของภาพยนตร์กำลังภายในแนวใหม่!
ทุกคนรู้ดีว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้คือบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวอย่างแน่นอน พวกเขาไม่เคยตระหนี่กับเงินในการประชาสัมพันธ์ เพื่อยอดจำหน่ายตั๋วของภาพยนตร์เรื่องนี้ เปิดฉากดำเนินการสร้างกระแสต่อเนื่องกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
แต่ไม่มีใครสามารถจับจุดอ่อนของบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวได้ เพราะการประชาสัมพันธ์ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ของบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวไม่เคยมุ่งเป้าไปที่ใครเลย ประชาสัมพันธ์ตัวเองโดยที่ไม่ดูถูกฝ่ายตรงข้าม ใช้วิธีที่ตรงไปตรงมา
ด้วยวิธีที่ทั้งสายขาวและสายดาร์กทำงานร่วมกันเช่นนี้ กระแสที่สร้างขึ้นเพียงแค่คิดก็รู้แล้ว ปั่นกระแส ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ให้ร้อนแรงจนเหมือนเป็นตัวแทนใหม่ของภาพยนตร์ในประเทศ
แต่ไม่ว่าบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวจะประชาสัมพันธ์ได้ร้อนแรงขนาดไหน เฉินเฟยมีเดียก็สังเกตการณ์อย่างเงียบๆ แม้แต่ฝนตกพายุแรงแค่ไหนก็ไม่สะทกสะท้าน โดยทั่วไปแล้ว ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ไม่มีการประชาสัมพันธ์อะไร แต่ก็มีปล่อยภาพการถ่ายทำออกมาบ้างเป็นครั้งคราว
ในช่วงเวลาหนึ่งการประชาสัมพันธ์ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ในโปรแกรมภาพยนตร์ฤดูร้อน ให้ความรู้สึกเหมือนกับชนะอยู่คนเดียว แม้แต่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สองเรื่องของอเมริกาที่จะออกฉายในในช่วงฤดูร้อนก็ยังตกเป็นรอง
อย่างไรก็ตามเฉินเฟยมีเดียมีเหตุผลที่จะไม่ตอบโต้ เพราะ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร ’ มีกำหนดเข้าฉายในวันชาติจีน ไม่ได้ชนกับ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ และไม่ได้มีการแข่งขันโดยตรง สามารถวางท่าทีสูงส่งได้อย่างแน่นอน
แต่ภาพยนตร์กำลังภายในในประเทศที่เข้าฉายในช่วงฤดูร้อน ไม่ได้มีแค่ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ เท่านั้น!
ในขณะที่ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ได้รับความนิยมบนอินเทอร์เน็ต กู้เหล่ยที่เพิ่งจะหายเข้ากลีบเมฆไปเมื่อไม่นานมานี้ จู่ๆ ก็โผล่ออกมา และเยาะเย้ยฮั่วเฟยเยวี่ยในบล็อกส่วนตัวของเขา
ในรอบนี้กู้เหล่ยน่าจะเปลี่ยนแผนประชาสัมพันธ์ ในบล็อกโพสต์หนึ่งเขียนได้น่าสนใจทีเดียว แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าเขากำลังเย้ยฮั่วเฟยเยวี่ย ทว่าในโพสต์กลับไม่เห็นแม้แต่ชื่อของฮั่วเฟยเยวี่ย แต่ความหมายกลับเต็มไปด้วยการเสียดสี
กู้เหล่ยมีเหตุผลที่จะเสียดสีฮั่วเฟยเยวี่ยจริงๆ นั่นแหละ เนื่องจากเขาเป็นดาราแอกชันสายแข็งจึงเหมาะที่จะถ่ายภาพยนตร์กำลังภายในมาก แต่ ‘ตุ๊ด’ บางคนรับบทเป็นจอมยุทธ์ผู้กล้าหาญและเที่ยงตรง ไม่ใช่เรื่องน่าขันหรอกหรือ
เมื่อการเยาะเย้ยของกู้เหล่ยเริ่มต้นขึ้น ก็ดึงดูดห่ากระสุนปืนใหญ่มานับไม่ถ้วน แฟนๆ ของฮั่วเฟยเยวี่ยที่ถูกปลุกกระตุ้นจากบล็อกโพสต์ของเขาพลันระเบิดขึ้นและรุมทึ้งกลับด้วยความโกรธ
บังเอิญว่านี่คือสิ่งที่กู้เหล่ยต้องการ เขาโพสต์บล็อกโพสต์อย่างไม่ยอมแพ้สามโพสต์ติดต่อกัน เพื่อสุมไฟให้แรงขึ้นในเวลาเดียวกันเขาไม่ลืมที่จะประชาสัมพันธ์ ‘เจ็ดผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม’ ที่เข้าฉายช้ากว่า ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ไปหนึ่งสัปดาห์
บางคนบอกว่าอยู่ในวงการบันเทิงต้องเป็นคนหน้าด้านหน้าทนและต้องใจดำด้วย บังเอิญว่ากู้เหล่ยนั้นเป็นคนที่โดดเด่นในหมู่พวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ทุกคนรู้ว่าเขากำลังจุดประเด็นร้อน แต่คนอย่างเขาไม่เกรงกลัวและจะทำทุกวิถีทางเพื่อจุดประเด็นร้อนให้ได้ ในส่วนนี้ต้องยกให้เขาเลยจริงๆ
จนในตอนสุดท้ายฮั่วเฟยเยวี่ยเองก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป ลงสนามและโต้กลับกูเหล่ยสองสามประโยคด้วยตัวเอง
แต่เรื่องก็ยังไม่จบ ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด ภาพยนตร์กำลังภายใน ‘จอมเสเพลแห่งยุทธภพ’ ที่จะเข้าฉายในช่วงฤดูร้อนอีกเรื่องหนึ่งก็เข้ามาร่วมวงด้วย
บางคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ยุทธภพตกอยู่ในความโกลาหลแล้ว
………………………………………………..