ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – บทที่ 321 เตรียมตัว

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

บท​ที่​ 321 เตรียมตัว​

สมาชิก​กอง​กำลังเทียน​เว่ย​ทั้ง​สิบสอง​คน​นี้​เป็นเพื่อน​ที่​ดี​ที่สุด​ของ​เขา​ พวกเขา​ดูแล​กัน​ราวกับ​เป็น​พี่น้อง​ที่​แท้จริง​ นี่​ทำให้​เฉิน​เฉียง​ไม่อาจจะ​ปฏิเสธ​ความภักดี​ของ​คน​เหล่านี้​ได้​

นี่​จึงเป็น​เหตุผล​ว่า​ใน​ครั้งนี้​ เขา​พอ​ทุกคน​ไป​ต่าง​มิติ​ด้วยกัน​

ส่วน​ห​ยาน​เสวี่ย​นั้น​ช่วยชีวิต​เขา​มาอย่าง​นับ​ครั้ง​ไม่ถ้วน​ แถมเธอ​ยัง​เป็น​ผู้ภักดี​อย่าง​ที่สุด​กับ​เฉิน​เทียน​เว่ย​

ถึงแม้เธอ​จะพูด​ออกมา​อย่าง​มั่น​หน้า​ว่าที่​ทำ​ไป​ก็​เพียง​เพราะ​คำสั่ง​ของ​เฉิน​เทียน​เว่ย​เท่านั้น​ก็ตาม​

ถึงแม้ว่า​ใน​ตอนนี้​ด้วย​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​นั้น​ ต่อให้​ไม่มีห​ยาน​เสวี่ย​ ก็​คง​ไม่มีใคร​ที่จะ​คุกคาม​ชีวิต​เขา​ได้​โดยง่าย​

แต่​เขา​ก็​ไม่ใช่คน​ที่​ทำลาย​สะพาน​หลังจาก​ข้าม​ฝั่งมาแล้ว​

และ​นับ​จากนี้​ เขา​ก็​จะเป็น​คน​ปกป้อง​เธอ​เอง​

ส่วน​หลิน​เฟิง หวู่​เจียง​ ห​ลี่​เฉิน​ หลู​ฟาง ฮู่ต้าไฮ่​และ​คนอื่นๆ​นั้น​ คน​เหล่านี้​เป็น​คน​ที่​เฝ้ารอ​เฉิน​เฉียง​กลับ​ไป​ด้วยใจจริง​

และ​กับ​เฉิน​เฉียง​แล้ว​ ด้วย​การ​คงอยู่​ของ​คน​เหล่านี้​ มัน​มีค่า​พอที่จะ​ทำให้​เขา​กลับ​ไป​อยู่​

ส่วน​หลิว​เฉิง หลิน​จิ้น​และ​หลู่​เป็ง​ เหล่า​ผู้อาวุโส​สูงสุด​แห่ง​สามเผ่าพันธุ์​นั้น​ ใน​สามคน​นี้​ เขา​เกลียด​หลิว​ฉิงมาก​ที่สุด​

เพียง​เพื่อ​ให้ได้​ใน​สิ่งที่​ตน​ต้องการ​ คน​เหล่านี้​ย่อม​ไม่เห็น​ค่า​ของ​ใคร​นอกจาก​ตนเอง​

รวมถึง​ไอ้​ตัว​ระยำตำบอน​อย่าง​ฮั่น​จุย​นั่น​อีก​

เขา​จะไม่ยอมให้​มัน​มีชีวิต​อยู่​ได้​อย่าง​ผาสุก​เป็นแน่​

หลังจากที่​เขา​ดูดซับ​พลังงาน​จาก​ซากร่าง​ของ​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามได้​แล้ว​ เขา​จะกลับ​ไป​คิดบัญชี​กับ​มัน​อย่าง​แน่นอน​

ด้วย​ประสบการณ์​ของ​เขา​ก่อนหน้านี้​ เฉิน​เฉียง​ก็ได้​เข้าไป​ใน​เขตแดน​จักรพรรดิ​อย่าง​รวดเร็ว​

ตอน​ที่อยู่​นอก​เขตแดน​นั้น​ เฉิน​เฉียง​ได้​ใช้ค่า​พลังงาน​จน​ยกระดับ​ทักษะ​ผ่า​มิติ​ของ​เขา​เป็น​ระดับ​แปด​

และ​เพียง​การ​ก้าว​ของ​เขา​เพียง​ก้าว​เดียว​ก็​ครอบคลุม​ใน​ระยะ​ยี่สิบ​ไมล์​

นี่​ทำให้​ความเร็ว​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​รวดเร็ว​เสีย​ยิ่งกว่า​การ​บิน​ซะอีก​

แต่​นี่​ส่วนหนึ่ง​ก็​เป็นผล​มาจาก​ค่า​พลังจิต​ของ​เขา​ด้วย​เช่นกัน​

ยิ่ง​ค่า​พลังจิต​ของ​เขา​สูงล้ำ​มาก​เท่าไหร่​ ระยะ​การ​เคลื่อนที่​ของ​ทักษะ​ผ่า​มิติ​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​ไกล​มากขึ้น​เท่านั้น​

อย่างไรก็ตาม​ หลังจากที่​เขา​ได้รับ​ทักษะ​ขอบเขต​เจตจำนง​แห่ง​การต่อสู้​มา เฉิน​เฉียง​ก็​ไม่ได้​เร่งรีบ​ใน​การ​เพิ่มค่า​พลังจิต​ของ​เขา​สัก​เท่าไหร่​นัก​

นั่น​ก็​เพราะ​ใน​ตอนนี้​เขา​มีแก่น​วิญญาณ​มาก​พอที่จะ​ขยาย​โลก​ใบ​เล็ก​ของ​เขา​เมื่อไหร่​ก็ได้​

และ​หาก​เขา​ได้รับ​พลัง​จากร่าง​ของ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามมาแล้ว​ เขา​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ใส่ใจใน​การ​ใช้แก่น​วิญญาณ​ใน​การ​ขยาย​โลก​ใบ​เล็ก​ของ​เขา​อีก​

ส่วน​ค่า​พลังจิต​นั่น​ เขา​นั้น​อาศัย​การฝึกฝน​เคล็ด​วิชา​ภาพวาด​ห้วง​มหาสมุทร​นั้น​จะดู​คุ้มค่า​กว่า​

ยัง​ไม่รวมถึง​เรื่อง​ที่ว่า​ใน​ตอนนี้​โลก​ใบ​เล็ก​ของ​เขา​และ​เฉิน​เทียน​เว่ย​ได้​หลอม​รวมกัน​แล้ว​ ทำให้​พื้นที่​ของ​มัน​ใน​ตอนนี้​เพิ่มมากขึ้น​ไป​อีก​หลาย​สิบ​ไมล์​

แถมใน​ตอนนี้​ เขา​สามารถ​ควบคุม​พื้นที่​รอบตัว​ได้​เพียง​ไม่ถึงสามเมตร​ดี​เท่านั้น​ ยังอีก​นาน​กว่า​เขา​จะสามารถ​ควบคุม​โลก​ใบ​เล็ก​ของ​เขา​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​

หลังจาก​ผ่าน​ไป​สอง​ชั่วโมง​ เฉิน​เฉียง​ก็ได้​มาถึงด้านล่าง​ของ​บันได​สู่สรวงสวรรค์​

ความเร็ว​ที่​เขา​ใช้ใน​การ​เดิน​ทางใน​ครั้งนี้​รวดเร็ว​กว่า​ตอน​ที่มา​ครั้งก่อน​นับ​ร้อย​เท่า​

เป็น​ตอนนี้​ที่​เฉิน​เฉียง​ให้​ห​ยาน​เสวี่ย​และ​คนอื่นๆ​ออก​มาจาก​โลก​ใบ​เล็ก​ของ​ตน​

“บันได​สู่สรวงสวรรค์​….เรอะ​”

ทันทีที่​ออกมา​ จางหยวน​และ​คนอื่นๆ​ก็ได้​พูด​ออกมา​ด้วย​ความคุ้นเคย​กับ​สถานที่​

เฉิน​เฉียง​ได้​มอง​ไป​ที่​ทุกคน​ด้วย​รอยยิ้ม​กว้าง​

“พี่ชาย​ทั้งหลาย​ มาขึ้น​บันได​สู่สรวงสวรรค์​ด้วยกัน​อีกครั้ง​เถอะ​”

“ใน​ครั้งก่อน​นั้น​ ข้า​เอง​ไม่ได้​ใช้พลัง​สายเลือด​แม้แต่น้อย​ ครั้งนี้​ก็​เช่นเดียวกัน​”

“จางหยวน​ แล้ว​เจ้าล่ะ​”

“ฮี่ฮี่ฮี่ กัปตัน​ ครั้ง​ก่อนที่​ท่าน​ใช้แรงกาย​ล้วน​ๆใน​การ​ปีน​บันได​นี่​ พวกเรา​เห็นผล​จาก​การกระทำ​ของ​ท่าน​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​”

“ใน​เมื่อ​โอกาส​มาอยู่​ตรงหน้า​อีกครั้ง​ ข้า​ หลิว​ไฮ่จะลองดู​มัน​สัก​ตั้ง​”

หลิว​ไฮ่ และ​หลา​งซาน​เอ๋อ​ใน​ตอนนี้​เปิด​จุด​ชีพจร​ได้​สามสิบห้า​จุด​แล้ว​และ​เตรียม​เข้าสู่​ระดับ​กึ่ง​ราชา​ การ​ขึ้น​บัน​ได้​สู่สรวงสวรรค์​ใน​ครั้งนี้​เป็น​โอกาส​อัน​ดี​ที่จะ​ทำให้​พวกเขา​เข้าสู่​ระดับ​กึ่ง​ราชา​ได้​อย่าง​แน่นอน​

“ฮี่ฮี่ฮี่ ไอ้​ตัว​โวยวาย​ พี่ชาย​คน​นี้​จะเล่น​กับ​เจ้าด้วย​แล้วกัน​”

หลา​งซาน​เอ๋อ​พูด​ออกมา​พร้อมกับ​ก้าว​ขึ้น​บันได​ไป​เป็น​คน​แรก​

เมื่อ​เห็น​เช่นนี้​แล้วก็​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​กัน​อีกต่อไป​ จางหยวน​ ห​นี่​เฟิง และ​กัว​เหลียง​ที่​ก้าว​เข้าสู่​ระดับ​ราชา​ขุนพล​ไป​แล้ว​ย่อม​ต้องการ​ทดสอบ​สมรรถนะ​ของ​ตน​

ห​ยาน​เสวี่ย​เชิดหน้า​กลอกตา​มอง​เฉิน​เฉียง​ไป​ปราด​หนึ่ง​ก่อนที่จะ​ตาม​คนอื่น​ไป​โดย​ไม่พูดไม่จา​

เพียง​ชั่วพริบตา​ ทุกคน​ก็ได้​เดิน​ขึ้น​บันได​สู่สรวงสวรรค์​ไป​โดย​ไม่ใช่พลัง​สายเลือด​ของ​ตน​

เฉกเช่น​คำ​ว่า​ไม่มีคำ​ที่จะ​ยอม​น้อยหน้า​ใคร​

เฉิน​เฉียง​ได้​ยิ้ม​ออกมา​เล็กน้อย​ เป็น​อีกครั้ง​ที่​เขา​เลือก​ที่จะ​ขึ้นไป​บน​บันได​สู่สรวงสวรรค์​เป็น​คน​สุดท้าย​

เขา​นั้น​แต่เดิม​ก็ได้​พิชิต​บันได​สู่สรวงสวรรค์​โดย​ไม่ใช่พลัง​สายเลือด​มาแล้ว​ เขา​จึงคิด​ว่าการ​ขึ้น​บันได​ใน​ครั้งนี้​สำหรับ​เขา​แล้วก็​ไม่ได้​อะไร​มากมาย​นัก​ ใน​ทุกๆ​ก้าว​ที่​เขา​ก้าว​ข้าม​ผ่าน​คนอื่นๆ​ไป​ ท่ามกลาง​เสีย​งก​ร่น​ด่า​ที่​ไล่หลัง​มา ประมาณ​ว่า​ ไอ้​ตัว​สันดาน​เสีย​(นิสัย​ไม่ดี​)

“พี่​หลัว​ห​ลัน​ ท่าน​ทำได้​แน่นอน​”

เมื่อ​ถึงระดับ​ขั้น​ที่สี่​ร้อย​เจ็ดสิบ​ เฉิน​เฉียง​ได้​พบ​เจอ​เม่ย​หลัว​ห​ลัน​ที่​กำลัง​กัดฟัน​กำหมัด​แน่น​อยู่​ เขา​จึงพูด​ให้กำลังใจ​ไป​

เขา​นั้น​เพียงแค่​ต้องการ​สร้าง​กำลังใจ​ให้​เม่ย​หลัว​ห​ลัน​เพียง​เท่านั้น​ แต่​ใน​มุมมอง​ของ​เธอ​ เฉิน​เฉียง​นั้น​กำลัง​ยั่วโมโห​อย่าง​น่า​เหลืออดเหลือทน​

“แม่……ง”

เม่ย​หลัว​ห​ลัน​คำราม​คำสบถ​ลั่น​ฟ้า ก่อน​จะมอง​เฉิน​เฉียง​ด้วย​สายตา​เย็นชา​ ก่อนที่จะ​บ่นพึมพำ​ออกมา​ด้วย​หน้าตา​อดกลั้น​ “เกินไป​แล้ว​เกินไป​แล้ว​เกินไป​แล้ว​….”

เฉิน​เฉียง​ส่ายหน้า​ไปมา​ในทันที​ เขา​นั้น​รู้สึก​เบื่อหน่าย​ขึ้น​มาใน​ทันใด​

ที่​ชั้น​ที่​เจ็ด​ร้อย​ เขา​ได้​พบ​เจอ​จางหยวน​

“จางหยวน​ ทำ​อะไร​อยู่​เนี่ย​ ถ้าไม่ไหว​จริงๆ​ก็​ใช้พลัง​ฟ้าดิน​สิ ยังไง​เจ้าเอง​ก็​เป็น​ราชา​แล้​วนา​”

“ไป​ตาย​ที่ไหน​ก็​ไป​ไป๊”​

จางหยวน​คำราม​ลั่น​ก่อน​จะปีน​บันได​ต่อไป​

“ศิษย์​พี่​กัว​ ดูเหมือน​ศิษย์​พี่​จะหายใจ​ไม่ทัน​แล้​วนา​ หยุดพัก​สักหน่อย​ก็ดี​นะ​นั่น​”

“ไอ้​ศิษย์​น้อง​ นี่​เจ้าเป็น​คน​เช่นนี้​รึ​เนี่ย​” กัว​เหลียง​จ้องมอง​เฉิน​เฉียง​ราวกับ​จะกิน​เลือด​กิน​เนื้อ​ ก่อน​จะตั้งใจ​ก้าว​ขึ้น​บันได​ต่อไป​ด้วย​ท่าทาง​ที่​เหนื่อยหอบ​

ชั้น​ที่​เจ็ด​ร้อย​เก้า​สิบ​ ห​ยาน​เสวี่ย​

“ห​ยาน​เสวี่ย​ เจ้านั้น​เหงื่อ​โทรม​กาย​แล้​วนา​ สนใจ​จะให้​ข้า​แบก​ขึ้นไป​มะ”

ห​ยาน​เสวี่ย​ที่​ใน​ตอนนี้​ราวกับ​ไร้​เรี่ยวแรง​แล้ว​ได้​หัน​ซ้าย​แล​ขวา​ก่อนที่จะ​ถอน​ลมหายใจ​ออกมา​ ก่อนที่จะ​เผย​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​และ​อ้าแขน​ของ​ตน​ออกมา​ “เอาเลย​ ข้า​พร้อม​แล้ว​”

“เอ๋อ​ออ​ออ​ออ​ออ​ออ​อ.​……” เฉิน​เฉียง​ที่​เห็น​ร่างกาย​ยั่วยวน​พร้อม​กลิ่นหอม​ชวน​ดอม​ดม​ของ​เธอ​ที่​ใกล้​เข้ามา​นี้​ก็​ถึงกับ​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​ ในที่สุด​เขา​ก็​วิ่ง​เตลิด​ขึ้น​บันได​ไป​ด้วย​ใบ​หน้าที่​แดงฉาน​พร้อม​ใบ​หน้าที่​ยาก​จะเอ่ย​

“ไอ้​ตัว​เวร​ตะไล​ ฮึ่ม นี่​เจ้าคิด​มาหาเรื่อง​ข้า​จริงๆ​สินะ​”

ห​ยาน​เสวี่ย​ด่า​สาด​ส่งเฉิน​เฉียง​ไล่หลัง​ พร้อม​ยก​กำปั้น​ชูนิ้ว​ใส่ด้วย​ท่าทาง​แจ่มใส ประหนึ่ง​ดั่ง​ทหาร​ที่​ได้รับ​ใน​ชนะ​ใน​การศึก​

หลัง​จากไป​ถึงปลาย​บันได​แล้ว​ เฉิน​เฉียง​ก็ได้​นั่งลง​และ​ฝึกฝน​เคล็ด​วิชา​ภาพ​ว่าง​แห่ง​ห้วง​มหาสมุทร​

ใน​ตอนนี้​ ตราบใดที่​เขา​มีเวลาว่าง​ เขา​จะฝึกฝน​ทักษะ​การควบคุม​พลังงาน​ของ​ตนเอง​ หวัง​เพียง​ว่า​ใน​วันหนึ่ง​ เขา​จะสามารถ​ควบคุม​โลก​ใบ​เล็ก​ของ​เขา​ได้​

ที่​ปลาย​บันได​

นอกจาก​เฉิน​เฉียง​แล้ว​ ห​ยาน​เสวี่ย​ที่​ขึ้น​มาได้​สูงกว่า​ใคร​กำลัง​นั่ง​พัก​อยู่​ที่​ชั้น​แปด​ร้อย​ยี่สิบ​ ก่อนที่จะ​เริ่ม​ปีน​บันได​ต่อ​

ถัดมา​คือ​เจิ้งยี่​

เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ ห​ยาน​เสวี่ย​เอง​นั้น​ดูเหมือน​จะอยู่​เหนือชั้นกว่า​เจิ้งยี่​เล็กน้อย​ หาก​พูดถึง​ศักยภาพ​ทาง​ร่างกาย​แล้ว​ เขา​นั้น​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​กอง​กำลังเทียน​เว่ย​ รองลงมาจาก​เฉิน​เฉียง​

นี่​ทำให้​สามวัน​ถัดมา​หลังจาก​เฉิน​เฉียง​ขึ้น​สู่ยอด​บันได​แล้ว​ หาก​ไม่นับ​เฉิน​เฉียง​ เขา​ก็ได้​ขึ้น​มาเป็น​อันดับ​สอง​

ส่วน​ห​นี่​เฟิง จางหยวน​ และ​กัว​เหลียง​นั้น​ แม้พวกเขา​จะไม่โดดเด่น​เท่ากับ​ห​ยาน​เสวี่ย​ แต่​ทั้ง​สามคน​นั้น​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ที่​เพียรพยายาม​อยู่​เป็น​นิจ​ก็​ว่า​ได้​

โดยเฉพาะ​กับ​กัว​เหลียง​

เหตุการณ์​ใน​ตอนที่​เขา​ได้มา​บันได​สู่สรวงสวรรค์​ใน​ครั้งก่อน​นั้น​ เรียก​ได้​ว่า​ส่งผลกระทบ​กับ​เขา​อยู่​เหมือนกัน​

เขา​เอง​นั้น​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​รุ่นพี่​แต่​มาจบ​รุ่น​เดียว​กับ​เฉิน​เฉียง​ที่​ข้าม​รุ่น​มา แถมระดับ​การบ่ม​เพาะ​ของ​เขา​ยัง​ถูก​เฉิน​เฉียง​ทิ้ง​ห่าง​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ นี่​ทำให้​เขา​เอง​ก็​อด​ที่จะ​กดดัน​ตัวเอง​ไม่ได้​เหมือนกัน​

และ​นี่​ทำให้​ใน​ช่วงเวลา​ที่ผ่านมา​ ถึงแม้ว่า​เขา​จะพยายาม​รักษา​ภาพลักษณ์​คน​เฮฮาเอาไว้​ แต่​ใน​ทุกๆ​ครั้ง​ที่​เขา​ว่าง​ เขา​จะหมั่นเพียร​บ่ม​เพาะ​อย่าง​ไม่ขาด​

หลิว​ซวน​เอ๋อ​ หลิว​ไฮ่ และ​ หลา​งซาน​เอ๋อ​นั้น​ ถึงแม้จะช้าไป​หน่อย​ แต่​ทั้ง​สามก็​อยู่​ใน​ระดับ​กึ่ง​ราชา​แล้ว​ และ​นี่​ทำให้​เมื่อ​พวกเขา​ถึงปลาย​บันได​สู่สรวงสวรรค์​ ระดับ​การบ่ม​เพาะ​ของ​เขา​ก็​เสถียร​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​

ส่วน​หลู​จี้ เห​ริน​หมิง​ ม่อโชว​ หวัง​ต้า​ลู่​ และ​เม่ย​หลัว​ห​ลัน​นั้น​ แม้ว่า​จะยัง​ขาด​ไป​อีก​นิดหน่อย​ถึงจะเข้าสู่​ระดับ​กึ่ง​ราชา​ แต่​ตลอดมา​นั้น​ พวกเขา​ใช้ฝีมือ​ที่​ยอดเยี่ยม​ฝังกลบ​ข้อด้อย​ใน​ระดับ​การบ่ม​เพาะ​มาโดยตลอด​ถึงพวกเขา​นั้น​มีระดับ​การบ่ม​เพาะ​ที่​ล้าหลัง​กว่า​คนอื่น​ แต่​ก็​ยัง​สนับสนุน​ทีม​ได้​อย่าง​ดีเยี่ยม​

ยัง​ไม่ต้อง​พูด​เรื่อง​ที่ว่า​ทั้ง​ห้า​คน​นี้​เป็นสมาชิก​กอง​กำลังเทียน​เว่ย​ที่ทำงาน​ร่วมกับ​จางหยวน​มานาน​นับ​สิบ​ปี​จน​ราวกับ​เป็น​พี่น้อง​ใน​สายเลือด​นี่​อีก​

และ​นี่​ทำให้​หลังจาก​จางหยวน​และ​คนอื่นๆ​ขึ้น​มาถึงปลาย​บันได​ ก็ได้​ส่งเสียง​เชียร์​ทั้ง​ห้า​คน​จาก​ด้านบน​

ท้ายที่สุด​ ทั้ง​ห้า​คน​ก็​ขึ้น​มาได้​เพียง​ขั้น​ที่​เจ็ด​ร้อย​ ก่อนที่จะ​ใช้พลัง​สายเลือด​ของ​ตน​ พา​ตัวเอง​ขึ้น​มาบน​ปลาย​บันได​ได้​โดย​ใช้เวลา​ครึ่ง​เดือน​

“กัปตัน​….” หวัง​ต้า​ลู่​และ​เม่ย​หลัว​ห​ลัน​มอง​เฉิน​เฉียง​ด้วย​ท่าทาง​อับอาย​

เฉิน​เฉียง​ทอด​ถอน​ลมหายใจ​แล้ว​พูด​ออกมา​ “พวก​เจ้าห้า​คน​นั้น​อุตส่าห์​ขึ้น​มาได้​ถึงชั้น​เจ็ด​ร้อย​แล้ว​ ทำไม​ไม่พยายาม​อีก​สักหน่อย​ล่ะ​น้า​”

ทั้ง​ห้า​ได้​มองหน้า​กัน​ก่อนที่จะ​เป็น​หนอนหนังสือ​หลู่​จี้ได้​พูด​ออกมา​ “กัปตัน​ พวกเรา​เอง​ก็​อยาก​จะทำ​เช่นนั้น​”

“แต่​ไม่ใช่ว่า​พวกเรา​มาทำ​ภารกิจ​ไม่ใช่เหรอ​ พวกเรา​ไม่ได้มา​เที่ยวเล่น​ที่นี่​นี่​นา​”

“พวกเรา​เกรง​ว่า​จะทำให้​ภารกิจ​ของ​กัปตัน​ล่าช้า​ พวกเรา​เลย​ถอดใจ​แล้ว​รีบ​ขึ้น​…..”

“ไร้สาระ​”

สายตา​ของ​เฉิน​เฉียง​แสดง​ออกมา​อย่าง​จริงจัง​ ก่อน​จะพูด​ออกมา​ด้วย​เสียง​นุ่ม​ลึก​ “ใคร​บอ​กว่า​พวกเรา​ทำ​ภารกิจ​กัน​”

“ที่​พวกเรา​มาที่นี่​เป็น​เพราะว่า​ข้า​อยาก​ให้​พวก​เจ้าได้​พบ​เจอ​ใน​สิ่งที่​ข้า​ได้​พบ​เจอ​”

“ดังนั้น​ พวกเรา​ไม่มีเวลา​จำกัด​แต่อย่างใด​ พวก​เจ้าจะเดินเล่น​ขึ้น​ลง​ไปมา​อีก​สิบ​รอบ​เลย​ก็​ยัง​ได้​”

เมื่อ​จางหยวน​และ​คนอื่นๆ​ได้ยิน​แบบนี้​และ​เห็น​ท่าทาง​ของ​เฉิน​เฉียง​ว่าไม่ได้​พูดเล่น​ เขา​จึงรีบ​ถามออกมา​ “กัปตัน​ คง​ไม่ดี​นะ​ ไม่ใช่ว่า​ท่าน​สัญญากับ​ผู้อาวุโส​สูงสุด​ฮูเตี๋ยน​ไว้​ว่า​จะไป​จัดการ​เรื่อง​การ​รุกราน​ของ​สิ่งมีชีวิต​ต่าง​มิติ​นั่น​ไม่ใช่เหรอ​”

-ไอ้​ฉิบหาย​-

-นี่​เขา​ลืม​ไป​แล้ว​นะเนี่ย​ว่า​นอกจาก​ฮูเตี๋ยน​แล้วก็​ยังมี​ไอ้​ตัว​เคร่ง​งาน​อยู่​ใน​กองกำลัง​ของ​เขา​อยู่​ ไม่น่า​พา​มาด้วย​เลย​จริงๆ​-

เฉิน​เฉียง​มอง​ไป​ยัง​จางหยวน​โดย​ไม่อาจ​พูด​สิ่งใด​ออกมา​ได้​

“อะไร​ กัปตัน​ ข้า​ ข้า​พูด​สิ่งใด​ผิด​กัน​” เมื่อ​เห็น​ท่าทาง​ของ​เฉิน​เฉียง​ที่​มอง​มาแล้ว​ จางหยวน​ก็​รู้สึก​ขนลุก​เสีย​ไม่ได้​

“เออ​เออ​เออ​ เจ้าพูด​ถูก​ เจ้าไม่ได้​พูด​สิ่งใด​ผิดเพี้ยน​ไป​เลย​สักนิด​” เฉิน​เฉียง​ยก​มือขึ้น​โบก​ไปมา​ก่อน​จะพูด​ต่อ​ “แต่​ทุกคน​ก็​อย่า​ได้​ลืม​ไป​ว่า​พวกเรา​นั้น​ต้อง​ไป​ต่าง​เขตแดน​นะ​ พวกเรา​ยังไง​ซะก็​ต้อง​พบ​เจอ​อันตราย​อยู่​บ้าง​”

“และ​วิธีการ​รับมือ​อันตราย​เหล่านั้น​ที่​ดี​ที่สุด​ การ​ยกระดับ​บ่ม​เพาะ​นั้น​มัน​ก็​เหมาะสม​ที่สุด​แล้ว​ไม่ใช่รึ​”

“อีก​อย่าง​ ตอนที่​เรา​เข้าไป​ยัง​ต่าง​เขตแดน​อย่าง​เร่งรีบ​อย่าง​ที่​เจ้าว่า​ ไอ้​ความ​หัว​ร้อน​ของ​เจ้านี้​หาก​ต้อง​ไป​พบ​เจอ​ศัตรู​ในทันที​เจ้าคิด​ว่า​จะต่อกร​กับ​ศัตรู​ได้​รึเปล่า​ล่ะ​

“เอ่อ​ออ​อ​ ไม่ครับ​” จางหยวน​ตอบ​ออกมา​ตรงๆ​

“นั่นปะไร​” เฉิน​เฉียง​ทอด​ถอน​ลมหายใจ​ออกมา​ในที่สุด​ “ดังนั้น​ ก่อนที่​พวกเรา​จะเข้าไป​ใน​ต่าง​เขตแดน​ พวก​เจ้าต้อง​เพิ่ม​ระดับ​การบ่ม​เพาะ​ให้ได้​มาก​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​เป็นไปได้​”

“เอา​อย่างนี้​แล้วกัน​ พวกเรา​จะไป​ก็ต่อเมื่อ​พวก​เจ้าทั้ง​ห้า​คน​สามารถ​มาถึงปลาย​บันได​ได้​โดย​ไม่ต้อง​พึ่ง​พลัง​สายเลือด​ก็แล้วกัน​”

“ห้ะ”​

เพียงแค่​เม่ย​หลัว​ห​ลัน​และ​อีก​สี่คน​อุทาน​ออกมา​เบา​ๆ ทั้ง​ห้า​คน​ก็​พบ​ว่า​ได้มา​อยู่​ที่​ตีนบันได​สู่สรวงสวรรค์​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​

“ไอ้​ฉิบหาย​ พา​มาเริ่มใหม่​แต่ต้น​เลย​เรอะ​”

ทั้ง​ห้า​คน​มองหน้า​กัน​ในทันที​ ก่อนที่จะ​ค่อยๆ​ตะเกียกตะกาย​ขึ้นไป​บน​บันได​สู่สรวงสวรรค์​อีกครั้ง​

เมื่อ​เฉิน​เฉียง​กลับ​ไป​ยัง​ปลาย​บันได​แล้ว​ จางหยวน​และ​คนอื่นๆ​ต่าง​ก็​มอง​ไป​ที่​เฉิน​เฉียง​อย่าง​ตกตะลึง​

“ศิษย์​น้อง​…เจ้า….คง​ไม่คิด​จะให้​ทั้ง​ห้า​คน​นั่น​ใช้ร่างกาย​ปีน​บันได​สู่สรวงสวรรค์​ขึ้น​มาจนถึง​ยอด​โดย​อาศัย​เพียง​แรงกาย​อย่าง​เดียว​จริงๆ​หรอก​นะ​ ด้วย​ร่างกาย​ของ​พวก​นั้น​ใช้เวลา​ดีไม่ดี​จะเดือน​สอง​เดือน​เอาเลย​นะ​วุ้ย​”

“ศิษย์​พี่​กัว​ ต่อให้​เป็น​ปี​พวกเรา​ก็​ต้อง​รอ​” เฉิน​เฉียง​พูด​ออกมา​ด้วย​เสียง​ที่​ทุ้ม​ต่ำ​และ​มั่นคง​ “อันตราย​ใน​ต่าง​เขตแดน​อาจ​มีได้​อยู่​ทุกหัวระแหง​ หาก​พวกเรา​ไม่เตรียมตัว​ให้​ดี​จะต้อง​มานั่ง​เสียใจ​ใน​ภายหลัง​เป็นแน่​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ จางหยวน​และ​คนอื่นๆ​ก็​พยักหน้า​อย่าง​ยอมรับ​

“ศิษย์​พี่​กัว​ อย่า​ว่าแต่​ทั้ง​ห้า​คน​เลย​ พวกเรา​เอง​ก็​ต้อง​บ่ม​เพาะ​อย่าง​หนัก​ไม่แพ้​พวกเขา​ ไม่อย่างนั้น​ล่ะ​ก็​ ท่าน​มีหวัง​ได้​ให้​พี่​ห​นี่​เฟิงช่วย​ท่าน​ไว้​ตลอดทาง​แหง​ๆ”

ห​นี่​เฟิงที่​ได้ยิน​ก็​มอง​กัว​เหลียง​อย่าง​เย็นชา​และ​พูด​ออกมา​อย่าง​ไม่ไยดี​ “ช่วย​ไอ้บ้า​นี่​อ่ะ​นะ​ ฝัน​ไป​เถอะ​”

“หึหึ​หึ​ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” หลิว​ซวน​เอ๋อ​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​ดังลั่น​เมื่อ​ได้​เห็น​ใบ​หน้าที่​ไร้​เรี่ยวแรง​และ​ร่างกาย​ที่​ทรุด​เข่า​ลง​ไป​กอง​กับ​พื้น​ของ​กัว​เหลียง​

และ​นี่​ทำให้​เวลา​ล่วงเลย​ไป​เดือน​กว่า​ๆ

เมื่อ​เม่ย​หลัว​ห​ลัน​และ​คนอื่นๆ​อีก​สี่คน​มาถึง เฉิน​เฉียง​และ​จางหยวน​ พยักหน้า​ออกมา​อย่าง​ยอมรับ​นับถือ​ใน​หัวใจ​

หนึ่ง​เดือน​ที่​ผ่าน​ไป​ไม่เสียเวลา​เปล่า​เลย​สักนิด​

เม่ย​หลัว​ห​ลัน​ที่​มีระดับ​การบ่ม​เพาะ​อ่อนด้อย​ที่สุด​ใน​กองกำลัง​และ​เทพเจ้า​เงินตรา​หวัง​ต้า​หลู่​ ใน​ตอนนี้​ทั้งคู่​เปิด​จุด​บ่ม​เพาะ​ได้​สามสิบ​สี่จุด​แล้ว​

ยิ่งไปกว่านั้น​คือ​ นอกจาก​เฉิน​เฉียง​แล้ว​ คนอื่นๆ​ใน​ตอนนี้​มีสมรรถนะ​ร่างกาย​ที่​เพิ่ม​สูงขึ้น​อย่าง​มาก​

หลังจากที่​ทั้ง​สิบ​สี่คน​ได้​รวมตัวกัน​ครบ​แล้ว​ เฉิน​เฉียง​ก็​พา​ทุกคน​ไป​ยัง​เสาทั้ง​สี่ที่​เป็นที่ตั้ง​ของ​ประตู​ทางเข้า​เขตแดน​ลับ​แล้ว​พูด​ออกมา​ “พี่ชาย​ทั้งหลาย​ พวกเรา​จะเข้าไป​ยัง​เขตแดน​ลับ​แล้ว​ ทุกคน​เข้ามา​ใน​โลก​ใบ​เล็ก​ของ​ข้า​ก่อน​”

เมื่อ​พูด​จบ​ เฉิน​เฉียง​ก็​ส่งทุกคน​เข้า​โลก​ใบ​เล็ก​ของ​ตน​ไป​ ก่อนที่จะ​พุ่ง​เข้าไป​ใน​เขตแดน​ลับ​ที่​เต็มไปด้วย​หมอก​ควัน​

ตามที่​เฉิน​เฉียง​เข้าใจ​ เขตแดน​ลับ​นี้​คือ​พื้นที่​ที่​แท้จริง​ที่​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามสามารถ​ควบคุม​ได้​

ถึงแม้มัน​จะดู​เล็ก​มาก​เมื่อ​เทียบ​กับ​เขตแดน​จักรพรรดิ​ที่อยู่​ภายนอก​ก็ตาม​

แต่​หาก​มอง​ใน​มุมพลัง​ใน​การควบคุม​แล้ว​ มัน​ช่างเหนือ​ล้ำ​มาก​นัก​ ต่อให้​ทั้ง​สามยัง​ไม่ใช่ราชา​จักรพรรดิ​ที่​แท้จริง​ แต่​เขา​ก็​เชื่อ​ว่า​ทั้ง​สามคน​นั้น​อยู่​อีก​ไม่ไกล​อย่าง​แน่นอน​

กับ​พื้นที่​เขตแดน​แบบนี้​ เฉิน​เฉียง​ยิ่ง​รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​เขา​ได้รับ​ทักษะ​ท่า​เท้า​ขั้น​เทพ​อย่าง​ผ่า​มิติ​มา

ถึงแม้เขตแดน​นี้​จะอยู่​ภายใต้การควบคุม​ของ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สาม แต่​ด้วย​ประสบการณ์​ของ​เฉิน​เฉียง​นั้น​ หาก​จะเทียบ​กัน​แล้วก็​คง​ไม่ต่าง​จาก​การ​ทุบ​หิน​ด้วย​ไข่​ก็​ว่า​ได้​

แต่กระนั้น​ แม้ว่า​เฉิน​เฉียง​จะก้าว​ไป​ได้​นับ​ร้อย​เมตร​เพียง​ก้าว​เดียว​ใน​เขตแดน​นี้​ แต่​เขา​ก็​ยัง​รู้สึก​ว่า​มัน​ช้าไป​อยู่ดี​

หากว่า​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามยัง​คงอยู่​ เฉิน​เฉียง​ยัง​นึกไม่ออก​เลย​ว่า​เขา​จะได้​พบ​ความยากลำบาก​ขนาด​ไหน​ใน​เขตแดน​ที่​ตก​อยู่​ใน​สถานะ​ควบคุม​ที่​ทรงพลัง​ของ​ราชา​จักรพรรดิ​ทั้ง​สามแบบนี้​

และ​นี่​ทำให้​เฉิน​เฉียง​คิด​ขึ้น​มาได้​ว่า​ หากว่า​เขา​นั้น​ขึ้นไป​สู่ระดับ​ราชา​จักรพรรดิ​จริง​ แต่​เมื่อ​ถึงตอนนั้น​ เขา​ก็​คงจะ​แข็งแกร่ง​กว่า​กระมัง​

เมื่อ​ถึงเวลา​นั้น​ หาก​เขา​ต้อง​ปะทะ​กับ​ทั้ง​สามคน​ สิ่งที่​ใช้ใน​การปะทะ​กัน​ก็​คงจะ​หนี​ไม่พ้น​ว่า​ใคร​ที่​มีพลัง​ควบคุม​ที่​ทรงพลัง​กว่า​กัน​ล่ะ​มั้ง

เมื่อ​คิดได้​แบบนี้​ เฉิน​เฉียง​ก็ได้​ให้​ห​ยาน​เสวี่ย​และ​คนอื่นๆ​ออก​มาจาก​โลก​ใบ​เล็ก​

ในอนาคต​ พวกเขา​ทั้ง​สิบ​สี่คน​นั้น​ต้อง​เขา​สู่ต่าง​เขตแดน​ จะดีกว่า​ให้​พวกเขา​ได้​พบ​เจอ​กับ​ความยากลำบาก​ไว้​บ้าง​

เมื่อ​ได้​เห็น​หมอก​ที่​หนาเตอะ​ตรงหน้า​ ห​ยาน​เสวี่ย​ที่พึ่ง​จะออกมา​ก็ได้​ถามด้วย​ความสงสัย​ “เฉิน​เฉียง​ นี่​คือ​เขตแดน​ลึกลับ​ที่​เจ้าพูดถึง​งั้น​รึ​”

เฉิน​เฉียง​พยักหน้า​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ “ถูกต้อง​ ที่นี่​คือ​เขตแดน​ลับ​พื้นที่​หมอก​ที่อยู่​ที่​ปลาย​บันได​สู่สรวงสวรรค์​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​หลา​งซาน​เอ๋อ​ทำ​ท่าจะ​เดินเล่น​ไป​คนเดียว​ เฉิน​เฉียง​รีบ​ตะโกน​ออกมา​ใน​ทันใด​ “หลา​งซาน​เอ๋อ​ หยุด​เท้า​เดี๋ยวนี้​เลย​นะ​ ถึงแม้ที่นี่​จะไม่มีตัว​อะไร​อยู่​แต่​มัน​ก็​มีอันตราย​จน​ทำให้​ตก​ตาย​ได้​นะ​เว้ย​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำ​ปราม​ของ​เฉิน​เฉียง​แล้ว​นั้น​ หลา​งซาน​เอ๋อ​ก็​รีบ​หยุด​เท้า​ใน​ทันใด​ ก่อนที่จะ​หันมา​ถาม “กัปตัน​ ใน​เมื่อ​มัน​ไม่มีตัว​อะไร​อยู่แล้ว​มัน​จะมีอันตราย​ถึงตาย​ได้​ยังไง​กัน​”

เฉิน​เฉียง​ได้​นำ​เอา​กระดูก​สีดำ​ออกมา​จาก​แหวน​มากวัดแกว่ง​เล่น​ก่อนที่จะ​พูด​ออกมา​ “ใน​นี้​มีกระดูกดำ​อยู่​ ข้า​ได้​พบ​เจอ​ชิ้น​นี้​ด้วย​ความบังเอิญ​”

“ใครก็ตาม​ที่​เผลอไป​แตะ​มัน​เข้า​ คน​คน​นั้น​จะตก​ตาย​ไป​ในทันที​”

ใน​ตอนที่​เห็น​เฉิน​เฉียง​หยิบ​กระดูกดำ​ออกมา​ เห​ริน​หมิง​เอง​ก็​หมาย​จะหยิบ​กระดูก​นี้​มาดู​ แต่​เมื่อ​ได้ยิน​สิ่งที่​เฉิน​เฉียง​พูด​ออกมา​แล้ว​ เขา​แทบจะ​หด​มือ​กลับ​เกือบ​ไม่ทัน​ ก่อน​จะมีเหงื่อ​เม็ด​เป้ง​ไหล​ออกมา​จากหน้าผาก​ของ​ตน​

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน