ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – บทที่ 312 ชีวิตและความตาย

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

บท​ที่​ 312 ชีวิต​และ​ความตาย​

ที่​กลาง​จัตุรัส​ที่​มีขนาด​พอ​ๆกับ​สนาม​บาสเกตบอล​นั้น​ ผู้​ทรงพลัง​สามคน​ที่​มีความสูง​เกือบ​สอง​เมตร​ได้​ยืน​ตระหง่าน​เชิดหน้า​มอง​ไป​คนละทิศคนละทาง​พร้อมกับ​เสื้อผ้า​ที่​ปลิว​ไสว​ไป​ตาม​สายลม​

ผู้​ที่อยู่​ตรงกลาง​นั้น​ ใบหน้า​ของ​เขา​ดู​สง่างามพร้อม​เครา​ยาว​ห้า​นิ้ว​

คน​ด้าน​ซ้าย​ตาม​การ​มอง​ของ​เฉิน​เฉียง​นี้​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ขน​รุงรัง​และ​ตัว​ที่​ใหญ่โต​

ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​นั้น​ดู​ไป​แล้ว​อายุ​ดู​ราวๆ​สัก​สามสิบ​ไม่ก็​สี่สิบ​ปี​ ผม​ของ​เขา​ขาวโพลน​ และ​ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ปรอท​ที่​สว่างไสว​ประดุจ​เกราะ​สีเงิน​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​มนุษย์​กลายพันธุ์​

นี่​มัน​เหล่า​ราชา​จักรพรรดิ​ของ​ทั้ง​สามเผ่าพันธุ์​ที่​เขา​เคย​ได้​พบ​เจอ​ไม่ใช่เหรอ​

ใน​ครานั้น​นอกจาก​เขา​จะได้​พบ​ทั้ง​สามคน​นี้​แล้ว​ เฉิน​เฉียง​ได้​เห็น​เสียง​ของ​พวกเขา​เลย​ด้วยซ้ำ​ แล้ว​ทำไม​พวกเขา​ถึงได้มา​อยู่​ที่นี่​ได้กัน​

ถึงแม้ว่า​หลังจาก​พบ​เจอ​ใน​ครานั้น​ ตัว​เขา​ก็​มีความคิด​อยู่​ว่า​ทั้ง​สามอาจจะ​ไม่ใช่ซากร่าง​แต่อย่างใด​ แต่​เขา​ก็​ยัง​คิด​อยู่​ว่า​ทั้ง​สามต้อง​ติด​อยู่​ใน​เขตแดน​จักรพรรดิ​ไม่ได้​ไป​ไหน​

แต่​เขา​กลับ​ได้​พบ​เจอ​ทั้ง​สามอยู่​ที่นี่​

และ​เมื่อ​ยิ่ง​เห็น​ท่าทาง​ที่​ดู​มีชีวิตชีวา​ของ​ทั้ง​สาม เฉิน​เฉียง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ตื่นเต้น​

เป็นไปได้​ว่า​ตรงหน้า​เขา​ใน​ตอนนี้​คือ​ร่าง​ที่​แท้จริง​ของ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามนั่น​รึเปล่า​นะ​

“กัปตัน​”

“เฉิน​เฉียง​…”

จางหยวน​และ​พวก​รวมถึง​ห​ยาน​เสวี่ย​ต่าง​ก็​สงสัย​และ​มึนงง​ใน​ทันทีที่​เห็น​เฉิน​เฉียง​นึ่ง​อึ้ง​ไป​ พวกเขา​รีบ​เรียก​เฉิน​เฉียง​โดย​จับ​ไหล่​เขย่า​ในทันที​ด้วย​ความเป็นห่วง​

ในขณะเดียวกัน​ เมื่อ​ฮูเตี๋ยน​ได้​เห็น​ท่าทาง​แปลกประหลาด​ของ​เฉิน​เฉียง​นี้​ เขา​ก็ได้​มอง​ไป​ที่​กลาง​จัตุรัส​เช่นกัน​และ​กระซิบ​ถามออกมา​ “เฉิน​เฉียง​ มีปัญหา​อะไร​งั้น​รึ​”

“ผู้อาวุโส​ ทั้ง​สามคน​นั้น​คือ​ราชา​จักรพรรดิ​ของ​สามเผ่าพันธุ์​ใช่รึเปล่า​”

ถึงแม้ว่า​คำถาม​ของ​เฉิน​เฉียง​จะไม่ผิดปกติ​แต่อย่างใด​ แต่​จุด​ที่​เขา​อยู่​นี้​ห่าง​จาก​จุดศูนย์กลาง​ของ​จัตุรัส​แห่ง​นี้​ถึงสอง​ไมล์​ นี่​ทำให้​นอกจาก​หยาง​เสวี่ย​ จางหยวน​ และ​คนอื่นๆ​ต้อง​ตกตะลึง​ ส่วน​คนอื่น​อีก​นับ​พัน​นี้​ ใน​ตอนแรก​จะไม่ได้​สนใจ​อะไร​มากมาย​นัก​

แต่เพียง​เฉิน​เฉียง​พูด​ออกมา​ พวกเขา​จึงได้​รีบ​หันไป​มอง​ยัง​กลาง​จัตุรัส​ในทันที​

เมื่อ​ได้ยิน​แบบนี้​ ฮูเตี๋ยน​ก็​มีท่าที​เปลี่ยนไป​อย่าง​มาก​ เขา​ดึง​แขน​ของ​เฉิน​เฉียง​แล้ว​รีบ​ถามออกมา​ “เฉิน​เฉียง​ เจ้าเคย​พบ​ผู้อาวุโส​ทั้ง​สามมาก่อน​งั้น​รึ​ ใช่ใน​เขตแดน​จักรพรรดิ​นั่น​รึเปล่า​”

ยิ่ง​ได้ยิน​คำถาม​หยั่งเชิง​ของ​ฮูเตี๋ยน​นี้​ยิ่ง​ทำให้​เฉิน​เฉียง​มึนงง​เข้าไป​ใหญ่​

“ผู้อาวุโส​สูงสุด​ ตรงกลาง​จัตุรัส​นั่น​ไม่ใช่ว่า​เป็น​ร่าง​ของ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามนั่น​หรอก​รึ​”

“ไอ๊ห​ยา​….”

ฮูเตี๋ยน​ได้​ถอดถอน​ลมหายใจ​ออกมา​ “นั่น​เป็น​เพียง​รูปปั้น​ของ​ผู้อาวุโส​ทั้ง​สามเพียง​เท่านั้น​”

เมื่อ​ได้ยิน​แบบนี้​แล้ว​ เฉิน​เฉียง​ไม่เชื่อ​แต่อย่างใด​

เขา​ไม่มีทาง​เชื่อได้​ลง​เลย​ว่า​คน​ทั้ง​สามที่​ยืน​อยู่​อย่าง​มีชีวิตชีวา​นี้​จะเป็น​เพียง​รูปปั้น​

เมื่อ​คิดได้​ดังนี้​ เฉิน​เฉียง​ก็ได้​ก้าว​ขึ้นหน้า​ไป​และ​ไป​ปรากฏตัว​ที่​กลาง​จัตุรัส​ใน​พริบตา​ เป็น​ตอนนี้​ที่​เขา​ยอม​รับได้​ว่า​ทั้ง​สามคน​ที่​เขา​เห็น​นี้​เป็น​เพียงแค่​รูปปั้น​

แต่​รูปปั้น​ทั้ง​สามนั้น​กลับ​ดู​น่าเกรงขาม​เสีย​ยิ่งกว่า​ฮูเตี๋ยน​ซะอีก​

นั่น​เป็น​เพราะ​ผ้าคลุม​ที่อยู่​บน​รูปปั้น​ทั้ง​สามนั้น​ทำ​จาก​วัตถุดิบ​บ่ม​เพาะ​ที่​ทรงพลัง​

นี่​จึงเป็น​เหตุผล​ว่า​ทำ​เฉิน​เฉียง​ที่​ได้​เห็น​รูปปั้น​ทั้ง​สามใน​ครา​แรก​นั้น​ถึงคิด​ว่า​เป็น​ร่าง​ของ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สาม

แต่​เมื่อ​เขา​ได้​ก้มลง​มอง​ที่​ฐาน​รูปปั้น​ ดวงตา​ของ​เขา​ก็ได้​เบิก​กว้าง​

ช่อง​สามแง่ง

ช่อง​สามแง่งที่ว่า​นี้​มีขนาด​เท่า​ฝ่ามือ​ มัน​อยู่​ตรงจุด​ที่​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามหันหลัง​ตรงกัน​

เมื่อ​เฉิน​เฉียง​เห็น​ช่อง​นี้​แล้ว​ เขา​นั้น​รู้สึก​คลับคล้ายคลับคลา​อย่าง​บอก​ไม่ถูก​ นี่​จึงทำให้​เขา​เดิน​ไป​ตรงจุด​นี้​ พร้อมกับ​มีความรู้สึก​ประหลาด​บางอย่าง​เกิดขึ้น​ใน​แหวน​ของ​ตน​

“เฉิน​เฉียง​ เจ้าจะทำ​อะไร​น่ะ​ มานี่​เดี๋ยวนี้​”

เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​ ฮูเตี๋ยน​ที่​ตามหลัง​มาพร้อมกับ​คนอื่นๆ​รีบ​ตะโกน​ร้อง​ห้าม​ใน​ทันใด​

เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​นี้​ เฉิน​เฉียง​ได้​หยุด​การกระทำ​ของ​ตน​ ก่อน​จะหันไป​จ้องมอง​ฮูเตี๋ยน​ด้วย​สายตา​ที่​เลื่อนลอย​

“เจ้าเนี่ย​น้า​….เฉิน​เฉียง​ อะไร​อยู่​ใน​มือ​ของ​เจ้ากัน​ เจ้ากำลัง​….”

ใน​ทันทีที่​ฮูเตี๋ยน​เห็น​สิ่งที่อยู่​ใน​มือ​ของ​เฉิน​เฉียง​ก็​ถลึงตา​กว้าง​ในทันที​ มัน​เป็น​สิ่งสีเงิน​เทา​ที่​เป็น​รูป​ทรงตัว​ Y เขา​ชี้ไป​ที่​มัน​ด้วยมือ​ที่​สั่นเทิ้ม​อย่าง​พูดไม่ออก​

ท่าทาง​ของ​ฮูเตี๋ยน​นี้​แน่นอน​ว่า​ย่อม​เตะตา​ผู้อาวุโส​คนอื่น​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

เช่นเดียวกัน​ เมื่อ​ทุกคน​ได้​เห็น​ของ​ที่อยู่​ใน​มือ​ของ​เฉิน​เฉียง​ พวกเขา​ก็​นิ่งอึ้ง​ไป​

“พี่ใหญ่​ สิ่งที่​เฉิน​เฉียง​ถือ​อยู่​นั่น​….มัน​….ไม่ใช่….”

ฮูเตี๋ยน​ไม่ได้​ตอบกลับ​แต่อย่างใด​ เขา​เดิน​ไปหา​เฉิน​เฉียง​ราวกับ​สูญเสีย​จิตใต้สำนึก​ไป​แล้ว​ และสายตา​ของ​เขา​ไม่ได้​ละสายตา​จาก​แผ่น​สีเงิน​นี้​แม้แต่น้อย​

“นี่​ คือ​ป้าย​คำสั่ง​ฮุยตู๋​ไม่ผิด​แน่​”

สุดท้าย​แล้ว​ หลังจาก​ได้​เห็น​แผ่น​ป้าย​นี้​ใกล้​ๆ ฮูเตี๋ยน​ก็ได้​พูด​ออกมา​ด้วย​เสียง​อัน​ดังลั่น​ พลาง​คุกเข่า​ลง​หนึ่ง​ข้าง​ “ผู้ใต้บังคับบัญชา​ฮูเตี๋ยน​ ทำความเคารพ​ผู้การ​สูง”

เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​แล้ว​ เฉิน​เฉียง​อ้ำอึ้ง​ไป​ในทันที​ ก่อนที่จะ​รีบ​เข้าไป​พยุง​ฮูเตี๋ยน​ แต่​นั่น​ก็​กลับ​ทำให้​ผู้อาวุโส​คนอื่น​อย่าง​หยาง​ตู๋​และ​คนอื่นๆ​คุกเข่า​ลง​ข้าง​หนึ่ง​เช่นกัน​

“ทำความเคารพ​ผู้การ​สูง”

“ทำความเคารพ​ผู้การ​สูง”

….

ในทันที​นั้น​ คน​กว่า​พัน​ที่อยู่​กลาง​จัตุรัส​แห่ง​นี้​ต่าง​ก็​คุกเข่า​ลง​

“กัปตัน​….เกิด​อะไร​ขึ้น​เนี่ย​”

จางหยวน​กับ​คนอื่นๆ​นิ่งอึ้ง​ไป​ตาม​ๆกัน​

เฉิน​เฉียง​นั้น​ยังคง​รีบ​ดึง​ฮูเตี๋ยน​ให้​พูด​ขึ้น​มา

“ท่าน​ผู้อาวุโส​ ท่าน​ทำ​อะไร​กัน​”

ฮูเตี๋ยน​ได้​พูด​ออกมา​ด้วย​เสียง​ที่​ตื่นเต้น​ยินดี​ “ผู้การ​สูง ท่าน​อาจ​ไม่รู้​ว่า​สิ่งที่อยู่​ใน​มือ​ของ​ท่าน​นั้น​คือ​สิ่งใด​ มัน​คือ​ป้าย​คำสั่ง​ที่​หายสาบสูญ​ไป​จาก​ฮุยตู๋​มาแล้ว​สี่ร้อย​กว่า​ปี​”

“ฮุยตู๋….​ป้าย​คำสั่ง​…แห่ง​ฮุยตู๋​เหรอ​”

เฉิน​เฉียง​ได้​มอง​ไป​ที่​ป้าย​สามแง่งใน​มือ​แล้ว​พูด​ออกมา​เบา​ๆ “ข้า​เพียงแค่​หยิบ​มาโดยบังเอิญ​จาก​ใน​เขตแดน​ลับ​นั่น​เพียง​เท่านั้น​นะ​”

“สิ่งนี่​คือ​ป้าย​คำสั่ง​ของ​ฮุยตู๋​งั้น​รึ​”

“ถูกต้อง​ ผู้การ​สูง นี่​คือ​ป้าย​คำสั่ง​แห่ง​ฮุยตู๋​อย่าง​จริง​แท้​”

“มัน​มีเพียง​หนึ่งไม่มีสอง​ทั่ว​ทั้งโลก​หล้า​”

“เมื่อ​สี่ร้อย​ปีก่อน​ อยู่​ๆมัน​ก็ได้​หาย​ไป​พร้อมกับ​นาย​ท่าน​จักรพรรดิ​ผู้ยิ่งใหญ่​ทั้ง​สาม ด้วย​ป้าย​คำสั่ง​นี้​ เพียง​มีป้าย​คำสั่ง​นี้​อยู่​ มัน​ก็​ทำให้​พวกเรา​แสดงอำนาจ​ของ​ฮุยตู๋​ออกมา​ได้​แล้ว​ แต่​ถึงกระนั้น​ มัน​ก็ได้​หาย​ไป​”

“ใคร​จะไป​คิด​ว่า​หลังจาก​หาย​ไป​สี่ร้อย​ปี​ นาย​เหนือ​หัว​จะนำ​มัน​ออก​มาจาก​เขตแดน​ลับ​นั่น​ได้​”

“ใครก็ตาม​ที่​มีป้าย​คำสั่ง​นี้​อยู่​ใน​มือ​ คน​ผู้​นั้น​ย่อม​มีสิทธิ์​อำนาจ​เหนือ​ฮุยตู๋”​

“นาย​เหนือ​หัว​ โปรด​วาง​ป้าย​คำสั่ง​นี้​ลง​ใน​ช่อง​ตรงหน้า​ แล้ว​นั่น​ท่าน​จะได้​เห็น​บางสิ่ง​”

ถึงแม้เฉิน​เฉียง​จะไม่ชอบ​กับ​การ​ที่​ถูก​ผู้อาวุโส​ทั้งหลาย​เรียก​เขา​ว่า​ผู้การ​สูงแม้แต่น้อย​ แต่​เขา​ย่อม​รู้ดี​ว่าการ​ที่​สามารถ​ออกคำสั่ง​กับ​ฮุยตู๋​ได้​นั้น​หมายความว่า​ยังไง​

และ​เมื่อ​เรื่อง​มาถึงขั้น​นี้​ ท่ามกลาง​การ​จ้องมอง​ของ​ผู้คน​ เฉิน​เฉียง​จึงได้​เดิน​ไป​ที่​ตรงกลาง​ของ​รูปปั้น​ทั้ง​สาม ก่อนที่จะ​วาง​มัน​ลง​ใน​ช่อง​ที่​มีลักษณะ​เดียว​กับ​ป้าย​คำสั่ง​ใน​มือ​

“กรึ๊บ​…”

ใน​ทันทีที่​ป้าย​คำสั่ง​ของ​ฮุยตู๋​ได้​วาง​ลง​ไป​ วงล้อม​แสงก็ได้​เริ่ม​สว่าง​ขึ้น​มา และ​แสงนั่น​ได้​พุ่ง​เข้ามา​ห่อหุ้ม​ร่าง​ของ​เฉิน​เฉียง​ไว้​

ในขณะเดียวกัน​ เส้น​แสงนับไม่ถ้วน​ได้​ถูก​ส่งจาก​ป้าย​คำสั่ง​เข้าสู่​จิตสำนึก​ของ​เฉิน​เฉียง​ในขณะที่​ยัง​ถือ​ป้าย​คำสั่ง​นี้​อยู่​ใน​มือ​

มัน​คือ​ฉาก​เหตุการณ์​ที่ผ่านมา​อย่าง​เนิ่นนาน​

ฉาก​ที่​ปรากฏ​ เฉิน​เฉียง​ได้​เห็น​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สาม มัน​เป็นเรื่อง​หลังจาก​ตอนที่​พลัง​ฟ้าดิน​ได้​ฟื้น​คืน​ ทั้ง​สามถูก​ชี้แนะ​จาก​ใคร​บางคน​ที่​ทรงพลัง​จน​ทำให้​ทั้ง​สามค่อย​เพิ่ม​ระดับ​การบ่ม​เพาะ​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ จน​กลายเป็น​ราชา​จักรพรรดิ​

แต่​เมื่อ​เฉิน​เฉียง​ได้​เห็น​คน​ที่​ชี้แนะ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามนั่น​ เขา​ตกตะลึง​อย่าง​ที่สุด​

นั่น​ก็​เพราะ​คน​ที่​ชี้แนะ​นั้น​มีหน้าตา​เหมือน​เขา​อย่าง​ที่สุด​

เป็นไปได้​ยังไง​กัน​

ทำไม​ข้า​ถึงได้​กลายเป็น​อาจารย์​ของ​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามไป​ได้​ล่ะ​

เฉิน​เฉียง​รีบ​บอกปัด​ความคิด​นี้​ไป​ในทันที​

เป็นไปได้​ว่า​ผู้อาวุโส​ท่าน​นี้​เพียง​หน้าตา​ละม้าย​คล้าย​กับ​ข้า​เพียง​เท่านั้น​

และ​ฉาก​เหตุการณ์​นี้​เอง​ก็​สมควรจะเป็น​ฉาก​เมื่อ​หลาย​ร้อย​ปีก่อน​ ทั้ง​มนุษย์​และ​มนุษย์​กลายพันธุ์​ไม่ได้​ฆ่ากัน​เป็น​ตาย​เฉกเช่น​ใน​ตอนนี้​

ไม่เพียง​เท่านั้น​ ดูเหมือนว่า​ทั้ง​สามเอง​จะเป็น​ผู้​ที่​บ่ม​เพาะ​ฝึก​ตน​มาด้วยกัน​ เพราะ​การ​แลกเปลี่ยน​ความเห็น​การบ่ม​เพาะ​ของ​แต่ละคน​กัน​ด้วย​

ถึงแม้จะมีฉาก​การต่อสู้​กับ​สัตว์ประหลาด​อยู่​บ้าง​ แต่​เมื่อ​ทั้ง​สามเข้าสู่​ใน​ระดับ​ราชา​ จำนวน​ฉาก​ที่​มีการต่อสู้​กัน​จน​ตก​ตาย​ก็​ลดลง​ไป​

เมื่อ​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามก้าว​เข้าสู่​ระดับ​ราชา​ขุนพล​ขั้น​ ทั้ง​สามก็ได้​เป็นเพื่อน​อัน​ดี​ต่อกัน​

และ​เมื่อ​ห้า​ร้อย​ปีก่อน​ ทั้ง​สามใน​ระดับ​ราชา​ขุนพล​ขั้นสูง​ช่วง​ปลาย​ที่​จวนเจียนจะ​ก้าว​เข้าสู่​ระดับ​จักรพรรดิ​

และ​ยาม​ที่​พวกเขา​ก้าว​เข้าสู่​ระดับ​จักรพรรดิ​ พวกเขา​ก็ได้​แสดง​อะไร​บางอย่าง​ออกมา​ที่​เฉิน​เฉียง​คุ้นเคย​อย่าง​มาก​

มัน​คือ​…การควบคุม​

พลัง​ที่​สามารถ​ควบคุม​ทุก​สรรพสิ่ง​ใน​พื้นที่​ของ​ตน​ด้วย​พลัง​ฟ้าดิน​

เมื่อ​ทั้ง​สามก้าว​เข้าสู่​ระดับ​จักรพรรดิ​ พวกเขา​สามารถ​ควบคุม​สิ่งรอบตัว​ได้​ประหนึ่ง​ดั่ง​การควบคุม​โลก​ใบ​เล็ก​ของ​ตน​

และ​เหตุผล​ที่​เฉิน​เฉียง​มีความคุ้นเคย​กับ​สิ่งที่​เห็น​ นั่น​ก็​เป็น​เพราะว่า​หลังจาก​ดูดซับ​พลัง​ของ​เฉิน​เทียน​เว่ย​มา เฉิน​เฉียง​เอง​ก็​ได้รับ​ขอบเขต​เจตจำนง​แห่ง​การต่อสู้​มาด้วย​

แต่​ขอบเขต​เจตจำนง​แห่ง​การต่อสู้​ของ​เฉิน​เทียน​เว่ย​นั้น​อยู่​เพียงแค่​ระดับ​เริ่มต้น​เพียง​เท่านั้น​

หรือ​จะให้​พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ หากว่า​เฉิน​เทียน​เว่ย​ไม่ได้​ตก​ตาย​ไป​ ตัว​เขา​นั้น​ก็​มีโอกาส​ที่จะ​กลายเป็น​จักรพรรดิ​คน​ที่สี่​แห่ง​ประวัติศาสตร์​ชาติพันธุ์​ของ​โลก​ใบ​นี้​

นอกจาก​ทักษะ​ใน​การควบคุม​แล้ว​ เฉิน​เฉียง​ยัง​พบ​ว่า​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามยังมี​พลังจิต​ที่​แข็งกล้า​อย่าง​น่าสะพรึงกลัว​

แม้แต่​พลัง​ฟ้าดิน​ก็​ยัง​หลั่งไหล​ออกมา​

ฉาก​ที่​เห็น​ เฉิน​เฉียง​ก็​ยัง​ไม่อยาก​จะเชื่อ​

จาก​ภาพเสมือน​นี้​ นี่​ทำให้​เขา​เข้าใจ​ได้​ว่า​ทำไม​บน​ร่าง​ของ​ผู้อาวุโส​ทั้ง​สามนั้น​ถึงได้​มีร่องรอย​แห่ง​พลัง​ฟ้าดิน​อยู่​บน​ร่าง​

ไม่เพียง​ผู้อาวุโส​ทั้ง​สามจะทิ้ง​พลัง​ฟ้าดิน​ไว้​บน​ร่าง​เท่านั้น​ แต่​พวกเขา​ยัง​สามารถ​หลงเหลือ​จิตวิญญาณ​เอาไว้​ได้​ เพื่อ​คอย​ควบคุม​โลก​ใบ​เล็ก​ของ​ตน​

เรียก​ได้​ว่า​เป็น​ความสามารถ​ใน​การควบคุม​ที่​ไม่ธรรมดา​เลย​ทีเดียว​

ฉาก​ใน​ภาพเสมือน​ที่​ฉาย​ออกมา​นี้​แสดงให้เห็น​ว่า​ หลังจากที่​ทั้ง​สามก้าว​เข้าสู่​ระดับ​ราชา​จักรพรรดิ​ไป​แล้ว​ พวกเขา​ได้​ตั้ง​องค์กร​หนึ่ง​ขึ้น​มาโดย​เรียก​มัน​ว่า​ฮุยตู๋​ โดย​มุ่งหวัง​ว่า​เพื่อ​รักษา​ดุลอำนาจ​ของ​โลก​ใบ​นี้​ ก่อนที่จะ​เข้าไป​ยัง​เขตแดน​หนึ่ง​ที่​ปรากฏ​อยู่​ตรงหน้า​

และ​เรื่องราว​มากมาย​ได้​เกิดขึ้น​หลังจากนี้​

ภายใน​เขตแดน​ที่​แตกต่าง​นี้​ ด้วย​ระดับ​การบ่ม​เพาะ​ของ​พวกเขา​นั้น​ได้​กวาดล้าง​กองกำลัง​ฝ่ายตรงข้าม​จน​หมดสิ้น​ด้วย​เวลา​อัน​สั้น​

และ​เมื่อ​ตอนที่​ทั้ง​สามคิด​ว่า​ได้​จัดการ​กับ​ปัญหา​จน​หมดสิ้น​ ตัว​หายนะ​ก็ได้​ปรากฏ​

ผู้​ที่​ดู​ราวกับ​เป็น​ผู้นำ​ของ​กองกำลัง​ที่​ปรากฏ​ใน​เขตแดน​นั้น​ได้​ทำการ​ต้อนรับ​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามอย่าง​สมเกียรติ​ พวกเขา​เชิญทั้ง​สามไป​ยังอีก​พื้น​ที่หนึ่ง​ และ​ที่นั่น​ได้​ปรากฏ​สิ่งมีชีวิต​ที่​ดู​พิลึกกึกกือ​จำนวนมาก​

สัตว์ประหลาด​เหล่านี้​ดู​ราวกับ​ตั๊กแตน​ และ​พวก​มัน​ได้​ถาโถมเข้าใส่​สามราชา​จักรพรรดิ​

ราชา​จักรพรรดิ​เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​ก็ได้​ปลดปล่อย​คลื่น​พลัง​ของ​ตน​ออกมา​ และ​นี่​ทำให้​เพียง​ชั่วพริบตา​ พวก​มัน​กว่า​ครึ่ง​ก็ได้​ตก​ตาย​

แต่​เป็น​ตอนที่​ทั้ง​สามได้​ก้าว​ผ่าน​ซากศพ​เหล่านี้​ไป​ที่​ได้​เกิดเรื่อง​ที่​น่า​สะพรึง​ขึ้น​มา

ใน​ภาพเสมือน​ได้​แสดงให้เห็น​ใบ​หน้าที่​ร้อนรน​ของ​ทั้ง​สาม คน​ที่​ตัว​สูงและ​ร่างกาย​ใหญ่โต​ที่สุด​ได้​ตัด​ขา​ของ​ตัวเอง​ออก​ จาก​บาดแผล​นี้​ เฉิน​เฉียง​ได้​เห็น​บอล​เลือด​ปีศาจ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ที่​ไหลริน​ออก​มาจาก​ร่าง​ของ​จักรพรรดิ​สัตว์ร้าย​ พวก​มัน​แทนที่​เลือด​ของ​เขา​แทบจะ​ในทันที​

ส่วน​ราชา​จักรพรรดิ​อีก​สอง​คน​ก็​ทำ​เฉก​เช่นเดียวกัน​

แต่เดิม​ พวกเขา​ก็​คิด​ว่า​เพียงแค่​ตัด​ขาออก​ไป​นั้น​ก็​พอที่จะ​หยุด​การกลืน​กิน​ของ​บอล​เลือด​ปีศาจ​ได้​แล้ว​ แต่​พวกเขา​ไม่คิด​ว่า​ บอล​เลือด​ปีศาจ​เหล่านี้​จะกลืน​กิน​สายเลือด​ของ​พวกเขา​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​เหนือ​การคาดการณ์​

และ​เพียงแค่​สิบ​กว่า​นาที​ จักรพรรดิ​ทั้ง​สามที่​เคย​ทรงพลัง​เหนือ​ใคร​ ก็​แทบ​ไม่เหลือ​พลัง​สายเลือด​ภายใน​ร่าง​อีก​ เรียก​ได้​ว่า​บอล​เลือด​ปีศาจ​กลืน​กิน​พวก​มัน​ไป​จน​หมด​ก็​ว่า​ได้​

และ​ใน​ฉาก​นี้​ เหล่า​ผู้คน​ที่​ต้อนรับ​พวกเขา​ก่อนหน้า​ก็ได้​ร้อง​เล่​แห่​ยินดี​ และ​มีใคร​บางคน​ได้​เดิน​เข้ามา​ภายใน​ห้อง​นี้​ พร้อม​ร่าง​ที่​มีสีเขียว​สด​สะท้อน​แสงมัน​เลื่อม​

เป็น​ตอนนี้​ที่​ร่าง​ของ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามได้​เปล่งแสง​ออกมา​ แสงที่​เปล่ง​ออกมา​นี้​ได้​สาด​ซัด​เข้าใส่​ร่างกาย​ทุก​ตัวตน​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ ทำให้​พวก​มัน​ต้อง​เร่ง​หนี​ไป​โดย​ไว​

เมื่อ​สิ่งมีชีวิต​เหล่านี้​เร่ง​รี่​หนี​ไป​แล้ว​ จักรพรรดิ​ทั้ง​สามเอง​ก็​เร่งรีบ​หนี​เช่นเดียวกัน​

ที่​ทางเข้า​เขตแดน​ที่​ทั้ง​สามเข้ามา​นั้น​ แม้จะได้​พบ​เจอ​กลุ่ม​ของ​สิ่งมีชีวิต​ที่​แปลกประหลาด​นี้​อยู่​อีก​ มีบาง​ตัว​ที่อยู่​ใน​รูปร่าง​คล้าย​มนุษย์​เสีย​ด้วยซ้ำ​

แต่​ด้วย​สภาพ​ของ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามใน​ตอนนี้​ พวกเขา​ย่อม​รู้ดี​ว่า​ไม่อาจ​สู้ได้​อีก​ พวกเขา​จึงได้​ใช้แรง​เฮือกสุดท้าย​พุ่ง​ผ่าน​สิ่งมีชีวิต​ประหลาด​พวก​นี้​มา แหวก​มิติ​เขตแดน​ จน​กลับมา​ที่​โลก​ได้​ในที่สุด​

ฉาก​ทั้งหลาย​จบ​ลง​ที่​ตรงนี้​

เมื่อ​เฉิน​เฉียง​ได้​เห็น​ฉาก​นี้​แล้ว​ กำแพง​แสงที่มา​ห่อหุ้ม​เขา​ไว้​ก่อนหน้านี้​ไม่ได้​จางหาย​ไป​ แต่​เฉิน​เฉียง​กลับ​ทรุด​ลง​ไป​นั่งลง​ในทันที​ และ​ทำการ​คิด​คำนวณ​ใน​สิ่งที่​เห็น​พร้อม​ดวงตา​ที่​ตื่น​ตะลึง​

ใน​ตอนที่​ออก​มาจาก​เขตแดน​ลับ​นั่น​ เฉิน​เฉียง​เอง​ยังคง​มีความคิด​อยู่​ว่า​ ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามนั้น​ยังคง​มีชีวิต​อยู่​

แต่​เมื่อ​ได้​เห็น​ฉาก​ใน​ภาพ​นี้​ เฉิน​เฉียง​นั้น​กลับ​มั่นใจ​ว่า​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามได้​ร่วงหล่น​(ไร้​พลัง​)ไป​แล้ว​

แถมยัง​เป็นการ​ร่วงหล่น​เพราะ​ภัยอันตราย​ภายนอก​

เป็น​อย่าง​ที่​ฮูเตี๋ยน​พูด​เอาไว้​ก่อนหน้า​ สิ่งมีชีวิต​ที่​แปลกประหลาด​นั่น​เป็น​ภัยอันตราย​ของ​โลก​ใบ​นี้​จริงๆ​

หลังจาก​เข้าใจ​เรื่องราว​ทั้งหมด​แล้ว​ เฉิน​เฉียง​ได้​ดึง​ป้าย​คำสั่ง​ของ​ฮุยตู๋​ออกมา​ กำแพง​แสงรอบตัว​ก็ได้​หาย​ไป​ในที่สุด​

“นาย​เหนือ​หัว​”

ฮูเตี๋ยน​เอ่ยปาก​ออกมา​พร้อม​มอง​ไป​ที่​เฉิน​เฉียง​อย่าง​คาดหวัง​

เฉก​เช่นเดียวกับ​ผู้คน​ที่​ยืน​อยู่​ใน​จัตุรัส​แห่ง​นี้​

เฉิน​เฉียง​ได้​ยืน​สะบัด​ป้าย​คำสั่ง​นี้​ไปมา​และ​พูด​ออก​ไป​ “ผู้อาวุโส​ ข้า​ไม่ใช่นาย​เหนือ​หัว​อย่าง​ที่​ท่าน​ว่า​มาหรอก​”

“ไม่”

ฮูเตี๋ย​นรี​บ​โค้ง​คำนับ​และ​เร่ง​พูด​ออกมา​ “นาย​เหนือ​หัว​โปรด​ฟังที่​ตาแก่​ผู้​นี้​พูด​ก่อน​เถิด​”

“นับแต่​ที่​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามได้​หาย​ไป​ ป้าย​คำสั่ง​ที่​เปรียบ​ได้​ดั่ง​ความ​ทรงพลัง​ของ​ฮุยตู๋​นี้​ก็ได้​หาย​ไป​”

“ถึงแม้ว่า​นาย​เหนือ​หัว​จะได้รับ​มัน​มาอย่าง​ไม่ตั้งใจ​ แต่​นี่​ก็​เรียก​ได้​ว่า​นาย​เหนือ​หัว​และ​ฮุยตู๋​นั้น​มีชะตา​ที่​ต้องกัน​”

“ตาแก่​ผู้​นี้​หวัง​ว่า​นาย​เหนือ​หัว​จะไม่คิด​ปฏิเสธ​ใน​เรื่อง​นี้​”

ใน​ทันทีที่​ฮูเตี๋ยน​ได้​พูด​จบ​ ผู้อาวุโส​คนอื่น​เอง​ต่าง​ก็​ก้มหัว​ทำความเคารพ​แล้ว​พูด​ออกมา​ “นาย​เหนือ​หัว​ โปรด​อย่า​ได้​ปฏิเสธ​”

เมื่อ​เห็น​ใบหน้า​ท่าทาง​ที่มั่น​หน้า​ของ​ฮูเตี๋ยน​นี้​ มุมปาก​ของ​เฉิน​เฉียง​ก็​ยกตัว​ขึ้น​มาเล็กน้อย​

เขา​นั้น​เข้าใจ​น้ำหนัก​ของ​ตำแหน่ง​ที่​อีก​ฝ่าย​กำลัง​ยัดเยียด​ให้​เขา​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​

นาย​เหนือ​หัว​แห่ง​ฮุยตู๋​นั้น​ ต่อให้​ชื่อ​มัน​ดู​สูงส่ง แต่​ก็​ไม่ใช่สิ่งที่​ได้มา​เพื่อ​เสวยสุข​แต่อย่างใด​

หาก​เขา​รับ​ตำแหน่ง​นี้​ มัน​ก็​เปรียบ​ได้​ดั่ง​การ​ที่​ต้อง​แบกรับ​โลก​ใบ​นี้​เอาไว้​

แต่​เฉิน​เฉียง​เอง​ก็​ไม่คิด​ที่จะ​ปฏิเสธ​แต่อย่างใด​

หาก​เขา​รับ​ตำแหน่ง​นาย​เหนือ​หัว​แห่ง​ฮุยตู๋​ ไม่เพียง​เขา​จะใช้พลัง​อำนาจ​แห่ง​ฮุยตู๋​ใน​การ​สืบหา​ความจริง​ใน​การตาย​ของ​เฉิน​เทียน​เว่ย​เท่านั้น​ เขา​ยัง​สามารถ​ใช้พลัง​แห่ง​ฮุยตู๋​เผชิญหน้า​กับ​ปัญหา​อุปสรรค​อื่น​ที่​เขา​ต้อง​พบ​เจอ​

ซากร่าง​ของ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สาม

เพียงแค่​เขา​ได้​ดูดซับ​พลัง​ของ​ซากร่าง​หนึ่ง​ใน​นั้น​ เขา​ก็​สามารถ​ไป​ถึงระดับ​ราชา​จักรพรรดิ​ได้​อย่าง​ไม่ยากเย็น​

นั่น​ก็​เพราะ​นับแต่​พลัง​ฟ้าดิน​ได้​ฟื้น​คืน​ นอกจาก​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามแล้ว​ ไม่เคย​มีใคร​ได้​ก้าว​ขึ้นไป​สู่ระดับ​ราชา​จักรพรรดิ​ได้​อีก​

หาก​เขา​ทำสำเร็จ​ใน​การ​ดูดซับ​พลังงาน​จาก​ซากร่าง​ของ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สาม เขา​ย่อม​สามารถ​กลายเป็น​ราชา​จักรพรรดิ​คน​ที่สี่​ได้​ในที่สุด​

และ​ใน​ฐานะ​ของ​นาย​เหนือ​หัว​แห่ง​ฮุยตู๋​ สิ่งที่​เขา​เหลืออยู่​นั้น​ก็​จะมีเพียงแค่​การนำพา​คนชรา​เหล่านี้​ใน​การ​ต่อต้าน​ผู้รุกราน​เหล่านั้น​

ด้วย​การ​ที่​คน​ของ​ฮุยตู๋​นั้น​ส่วนใหญ่​แล้ว​อยู่​ใน​ระดับ​ราชา​ขุนพล​ เขา​เชื่อ​ว่า​ต่อให้​ภัยอันตราย​พวก​นั้น​กล้ำกราย​ คน​ของ​ฮุยตู๋​จะสามารถ​ต่อกร​กับ​พวก​มัน​ได้​

ถึงแม้จะไม่ได้​ง่ายดาย​อย่าง​ที่​พูด​ก็ตาม​

นั่น​ก็​เพราะ​ถึงแม้ว่า​จะผ่าน​มาแล้ว​สี่ร้อย​ปี​ เขา​ก็​ยัง​ไม่แน่ใจ​ด้วยซ้ำ​ว่า​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามยัง​มีชีวิต​อยู่​รึเปล่า​

ต่อให้​ตาย​ไป​แล้ว​ เขา​ก็​ไม่แน่ใจ​ว่า​จะยัง​เข้าถึง​ร่าง​ของ​ทั้ง​สามได้​ยังไง​

ดูเหมือนว่า​เขา​เอง​ก็​คง​ต้อง​กลับ​ไป​ที่​เขตแดน​จักรพรรดิ​อีกครั้ง​เสีย​กระมัง​

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน