ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] – ตอนที่ 284 กู่ฉิน

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ตอนนี้​เงินเดือน​ 50 หยวน​นั้น​สูงมาก​จริง ๆ​ แม้แต่​จี้เจี้ยน​เห​อ​ก็​รู้สึก​ว่า​ค่าแรง​นี้​สูงมาก​

แม้ว่า​ปกติ​แล้​วจะ​มีงาน​ไม่น้อย​ แต่​เงินเดือน​นี้​ก็​ถือว่า​คุ้มค่า​แน่นอน​

ตอนนี้​ราคา​สินค้า​สูงขึ้น​แล้ว​ แต่​ไม่ว่า​ราคา​จะเพิ่มขึ้น​แค่​ไหน​ คนใน​หมู่บ้าน​ก็​ใช้เงินเดือน​ละ​ 10 ถึง 20 หยวน​ นับว่า​เป็น​สวรรค์​แล้ว​  

เนื่องจาก​ไม่ค่อย​มีที่​ให้​ใช้เงิน​มาก​นัก​

ด้วย​ค่าแรง​ที่สูง​ขนาด​นี้​ แต่ละ​เดือน​จึงเก็บ​เงินได้​ไม่น้อย​ จึงมีอีก​กี่​คน​ที่​จับจ้อง​อยู่​?

และ​ตอนนี้​ครอบครัว​ของ​เขา​ 3 คน​พ่อ​ลูก​ต่าง​ก็​ทำงาน​ที่นี่​ รายได้​ต่อ​เดือน​ของ​พวกเขา​คือ​ 150 หยวน​ นี่​มัน​เป็น​เงิน​ตั้ง​เท่าไร​? 

มีกี่​คน​ที่​อิจฉา​ครอบครัว​ของ​เขา​ หาก​เขา​ถูก​ไล่ออก​ ย่อม​มีคน​มาแทนที่​เขา​ภายใน​ไม่กี่​นาที​

แต่​ที่​ไม่พอใจ​ที่สุด​เห็นจะ​เป็น​ป้า​ห​ลี่​จอม​โลภ​

หาก​นี่​เป็น​ครอบครัว​ใหญ่​ดังเช่น​ใน​อดีต​ เงินก้อน​ใหญ่​ขนาด​นี้​จะต้อง​ถูก​ควบคุม​อยู่​ใน​มือ​ของ​นาง​คนเดียว​

เงินเดือน​ละ​ 150 หยวน​ นี่​เป็นจังหวะ​ที่​ดี​ใน​การพัฒนา​เชียว​นะ​

แต่​ตอนนี้​สามีของ​นาง​ให้เงิน​เพียง​เดือน​ละ​ 20 หยวน​ ส่วน​ลูกชาย​ทั้ง​ 2 คน​นั้น​ คนโต​ยัง​ส่งบะหมี่​มาให้​บ้าง​ เรื่อง​เงิน​นั้น​อย่า​หวัง​ แต่​กับ​ลูกชาย​คน​สุดท้อง​นาง​ไม่ได้​อะไร​เลย​

เงินเดือน​ไม่มี อย่าง​อื่น​ก็​ไม่มี 

สาเหตุ​เป็น​เพราะ​ซูเจวียน​ หญิงสาว​ไม่ชอบ​นาง​ ดังนั้น​จึงไม่ให้​อะไร​เลย​ แม้แต่​เงิน​เล็กน้อย​ก็​ไม่ให้​ อย่าง​อื่น​ก็​ไม่เห็น​ว่า​จะได้​ 

ครั้ง​ล่าสุด​นาง​ได้​ไป​ตามหา​ลูกชาย​และ​ขอให้​เขา​ช่วย​เลี้ยงดู​นาง​!

แต่​สิ่งที่นี่​ลูกชาย​ของ​นาง​พูด​คือ​อะไร​กัน​ เขา​พูดว่า​ได้​เงินเดือน​ละ​ 20 หยวน​ยัง​ไม่พอใช้​อีก​หรือ​? นอกจากนี้​เขา​ยัง​บอก​ด้วยว่า​ นาง​พูด​ไม่ดี​เกี่ยวกับ​ภรรยา​ของ​เขา​ 

ป้า​ห​ลี่​โกรธจัด​ นี่​คือ​ลูกชาย​แท้ ๆ​ ของ​นาง​งั้น​เหรอ​?   

แน่นอน​ว่า​นาง​พูด​ไม่ดี​ถึงซูเจวียน​ ลูกสะใภ้​รอง​จึงโกรธ​นาง​มาก​ ตอนแรก​นาง​คง​ตาบอด​ถึงได้ดี​กับ​หล่อน​ ดู​ตอนนี้​สิ เมื่อ​แต่งงาน​แล้ว​ ลูกชาย​ของ​นาง​ก็​ถูก​ชิงตัว​ไป​ ไม่มีการ​ช่วยเหลือ​หรือ​พูดคุย​กัน​ทั้งนั้น​ ลูกชาย​ที่​นาง​เลี้ยง​มา ทั้งวัน​กลับ​เอาแต่​สนใจ​ผู้หญิง​ที่​เป็นตัว​ผลาญ​เงิน​  

 

ปี​ที่แล้ว​ซูเจวียน​ได้​ให้กำเนิด​ลูกสาว​ ย่อม​เป็น​ที่รัก​ของหล่อน​เอง​ แต่​ไม่ต้องสงสัย​เลย​ว่า​ป้า​ห​ลี่​ต้อง​ไม่พอใจ​อย่าง​แน่นอน​ ช่างเป็น​ผู้หญิง​ที่​ใช้การใช้งาน​อะไร​ไม่ได้​จริง ๆ​ สู้ครอบครัว​ของ​ลูก​คนโต​ก็​ไม่ได้​! 

นอกจาก​จะไม่ให้​อะไร​เลย​ ยัง​ตะกละ​และ​ขี้เกียจ​ ป้า​ห​ลี่​จึงออก​ไป​ข้างนอก​เพื่อ​ป่าวประกาศ​ว่า​ลูกสะใภ้​ของ​นาง​เป็น​คน​อกตัญญู​และ​โหดร้าย​กับ​นาง​

เมื่อ​พี่สาว​คน​หนึ่ง​ของ​ซูเจวียน​มาบอกเล่า​คำพูด​เหล่านี้​ให้​หล่อน​ฟัง ซูเจวียน​ก็​ยิ่ง​โมโห​มากขึ้น​

มัน​จึงส่งผลกระทบ​ต่อ​ความสัมพันธ์​อย่าง​รุนแรง​ 

เรื่อง​เหล่านี้​เกิดขึ้น​ใน​หมู่บ้าน​ก็​จริง​ ทว่า​โดยรวม​แล้ว​คนใน​หมู่บ้าน​ต่าง​เห็น​ได้​ว่า​จี้เจี้ยน​เห​อ​และ​จี้เจี้ยน​ชวน​พี่ชาย​ของ​เขา​ล้วน​ใช้ชีวิต​กัน​อย่าง​สุขสบาย​

ด้วย​เงินค่าจ้าง​ 50 หยวน​ต่อ​เดือน​ ต่อให้​ไม่ทำงาน​กลาง​ทุ่งนา​ก็​มีชีวิต​ที่​ดี​ได้​

ต่อให้​จี้เจี้ยน​เห​อ​ไม่ทำ​ แต่​พี่ชาย​ของ​เขา​ยัง​ทำ​อยู่​ และ​พี่สะใภ้​ของ​เขา​ก็​ทำงาน​เก่ง​มาก​ ถึงจะพูด​ไม่เก่ง​ แต่​ก็​ดูแล​ทุกคน​ได้ดี​ทั้ง​ใน​บ้าน​และ​นอกบ้าน​

ใน​วันนั้น​เอง​ซูเจวียน​ได้​อุ้ม​ลูกสาว​มาพร้อมกับ​หลานสาว​จาก​บ้าน​แม่ของหล่อน​มาหา​ซูตาน​หง​ หลานสาว​คน​นี้​อายุ​เพียง​ 5 ขวบ​และ​ติด​ตามมา​เพื่อ​ช่วยดูแล​เด็ก​ ๆ

เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ปกติ​ เนื่องจาก​ทั้งสอง​ครอบครัว​เป็น​ญาติ​ที่​สนิท​กัน​มาก​ และ​ซูเจวียน​กับ​เธอ​ก็​อยู่​ใน​หมู่บ้าน​เดียวกัน​

“หง​อิง​ของ​ฉัน​กับ​เห​ริน​เห​ริน​อายุ​ไล่เลี่ยกัน​เลย​นะคะ​” ซูเจวียน​กล่าว​สนทนา​

ซูตาน​หง​ไม่ได้คิด​เรื่อง​นี้​ใน​ตอนแรก​และ​พูด​ขึ้น​ “ใกล้​กัน​มาก​เลย​จ้ะ”

พวกเขา​อายุ​ห่าง​กัน​เพียงแค่​ครึ่ง​ปี​เท่านั้น​

“พี่​ตาน​หง​ พี่​คิด​ว่า​หง​อิง​ของ​ฉัน​เป็น​ยังไง​บ้าง​คะ​?” ซูเจวียน​ยิ้ม​

ซูตาน​หง​พูด​ “หง​อิง​เป็น​เด็กดี​จ้ะ”

‘แม้จะดู​ซื่อ​ไป​หน่อย​’

“งั้น​ให้​เป็น​ลูกสะใภ้​ของ​พี่​ดี​ไหม​คะ​?” ซูเจวียน​พูด​อย่าง​มีความสุข​

ซูตาน​หง​เกือบ​พ่น​ขนม​ที่​เพิ่ง​กิน​ออกมา​ เมื่อ​เห็น​ว่า​หล่อน​มีท่าทาง​จริงจัง​ จึงยิ้ม​แล้ว​พูด​ “เห​ริน​เห​ริน​เพิ่งจะ​อายุ​เท่าไหร่​เอง​ ตัว​โต​แค่นี้​ ยัง​เร็ว​เกินไป​ที่จะ​พูด​น่ะ​จ้ะ”

“ไม่เร็ว​หรอก​ค่ะ​ ถึงตอนนี้​ยัง​เด็ก​อยู่​ แต่​แค่​พริบตาเดียว​เวลา​ก็​ผ่าน​ไป​เร็ว​แล้ว​” ซูเจวี้ยน​กล่าว​

ซูตาน​หง​ยิ้ม​ “พี่​มีเงื่อนไข​สำหรับ​ลูกสะใภ้​ของ​พี่​อยู่​น่ะ​”

“เงื่อนไข​อะไร​เหรอ​คะ​?” ซูเจวียน​ถาม  

 

ซูตาน​หง​ไม่อยาก​เล่นแง่​ แต่​ก็​ต้อง​พูดความจริง​ออกมา​ “ยังไง​ก็​ต้อง​เรียน​ให้​จบ​มหาวิทยาลัย​ ต่อไป​พวกเขา​สามคน​พี่น้อง​จะได้รับ​การฝึกฝน​ให้​เข้า​มหาวิทยาลัย​ พี่​จะไม่ให้​พวกเขา​มาปลูก​ผลไม้​อยู่​ที่​สวน​ใน​หมู่บ้าน​กับ​พ่อ​ของ​เขา​หรอก​ เมื่อ​ลูก​นก​เติบโต​ขึ้น​ก็​ต้อง​กางปีก​บิน​ออก​ไป​ใช่ไหม​ล่ะ​?” 

 

“ถ้าอย่างนั้น​ก็​ต้อง​มีลูกสะใภ้​ที่​กตัญญู​ไม่ใช่เหรอ​คะ​?” ซูเจวีย​นรี​บ​พูด​ทันที​

“เรื่อง​นั้น​พี่​ไม่คาดหวัง​แล้ว​ เมื่อ​ถึงเวลา​พี่​กับ​เจี้ยนอวิ๋น​จะใช้ชีวิต​ของ​พวกเรา​สอง​ผู้เฒ่า​ให้​ดี​ ถ้าทําไม่ได้​ ก็​จ้างคน​มาปรนนิบัติ​ ส่วน​ลูกชาย​กับ​ลูกสะใภ้​ก็​ปล่อย​ให้​พวกเขา​มีชีวิต​ที่​ดีกว่า​นี้​ สาวน้อย​หง​อิง​คน​นี้​ก็​ไม่เลว​ เธอ​ให้​ทางบ้าน​แม่ของ​เธอ​ส่งไป​เรียน​สิ ไม่แน่​ในอนาคต​อาจ​มีโอกาส​ได้​เกี่ยวดอง​กัน​ก็ได้​นะ​?” ซูตาน​หง​ยิ้ม​

หาก​เป็นไปตาม​สถานการณ์​ของ​ตระกูล​ซู ซูหง​อิง​คน​นี้​คง​ไม่อยาก​ไป​โรงเรียน​แล้ว​ อย่างไรก็ตาม​เธอ​ก็​หวัง​ว่า​เด็ก​คน​นี้​จะได้​ไป​เรียน​สัก​ 2 ถึง 3 ปี​ สำหรับ​เด็กหญิง​ตัวเล็ก​ ๆ คน​นี้​ก็​ถือว่า​ดีแล้ว​

ส่วน​เรื่อง​ของ​โชคชะตา​นั้น​ เธอ​เอง​ก็​ไม่ได้​พูด​ หาก​ในอนาคต​เห​ริน​เห​ริน​เกิด​ถูกตา​ต้องใจ​ขึ้น​มาล่ะ​?

เรื่อง​นี้​ไม่มีอะไร​แน่นอน​

ซูเจวียน​พอใจ​กับ​คำพูด​ของ​เธอ​มาก​ที่​ไม่ได้​ปฏิเสธ​อย่าง​ชัดเจน​ เมื่อ​ซูหง​อิง​กำลังจะ​กลับ​ไป​ ซูตาน​หง​ก็​ให้​ลูก​รส​นม​อม​ตรา​กระต่าย​ขาว​แก่​เด็กน้อย​อีก​หนึ่ง​กำมือ​ “ถ้าเรียน​ได้​ก็​ตั้งใจ​เรียน​นะจ๊ะ​ ต่อไป​จะได้​ทำงาน​ดี ๆ​”

“ขอบคุณ​คุณป้า​เร็ว​” ซูเจวียน​เร่งเร้า​

“ขอบคุณ​ค่ะ​คุณป้า​” ซูหง​อิง​พยักหน้า​และ​มอง​ไป​ที่​ลูก​อมร​สนม​ตรา​กระต่าย​ขาว​ใน​มือ​ของ​เธอ​ด้วย​แววตา​ดีใจ​

จนกระทั่ง​หลาย​ปี​ต่อมา​ ซูหง​อิง​ก็ได้​แต่งงาน​เข้าไป​อยู่​ใน​เมือง​ และ​บางครั้ง​ก็​ยัง​นึกถึง​ลูก​อมร​สนม​ตรา​กระต่าย​ขาว​เม็ด​แรก​ที่​เธอ​ได้​กินใน​วันนี้​

เมื่อ​จี้เจี้ยนอวิ๋น​กลับมา​ ซูตาน​หง​ได้​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​เขา​ฟังอย่าง​ขบขัน​ ส่วน​จี้เจี้ยนอวิ๋น​นั้น​ไม่สนใจ​ ลูกชาย​คนโต​ของ​เขา​เพิ่งจะ​อายุ​เท่าไหร่​กัน​?

ยิ่งไปกว่านั้น​ เขา​ไม่ได้​วางแผน​ที่จะ​จัดการ​เรื่อง​งานแต่งงาน​ในอนาคต​ ลูกชาย​ของ​เขา​ชอบ​อะไร​ก็​ให้​ไป​ค้นหา​เอา​เอง​ เขา​จะไม่เข้าไป​แทรกแซง​

“เถ้าแก่​ พวกเรา​กลับมา​แล้ว​ครับ​!” เสียง​ของ​สวี่​เห​อ​ซาน​กับ​ซูจูเหมา​ดัง​อยู่​นอก​ประตู​

“ประตู​ไม่ได้​ล็อค​ เข้ามา​เอง​ได้​เลย​” จี้เจี้ยนอวิ๋น​กล่าว​

สวี่​เห​อ​ซาน​กับ​ซูจูเหมา​เดิน​เข้ามา​ด้วยกัน​   

ตราบใดที่​จี้เจี้ยนอวิ๋น​ยังอยู่​ ต้า​เฮย​ก็​ไม่สนใจ​ แต่​เมื่อใด​ที่​จี้เจี้ยนอวิ๋น​ไม่อยู่​ ไม่ว่า​ผู้ชาย​หรือ​ผู้ใหญ่​คน​ไหน​ก็​เข้า​บ้าน​ไม่ได้​

แม้กระทั่ง​ห​ลี่​จื้อ​ก็​ยัง​ต้อง​ยืน​พูดคุย​อยู่​ข้างนอก​ เนื่องจาก​ต้า​เฮย​ไม่ยอมให้​ผู้ชาย​คนอื่น​เข้ามา​

แต่​ใน​ตอนนี้​ไม่เป็นไร​แล้ว​ เพราะ​เจ้านาย​ของ​มัน​อยู่​ที่นี่​ด้วย​

สวี่​เห​อ​ซาน​และ​ซูจูเหมา​แบก​กู่​ฉิน​เข้ามา​ ขณะที่​ซูตาน​หง​ออก​มาจาก​ห้องครัว​ เธอ​ก็​ตกตะลึง​เมื่อ​เห็น​กู่​ฉิน​

“กู่​ฉิน​มาจาก​ไห​นคะ​?” ซูตาน​หง​มอง​ไป​ที่​จี้เจี้ยนอวิ๋น​

“คราว​ที่แล้ว​คุณ​บอ​กว่า​ชอบ​ไม่ใช่เหรอ​ครับ​ ผม​ขอให้​พวกเขา​สอง​คน​ไป​เดิน​ดู​แถว​ใน​เมือง​มหาวิทยาลัย​ ช่วง​ก่อน​ค่อนข้าง​ยุ่ง​ แต่​ตอนนี้​มีเวลาว่าง​นิดหน่อย​ เลย​ให้​พวกเขา​ซื้อ​กลับมา​” จี้เจี้ยนอวิ๋น​ยิ้ม​และ​มอง​ไป​ที่​ภรรยา​ของ​เขา​

“กู่​ฉิน​นี้​คุณภาพดี​จริง ๆ​” ซูตาน​หง​ลูบไล้​เสียง​กู่​ฉิน​ มือ​ก็​อด​ดึง​สาย​ของ​มัน​ขึ้น​มาไม่ได้​ เมื่อ​สะบัด​ปลายนิ้ว​เพียง​ไม่กี่​ครั้ง​ เสียงดนตรี​อัน​สดใส​และ​ไพเราะ​ก็​ดัง​ขึ้น​มา ทําให้ชาย​ทั้ง​สามคนใน​ที่​นั้น​ถึงกับ​ตะลึงงัน​

“เถ้าแก่เนี้ย​น่าทึ่ง​จริง ๆ​ ขนาด​กู่​ฉิน​ยัง​เล่น​ได้​!” สวี่​เห​อ​ซาน​กับ​ซูจูเหมา​รู้สึก​ชื่นชม​เป็นอย่างมาก​ เชี่ยวชาญ​หรือไม่​ดู​จาก​การเคลื่อนไหว​ของ​มือ​ก็​รู้​ได้​ แน่นอน​ว่า​เถ้าแก่เนี้ย​นั้น​เป็น​ผู้เชี่ยวชาญ​มาก​ หลังจาก​สะบัดมือ​เพียง​ไม่กี่​ครั้ง​ ก็​ทำให้เกิด​เสียงดนตรี​ไพเราะ​ดัง​กังวาน​ขึ้น​มาได้​

“นี่​ก็​ค่ำ​แล้ว​ พวก​นาย​สอง​คน​กลับ​ไป​ก่อน​เถอะ​” เมื่อ​จี้เจี้ยนอวิ๋น​ได้สติ​กลับมา​ก็​หันไป​พูด​กับ​พวกเขา​ทั้งคู่​

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

เห​ริน​เห​ริน​ตัว​แค่นี้​จะมีว่าที่​ภรรยา​แล้ว​ ฮอต​ตั้งแต่​เด็ก​จริง ๆ​

แน่นอน​สิ เถ้าแก่เนี้ย​เคย​เป็น​คุณหนู​ตระกูล​ใหญ่​มาก่อน​นะ​ กู่​ฉิน​ตัว​หนึ่ง​ต้อง​มีปัญญา​เล่น​อยู่แล้ว​

ไหหม่า​(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

Status: Ongoing
คุณหนูซูผู้มีชีวิตอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ยึดหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรมมาตั้งแต่ยังเล็ก ยังไม่ทันจะได้ออกเรือนนำเกียรติมาให้วงศ์ตระกูลกลับจับไข้สิ้นลมกลางสายฝนยามสารทฤดู และมาเกิดใหม่ในปี 1980 นางไม่คิดเลยว่าวิถีกุลสตรีในชาติที่แล้วของตนจะกลายเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในยุคนี้ เนื่องจากเจ้าของร่างเดิม ซูตานหง ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกินยาฆ่าแมลงตายคนนี้ นอกจากนามสกุลเดียวกันแล้วก็ไม่มีอะไรดีเหมือนนางเลยสักด้าน ถึงอย่างนั้นคุณหนูซูก็ไม่สนใจ นางคิดเพียงว่าจะใช้ทักษะที่มีอยู่มาสร้างเงินทอง ปลูกต้นไม้ดอกไม้มีค่า เย็บปักถักร้อยวาดภาพภูเขาสายน้ำอันงดงาม ใช้ชีวิตในชาตินี้ให้เรียบง่ายสุขสบายตามอัตภาพเท่านั้นและนี่ก็คือเรื่องราวของคุณหนูสูงศักดิ์จากยุคโบราณผู้มาเกิดใหม่ในร่างหญิงสาวยุค 80 เพื่อทำสวนทำไร่และให้กำเนิดบุตร นางจะเอาชีวิตรอดในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างไรบ้าง เอาใจช่วยคุณหนูซูไปพร้อมๆ กันได้ในเรื่องนี้เลย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท