ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – บทที่ 281 หนวดประหลาด

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

บทที่ 281 หนวดประหลาด

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าหม่าหลิวจะทำสำเร็จนั้น เป็นตอนนี้ที่สถานการณ์เปลี่ยนไป

ในทันทีที่ดอกไม้ร้อยสีสันถูกกัปตันหลิวสัมผัส หนวดแปลกๆได้ยื่นออกมาจากรากของดอกไม้ร้อยสีสัน พุ่งตรงรัดพันที่ข้อมือของหม่าหลิว

ด้วยความเร็วที่รวดเร็วขนาดที่ว่าต่อให้พื้นที่โดยรอบเป็นบนผิวดินปกติก็ยังยากที่จะหลบ แล้วหม่าหลิวจะหลบได้อย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้นคือ ขนาดเฉินเฉียงที่มีพลังจิตล้ำเลิศก็ยังไม่อาจจะตรวจจับพวกมันได้ก่อนหน้านี้

และในตอนที่หนวดประหลาดพวกนี้ปรากฏตัว เฉินเฉียงสัมผัสได้ว่าพวกมันน่าจะมีทักษะเช่นเดียวกับเขา นั่นก็คือทักษะไร้ตัวตน

และด้วยการกระทำของหม่าหลิวนี้ทำให้หมึกประหลาดได้ปรากฏ นี่ทำให้ฉลามแก่และพวกของหม่าหลิวอีกสองคนทำได้เพียงยืนกลัวอย่างนิ่งอึ้งไป โดยเฉพาะฉลามแก่ที่กลัวยิ่งกว่าใครเพราะเขาอยู่ห่างจากหม่าหลิวเพียงไม่ถึงห้าเมตร

“อ๊ากกกกก”

ในทันทีที่หนวดประหลาดนี้สัมผัสข้อมือของหม่าหลิว คนที่กลับกรีดร้องออกมานั้นเป็นฉลามแก่เสียอย่างนั้น

เฉินเฉียงที่มองอยู่ห่างๆเองก็ตกตะลึงจนอยากจะร้องออกมาเหมือนกัน เพราะเขาพบว่า หม่าหลิวที่ถูกหนวดประหลาดรัดพันนั้นได้โดนสูบเลือดจนเหือดแห้ง

และที่น่าแปลกก็คือ ตอนที่หม่าหลิวโดนหนวดนี้รัดพัน เขานั้นไม่แม้แต่ขยับตัวได้แม้แต่น้อย ร้องสักแอะก็ไม่มี หลังจากเหือดแห้งไปโดยหนวดประหลาดนี้แล้ว ร่างของเขาก็ถูกรัดพันโดยหนวดนี้ทั้งตัว พร้อมทั้งพลังชีวิตที่หายไปอย่างช้าๆ

เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนในตอนนี้ต่างก็เข้าใจได้ในทันทีว่าสิ่งมีชีวิตลึกลับที่กล่าวขวัญกันนั้นก็คือเจ้าหนวดประหลาดพวกนี้

ผู้ที่อยู่ในระดับกึ่งราชาคนหนึ่งถูกฆ่าตายลงโดยสิ่งมีชีวิตประหลาดนี้ด้วยเวลาไม่ถึงสิบวินาที

ไม่แปลกใจเลยจริงๆที่พื้นที่แห่งนี้จะถูกขนานนามว่าพื้นที่แห่งความตาย

ฉลามแก่และพวกของหม่าหลิวอีกสองคนที่เหลือนั้น เมื่อได้เห็นหม่าหลิวที่ตกตายต่อหน้าต่อตาโดยระยะไม่ถึงสิบเมตรนี้ ต่างก็รู้สึกดีใจ เพราะทุกคนต่างก็เกือบจะเข้าไปฉกชิงดอกไม้ร้อยสีสันนี้กันไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ฉากนี้จะน่าสยองขวัญเพียงใด แต่ยังไงซะ ดอกไม้ร้อยสีสันที่อยู่ตรงหน้ามันก็น่าล่อตาล่อใจจนอยากที่จะเสี่ยง

แต่กว่าจะคิดได้นั้น ก็ถือได้ว่าช้าเกินไป

เพียงตอนที่ร่างของหม่าหลิวได้ถูกลากไปยังใต้ต้นดอกไม้ร้อยสีสัน หนวดประหลาดอีกสิบกว่าหนวดก็ได้พุ่งตรงไปที่ฉลามแก่และคนที่เหลือ

ฉลามแก่และคนที่เหลือเมื่อเห็นแล้วนั้น ต่างก็กระวีกระวาดในทันที

ในหมู่คนทั้งสามนั้น ฉลามแก่นั้นรวดเร็วที่สุด เพราะยังไงซะ เขาก็คือสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลในย่านน้ำนี้ และเพียงชั่วพริบตา เขาก็สามารถหลบการโจมตีของหนวดประหลาดพวกนี้ได้

ส่วนอีกสองคนนั้นไม่โชคดีไม่ได้โชคดีแต่อย่างใด พร้อมตามกัปตันของตนไปติดๆ

ฉลามแก่ผู้ซึ่งหลุดรอดจากการโจมตีแรกไปนั้น ในขณะที่เขายังไม่ได้หายใจหายคอ เขาก็พบว่าหนวดอีกจำนวนหนึ่งได้พุ่งเข้ามาโจมตีเขาประดุจดั่งว่าพวกมันคือเจ้าแห่งท้องทะเลในแทบนี้ หนวดของมันได้เข้ามาอยู่ข้างฉลามแก่ในชั่วพริบตา แต่พวกมันไม่ได้โจมตีฉลามแก่เหมือนก่อนหน้านี้ พวกมันทำเพียงพยายามจะสัมผัสตัวเขาให้ได้เพียงเท่านั้น ราวกับจะหยอกเล่นก็ไม่ปาน

ฉลามแก่เองนั้นมีฟันอันใหญ่ยักษ์และแหลมคม ด้วยเรื่องเพียงแค่นี้มีหรือที่เขาจะเกรงกลัว

นี่ทำให้เขานั้นไม่เพียงจะไม่หลบ เขายังคิดหมายที่จะรากพวกมันออกมาให้ปรากฏตัว

หนวดหมึกพวกนี้เองก็ราวจะรับรู้ได้ ในทันทีที่ฉลามแก่เตรียมที่จะตอบโต้ พวกมันก็หดหนวดกลับไป

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เฉินเฉียงตกตะลึงมากที่สุดก็คือ ฉลามแก่ที่เขาคิดว่าจะชนะนั้น อยู่ๆก็โซซัดโซเซราวกับกำลังเมาเหล้า ก่อนที่จะทรุดลงไปกองอยู่ก้นสมุทรตามคนอื่นๆ

ยิ่งไปกว่านั้นคือ ในขณะที่ร่างกายของฉลามแก่ร่วงหล่นนั้น เฉินเฉียงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าฉลามแก่นั้นมีร่างกายที่แห้งเหือดไม่ได้ต่างจากหม่าหลิว พร้อมใบหน้าที่ซีดเผือด เพียงร่างทั้งหมดลงไปกองกับพื้น ในก็คือเวลาที่ชีวิตของเขาได้หมดลง

เพียงชั่วเวลาไม่กี่พริบตา กึ่งราชาสี่คนได้ตกตายจนหมดสิ้น

ในตอนแรก เฉินเฉียงเองก็เห็นว่าหนวดประหลาดนี้ได้โจมตีออกมานั้น เขานึกว่าหนวดนี้จะทรงพลังอย่างมาก แต่ในตอนที่มันสัมผัสตัวของฉลามแก่ เขาเห็นเพียงว่าพวกมันแค่ปัดป่ายไปบนร่างของเขาเพียงเท่าน้น นี่ทำให้เฉินเฉียงรับรู้ในทันทีว่าเจ้าหนวดประหลาดพวกนี้ คือสิ่งมีชีวิตที่เขานั้นจะต้องไม่แตะตัวมันเป็นอันขาด เพราะเป็นไปได้ว่าทั่วทั้งร่างของมันคืออาวุธ

แล้วพวกมันคือตัวอะไรกันแน่

เฉินเฉียงที่กำลังตกตะลึงอยู่นั้น ไม่ได้รับรู้เลยว่าตัวเขาในตอนนี้ถูกพบเจอโดยสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ถึงแม้ว่าเฉินเฉียงนั้นจะอยู่ห่างจากพวกมันร้อยกว่าเมตร แต่เจ้าหนวดประหลาดพวกนี้ก็เคลื่อนไหวได้เร็วมาก ในตอนนี้พวกมันราวกับเป็นเจ้าแห่งทะเล และนี่ทำให้บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไปในทันที

ถึงแม้เว่าเฉินเฉียงจะมีความเร็วที่สูงล้ำ แต่ในตอนนี้ ตัวเขาเกือบจะถูกสัมผัสโดยหนวดเส้นหนึ่งไปแล้ว

หลังจากพยายามหลบการลอบโจมตีนี้จนได้ เพียงชั่วพริบตา เฉินเฉียงได้ใช้พลังเหนือมนุษย์ควบคุมสายน้ำระดับแปดของตนว่ายน้ำออกไปในระยะหนึ่งกิโลเพียงชั่วพริบตา จนในที่สุด เขาก็พ้นจากเขตก้นสมุทรของคาบสมุทรมังกรซ่อนแห่งนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากสงบจิตใจลงได้ เมื่อเฉินเฉียงนึกถึงฉากเมื่อครู่นี้อีกครั้ง เขาเองก็มีความรู้สึกว่า หากเขาใช้ความเร็วและทักษะที่ช่วยในการหลบซ่อนของตนแล้ว เขาน่าจะได้ดอกไม้ร้อยสีสันมาสักต้น

ตราบใดที่เขาไม่ไปสัมผัสหนวดประหลาดนั่น เขาก็ไม่น่าจะพบเจออันตรายแต่อย่างใด

และเพื่อให้มั่นใจยิ่งขึ้น เฉินเฉียงจึงได้ว่ายน้ำห่างจากก้นสมุทรไปอีกสองกิโลเมตร ก่อนที่จะนำธนูดำออกมา

หลังจากเหนี่ยวรั้งสายธนูจนสุดแล้วปล่อยออกไป ธนูไร้สีสองดอกพุ่งตรงไปยังกลางดงดอกไม้ร้อยสีที่อยู่ที่ก้นสมุทร

ถึงแม้ว่าลูกธนูไร้สีของเขาจะถูกกดดันโดยความกดอากาศภายใต้พื้นที่ใต้ทะเลลึกจนทำให้มันช้าลงก็ตาม แต่เขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าหนวดประหลาดเหล่านี้ เมื่อโดนธนูไร้สีของเขาเข้าไปแล้ว ต่างก็ชักดิ้นชักงออย่างเจ็บปวด จนทำให้พื้นที่บริเวณนั้นขุ่นไปในทันที

ไม่ตายเรอะ

จากกระแสจิตที่เขาปล่อยออกไปก่อนหน้านี้ เขารู้สึกได้ว่าเจ้าหนวดพวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีกระดูก ด้านในหัวด้านไหนหางเขาเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน หากว่ามันไม่ขยับเขยื้อน เขาเองก็คงคิดไปว่ามันเพียงทรายเสียด้วยซ้ำ

นี่ขนาดเขานั้นยิงไปซุ่มๆเพียงเท่านั้น

หากจะถามว่ามันหมายความว่ายังไงล่ะก็

มันจะหมายความว่า มีโอกาสที่เจ้าพวกหนวดประหลาดนี่จะอยู่ทั่วพื้นที่ก้นสมุทรของคาบสมุทรมังกรซ่อนนี้

หากดูจากแผนที่ที่เขาได้รับมาแล้วนั้น พื้นที่ของก้นสมุทรนี่อย่างน้อยๆก็น่าจะหนึ่งพันตารางเมตร

ไม่ใช่ว่าเจ้าสัตว์ลึกลับนี่จะมีจำนวนนับไม่ถ้วนหรือไงกัน

เขาไม่แปลกใจเลยจริงๆว่าทำไมไอ้ดอกร้อยสีสันนี่ถึงถูกขายด้วยราคาที่สูงล้ำในเกาะเอ้อเทียน แถมยังมีผู้คนเพียงน้อยนิดที่ได้รับพวกมันไปสักต้น

แม้ดอกไม้ร้อยสีสันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แต่เขาจะเก็บพวกมันไปได้ยังไง

หากเขาถูกโจมตีในระยะประชิด มีความเป็นไปได้ว่าเขานั้นจะต้องสัมผัสถูกตัวพวกมัน เมื่อถึงตอนนั้น สภาพของเขาก็ไม่ต่างจากเจ้าสี่คนนั้น

ถึงแม้ว่าการโจมตีระยะไกลจะได้ผล แต่ด้วยจำนวนนับไม่ถ้วนของพวกมันแล้ว หากพวกมันบุกโจมตีมาพร้อมกัน แล้วเขาจะสู้กับพวกมันซึ่งๆหน้าได้ยังไง

…..แล้วการโจมตีทางจิตวิญญาณล่ะ

ในเมื่อการโจมตีทางจิตวิญญาณนั้นไร้เสียงไร้รูปร่าง แถมยังไม่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันของมหาสมุทรอีก นี่ควรจะเหมาะสมที่สุดแล้ว

เมื่อคิดได้ดังนี้ เฉินเฉียงก็ได้เก็บธนูดำของตนไป ก่อนที่จะตัดสินใจใช้คลื่นอัดกระแทกระดับแปดของเขาออกไปยังพื้นก้นสมุทรในวงกว้าง

ด้วยคลื่นอัดกระแทกระดับแปดนี้ แม้แต่หลินไฮ่หวังที่เป็นระดับราชาของพวกพลังจิตก็ไม่น่าจะขึ้นมาถึงระดับนี้ได้กระมัง

อย่างไรก็ตาม หลังจากระดูผลงานสักพัก เฉินเฉียงที่คิดว่าวิธีนี้ได้ผลแล้ว ก็ต้องพบว่า เจ้าหนวดประหลาดพวกนี้ต่อต้านการโจมตีทางจิตวิญญาณ

การโจมตีคลื่นอัดกระแทกระดับแปดของเขานี่แม้แต่กึ่งราชาสี่คนนั่นหากโดนไปก็ยังยากจะต้านทานเลยนะ

แต่กับไอ้หนวดประหลาดพวกนี้กลับทำอะไรมันไม่ได้

แล้วเขาควรจะทำยังไงดี

เฉินเฉียงในตอนนี้ตกอยู่ในสภาพที่เงียบงัน

ถอยเหรอ

ไม่มีทาง

ด้วยดอกไม้ร้อยสีสันนี่ ไม่เพียงเขาจะรู้ถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงของเฉินเทียนเว่ยแล้ว มันยังช่วยให้เขาตอกหน้าไอ้แก่ระยำฮั่นจุยนั่นได้อีก

เฉินเฉียงอดไม่ได้ที่จะปวดใจเมื่อนึกสภาพที่เว่ยฉิงเชินต้องเผชิญหลังจากแต่งงานกับฮั่นจุยไปแล้ว

ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ต้องนำดอกไม้ร้อยสีสันกลับไปให้ได้

เมื่อคิดได้แบบนี้แล้ว เฉินเฉียงจึงได้ใช้ทักษะไร้ตัวตน และค่อยๆคืบคลานเข้าไปหาดอกไม้ร้อยสีสัน

แต่เมื่อเฉินเฉียงเข้าใกล้พวกมันในระยะร้อยเมตร เขาก็ได้หยุดตัวเองไว้

ตอนนี้ถือได้ว่านานพอดูหากนับจากช่วงเวลาที่กึ่งราชาทั้งสี่ได้ตกตายไป

หากเขาเข้าใจไม่ผิด เจ้าหนวดพวกนั้นน่าจะกำลังยุ่งอยู่กับการกินอยู่

และด้วยพลังเหนือมนุษย์หลบหนีแสงระดับแปดของเขานั้น เขาสามารถหายตัวได้สี่วินาทีโดยไม่ถูกพบเจอ

ด้วยระยะเวลาเท่านี้ เขาน่าจะใช้เคลื่อนย้ายพริบตาได้สองรอบ

ด้วยระยะร้อยเมตรนี้ เขาเชื่อว่าเขานั้นจะสามารถเก็บเกี่ยวดอกไม้ร้อยสีสันนี่ได้สำเร็จ

เมื่อคิดได้แบบนี้แล้ว เฉินเฉียงก็ได้สงบสติตัวเองลง ก่อนจะกัดฟันแน่น พร้อมใช้พลังเหนือมนุษย์หลบหนีแสงและเคลื่อนย้ายพริบตา

ฉึบ

การเคลื่อนย้ายในครั้งแรกนี้ใช้เวลาไม่ถึงเสี้ยววิ และนี่ทำให้เขาสามารถร่นระยะระหว่างดอกไม้ร้อยสีสันกับตัวเขาได้สำเร็จ

แต่ด้วยการที่การเคลื่อนไหวของเขานี้ทำให้ดอกไม้ร้อยสีสันมีการขยับไปเล็กน้อย ถึงแม้เฉินเฉียงจะระวังตัวอย่างที่สุดแล้ว แต่มันก็ยังไปเตะตาเจ้าหนวดประหลาดพวกนี้อยู่ดี เพราะพวกมันเองก็เพียงอยู่ใต้รากของดอกไม้ร้อยสีสันเพียงเท่านั้น

แต่ก่อนที่เจ้าหนวดประหลาดนี้จะได้ออกมา เฉินเฉียงก็ได้ใช้ช่วงเวลาในวินาทีที่สอง ใช้เคลื่อนย้ายชั่วพริบตาอีกครั้ง

ฉึบ

เขาใช้เวลาเพียงสามวินาที เขาก็กลับไปยังจุดก่อนที่เขาจะเข้ามาฉกชิงดอกไม้ร้อยสีสันไปแล้ว

และก่อนที่ร่างกายของเขาจะปรากฏ เฉินเฉียงก็ได้ใช้พลังเหนือมนุษย์ควบคุมสายน้ำระดับแปดของเขา ว่ายออกไปจากจุดนี้ในทันที รอดพ้นจากการโจมตีของเจ้าหนวดประหลาดนี่ได้ในทันใด

เขาทำสำเร็จ

เมื่อมองเห็นดอกไม้ร้อยสีสันในมือของตน เฉินเฉียงก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา

หากไม่ใช่เป็นเพราะว่าเขานั้นมีวิธีการที่ปลอดภัยในการได้รับดอกไม้ร้อยสีสันนี้มาล่ะก็ หากเขาไม่รอดชีวิตจากพวกมัน เขาก็คงต้องดับดิ้นอยู่ใต้ทะเลลึกแห่งนี้อยู่ดี

หลังจากได้เก็บดอกไม้ร้อยสีสันนี่ไปแล้ว จิตใจของเขาก็ได้กระตุ้นเตือนบางอย่าง

กับดอกไม้ร้อยสีสันเพียงดอกเดียว หากเขาปรุงมันผิดพลาด แล้วเขาจะทำเช่นไร

ด้วยการที่นี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเขา จะดีกว่าหากเขามีสำรองไว้ไม่ใช่รึ

ยังไงซะ เม็ดยาหวนคืนโลกานี้นั้นต้องใช้ส่วนประกอบที่มีมูลค่าที่สูงล้ำ และเขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะปรุงมันเสร็จได้ในทีเดียว จะดีกว่าหากว่าเขานั้นมีมันสำรองไว้อีก

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เฉินเฉียงก็ได้สงบสติลง ก่อนที่จะกลับไปใกล้ๆกับก้นสมุทรแห่งคาบสมุทรมังกรซ่อนอีกครั้ง ก่อนที่จะเลือกดอกร้อยสีสันดอกถัดไปที่เขาจะฉกชิง

หลังจากที่แผนการของเขาในครั้งแรกสำเร็จ เฉินเฉียงก็คิดที่จะใช้มันในการรับความสำเร็จในครั้งที่สองและมันก็สำเร็จอีกครั้ง

ดูเหมือนว่าจะไม่มีอันตรายอยู่นอกเหนือจากที่เขาคาดคำนวณแต่อย่างใด

หลังจากสำเร็จไปสองครั้งแล้ว นี่ทำให้เฉินเฉียงเกิดความกระหายมากยิ่งขึ้น

ยังไงซะ ดอกไม้ร้อยสีสันหนึ่งดอก จะเทียบเท่ากับแก่นวิญญาณสี่หมื่นก้อน

และตรงหน้าของเขานี้มีพวกมันอยู่อย่างน้อยๆก็สี่หมื่นดอก หากเขาเก็บพวกมันได้หมด พวกมันย่อมทำให้เขาร่ำรวยได้อย่างไม่ต้องเอ่ยถึง

บางครั้ง ชีวิตคนเราก็แปลกเช่นนี้แล

หากมองจากคนภายนอกนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนเหล่านั้นจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ง่ายดายเช่นเฉินเฉียง

และหากมีโอกาส ใครกันที่จะยอมรามือจากทรัพย์สมบัติที่ได้มาอย่างง่ายดาย

ยิ่งไปกว่านั้น เขาในตอนนี้ไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว เขายังมีกองกำลังเทียนเว่ยอยู่

เมื่อนึกถึงสิ่งที่จะได้รับมานั้น เมื่อนึกถึงตอนที่เขานำไปให้พี่น้องสิบกว่าคนของเขานั้น เรียกได้ว่าอนาคตของเขานั้นจะไม่มีสิ้นสุดอย่างแน่นอน

ในเมื่อมีโอกาสอันดีอยู่ต่อหน้า มีหรือที่เขาจะไม่คว้ามัน

นี่จึงทำให้เฉินเฉียงนั้นตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเก็บดอกไม้ร้อยสีสันพวกนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถ้าจะให้ดีเก็บได้ทั้งหมดเลยก็ยิ่งดี

เพราะยังไงซะ เจ้าหนวดประหลาดพวกนี้ก็ใช้ดอกไม้ร้อยสีสันนี่เป็นเหยื่อล่อให้ผู้คนมากมายเป็นอาหารอยู่แล้ว หากเขาเก็บพวกมันไปหมด ผู้คนเหล่านั้นก็ไม่ต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงที่นี่อีก

หลังจากพบเหตุผลมากพอแล้ว เฉินเฉียงจึงได้ลงมืออีกครั้ง

ดอกที่หนึ่ง ดอกที่สอง ดอกที่สาม….

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เฉินเฉียงเก็บดอกไม้ร้อยสีสันนี้ไปได้สิบกว่าดอก และยังคงทำต่อไปเรื่อยๆ

เจ้าหนวดพวกนั้นมันทำได้เพียงแค่นี้สินะ

หลังจากสำเร็จมามากมายหลายครั้ง มันทำให้เฉินเฉียงมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม และทำให้เขานั้นไม่เห็นเจ้าหนวดประหลาดนี่อยู่ในสายตาอีก

ฮื้ม

เมื่อเฉินเฉียงกลับลงมาในส่วนก้นสมุทรอีกครั้ง เขาก็ได้พบดอกไม้ร้อยสีสันกอหนึ่งที่เติบโตอยู่ด้วยกัน มันมีรวมๆกันอยู่ประมาณสามร้อยต้น เขาจึงคิดที่จะเก็บพวกมันให้หมดในคราวเดียว

ฉึบ

เพียงชั่วพริบตา เขาได้เข้าไปรวบพวกมันได้สำเร็จ

แต่ด้วยการที่เขาไปรวบดอกไม้ร้อยสีสันทั้งสามร้อยต้นนี้พร้อมกัน นั่นได้ทำให้ดอกไม้ทั้งสามร้อยดอกนี้ฉุดรั้งเขาให้เสียเวลามากกว่าที่ควรจะเป็น และนี่ไปกระตุ้นให้หนวดประหลาดเจ็ดถึงแปดเส้นปรากฏตัวในทันที ถึงแม้ว่าเฉินเฉียงจะรวบดึงดอกไม้ร้อยสีสันทั้งสามร้อยดอกไปได้ แต่ในตอนนี้ ร่างของเขาก็ถูกรุมล้อมไว้ด้วยหนวดประหลาดนับสิบเส้น

ยังไม่รวมถึงว่ามีร่างเจ้าของหนวดที่แปลกประหลาดนี้แฝงตัวอยู่ใต้กอของดอกไม้ร้อยสีสันทั้งสามร้อยดอกนี่อีก

ถึงแม้เฉินเฉียงจะอยู่ในโหมดล่องหน แต่เจ้าสัตว์ลึกลับนี้ก็ไม่ได้โง่แต่อย่างใด ดูเหมือนว่าพวกมันเองก็เล็งไว้แล้วว่าเฉินเฉียงจะต้องมาฉกชิงดอกไม้ร้อยสีสันสามร้อยกว่าดอกนี้ ด้วยความตกใจ เฉินเฉียงนั้น หลังจากที่เก็บดอกไม้ร้อยสีสันทั้งสามร้อยดอกไปในแหวนเก็บของไปแล้ว เขาก็ได้รีบใช้เคลื่อนย้ายพริบตาในทันที

อย่างไรก็ตาม การที่เดินย่ำแม่น้ำบ่อยๆจะไม่ทิ้งรอยเท้าที่เปียกโชกได้อย่างไร

เพียงเฉินเฉียงได้ทำท่าจะพุ่งออกไป หนวดเส้นหนึ่งก็ได้มารัดพันข้อมือของเฉินเฉียงเอาไว้

“หมับ”

เฉินเฉียงนั้นได้ใช้ควบคุมสายน้ำระดับแปดของตนพุ่งตัวจากพื้นที่แห่งนี้ออกไปอย่างเร็วรี่ ราวกับพยายามว่ายน้ำหนีอะไรบางอย่างอย่างสุดชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่าร่างกายของตนนั้นรู้สึกแปลกๆ

ด้วยความแรงในการว่ายน้ำจากควบคุมสายน้ำระดับแปดนี้ ในที่สุดเขาก็หลุดพ้นจากหนวดลึกลับเหล่านั้นไปได้

แต่เมื่อนึกถึงสภาพของกึ่งราชาทั้งสี่ก่อนหน้านี้แล้ว เฉินเฉียงย่อมรู้ดีว่าในทันทีที่เขาถูกหนวดลึกลับสัมผัส เขาย่อมตกตายอย่างแน่นอน

เขาในตอนนี้นึกลอบโกรธตัวเองขึ้นมาจับใจที่ละโมบโลภมาก ก่อนที่จะรีบใช้กระแสจิตของตนตรวจสอบร่างกายในทันที

เมื่อเขามองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายของตนนั้น เขาตกตะลึงจนปากสั่นไปในทันที

เลือดของเขาเปลี่ยนแปลงไป

หลังจากโชคไม่ดีถูกเจ้าหนวดบ้านั้นสัมผัสร่างไปแล้วนั้น เขาก็รับรู้ได้ว่าเลือดของเขาในตอนนี้นั้น มีบอลเลือดปีศาจเพิ่มมานับร้อยลูก

และนี่ทำให้เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เขาได้สัมผัสกระดูกสีดำที่ได้พบเจอในเขตแดนลับในเขตแดนจักรพรรดิ

เป็นไปได้รึเปล่าว่ากระดูกสีดำนั่นกับเจ้าหมึกนี่จะเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวกัน

แต่ไอ้พวกนี้มันไม่มีกระดูกนี่หว่า

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาตรวจสอบดูบอลเลือดปีศาจเหล่านี้อีกครั้ง เขาก็พบว่า อย่างน้อยๆแล้ว เจ้าหนวดนี่กับกระดูกสีดำที่เขาได้พบเจอนั้นน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันอยู่

และในเมื่อเขาเคยเผชิญหน้ากับพวกมันมาแล้ว ด้วยจำนวนเพียงเท่านี้ กับพลังจิตของเขาในตอนนี้แล้วเขาจึงให้เวลาทำลายพวกมันได้โดยไม่ถึงสิบนาที

และในตอนนี้ ในที่สุด เฉินเฉียงก็เข้าใจได้แล้วว่าไอ้ทักษะกลืนกินเลือดปีศาจนั้นมีเอาไว้ใช้ทำอะไรกันแน่

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท