สุดยอดชาวประมง – บทที่ 126 กลับบ้าน[รีไรท์]

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 126 กลับบ้าน[รีไรท์]

บทที่ 126 กลับบ้าน[รีไรท์]

“พี่จาง พี่อยู่ไหนน่ะ? พี่มาที่โรงพยาบาลหน่อยได้ไหม มีพวกมือสังหารตามมาจัดการผมเต็มไปหมดเลย หรือว่าความลับเรื่องธุรกิจของพวกเรารั่วไหลกันนะ? การฆ่าผมถือเป็นการหยุดยั้งเรื่องปลาเกล็ดขาวเลยน่ะ แต่เอาเถอะ ถึงมันจะโดนผมฆ่าไปหมดแล้ว แต่ผมก็หวังว่าทางกองทัพจะมีคำตอบให้กับผมนะ!”

ไม่มีทางเลือกสำหรับฉู่เหินแล้ว แม้ว่าเขาจะดูเหมือนไม่มีเหตุผล แต่มันก็ช่วยให้เขารอดจากเรื่องยุ่งยากได้มากมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือกองทัพที่อยู่เบื้องหลังชายชรานั้นแข็งแกร่งมาก หากผ่านการตรวจสอบจากพวกเขา ฉู่เหินเชื่อว่ามันจะใช้เวลาไม่นานนักในการตามหาคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

หลังจากอาจารย์จางได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับการลอบสังหารฉู่เหิน เขาก็โกรธจัดทันที ฉู่เหินกับเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปลาเกล็ดขาวที่สามารถรักษาสภาพร่างกาย โรคหัวใจ สมอง และหลอดเลือดได้ เขาเกรงว่าจะมีเพียงฉู่เหินเท่านั้นที่สามารถเลี้ยงมันได้คนเดียวบนโลกนี้

ด้วยข้อตกลงที่ทำเอาไว้ มันจึงทำให้ประเทศชาติได้เงินมหาศาล ดังนั้นฉู่เหินจึงเปรียบได้ดั่งสมบัติของชาติก็ไม่ปาน เพราะอย่างนั้นจะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้

“น้องเอ๋ย ไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องทุกอย่างให้ ไม่ว่ามันจะเป็นใครมีอำนาจมากขนาดไหนภายใต้ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่นี้ ฉันจะจัดการลากตัวมันมาให้นายเอง ให้มันได้รู้ซะบ้างว่าใครจะต้องได้รับโทษในวันนี้” อาจารย์จางวางสายไปด้วยความโมโห

ทันใดนั้น เขาก็ยิ้มออกมาที่มุมปาก

“เด็กนี่มันร้ายเอาเรื่องเลยนะเนี่ย แถมยังกล้าใช้งานฉันตามเก็บกวาดสิ่งที่มันก่อเอาไว้อีก หึ แต่ช่างเถอะไหน ๆ มันก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศนี้มากมาย ยอม ๆ มันไปบ้างจะเป็นอะไร” หลังจากคิดได้แบบนั้นอาจารย์จางก็ออกคำสั่งไป

ฉู่เหินที่จัดการเรื่องราวทุกอย่างจบลงแล้ว ชายหนุ่มก็รีบไปยังห้องของพี่ชาย เมื่อเขาเข้ามาก็พบว่าครอบครัวของเขากำลังเป็นห่วงตนเองอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าที่แฝงไปด้วยความโกรธและความกังวลของทั้งสอง

เมื่อชายหนุ่มโผล่เข้ามา ความกังวลกับความขุ่นเคืองก็หายไปฉับพลัน มีแต่ความดีใจเข้ามาแทนที่ ตราบเท่าที่เด็กคนนี้ยังรอดกลับมาทุกอย่างก็น่ายินดีไปหมด

“พี่ชาย พี่สะใภ้ ปลอดภัยแล้วล่ะ” หลังจากที่ค่ายกลถูกปลดออก เขาก็รีบเข้ามาทันที

“เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาของนายน่ะ?” หวงเจี้ยนหมิงมองไปยังดวงตาของชายหนุ่มด้วยความสงสัย และซูวี่เหมยก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาช่วยเช็ดให้

“ไม่เป็นไรหรอกพี่สะใภ้ พวกนั้นมันฉีดสเปรย์พริกไทยใส่นิดหน่อยเอง ไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวผมไปหาหมอเอง” ฉู่เหินโบกมือพร้อมด้วยรอยยิ้มเพื่อบอกทุกคนว่าเขาปลอดภัยดีไม่ต้องห่วง

“ไม่ต้องเลยเสี่ยวเฉิน อยู่ที่นี่แหละเดี๋ยวฉันไปตามหมอมาให้”

เมื่อมองไปที่ความจริงจังของซูวี่เหมย ฉู่เหินก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ครอบครัวนี้มีให้ หลังจากปล่อยฉู่เฟิงออกมาแล้ว ฉู่เหินก็กลับมาก็เข็นรถของพี่ชายเขาไปด้วยรอยยิ้ม

พื้นที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้คือวอร์ดนางพยาบาล การต่อสู้รุนแรงก็จริง แต่มันก็ไม่มีผลต่อคนไข้แต่อย่างใด และทุกคนเองก็ตื่นกันหมดแล้วด้วย

แต่ทันทีที่ซูวี่เหมยออกไปตามหมอ เธอก็พบเข้ากับความวุ่นวายที่ทางเดินพร้อมกับศพมากมาย เหตุการณ์นี้ทำให้ฉู่เหินต้องมานั่งอธิบายอีกครั้ง ถึงแม้ว่าพวกทหารจะเข้ามาจัดการเรื่องนี้ให้อยู่แล้วก็ตาม

ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องที่เขาเล่ามา มันก็ทำให้ทุกคนตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าอยู่ดี หมอบางคนเองก็ถึงกับตัวสั่นเท่าด้วยความกลัว

ในยุคแห่งความสงบ แต่กลับมีเรื่องน่ากลัวอย่างนี้ได้ มันทำให้ทุกคนรับไม่ได้และเริ่มแจ้งตำรวจ บอกได้เลยว่าทั่วโรงพยาบาลเละเหมือนข้าวต้มไปแล้ว และใช้เวลาไม่กี่นาทีข่าวลือก็แพร่ไปทั่วโรงพยาบาล

โชคยังดีที่อาจารย์จางและตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุในไม่ช้า หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ความตื่นตระหนกของทุกคนหายไปในทันที ในสายตาทุกคนแล้ว การปรากฏตัวของตำรวจนั่นก็หมายความถึงกฎระเบียบ และความปลอดภัยนั่นเอง

ทว่าตำรวจพวกนี้เองก็ไม่กล้าทำอะไรมาก นั่นเป็นเพราะอาจารย์จางได้จัดการให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องของทหารหมดแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลส่วนภูมิภาคอีกต่อไป เพียง 20 นาทีทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ในตอนนี้ ดวงตาของฉู่เหินก็กลับมาเป็นปกติแล้วด้วยน้ำยาวิเศษ หลังจากทำความสะอาด ดวงตาของเขาก็กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งถ้าเป็นคนปกติทั่วไป พวกเขาก็คงจะตาบอดไปชั่วขณะแล้ว

ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เรื่องราวทั้งหมดมันก็ถูกเก็บเงียบมิดชิดราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ทว่าคนที่เป็นต้นเหตุจะต้องโผล่หางออกมาแน่

กระบวนการต่าง ๆ ทั้งหลายที่พวกเขากำลังลงมือทำให้หวงเจี้ยนหมิงอารมณ์ดี เป็นเพราะโรงพยาบาลช่วยจัดการขั้นตอนต่าง ๆ โดยตรง ดังนั้นมันจึงใช้เวลาไม่กี่นาทีก่อนที่ทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์

แต่ก็มีบางคนที่รู้ถึงข้อเท็จจริงดี ทางเบื้องบนของโรงพยาบาลเอง พวกเขาก็รู้ว่าการโจมตีครั้งนี้มีสาเหตุมาจากหวงเจี้ยนหมิงที่กำลังจะออกจากโรงพยาบาล ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเร่งขั้นตอนการออกจากโรงพยาบาลของชายผู้นี้ให้เร็วที่สุด

ในสายตาของที่นี่ ครอบครัวหวงเจี้ยนหมิงนั้นเปรียบได้ดั่งเทพเจ้าที่จัดการได้ทุกสิ่งอย่าง แถมยังเป็นเทพเจ้าแห่งการสังหารซึ่งนำไปสู่การสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้ายุ่งอะไร การที่รักษาคนเหล่านี้ในโรงพยาบาลต่อไปยาว ๆ คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ ดังนั้นพวกเขาจึงเต็มใจที่จะส่งครอบครัวนี้ออกจากโรงพยาบาลไปโดยเร็วที่สุด

สุดท้ายแล้วหวงเจี้ยนหมิงก็กลับบ้านโดยที่มีรถตำรวจคอยคุ้มกันอยู่รอบด้าน เขาออกไปจากโรงพยาบาลไปพร้อมกับทุกสายตาที่จับจ้อง

เมื่อกลับมาที่บ้าน ชาวบ้านก็คอยมาเยี่ยมเยือนพี่ชายของฉู่เหินจนกระทั่งตอนเย็น หวงเจี้ยนหมิงรู้สึกเหนื่อยล้ากับเรื่องราวในวันนี้เป็นอย่างมาก แต่เขาก็รู้สึกดีใจด้วยเช่นกัน ช่างน่ายินดีที่ได้กลับบ้านจริง ๆ

ในตอนเย็น ฉู่เหินได้ทำอาหารเตรียมเอาไว้มากมาย แถมยังเรียกอาจารย์จาง หลิวจ้านซานและครอบครัวของเสี่ยวเฟิงก็มาที่นี่ด้วย ว่าแต่ทำไมทุกคนถึงมากินอาหารเย็นกันในวันแรกของการออกจากโรงพยาบาลกันนะ?

ค่ำคืนบนโต๊ะอาหารนี้ หวงม่านอิ่งและโป๋อีกู่เองก็อยู่ในรายชื่อแขกด้วย สิ่งที่ทำให้เสี่ยวเฟิงประหลาดใจก็คือการที่ฉู่เหินเรียกให้พี่รองมานี่แหละ ทุกคนดีใจที่ได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลิวจ้านซาน

เสี่ยงเฟิงไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมฉู่เหินถึงเรียกพี่รองมาร่วมโต๊ะด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากความเย่อหยิ่งของพี่รองได้หายไป แต่ความเพียร ความตั้งใจ และความฉลาดในกระดูกของเขาก็ทำให้หลิวจ้านซานพอใจ และเลิกตั้งแง่

แถมเมื่อได้ยินข่าวว่าพี่รองและฉู่เหินตั้งใจจะเปิดโรงงานอาหาร หลิวจ้านซานก็ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือทันทีด้วยรอยยิ้ม แถมยังบอกด้วยว่าสามารถขอร้องความช่วยเหลือจากเขาได้ทุกเมื่อ และมันก็ทำให้ทุกคนในที่นี้หัวเราะออกมา

Next

สุดยอดชาวประมง

สุดยอดชาวประมง

Status: Ongoing
ฉู่เหิน เด็กหนุ่มธรรมดาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง ทุกวันเขาจะออกไปหาปลาที่ทะเลกับพี่ชาย แต่วันนั้นก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่เกิดขึ้นตรงหน้า ทั้งสองพยายามหนีจากพายุลูกนั้นอย่างสุดความสามารถแต่ก็ไม่ทัน…ในขณะนั้นเองฉู่เหินรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขาทันใดนั้นก็มีแหปรากฎออกมาตรงหน้าเขาหลังจากนั้นไม่นานเขาก็หมดสติไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยายาบาลและโดยที่ตัวเขาเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่กลับกันกับพี่ชายของเขาที่อยู่ในห้องผู้ป่วยข้างๆ มีสภาพที่ขาหัก หรืออาจจะต้องเสียขาและพิการไปตลอดชีวิต ซึ่งค่ารักษาพยายาบาลของพี่ชายเขาไม่ใช่เงินน้อยๆ แล้วอย่างนี้ฉู่เหินจะทำยังไงต่อไป….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท